ฝนตกลงมาอย่างหนัก
ฟ้าร้องและลมพัดแรง
ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าในค่ำคืนนี้
ขณะที่พวกของเฉินตงทั้งสามคนกลับเข้าไปภายในรถ ท่านหลงก็หันกลับไปมอง เห็นหลินหลิ่งตงและอู๋จุนหาวลงมาจากเขาพอดี และกำลังเดินตรงไปที่รถ
“คุณชาย หลินหลิ่งตงไม่สนใจหวางหนันหนันแล้วครับ”
ท่านหลงพูดเบาๆ
“เขาไม่โง่” เฉินตงพูด
ท่านหลงพยักหน้า
คนที่จะขึ้นมาอยู่ในระดับเช่นเดียวกับหลินหลิ่งตงได้ ก็คงไม่ใช่คนดีอะไรนัก ทั้งความเจ้าเล่ห์และการวางแผนต่างก็ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังประเมิยสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและถูกต้อง
ไม่ต้องพูดถึงอิทธิพลของเฉินตง เพียงแค่ให้หลินหลิ่งตงต้องตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ผลลัพธ์ก็คงต้องออกมาเช่นนี้อยู่ดี
ไม่มีใครที่จะทนเห็นคนรักของตัวเอง ไปช่วยเหลือญาติพี่น้องโดยไม่สนใจผิดชอบชั่วดีได้
เมื่อเลือกที่จะช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดี ก็เท่ากับเป็นการเลือกที่จะทำผิดโดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม
ความจริงก็เป็นเช่นนี้
หลินหลิ่งตงเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเฉินตงด้วยตาตัวเอง จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้รู้สึกเศร้าใจได้
หากตอนนี้เขาไม่ตัดสินใจเลือก ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าเฉินตงในตอนนี้ จะไม่กลายเป็นภัยต่อเขาในอนาคต
รถโรลส์-รอยซ์ค่อยๆ มุ่งหน้าไปยังเขาเทียนซาน
ระหว่างทาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เป็นเหมือนกับพายุฝนที่กำลังพัดกระหน่ำอยู่ภายนอก
ท่านหลงและคุนหลุนเข้าใจความรู้สึกของเฉินตงในตอนนี้เป็นอย่างดี แม้แต่พวกเขาเอง ก็ยังรู้สึกตื่นตระหนกในใจ
ผู้ตายนั้นยิ่งใหญ่ และต้องถูกฝังเอาไว้อย่างสงบสุข นี่คือการแสดงออกถึงความเคารพและระลึกถึงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ผู้ยังมีชีวิตอยู่สามารถทำให้แก่ผู้ตายได้
อีกทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องมีใจอาฆาตด้วยกันทั้งนั้น
“เสี่ยวหยิ่ง ดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”
ฟ่านลู่หยิบเสื้อคลุมออกมา แล้วคลุมลงไปบนตัวของกู้ชิงหยิ่ง เมื่อมองดูฟ้าผ่าและฝนที่ตกกระหน่ำอยู่ด้านนอก จึงพูดขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง “ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องเจ้าตัวเล็กอยู่ อากาศหนาว หากอยู่นานจะเป็นหวัดได้ แล้วเจ้าตัวเล็กจะเป็นเช่นไร?”
ตั้งแต่ที่พวกของเฉินตงทั้งสามคนออกไป กู้ชิงหยิ่งก็เริ่มเป็นกังวล นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นตลอดเวลา และไม่ยอมกลับไปที่ห้องนอน สายตาเอาแต่จับจ้องไปที่ประตูของวิลล่าอย่างไม่วางตา
เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
แต่แววตาของเฉินตงทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจและหวาดกลัวอย่างมาก
“พี่เสี่ยวลู่ เขาเกิดเรื่องอะไรไหม?” กู้ชิงหยิ่งหันกลับไปถามฟ่านลู่ จนแทบจะอ้อนวอน “พี่ออกไปตามหาเขาเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม? ฉันโทรศัพท์หาเขาไม่ติดเลย ปิดเครื่องไปแล้ว”
ฟ่านลู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่สามารถปิดบังความกังวลใจที่ซ่อนอยู่ในแววตาได้อีกต่อไป
เจตนาฆ่าของเฉินตงที่ปรากฏขึ้นก่อนที่จะออกไป เธอรับรู้ได้อย่างถูกต้องแน่นอน
ถึงขั้นว่า เธอมั่นใจยิ่งกว่ากู้ชิงหยิ่ง ว่าเฉินตงจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะกู้ชิงหยิ่งอาศัยความเข้าใจที่ตนเองมีต่อเฉินตง
ส่วนเธอ อาศัยสัญชาตญาณของนักฆ่า ทำให้รับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่าที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเฉินตง
แต่เธอไม่กล้าพูดความจริง เพราะจะยิ่งทำให้กู้ชิงหยิ่งหวาดกลัวและวิตกกังวลมากขึ้น
ลังเลอยู่สักพัก ฟ่านลู่ก็พูดขึ้นว่า “เธออย่าร้อนใจไปเลย ฉันจะลองโทรหาพี่คุนหลุนดู”
หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดโทรหาคุนหลุน ภายใต้การเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อของกู้ชิงหยิ่ง
แต่กลับได้ยินเพียงเสียงตอบรับอัตโนมัติของระบบ ทำให้แววตาที่เต็มไปด้วยความหวังของกู้ชิงหยิ่งหม่นหมองลงทันที
ปิดเครื่อง!
