การคุกเข่าที่กะทันหันนี้
ทำให้ทุกคนในร้านกาแฟอุทาน
สายตาแต่ละคู่ต่างจ้องมองมา
ในเวลาเดียวกัน เฉินตงกับกูหลังที่เดินไปถึงหน้าประตูก็หยุดฝีเท้าลง
“เฉินตง ฉันคุกเข่าให้คุณแล้ว ขอร้องล่ะ ไปเจอหลิ่งตงด้วยเถอะ!”
หวางหนันหนันตะโกนขอร้อง น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
“ตลกสิ้นดี!”
เฉินตงส่ายหัวอย่างดูถูก ด้วยท่าทางที่ไม่แยแส เดินหน้าต่อไป
โหดเหี้ยมขนาดนี้เลยเหรอ?
ดวงตาของหวางหนันหนันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา คิดถึงทุกอย่างในอดีต ตอนนั้น ไม่ว่าเธอต้องการอะไรเฉินตงไม่เคยปฏิเสธเลย
ตามเวลาที่เปลี่ยนไป กลับกลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
ความรู้สึกอย่างนี้ ทำให้เธอทุกข์ทรมานมาก
“ฉันรับปากหลินหลิ่งตงแล้ว”
หวางหนันหนันบ่นพึมพำ แววตาก็แน่วแน่ขึ้นมาทันที “หากคุณไม่รับปากฉัน ฉันก็จะไปพูดกับเสี่ยวหยิ่ง!”
ฉึกฉับ!
เท้าของเฉินตงที่หยุดอยู่ตรงพื้น ไม่ยกขึ้นอีกเลย
พริบตาเดียว ใบหน้าของเขาเยือกเย็น เต็มไปด้วยความโกรธ
กูหลังที่ยืนอยู่ด้านหลังเฉินตง ขนลุกซู่ขึ้นมาทันที อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน
วินาทีต่อมา
เฉินตงเหมือนสัตว์ป่าที่คลุ้งคลั่ง ภายใต้ความตกใจของผู้คนในร้านกาแฟ เขาหันหน้ามาอย่างดุเดือด วิ่งเข้ามาตรงหน้าของหวางหนันหนัน เสียงพรึบดังขึ้นมาหนึ่งที
มือที่ใหญ่ของเฉินตงก็ได้บีบอยู่บนลำคอของหวางหนันหนัน ยกกระชากขึ้นมาโดยตรง
เพราะแรงที่มหาศาล ทำให้หน้าของหวางหนันหนันแดงขึ้นมาในทันทีทันใด และหายใจไม่ออก
ด้วยการที่หายใจไม่ออกอย่างรุนแรง ทำให้สัญชาตญาณของหวางหนันหนันยกมือขึ้นมาตบมือขวาเฉินตง
คนในร้านกาแฟ ก็ได้สติกัน ตะโกนอย่างโมโห
“ไอ้สารเลว ปล่อยผู้หญิงคนนี้นะ!”
“กลางวันแสกๆ เป็นผู้ชายมาตบตีผู้หญิง หน้าไม่อายเหรอ?
“สุภาพบุรุษอกสามศอก รังแกผู้หญิงมันหมายความว่ายังไง?”
……
คำตำหนิแต่ละคำ
ทำให้เฉินตงอยากจะหัวเราะ
คนพวกนี้เห็นเพียงพวกนอก แต่เคยคิดหรือไม่ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ชั่วช้าแค่ไหน?
“คุณเฉิน………..”
กูหลังรีบเข้ามา มองหวางหนันหนันไปแวบหนึ่ง “หากไม่ปล่อยมือ เธออาจจะตายได้”
เฉินตงจึงปล่อยมือออก
โครมดังขึ้นหนึ่งที หวางหนันหนันร่วงลงบนพื้น
เมื่อคอไร้พันธนาการ ทันใดนั้นอากาศจำนวนมากก็เข้าสู่ปอด ทำให้หวางหนันหนันสูดอากาศเหมือนคนโลภ
หลังจากที่สูดลมหายใจไปหลายรอบแล้ว หวางหนันหนันก็ยิ้มอย่างมั่นใจ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองสายตาที่จะกินคนของเฉินตง
ขณะนี้ รอยยิ้มและท่าทางของหวางหนันหนันดูบ้าคลั่งและดุร้าย มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ยากมาก
“ทำไมคุณไม่ฆ่าฉันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะ?”
