ในห้อง เงียบกริบ
“ยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์ คุณพ่อกลัวว่าผมจะตรวจสอบที่อยู่ของแก?” เฉินตงขมวดคิ้วบ่นพึมพำ
ท่านหลงครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง กล่าวด้วยเสียงต่ำ “บางที อาจจะกลัวคนอื่นตรวจสอบ”
เฉินตงก็เข้าใจขึ้นมาทันที
มันก็ใช่ คุณพ่อสามารถส่งข้อความแจ้งความปลอดภัยให้กับผม แล้วจะกลัวผมจะตรวจสอบทำไม?
การยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์ มากกว่านั้นน่าจะเป็นเพราะป้องกันไม่ให้คนอื่นติดตาม
“ว่าแต่ พ่อกำลังระวังใคร?”
ท่านหลงส่ายหัว ไม่พูดไม่จา
เขาติดตามเฉินเต้าหลินมาหลายปี สำหรับนิสัยของเฉินเต้าหลินเขารู้จักเป็นอย่างดี
แต่ว่าครั้งนี้ เขานั้นมองไม่ทะลุจริงๆ
ถึงขั้น แม้แต่เบาะแสเพียงนิดเดียวยังคลำไม่ได้เลย!
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ท่านหลงยิ้มเจื่อนๆ “ครั้งนี้กระผมก็มองไม่ออกแล้ว ไม่มีเบาะแสอะไรเลย ทางตระกูลเฉินก็ไม่มีอะไรผิดปกติ”
คำพูดประโยคเดียว ก็ได้ระงับความสงสัยในใจของเฉินตงเอาไว้
ถ้ามันจะทำให้พ่อกลัวมากที่สุด ก็คือตระกูลเฉินอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม คราวนี้ตระกูลเฉินไม่ว่าสมาชิกระดับบนหรือล่าง ไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติใดๆเลย
หลังจากที่พ่อหายตัวไป สมาชิกระดับบนอย่างคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน และสมาชิกระดับล่างทุกคน ต่างพยายามตามหากันอย่างเต็มที่
ทุกอย่างดูเหมือน “ปกติ”
“ภายใต้ความปกติ ต้องมีสิ่งที่คาดไม่ถึงซ่อนอยู่ถึงจะถูก สิ่งผิดปกติย่อมมีผี” เฉินตงบ่นพึมพำ
ไม่มีเบาะแสเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งเดียวที่รู้ก็คือหมายเลขที่คุณพ่อใช้ส่งข้อความอยู่ในเมืองแห่งหนึ่งของซีโม่
แต่ว่าจุดนี้ เกือบจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
แม้ว่าจะส่งคนไปตามหา มันก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าของท่านหลง เหมือนจะพยายามไม่ให้หาว
เฉินตงก็กล่าวอย่างสงสาร ท่านหลงคุณไปพักผ่อนก่อนเถอะ ไม่มีเบาะแส แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าตอนนี้คุณพ่อนั้นปลอดภัย แบบนี้ผมก็วางใจไปบางส่วนแล้ว
หลังจากออกจากห้องท่านหลง
เฉินตงก็ไม่มีความคิดที่จะนอนต่อ หลังจากชงชาเสร็จ ก็เดินไปที่ลาน เดินไปเดินมา จิบชาเพิ่มความสดชื่น
ความสงสัย ความวิตกกังวล และความตึงเครียด เกี่ยวพันกันหมด
ทำให้เขาหงุดหงิดมาก
ในเมื่อคุณพ่อปลอดภัย งั้นสิ่งที่เขากังวลมากที่สุด ก็คือท่าทีของตระกูลเฉิน!
ระยะเวลาหนึ่งปี มันช่างสั้นนัก
หากอยู่ภายใต้การปกป้องของคุณพ่อ เขายังมีความมั่นใจหกเจ็บสิบเปอร์เซ็นต์ ในงานวันเกิดของคุณพ่อเขาจะยื่นกระดาษคำตอบที่ทำให้ผู้สืบทอดทุกคนอับอายเหงื่อตก
แต่แล้ว คุณพ่อก็มาหายตัวไป
ปราศจากการปกป้องของคุณพ่อ หากท่าทีของตระกูลเฉินในเวลานี้กลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย งั้นขอบเขตที่เขาสามารถจะแสดง มันก็จะลดลงเหมือนกับหิมะถล่ม
ถึงขนาด ถูกกดขี่จนไม่มีพื้นที่ให้แสดง!