กู้ชิงหยิ่งประสานมือทั้งสองข้างไว้แน่นทันที และเม้มริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอ
“อย่าเพิ่งกังวลไป ยังมีโทรศัพท์ของท่านหลงอีกคน” ฟ่านลู่รู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย
เธอไม่กลัวว่ากู้ชิงหยิ่งจะลากเธอออกไปตามหาคนข้างนอก แต่เธอเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพวกเฉินตงทั้งสามคน
สามคนออกไปข้างนอก สองคนปิดโทรศัพท์ จะต้องเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นอย่างแน่นอน!
“ดี” กู้ชิงหยิ่งระงับความกลัวภายในจิตใจเอาไว้ แล้วพยักหน้า
ในขณะที่ฟ่านลู่กำลังเตรียมต่อสายหาท่านหลงอยู่นั้น
แอ๊ด!
ประตูใหญ่ของวิลล่าเปิดออก
พวกของเฉินตงทั้งสามคนที่เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยฝน เดินเข้ามา
กู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่รู้สึกดีใจในทันที
แต่เมื่อเห็นสภาพที่เปียกปอนไปด้วยฝนของทั้งสามคน ทั้งสองก็อึ้งไปพร้อมกันทันที
“พวกคุณไปไหนกันมา?”
กู้ชิงหยิ่งหน้าถอดสี เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเฉินตงด้วยความร้อนใจ และพุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเฉินตง โดยไม่สนใจว่าเนื้อตัวของเขากำลังเปียกปอนอยู่ “คุณไม่บอกฉัน ฉันยังพอจะเข้าใจได้ แต่ทำไมต้องปิดโทรศัพท์ด้วย คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงคุณแค่ไหน?”
ใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งของเฉินตง ในที่สุดก็ค่อยๆ กลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง
สัมผัสได้ถึงมือทั้งสองข้างที่โอบเอวของเขาเอาไว้แน่น เฉินตงก็รีบกล่าวขอโทษ “ขอโทษด้วย ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว ผม……”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ
กู้ชิงหยิ่งก็ผละตัวออกมาจากอ้อมกอดของเฉินตง แล้วรีบตะโกนเรียกให้ฟ่านลู่นำผ้าขนหนูมา เพื่อให้ทั้งสามคนเช็ดน้ำฝนที่เปียกอยู่บนตัว
“คุณไม่ต้องรีบอธิบายอะไรกับฉันทั้งนั้น คุณรีบกลับไปถอดเสื้อผ้าที่ห้องนอนเสียก่อน แล้วอาบน้ำร้อนสักหน่อย สวมใส่เสื้อผ้าเปียกชื้นเช่นนี้ จะทำให้เป็นหวัดเอาได้ง่ายๆ”
กู้ชิงหยิ่งพูดอย่างจริงจัง
เฉินตงผงะไป ตอนนี้ ในใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที
เขาพยักหน้าแล้วขึ้นไปชั้นบน
กู้ชิงหยิ่งหันไปกำชับกับท่านหลงและคุณหลุนอีกครั้ง ให้ฟ่านลู่เป็นคนดูแลพวกเขา หลังจากนั้นเธอก็รีบตามเฉินตงขึ้นไปชั้นบน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
ฟ่านลู่ช่วยเช็ดน้ำฝนบนตัวของท่านหลงและคุนหลุนไปพลาง และเอ่ยถามไปพลางด้วยความเป็นห่วง “เมื่อครู่ตอนที่คุณเฉินตงไปข้างนอก มีเจตนาฆ่าที่รุนแรงแผ่ซ่านออกมาทั่วตัว ทำให้ฉันรู้สึกตกใจจริงๆ”
ท่านหลงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นจึงหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดตัว แล้วเดินขึ้นชั้นบนไป “ฉันขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
คุนหลุนยืนนิ่ง ปล่อยให้ฟ่านลู่เช็ดน้ำฝนที่อยู่บนตัว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “หลุมศพของคุณนายถูกคนขุดทำลาย แล้วยังนำเอาเถ้ากระดูกของคุณนายขึ้นมาอีก”
เปรี้ยง!
