ภายในลาน
สายลมในฤดูใบไม้ร่วงช่างเยือกเย็น
เสียงใบไม้ดังกรอบแกรบ
บรรยากาศคุกรุ่นไปด้วยแรงอาฆาตที่มองไม่เห็น
เฉินตงโค้งตัว แสดงท่าทีพร้อมต่อสู้ออกมา ราวกับคันธนูที่พร้อมจะยิงลูกศรที่แข็งแกร่งออกไป
ดวงตาทั้งสองข้างดุดัน จ้องเขม็งไปที่เย่หลิงหลงที่นั่งอยู่บนรถ
เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินตง เย่หลิงหลงก็หุบยิ้ม ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นได้ยากยิ่ง แม้กระทั่งร่องรอยของความโกรธที่ระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อครู่ ก็จางหายไป
“คุณคิดว่าฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงกร้านโลกที่เหลาะแหละคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ใช่หรืออย่างไร?”
เฉินตงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เย่หลิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย และค่อยๆ ลุกขึ้น แต่ยังคงเอนตัวอยู่บนหลังคารถ
ท่าทางแบบนี้ ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ
“เช่นนั้นก็มาต่อสู้กันสักตั้ง!”
หลังจากเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดของเย่หลิงหลง
มือแทะเท้าของเธอก็กระแทกลงกับหลังคารถทันที ราวกับเสือชีตาร์ที่กำลังจะออกล่าเหยื่อ และกระโจนเข้าใส่เฉินตง
เฉินตงจ้องเขม็งในทันที
เขาปล่อยหมัดขวาออกไปอย่าเต็มแรงโดยไม่หลบเลี่ยง
แรงของหมัดทำให้เกิดลมปะทะที่รุนแรง
วินาทีถัดมา
เย่หลิงหลงทรุดลงไปกับพื้นทันที ด้วยแรงหมัดของเฉินตง
แย่แล้ว!
เฉินตงหน้าถอดสี ยังไม่ทันจะได้ดึงหมัดกลับ
ก็รู้สึกมีลมปะทะมาจากด้านล่าง หางตาเหลือบไปเห็นเย่หลิงหลงกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เธอหมุนรอบเอวเขาเป็นครึ่งวงกลมและกวาดไปด้านหลัง
ในเวลาเดียวกันนี้
แคว่ก!
มีเสียงขาดดังขึ้น
เฉินตงเคลื่อนตัวออกโดยสัญชาตญาณ แล้วก้มหน้าดู พบว่าตรงบริเวณเอวเสื้อขาดเป็นรอยกว้าง บนกล้ามท้องของเขา ปรากฏแผลสีแดงสามเส้น และมีเลือดไหลออกมา และมีผิวหนังถลอก
เล็บคมขนาดนี้เลยหรือ?!
เฉินตงตกใจเป็นอย่างมาก และเงยหน้าขึ้นมองเย่หลิงหลงที่อยู่ตรงข้าม
ในการลงมือโจมตี เย่หลิงหลงไม่ได้อาศัยจังหวะที่ได้เปรียบในการไล่ตาม
แต่กลับยืนอยู่ที่เดิม ราวกับกำลังอวดดี และมองตามสายตาของเฉินตงไป ใช้มือขวาโยนเศษผ้าบางๆ ที่ติดอยู่ในมือลงไปที่พื้น ในขณะเดียวกัน เธอก็แลบลิ้นสีแดงออกมา แล้วเลียไปที่เล็บคมกริบที่เปื้อนเลือดของเธอ
เธอค่อยๆ ยื่นนิ้วชี้เข้าไปในปากแล้วรูดเบาๆ
แล้วพูดอย่างยั่วยวนว่า “เลือดเนื้อของคุณเฉิน ช่างหอมหวานจริงๆ”
ภาพนี้ ช่างยั่วยวนใจอย่างยิ่ง
ราวกับนิ้วมือที่เรียวงามนั้น แฝงไปด้วยความหมายอื่น
แต่ท่าทางของเฉินตงกลับเย็นชาถึงขีดสุด เมื่อเผชิญหน้ากับการ “ยั่วยวน” ของเย่หลิงหลง เขาก็พูดออกมาอย่างเย็นชาหนึ่งประโยคว่า
“เธอไม่กลัวว่าฉันจะเป็นโรคเอดส์หรืออย่างไร?”