หากเป็นแบบนี้ ระยะเวลาหนึ่งปี สำหรับเขา ก็เป็นเพียงเวลาที่รอความตายเท่านั้น
“ตอนนี้ ทำได้เพียงดูว่าคนตระกูลเฉินคิดอย่างไร”
เฉินตงบ่นด้วยแววตาที่ว่างเปล่า รู้สึกท้อแท้ ทำให้เขาเกือบจะบ้า
“ตอนเช้าอากาศเย็น คุณต้องระวังสุขภาพด้วย”
ด้านหลัง น้ำเสียงที่อ่อนโยนก็ได้ดังขึ้น
จากนั้น เฉินตงก็รู้สึกว่าไหล่ของเขาถูกคลุมด้วยเสื้อ
เขาหันกลับมา กู้ชิงหยิ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ท่าทางอ่อนโยน มองเขาด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
“ทำไมคุณถึงตื่นเช้าจัง ไม่นอนให้นานกว่านี้หน่อย”
กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว “ฉันตื่นนานแล้ว ยังรู้ว่าเมื่อคืนคุณนอนที่โซฟาทั้งคืน”
เฉินตงตกตะลึง เขาแน่ใจว่าเมื่อคืนนี้เขาได้ทำทุกอย่างอย่างเบามือมาก ทำไมภรรยาของเขาถึงยังรู้สึกได้อีก?
กู้ชิงหยิ่งเขย่งปลายเท้า มือที่เรียวยาวก็วาดไปที่สันจมูกของเฉินตงหนึ่งที
ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เจ้าทึ่ม เมื่อคืนฉันรอคุณไปตั้งนาน สุดท้ายรอไม่ไหวแล้ว จึงได้ไปนอน ไฟหัวเตียงได้เปิดไว้ให้คุณทั้งคืนเลย”
“ต่อไปห้ามโง่แบบนี้อีกแล้วนะ ไม่ว่าจะกลับมาดึกแค่ไหน ฉันก็จะเปิดไฟให้คุณ คุณกลัวว่าจะรบกวนการนอนของฉัน กลับไม่รู้ว่า คุณนอนอยู่ข้างกาย ถึงจะทำให้ฉันหลับได้ดี”
เฉินตงแววตาล่องลอย
เวลานี้ หัวใจเต็มไปด้วยความอบอุ่น
ใครบ้างที่ไม่เคยคาดหวัง ดวงไฟที่สว่างไสว มีหนึ่งดวงที่เปิดไว้เพื่อตัวเอง?
แต่ในความเป็นจริง มีใครสามารถทำได้บ้าง?
กู้ชิงหยิ่งทำได้แล้ว
ด้วยชาติกำเนิดของเธอ สามารถทำถึงขั้นนี้ มันทำให้เฉินตงแปลกใจอย่างมาก
สามปีนั้นของเขา ไม่เคยสัมผัสความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย
ตื้นตันจนอยากจะร้องไห้ เฉินตงกอดกู้ชิงหยิ่งเข้ามาในอ้อมอก กล่าวอย่างอ่อนโยน “ขอบคุณ ได้คุณมาเป็นภรรยา เป็นโชควาสนาของผมแล้ว”
“เอาล่ะ ฉันได้ให้พี่เสี่ยวลู่ทำอาหารแต่เช้าแล้ว คุณไปที่ห้องอาหารก่อน ฉันจะให้พี่เสี่ยวลู่ยกอาหารเช้ามาให้” กู้ชิงหยิ่งพยายามออกจากอ้อมอกของเฉินตง ท่าทางอ่อนโยนน่ารัก แววตาที่สวยงามแฝงไปด้วยรอยยิ้ม
“ลานป่าไผ่มีห้องครัวไม่ใช่เหรอ?” เฉินตงถาม
กู้ชิงหยิ่งเหลือบมองอย่างเคืองๆ “เก้าอี้ในห้องโถงแข็งมาก คุณไม่ได้นอนมาทั้งคืนจะนอนหลับได้อย่างไร ถ้าพี่เสี่ยวลู่ทำอาหารในครัวแต่เช้า ก็จะยิ่งทำให้คุณนอนไม่หลับ”
เฉินตงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
คุณภรรยาช่างรอบคอบเหลือเกิน
เพียงแต่สิ่งที่ภรรยาของเขาคาดไม่ถึงก็คือ ไม่ใช่ว่าเขาจะนอนไม่หลับทั้งคืน แต่เขานั้นไม่ได้หลับตาลงเลยทั้งคืน
กลับมาถึงห้องอาหาร
ไม่นานนัก คุนหลุนกับฟ่านลู่ก็ได้ยกอาหารเข้ามา