ฟ่านลู่ยืนอึ้งไป ราวกับถูกฟ้าผ่า
หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว
เธอก็พูดออกมาอย่างดุดันว่า “ใครกันที่สมควรตายเช่นนี้?”
“อดีตแม่ยายของคุณชาย”
แววตาของคุนหลุนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและขุ่นเคืองใจ “ฆ่าตายไปแล้ว”
“สมควรฆ่า!” ฟ่านลู่กัดฟันพูด
ภายในห้องนอน
เสียงน้ำไหลอยู่ภายในห้องอาบน้ำ
เฉินตงยืนอยู่ใต้ฝักบัวโดยไม่ถอดเสื้อผ้าออก ปล่อยให้น้ำไหลผ่านชำระร่างกาย
เขาเงยหน้าขึ้น ปิดตา และสัมผัสถึงอุณหภูมิอุ่นๆ ของน้ำที่ไหลผ่านแก้มลงมา และเปียกไปทั่วร่างกาย
แม้กระทั่งตอนนี้ ก็ยังยากที่จะสงบจิตใจได้ ราวกับมีคลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้ามา
ความรู้สึกอัดแน่นอยู่ภายในอกอย่างรุนแรง
รู้สึกผิด จนแทบจะหายใจไม่ออก
แอ๊ด!
กู้ชิงหยิ่งผลักประตูห้องน้ำเข้ามา และมองดูเฉินตงที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวด้วยความประหลาดใจ
“ที่รักคะ คุณเป็นอะไรกันแน่?”
“ไม่เป็นไร คุณออกไปก่อนเถอะ อย่าทำให้ตัวต้องเปียก อีกเดี๋ยวผมก็ออกไปแล้ว”
เฉินตงหันหน้าไปมองกู้ชิงหยิ่งหนึ่งครั้ง ไม่ต้องการให้กู้ชิงหยิ่งเป็นกังวล และกลัวว่ากู้ชิงหยิ่งจะอารมณ์เสีย จึงจงใจฝืนยิ้มออกมา
กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้ว ไม่เพียงแต่ไม่ยอมถอยออกมา แต่เธอกลับเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ
เธอกอดเฉินตง โดยไม่สนใจว่าเขาเปียกไปทั้งตัว ซบหัวของเธอลงไปบนอกของเฉินตง “คุณลืมที่ฉันพูดแล้วหรือ? เวลาที่คุณโกหกฉัน ในแววตาของคุณเต็มไปด้วยพิรุธ!”
เฉินตงผงะไป
กำลังจะอ้าปากพูด
กู้ชิงหยิ่งก็พูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “ฉันรู้ว่าเมื่อครู่ต้องเกิดเรื่องใหญ่กับคุณแน่นอน และฉันก็รู้ด้วยว่าตอนนี้คุณรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก คุณไม่ต้องบอกฉันก็ได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่คุณสามารถกอดภรรยาของคุณสักพักแล้วร้องไห้ออกมาได้ ฉันไม่อยากให้คุณต้องข่มความรู้สึกของตัวเองเอาไว้เพราะฉัน”
น้ำเสียงอันอบอุ่น เอาชนะความงดงามอื่นใดได้ทั้งหมด
โจมตีเข้าที่หัวใจของเฉินตง ราวกับถูกค้อนทุบเข้าอย่างจัง
กู้ชิงหยิ่งเงยหน้า ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านใบหน้า และยังคงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจเถอะ เปิดฝักบัวอยู่ ต่อให้คุณร้องไห้ออกมา พวกเขาก็ไม่มีทางได้ยิน ภรรยาของคุณจะช่วยเก็เป็นความลับให้เอง”
เฉินตงสบตากับกู้ชิงหยิ่งแล้วยิ้มออกมา
แต่ในขณะที่ยิ้ม ก็มีน้ำตาไหลรินออกมาจากหางตาในเวลาเดียวกัน
ตัวของเขาสั่นเทา ในที่สุด เอาก็ซบลงไปในอ้อมกอดของกู้ชิงหยิ่ง
เสียงน้ำไหลช่วยอำพรางเสียงร้องเอาไว้จนหมดสิ้น
มีเพียงกู้ชิงหยิ่ง ที่ค่อยๆ ลูบหลังเฉินตงเบาๆ และพูดปลอบใจเขา….