“คุณสามารถช่วยผมจริงๆ เหรอ?”
หลินหลิ่งตงมองหนันหนันอย่างประหลาดใจ
“บางที บางอีอาจจะได้นะ” หวางหนันหนันพยายามอยากจะปิดซ่อนอารมณ์ของตัวเอง
แต่ถูกหลินหลิ่งตงเห็นอย่างละเอียด และจับใจความได้อย่างชัดเจน
“หนันหนัน คุณมีเรื่องไม่สบายใจเหรอ?”
“ไม่มีนิ”
หวางหนันหนันพูดอย่างตรงไปตรงมา มองหลินหลิ่งตงด้วยสายตาที่แน่วแน่ “คุณแค่บอกฉัน คุณอยากจะเจอเฉินตงใช่มั้ย?”
จริงๆ แล้วตอนที่พูดคำพูดประโยคนี้ออกมา ในใจเธอมีความลนเล็กน้อย
แม้แต่หวางหนันหนันยังไม่เข้าใจตัวเองเลย ทำไมถึงได้พูดว่าสามารถช่วยหลินหลิ่งตง
ในหัวปรากฏขึ้นด้วยภาพของเฉินตง
“ตอนนี้ฉันเป็นผู้หญิงของหลินหลิ่งตง ในเมื่อตัดสิใจจะร่วมชีวิตกับเขา ในฐานะที่เป็นผู้หญิงของเขา ก็ควรที่จะช่วยเขา”
“อยาก!”
ดวงตาของหลินหลิ่งตงเต็มไปด้วยพลัง และเขาพยักหน้าโดยไม่ลังเล
“ได้” หวางหนันหนันตอบรับไปหนึ่งที
มองหวางหนันหนันที่จากไป หลินหลิ่งเผยความสงสัยออกมาทางสีหน้า
หนันหนัน……จะช่วยฉันได้จริงๆ เหรอ?
“เจ้านาย คุณเชื่อว่าอาซ้อจะสามารถช่วยให้คุณเจอกับเฉินตงได้เหรอ?” อู๋จุนหาวถามด้วยความประหลาดใจ
หลินหลิ่งตงรู้สึกตัว ยักไหล่อย่างทำอะไรไม่ได้ “นายกับฉันเชิญไปสิบกว่าครั้งแล้ว ก็ไม่สำเร็จ ตอนนี้ฉันได้แต่หวังว่าหนันหนันจะทำสำเร็จ”
สีหน้าของอู๋จุนหาวค่อนข้างจะสับสน รู้สึกเหมือนไม่ค่อยจะสมเหตุผล
คนที่ราชาใต้ดินของเมืองหลิ่งตงยังเชิญมาไม่ได้ อาซ้อจะใช้อะไรไปเชิญ?
ลังเลไปครู่หนึ่ง อู๋จุนหาวถามขึ้น “เจ้านาย ทำไมคุณถึงอยากจะเชิญเฉินตงขนาดนี้?”
หลินหลิ่งตงยิ้มอย่างมีความหมาย
เกาหัวแล้วกล่าว “จุนหาว คนที่จะทำการใหญ่ ต้องมองการณ์ไกล หากมองการณ์ตื้นเขินมันจะไม่ยั่งยืน เรื่องนี้ ฉันจะบอกนายในภายหลัง”
อู๋จุนหาวที่ครุ่นคิด กล่าวอย่างสับสน “แต่อาซ้อจะสามารถเชิญเขามาได้เหรอ?”
“ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ แค่เธอมีใจก็ดีแล้ว”
หลินหลิ่งตงยิ้มอย่างพึงพอใจ “ผู้หญิงของหลินหลิ่งตง ไม่ได้เป็นพวกแจกันดอกไม้ หนันหนันต้องการช่วยฉันแบ่งปันความกังวล มันได้พิสูจน์ว่าฉันชอบเธอในตอนแรกนั้นไม่ผิด”
หวางหนันหนันออกไปจากคฤหาสน์
อารมณ์สับสน สายตาเหม่อลอย
เธอในเวลานี้ หัวใจว้าวุ่น
หันหน้ามองคฤหาสน์ไปแวบหนึ่ง แล้วก็เชื่อมั่นความคิดของตัวเองอีกครั้ง
หวางหนันหนันกัดริมฝีปากแดง จึงได้จากไป
ไท่ติ่ง
เฉินตงไม่ได้สนใจว่าปฏิเสธหลินหลิ่งตงไปแล้วกี่ครั้ง
ครึ่งเดือนเรียนเชิญไปสิบกว่าครั้ง สำหรับเขา มันก็เป็นเพียงเรื่องที่แทรกเข้ามาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
หลินหลิ่งตงมีความอดทนในการเชิญ เขาก็มีความอดทนในการเอาบัตรเชิญที่กูหลังส่งมาโยนลงถังขยะ
เขายังมีเรื่องต้องทำมากมาย การซื้อที่ดินและการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไท่ติ่ง ทุกวันต้องทำงานอย่างหนัก
เมื่อใกล้เวลาเลิกงาน
กูหลังเดินเข้ามาอีกครั้ง
“คุณเฉิน มาอีกแล้วครับ”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
ระยะเวลาครึ่งเดือนมานี้ เฉินตงได้ชินกับน้ำเสียงแบบนี้ของกูหลังนานแล้ว
สิ่งที่สามารถทำให้กูหลังมีน้ำเสียงแบบนี้ นอกจากหลินหลิ่งตงแล้วยังจะมีใครอีก?