เฉินตงก็ได้ทานข้าวกับทุกคนอย่างมีความสุข จากนั้นก็ไปที่ลานกับคุนหลุน เข้าสู่การฝึกฝนวิชาปีศาจ
เขาไม่เคยหย่อนยานในการฝึกฝนร่างกาย
มีเพียงการฝึกฝนที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ถึงจะสามารถมีอนาคตในแบบที่เขาต้องการ
เมื่อร่างกายของเฉินตงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แผนการฝึกวิชาปีศาจของคุนหลุนก็ไต่ระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยวิธีนี้เท่านั้น ถึงสามารถจะผลักดันร่างกายให้ถึงขีดจำกัด กระตุ้นศักยภาพออกมา
ในคลับสี่ยิ่น ธรรมชาติที่เขียวขจีนั้นอุดมสมบูรณ์มาก
ยามเช้า บนทางเดินที่เรียงรายไปด้วยต้นไม้ เต็มไปด้วยน้ำค้าง อากาศสดชื่นบริสุทธิ์
เฉินตงที่เปลือยกายท่อนบน เมื่อเขาฝึกฝน กล้ามเนื้อทุกส่วนจะขยาย เหมือนก้อนหินที่สร้างขึ้นในร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
หยาดเหงื่อแต่ละเม็ด ที่ไหลลงสู่ผิว แวววาวราวกับคริสทัล
ทุกตารางนิ้วของผิว เผยให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น
คุนหลุนที่อยู่ข้าง ๆ มองเฉินตงฝึกฝน ดวงตาล่มลึก กลับต้องแอบประหลาดใจ
“คุณชาย ไม่เคยเผยขีดจำกัดออกมาเลยจริงๆ……….”
คุนหลุนมีความเข้าใจกับร่างกายและทักษะการต่อสู้อีกทั้งวิธีฝึกฝน ที่ถึงจุดสูงสุดนานแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่โดดเด่นในตระกูลเฉินที่มากอำนาจและบารมี กลายเป็น “ครู” ของรุ่นหัวกะทิทั้งหมด
เป็นเพราะสาเหตุนี้ ดังนั้นคุนหลุนจึงยิ่งตกใจกับการแสดงออกของเฉินตงมากขึ้นไปอีก
อยู่ในตระกูลเฉินเป็นเวลาหลายปี การฝึกวิชาปีศาจที่เขากำหนดนั้น เหมาะสำหรับคนรุ่นหัวกะทิทุกคน หนึ่งในผู้ที่เก่งที่สุด มันก็ทำให้เขาต้องแก้ไขความยากในการฝึกฝนวิชาปีศาจครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ ทั้งหมดก็ได้เปิดเผยค่าขีดจำกัดออกมาอย่างรวดเร็ว
ที่ว่าค่าขีดจำกัด ก็คือสามารถเพิ่มระดับไปถึงระดับหนึ่ง จากนั้นความคืบหน้าจะช้าลง จนถึงขนาดเข้าใกล้ศูนย์
และเฉินตง นับว่าเป็นคนรุ่นหัวกะทิในคนแรกของตระกูลเฉินเลยก็ว่าได้!
ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพและทักษะการต่อสู้ พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งหลังจากปรับเปลี่ยนความยากของการฝึกฝนวิชาปีศาจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็ไม่ได้แสดงอาการอ่อนล้าและขีดจำกัดออกมาเลย
ซึ่งก็หมายความว่า ความแข็งแกร่งทางกายภาพและทักษะการต่อสู้ของเฉินตง ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่สำคัญกว่าคือ……….
สัญชาตญาณการต่อสู้ของเฉินตง!
มันคือสัญชาตญาณการต่อสู้ที่ทำให้คุนหลุนตกตะลึง
มองเฉินตงที่ฝึกฝน คุนหลุนอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณชาย ตอนคุณยังเด็ก เคยผ่านประสบการณ์อะไรมาหรือเปล่า?”