ใกล้ถึงเวลาปิดตลาด
เฉินตงปิดคอมพิวเตอร์
แล้วนั่งรอฟังข่าวจากฉินเย่อย่างเงียบๆ
แน่นอนว่า ฉินเย่โทรมาอย่างรวดเร็ว
“พี่ตง ดูเหมือนวันนี้จะขาดทุนไปพันล้าน”
“ดีมาก”
เฉินตงยิ้มแล้วพยักหน้า ตอนนี้ ใบหน้าของเขาไม่ปรากฏความเคร่งเครียดอีกต่อไป
ฉินเย่รีบพูดขึ้นอีกว่า “พรุ่งนี้ก็จบเกมได้แล้ว”
“อืม พรุ่งนี้เช้าจบเกมทุกอย่างให้หมด ไม่ต้องเล่นต่อแล้ว หากเล่นนานเกินไป เกรงว่ามือฉมังอย่างเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาจะไหวตัวทันเสียก่อน”
เฉินตงกำชับด้วยความระมัดระวัง
คราวนี้สามารถมองเห็นแสงสว่างได้ นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
สามารถพลิกสถานการณ์ได้ในตอนสุดท้าย และทวงคืนสิ่งที่สูญเสียกลับคืนมาได้ ยิ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
การรู้จักพอ เขาเข้าใจดี
หากไม่รู้จักพอ ก็เหมือนงูที่กลืนช้างเข้าไป สุดท้ายคนที่ต้องตายก็คือตัวเอง
วางสายโทรศัพท์
เฉินตงหาข้อความของกู้โก๋ฮั๋วเจอ จากนั้นจึงส่งข้อความกลับไปว่า “ขอบคุณครับพ่อ”
เฉินตงมองดูรูปกู้ชิงหยิ่งบนหน้าจอโทรศัพท์ ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ
สามารถหาภรรยาแบบนี้ได้ ถือว่าสวรรค์เมตตาต่อฉันจริง!
หากอาศัยเพียงแค่การช่วยเหลือจากหงหุ้ยและจุนหลิน กรุ๊ป เฉินตงคงไม่อาจคิดวิธีเช่นนี้ออกมาได้
เพราะเขารู้ดีว่า เรื่องของจุนหลิน กรุ๊ป ตอนนี้เป็นเพียงแค่การคาดเดา ก่อนที่จะแน่ใจ ก็ยังถือเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน
ส่วนหงหุ้ย เย่หยวนชิวรับปากที่จะช่วยเหลือ แต่เฉินตงก็ไม่คาดหวังว่าหงหุ้ยจะยอมลงแรงทั้งหมดที่มี
แต่ข้อความที่กู้ชิงหยิ่งส่งมาในตอนบ่าย กลับทำให้เขามั่นใจมากขนาดนี้ และได้วางแผนการที่จะปล่อยสายเบ็ดให้ยาวเพื่อล่อปลาใหญ่ให้มาติดกับอย่างเช่นตอนนี้
เป็นเพราะ
กู้ชิงหยิ่งบอกเขาว่า ได้ช่วยเขาติดต่อพ่อตาเรียบร้อยแล้ว บริษัทชิงหยิ่งจะเข้าตลาดเพื่อช่วยฉินเย่ดันราคาในช่วงจังหวะที่สำคัญ
หากมีเสาหลักอย่างพ่อตาอยู่ ก็จะมีวิธีเล่นที่มากขึ้น
Rothschild ถอนทุนออกไปแล้ว ทุนของเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวายังอยู่ ดังนั้นเงินที่ขาดทุนไปจึงจำเป็นต้องหาคืนจากทั้งสองบริษัทนี้ ถึงขั้นอาจหาคืนมาให้ได้มากกว่าเดิมสักหน่อย!
การตัดสินสถานการณ์
เมื่อสถาพการต่างกัน วิสัยทัศน์และความคิดก็ต่างกัน
เฉินตงไม่ได้มีนิสัยอ่อนแอและสามารถรังแกได้ง่ายๆ เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นก็รู้จักที่จะป้องกันตัว แต่เมื่อไหร่ที่ได้เปรียบ ก็ถึงเวลาที่จะคิดบัญชีทั้งหมด!