“คุณคิดว่าฉันไม่กล้า?” น้ำเสียงของเฉินตงค่อนข้างที่จะแหบแห้ง
หวางหนันหนันยิ้มๆ ค่อยๆ ลุกขึ้น “ฉันหวางหนันหนันขอพูดไว้ตรงนี้ ไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของเรา หากคุณไม่ไปพบหลินหลิ่งตง ฉันก็จะไปหาเสี่ยวหยิ่ง!”
“คุณขู่ผม?” เฉินตงหัวเราะอย่างเย็นชา
เขาไม่เจอหลินหลิ่งตง ไม่ใช่เพียงแค่ความสัมพันธ์นี้ของหวางหนันหนันเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้ว่าหวางหนันหนันอยู่กับหลินหลิ่งตง เขาก็ไม่พบอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ในปากของหวางหนันหนัน กลับไปคิดว่าเพราะเธอ เขาจึงไม่ยอมพบหลินหลิ่งตง
หวางหนันหนันไม่ตอบ
เพียงมองเฉินตงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่
หลายวินาทีผ่านไป
เฉินตงกัดฟัน ถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ได้ คุณขู่ผมสำเร็จแล้ว!”
“คืนนี้สองทุ่ม รอคุณที่หมู่ตึกหลิ่งตง”
หวางหนันหนันยิ้มๆ หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป
เฉินตงยืนอยู่กับที่ ใบหน้าเย็นเยือก แววตาดุร้าย ในความเงียบ ก็ได้กำหมันอย่างแน่นๆ
ผู้คนในร้านกาแฟ ยังคงต่อว่าเฉินตงกันอยู่
กระซิบกระซาบกัน ทำให้เฉินตงหงุดหงิดมาก
ป้าง!
เฉินตงใช้หมัดชกไปบนโต๊ะกระจก กล่าวอย่างขุ่นเคือง “ว่างกันมากใช่มั้ย? แม่ง!”
พูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป
คุนหลุนโยนเงินปึกหนึ่งลงบนโต๊ะ แล้วก็วิ่งตามไป
ตลอดทาง ฝีเท้าของเฉินตงนั้นเร็วมาก ร่างกายของเขาก็กระจายไปด้วยความเย็น
หวางหนันหนันทำสำเร็จแล้ว!
ข่มขู่ได้ดีมาก!
จับจุดอ่อนของเขาได้อย่างแม่นยำ เอาเขาอยู่ในพริบตา
เขาไม่อยากให้เรื่องนี้รบกวนถึงกู้ชิงหยิ่ง ดังนั้นจึงต้องจัดการความวุ่นวายนี้ได้โดยเร็ว แต่การข่มขู่ของหวางหนันหนัน กลับทำให้เขาต้องไปเจอหลินหลิ่งตงสักครั้ง
การข่มขู่เช่นนี้ หวางหนันหนันที่เป็นแบบนี้
ทำให้เขารังเกียจและขยะแขยงถึงขีดสุด!
อีกฝั่งหนึ่ง
หวางหนันหนันที่กลับถึงใต้ตึกไท่ติ่งนั้น
อู๋จุนหาวที่รอคอยอย่างร้อนใจก็รีบเดินเข้ามา
“อาซ้อ เป็นอย่างไรบ้าง?”
“เขาตกลงแล้ว”
หวางหนันหนันยิ้มในขณะที่พูด “ขึ้นรถกลับบ้านเถอะ”
“จริงเหรอ?! อาซ้อช่างเกินมากเลย!”
อู๋จุนหาวตื่นเต้นดีใจอย่างมาก รีบเปิดประตูรถให้กับหวางหนันหนัน
เครื่องเดือนแล้ว เฉินตงได้เชิญหลินหลิ่งตงไปแล้วครึ่งเดือนเต็ม!
แม้แต่เขา ก็ได้ช่วยส่งบัตรเชิญมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว
ไม่มีข้อยกเว้นเลย ทุกครั้งก็จะถูกเฉินตงปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
แต่ครั้งนี้ กลับสำเร็จแล้ว!
ในขณะที่กำลังตื่นเต้นดีใจนั้น อู๋จุนหาวรู้สึกทั้งกลัวทั้งเคารพหวางหนันหนันเป็นครั้งแรก
แต่ว่าตอนที่หวางหนันหนันขึ้นรถนั้น
อู๋จุนหาวที่กำลังดีใจก็อึ้งไปทันที “อาซ้อ คอของคุณทำไมถึงช้ำล่ะ?”
ร่างอันบอบบางของหวางหนันหนันสั่นสะท้าน ทันใดนั้นก็รู้สึกตัว มันต้องเกิดจากแรงที่มหาศาลของเฉินตงแน่เลย
เธอส่ายหัว “ไม่มีอะไร กลับบ้านกันเถอะ”
“เฉินตงทำร้ายคุณเหรอ?”