เฉินตงเอนกายพิงเก้าอี้ บีบจมูกที่บวมของเขา “วันนี้มาแปลก ส่งคำเชิญติดต่อกันถึงสองครั้ง?”
เมื่อคำนวณระยะเวลาในการเดินทาง บัตรเชิญใบนี้คาดว่าอู๋จุนหาวถึงเมืองหลิ่งตงไม่นาน แล้วก็ส่งมาอีกโดยที่ไม่ได้หยุดพักเลย
“ครั้งนี้ไม่ใช่บัตรเชิญ”
กูหลังลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าว “แต่เป็นคน”
“คน?!”
เฉินตงรู้สึกประหลาดใจไปครู่หนึ่ง ยิ้มและพูดว่า “หลินหลิ่งตงคิดว่าเขามาด้วยตัวเอง ก็จะสามารถเชิญผมไปได้เหรอ?”
“เป็นผู้หญิงครับ”
กูหลังมองไปที่เฉินตงด้วยสายตาที่สับสน
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่บอดี้การ์ดที่ใกล้ชิดเฉินตงมากที่สุด แต่ก็พอรู้เรื่องบ้าง
อย่างเช่น…….หวางหนันหนัน!
“ผู้หญิง?” รอยยิ้มของเฉินตงหายไปเลย มีความโกรธเล็กน้อย
ส่งผู้หญิงมา หมายความว่าอย่างไร?
หลังจากที่นิ่งไปหลายวินาที
ในที่สุดกูหลังก็เอ่ยปาก “เป็นอดีตภรรยาของคุณ หวางหนันหนัน”
เธอ ท้ายที่สุดก็กลับมาแล้วมาใช่มั้ย?
ใบหน้าของเฉินตงมืดมนไปทันที กระจายไปด้วยความหดหู่
ไม่ถูก ไม่ได้กลับมาที่เมืองแห่งแล้ว
แต่ไปที่เมืองด้านข้าง อยู่กับหลินหลิ่งตง?
เฉินตงเข้าใจแล้ว ก็หัวเราะเยาะ “แม่ง มันช่างเป็นพรหมลิขิตหมาๆ !”
“พบมั้ยครับ?” กูหลังถามอย่างลองเชิง
เฉินตงส่ายหัว “ไล่เธอไป อีกอย่าง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บัตรเชิญทั้งหมดของหลินหลิ่งตง ไม่ต้องเอามาให้ผมแล้ว โยนทิ้งต่อหน้าพวกเขาได้เลย บอกพวกเขาไม่ต้องมาเชิญอีกแล้ว”
“เข้าใจแล้วครับ”
กูหลังพยักหน้าจากไป
เฉินตงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ อารมณ์ขุ่นเคือง ในใจหดหู่
เขาคิดว่า เมื่อคนของตระกูลหวางจากไปแล้ว เคราะห์กรรมนี้ก็ได้สิ้นสุดไปแล้ว
แต่การกลับมาของหวางหนันหนัน ยังไปอยู่กับหลินหลิ่งตง ถึงขนาดช่วยหลินหลิ่งตงในการมาเชิญเขา นี่มันเรื่องอะไรกัน?
มันทำให้เฉินตงมีความรู้สึกสะอิดสะเอียนเหมือนกับกินแมลงวันที่ตายไปแล้ว!
“เชิญฉัน? หวางหนันหัน คุณมองตัวเองสูงไปแล้ว”
เฉินตงยิ้มเยาะ มองดูเวลา ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เพียงแต่เขายังไม่ได้ออกไป แต่กลับนั่งสงบจิตสงบใจไปครึ่งชั่วโมง ถึงลงไปใต้ตึกขึ้นรถออกไป
เขาไม่อยากเจอหลินหลิ่งตง ยิ่งไม่อยากเจอหวางหนันหนัน
เฉินตงไม่ใช่คนอ่อนแอไม่เด็ดขาด ตัดก็คือตัด ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นพฤติกรรมของคนในตระกูลหวาง หวางหนันหนันที่เข้าข้างด้วยความโง่ ความแค้นเหล่านี้ ถูกลบไปหมดแล้ว
เมื่อเห็นหวางหนันหนัน มันเพียงแต่จะทำให้เขาคิดถึงความต่ำต้อยและสิ้นหวังเมื่อสามปีที่แล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุด เขาต้องคำนึงถึงความรู้สึกของภรรยา!