เย่หลิงหลง “……”
นิ้วชี้ขวาที่อมอยู่ในปากหยุดเคลื่อนไหวทันที ราวกับถูกไฟดูด และรีบถูกดึงออกมาอย่างรวดเร็ว
“ทำไมคุณถึงสกปรกอย่างนี้?” เย่หลิงหลงตะโกนด้วยความโกรธจัด
เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างดูถูก “ผมเพียงแค่เตือนคุณ ผู้หญิงออกไปข้างนอกต้องรู้จักรักนวลสงวนตัว ห้ามอมอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า”
“คุณ……”
จู่ๆ ไปหน้าอันงดงามของเย่หลิงหลง ก็เย็นชาราวกับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งทันที
เกิดความเกลียดชังขึ้นในดวงตาของเธอ ทันใดนั้น เท้าขวาของเธอก็เตะดินที่อยู่ตรงหน้าไปใส่เฉินตง ราวกับลูกศรที่พุ่งออกไป
เฉินตงมีท่าทีดุดันขึ้นทันที แววตาของเขาฉาบไปด้วยความอำมหิต
เมื่อครู่เขาประมาทไปหน่อย เป็นเพราะมั่นใจในทักษะการต่อสู้ของตนเองเกินไป จนทำให้ดูถูกเย่หลิงหลง “หงกุ้น” คนนี้ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ถูกโจมตีได้สำเร็จ
การประมือกันหนึ่งครั้ง ทำให้เขาได้รู้จักเย่หลิงหลงใหม่อีกครั้ง
ตอนนี้เขาต้องเก็บความประมาทเอาไว้ ละต้องระมัดระวังให้มากขึ้น
หงหุ้ยที่พัฒนามาอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาสองร้อยปี หงกุ้นทุกคนคงไม่ได้อาศัยหน้าตาในการไต่เต้าแน่นอน!
ฟิ้ว!
ลมพัดแรงมาจากกรงเล็บด้านขวาของเย่หลิงหลง และตะปบเข้าไปที่ใบหน้าของเฉินตง
อย่างไรก็ตามเฉินตงไม่ได้ถอยหลบ แต่กลับก้าวไปข้างหน้า และปล่อยหมัดทั้งสองข้างออกไปอย่างแรง
ใช้จุดแข็งของตนเอง เอาชนะจุดอ่อนของศัตรู หาโอกาส แล้วรีบจัดการกับศัตรูในคราวเดียว!
นี่ถึงจะเป็นแก่นแท้ของการต่อสู้อย่างแท้จริง
ร่างกายของเฉินตงผ่านการฝึกฝนอย่างหนักจากคุนหลุน และความมุมานะฝึกฝนของตนเอง ทำให้แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป และอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
เย่หลิงหลงเป็นหงกุ้นก็จริง แต่อย่างไรเสียเธอก็คือผู้หญิง
ผู้ชายปะทะกับผู้หญิง หากไม่อาศัยความแข็งแกร่งของพละกำลังเข้าโจมตี ยังคิดที่จะเล่นสนุกอยู่อีกหรือ?
หมัดและเท้ารวดเร็วเหมือนกับลม ทิ้งร่องรอยของความเจ็บปวดที่รุนแรงเอาไว้
ความเร็วของเฉินตงราวกับสายฟ้า ใช้หมัดและเท้าพุ่งตรงเข้าโจมตีเย่หลิงหลงอย่างหนักหน่วง
เหมือนกับที่เฉินตงคาดเดาเอาไว้ ร่างกายของเย่หลิงหลงนั้นเคลื่อนไหวว่องไว แต่อย่างไรเสียก็เสียเปรียบเรื่องพละกำลัง
ด้วยการต่อสู้ที่ซับซ้อน เมื่อต้องเผชิญกับหมัดที่รุนแรงที่ปะทะเข้ามาบนตัว ทำให้ต้องรับมืออย่างอ่อนล้าโดยไม่มีทางเลือก
ตุ้บ!
หมัดต่อยลงไป ทำให้เย่หลิงหลงเดินโซเซถอยหลัง
จู่ๆ ใบหน้าที่งดงามราวกับหยาดน้ำค้าง ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำขึ้นทันที
หลังจากกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่ง เย่หลิงหลงก็พ่นลมหายใจออกมาทางปากอย่างแรง
หมัดนี้ เกือบทำให้เธอต้องจุกตาย!
“อ่อนแอขนาดนี้เลยหรือ?”
เฉินตงขยับไหล่ทั้งสองข้าง แล้วยิ้มเยาะ “คุณเก่งกาจนักไม่ใช่หรือ? นี่ผมแค่อุ่นเครื่องเองนะ”
อุ่นเครื่อง?
เย่หลิงหลงขมวดคิ้วแน่น เธอรับรู้ได้ถึงการดูถูกอย่างรุนแรง!
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหงกุ้นของหงหุ้ย นั่นหมายความว่าต้องอาศัยทักษะในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงตำแหน่งมา
ตอนนี้กลับถูกคนอื่นเห็นเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการ……อุ่นเครื่อง?