อู๋จุนหาวไม่พอใจ สีหน้าท่าทางก็ดุดันขึ้นมาทันที “แม่งเอ๊ย ทำร้ายอาซ้อของผม คงคิดว่าคนในเมืองหลิ่งตงรังแกกันได้ง่ายใช่มั้ย? อาซ้อ ผมจะไปช่วยคุณแก้แค้นเดี๋ยวนี้เลย!”
หวางหนันหันสะดุ้งตกใจ รีบเรียกอู๋จุนหาวเอาไว้
“อู๋จุนหาว หลิ่งตงแม้แต่ในฝันยังอยากจะเจอเฉินตงเลย ฉันเพิ่งจะทำให้เขายอมตกลง หรือว่านายอยากให้เรื่องนี้มันจบสูญเปล่าไปแบบนี้?
“ผม……..” อู๋จุนหาวพูดไม่ออก กระทืบเท้าอย่างโมโห ขึ้นรถจากไป
กลับมาถึงที่หมู่ตึกหลิ่งตง
หวางหนันหนันก็กลับเข้าไปในห้องนอนโดยตรง
เพื่องานเลี้ยงแล้ว เธอเกือบจะทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดของเธอ
ถึงขนาดไม่คำนึงในการข่มขู่ มันทำให้เธอรู้สึกอัดอั้นตันใจ
กลับมาถึงในห้องนอน หวางหนันหนันก็ล็อกกรด้านใน โน้มตัวลงไปบนเตียง ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา ร้องไห้อย่างเงียบๆ
เมื่อคิดถึงคืนนี้หลินหลิ่งตงก็จะได้เจอกับเฉินตงแล้ว เขาปลอบใจตัวเองไม่หยุด “ไม่เป็นไร เพื่อหลิ่งตง ฉันเสียสละบ้าง มันจะแค่ไหนเชียว?”
ในห้องหนังสือ
อู๋จุนหาวได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดของเมื่อกี้ให้กับหลินหลิ่งตงแล้ว
ในนั้น รวมถึงเรื่องที่หวางหนันหนันเหมือนจะถูกเฉินตงทำร้าย
หลังฟังจบ หลินหลิ่งตงก็ไม่ได้ดีใจเลยแม้แต่นิดเดียว
ตรงกันข้ามกลับรู้สึกผิดและทนไม่ได้ เขาได้โยนพู่กันที่อยู่ในมือลงไปบนภาพวาดที่เพิ่งจะวาดเสร็จเมื่อกี้
“ฉันหลินหลิ่งตง เคยปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองต้องทนทุกข์กับความลำบากใจเช่นนี้เมื่อไหร่กัน? หนันหนัน เป็นผมที่ผิดต่อคุณ”
ในขณะนี้ หลินหลิ่งไม่สามารถที่จะดีใจได้เลย
ถึงขนาดที่ก่อนหน้านี้มีความคิดที่อยากจะเป็นเพื่อนเฉินตงมาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อแล้ว
เมื่อคิดถึงหวางหนันหนันเพื่อจะช่วยเขาเชิญเฉินตง แล้วได้รับความลำบากใจ หลินหลิ่งตงมีความรู้สึกเหมือนถูกมีดเฉือนที่หัวใจ
เขาเดินผ่านอู๋จุนหาว เดินขึ้นไปข้างบนด้วยฝีเท้าที่เร็ว เคาะประตูห้องของหวางหนันหนัน
“หนันหนัน คุณออกมาเถอะ ผมมีอะไรจะบอกกับคุณ”
เวลานี้หลินหลิ่งตงรู้ว่า ในฐานะที่เป็นผู้ชาย สิ่งที่ควรทำมากที่สุดในเวลานี้ก็คือปลอบใจหวางหนันหนัน แม้แต่กอดก็ยังดี
ในห้อง
หวางหนันหนันพูดขึ้น “หลินหลิ่งตง ตอนนี้คุณจะเจอฉันทำไม? สิ่งที่คุณควรทำ ก็คือไปเตรียมงานเลี้ยงในคืนนี้ นี่มันคือเลือดเนื้อของฉันเลยนะ คุณเป็นผู้ชาย ยังไม่รู้จักแยกแยะอีกเหรอ?”
แม้จะพยายามจะกลั้นเอาไว้
แต่หลินหลิ่งตงยังคงได้ยินเสียงสะอื้นระหว่างคำพูดของหวางหนันหนัน
เขากำหมัดแน่น ในขณะนี้ ส่วนลึกในหัวใจ เหลือเพียงเงาๆ หนึ่ง ไม่มีอย่างอื่นอีกเลย