การเจอกันที่ริมแม่น้ำ มันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ตอนนั้นกู้ชิงหยิ่งก็ได้แสดงความใจกว้างที่มากพอแล้ว
เขาในฐานะสามี ไม่สามารถเพียงเพราะความใจกว้างของภรรยา แล้วจัดการเรื่องนี้เหมือนกับเรื่องธรรมดาทั่วไป
เฉินตงรับปากู้ชิงหยิ่งว่าจะให้เขากลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด และหวางหนันหนัน จะเป็นเพียงตำหนิในชีวิตเขา!
เพียงแต่สิ่งเฉินตงคิดไม่ถึงก็คือ
ตอนที่เขานั่งรถออกจากบริษัท ถนนที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัท กลับมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเฉินตงที่ขึ้นรถจากไปอย่างชัดเจน
ในแววตาลึกๆ เต็มไปด้วยความซับซ้อน
สายลมได้พัดเส้นผมด้านหน้าของหวางหนันหนันลอยขึ้น เผยให้เห็นสีหน้าที่เศร้าของเธอ
ครู่ใหญ่
หวางหนันหนันก็ยิ้มอย่างขมขื่น “แค่เจอกันคุณยังไม่อยากเจอเลยเหรอ? ขอโทษ เป็นฉันที่ทำร้ายคุณในตอนแรก!”
ขณะที่บ่นพึมพำ
หวางหนันหนันกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
เบอร์ก็เปลี่ยนใหม่แล้ว โทรศัพท์ก็เปลี่ยนเครื่องใหม่แล้ว
ในสมุดโทรศัพท์ มีเพียงเบอร์โทรของเขาคนเดียว
ไม่มีแม้กระทั่งเบอร์โทรของพ่อแม่และน้องชาย
เบอร์นี้ เป็นเบอร์ที่เธอเก็บไว้มาโดยตลอด
มือที่เรียวยาวกดปุ่มโทรออก
ไม่นาน ก็มีคนรับสาย
“ไม่เจอกันตั้งนาน……….”
ในหัวของหวางหนันหนันคิดคำพูดไว้มากมาย สุดท้ายก็พูดเพียงตัวอักษรห้าตัวนี้
และแล้ว
ที่เฉินที่อยู่ปลายสาย ก็แค่แสดงความคิดความรู้สึกที่ชัดเจนของตัวเองออกมา
“ไปให้พ้น!”
ตู๊ด!
สายถูกวางไปแล้ว
ร่างที่บอกบางของหวางหนันหนันสั่นไปหนึ่งที วางโทรศัพท์ลงด้วยความรู้สึกที่ห่อเหี่ยว
ยังคงเด็ดขาดเหมือนเดิม
แต่เธอเข้าใจดี ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอทำตัวเอง
เขาในเมื่อก่อน สามารถใช้คำว่าไปให้พ้น กับผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา
เป็นเพราะเธอไม่เห็นคุณค่าเอง ไม่เข้าใจ ทำให้คำว่าไปให้พ้น มาตกอยู่บนตัวเธอ
“ฉันต้องช่วยหลิ่งตงให้ได้”
ทันใดนั้นแววตาของหวางหนันหนันก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่ เขาเป็นคนใหม่แล้ว เขาไม่ใช่หวางหนันหนันที่เคยที่โดนตามใจจนมีนิสัยเย่อหยิ่งแล้ว
เธอรู้ว่า ผู้หญิงคนหนึ่งหากต้องการความเคารพ ไม่ใช่เป็นคนที่พึ่งพาอาศัยผู้ชาย แต่ควรจะเป็นคนที่ก้าวออกมาในเวลาที่ผู้ชายต้องการ
ดังนั้น
หวางหนันหนันจึงได้ส่งข้อความให้กับเฉินตง
“แฟนของฉันหลินหลิ่งตงอยากพบคุณมาก ไม่พูดถึงเรื่องในอดีต ให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ได้มั้ย? ถือว่าฉันติดหนี้บุญคุณคุณ ขอร้องคุณล่ะ ประโยคท้ายๆ ล้วนเป็นประโยคที่ขอร้อง
ติ๊งตอง!
ข้อความถูกตอบกลับในเวลาไม่กี่วินาที
หวางหนันหนันหยิบขึ้นมาดู ก็หมดหวังในทันที
“คุณติดหนี้ไม่ไหวหรอก มาจากไหน ก็กลับไปตรงนั้นเลย!”