“ดีมาก ฉันเองก็กำลังอุ่นเครื่องเหมือนกัน” เย่หลิงหลงเลิกคิ้วด้วยท่าทีดื้อรั้น และยิ้มร่าออกมา
ยังไม่ทันจะพูดจบ
เธอก็พุ่งเข้าใส่เฉินตงอย่างรวดเร็ว
“อืม?!”
เฉินตงตกใจอย่างมาก
จู่ๆ ก็เปลี่ยนวิธีการอย่างนั้นหรือ?
ก่อนหน้านี้ วิธีการต่อสู้ของเย่หลิงหลงอ่อนโยนเกินไป อาศัยเทคนิคเสียเป็นส่วนใหญ่
แต่เย่หลิงหลงในตอนนี้ กลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เย่หลิงหลงพุ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าเฉินตง
“มือผูกมังกร!”
ตุ้บ!
เฉินตงรู้สึกมีเสียงดังก้องขึ้นในหู ภาพที่เห็น คือ ฝ่ามือข้างขวาของเย่หลิงหลงกำลังพุ่งเข้าโจมตีอย่างทรงพลังและรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง การแสดงออกของเฉินตงเคร่งขรึมลง เขาไม่หลบหลีก ยังคงใช้หมัดขวาในการโจมตีอย่างรุนแรง
มีข้อได้เปรียบด้านพละกำลัง ทำให้เขามีความมั่นใจในการปล่อยหมัดที่ทรงพลัง
ตูม!
เกิดเสียงดังสนั่น
ในขณะที่เขาปล่อยหมัดออกไปนั้น ในแววตาของเฉินตงก็เกิดความประหลาดใจขึ้นมา
เขารับรู้ได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผ่านมาทางแขนขวาของเขา ตรงขึ้นไปจนถึงสะบัก กระเทือนจนทำให้รู้สึกชาตรงบริเวณข้อต่อ
และในขณะที่กำลังประหลาดใจอยู่นั้น
ก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ฝ่ามือข้างซ้ายของเย่หลิงหลงซึ่งมาพร้อมกับลม พุ่งเข้าใส่เฉินตงอีกครั้ง
เฉินตงทำท่าทีดูถูก และตะโกนออกมา
และปล่อยหมัดซ้ายออกไปอีกครั้ง
ตุ้บ!
ความรู้สึกชาเกิดขึ้นอีกครั้ง
จู่ๆ เย่หลิงหลงก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “ผู้ชายตัวใหญ่โต แต่กลับไร้น้ำยาจริงๆ”
เฉินตงที่กำลังอยู่ในอาการตกตะลึง ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
ทันใดนั้น เขาก้มลงและตะโกนเสียงดังออกมา และใช้ไหล่กระแทกเข้าใส่เย่หลิงหลงอย่างหนัก
ใบหน้าอันงดงามของเย่หลิงหลงเผยสีหน้าตื่นตระหนกออกมา
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน
เธอรีบโบกมือทั้งสองข้างทันที “สี่ตำลึงปาดพันชั่ง!”
ตุ้บ!
ไหล่ของเฉินตง กระทบเข้ากับฝ่ามือของทั้งสองข้างของเย่หลิงหลงอย่างแรง
ทั้งสองโซเซถอยหลังไปพร้อมกัน
หลังจากตั้งหลักได้แล้ว เฉินตงก็ขมวดคิ้วแน่น แล้วสะบัดแขนสองครั้งโดยไม่รู้ตัว เพื่อขจัดอาการชา
ส่วนเย่หลิงหลงนั้นมีเลือดสีแดงไหลออกมาจากมุมปาก มือทั้งสองข้างร่วงลง และตัวสั่นอยู่ตลอดเวลา
แววตาที่มองเฉินตง ไม่นิ่งสงบเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป แต่กลับมีความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย
“พละกำลังของคุณ แข็งแกร่งจริงๆ!”
ดวงตาของเย่หลิงหลงเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของการต่อสู้ที่ดุเดือด “ไม่มีใครที่อยู่ต่อหน้ามือผูกมังกรของฉัน และบีบบังคับให้ฉันต้องใช้กระบวนท่าป้องกันตัวได้ คุณ……ทำให้ฉันรู้สึกสนใจจริงๆ”
ขณะที่พูด
เจนตาฆ่าของเย่หลิงหลง ก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่เธอกำลังก้าวออกไป
จู่ๆ ก็มีเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วลาน
และในขณะเดียวกันนั้น ก็มีเสียงตะโกนห้ามปรามดังขึ้น
“หลิงหลงหยุดเดี๋ยวนี้ ทำไมถึงเสียมารยาทกับคุณเฉินเช่นนี้?”