ออกจากบริษัท และเดินไปถึงชั้นล่าง
เฉินตงเห็นเย่หลิงหลงหมุนไปหมุนมาอยู่ที่หน้ารถของเธอ
เขาไม่ได้สนใจ แล้วเดินตรงไปยังรถของตนเอง
“นี่! หงหุ้นเราช่วยเหลือคุณมากมายขนาดนั้น คุณเห็นฉัน ก็จะไปเดินไม่ทักทายสักคำเลยหรือ?”
เฉินตงเพิ่งจะเดินไปถึงด้านข้างรถ ก็มีเสียงของเย่หลิงหลงดังขึ้นข้างๆ “จะไม่ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้หน่อยหรือ เชิญฉันกินข้างสักมื้อ อย่างน้อยคุณก็ควรเห็นแก่ที่ฉันให้คุณยืมใช้รถ กล่าวทักทายฉันสักคำแล้วค่อยไปไม่ได้หรือ?”
เขาหันกลับไปมองเย่หลิงหลง “หรือจะให้ผมหยิบป้ายออกมา แล้วบังคับให้คุณคุกเข่าเรียกผมว่าผู้อาวุโสล่ะ?”
“คุณ……”
ใบหน้าอันงดงามของเย่หลิงหลงแดงก่ำขึ้นมา
เมื่อเธอเผชิญหน้ากับเฉินตง เธอมักจะรู้สึกว่าตนเองนั้นพร้อมจะจุดติดไฟ และระเบิดได้ทุกเวลา
เพราะการหยุดนิ่งในช่วงสั้นๆ เมื่อครู่ของเธอ ด้วยความงดงามของเย่หลิงหลง ทำให้ดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมากให้หยุดดู
ตอนนี้เมื่อเห็นสาวงามคนหนึ่งยืนคุยกับชายหนุ่ม
ผู้ที่พบเห็นต่างก็อดไม่ได้ที่จะมองเฉินตงด้วยความอิจฉา
เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาแหลมคมที่จับจ้องมา เฉินตงก็ขี้เกียจที่จะสนใจเย่หลิงหลง จึงขึ้นนั่งบนรถทันที
เมื่อรถสตาร์ท ก็มีรูปร่างอันงดงามมายืนขวางหน้ารถเอาไว้
เฉินตงมีท่าทีเย็นชาลงทันที
นี่มันเกินไปแล้ว
“เฉินตง คุณลงมาเดี๋ยวนี้!”
เย่หลิงหลงยืนนิ่งตรงกระโปรงหน้ารถ
ภาพนี้ ทำให้ผู้พบเห็นต่างตกใจ
“ให้ตายเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
“ให้ตายเถอะ ทำไมฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันชักเกินไปแล้ว?”
“ชายชั่วสลัดรักหญิงสาว ตอนนี้หญิงสาวจึงมาทวงคืนความยุติธรรม?”
……
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น
คนที่มามุงดูเหตุการณ์ ต่างไม่สนใจข้อเท็จจริง จินตนาการเรื่องออกไปต่างๆ นานาจน “ลึกมาก”
เย่หลิงหลงไม่ได้สนใจสายตาและคำวิพากษ์วิจารณ์เลยแม้แต่น้อย
เธอบิดเอวเข้าไปนั่งยังที่นั่งด้านข้างคนขับ
ยกมือขึ้นดึงประตู แต่กลับพบว่าไม่สามารถเปิดประตูรถได้
เย่หลิงหลงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
เธอโตจนป่านนี้ ยังไม่มีใครกล้าปฏิเสธไม่ให้เธอขึ้นรถ!
เฉินตงบ้า!
ลดกระจกรถลง
เฉินตงพูดกับเย่หลิงหลงอย่างเย็นชาว่า “ออกไป!”
“อะไรนะ?”
ใบหน้าของเย่หลิงหลงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ คิดว่าตนเองหูฝาด “คุณว่าอะไรนะ?”
“เชิญคุณถอยออกไป!”
น้ำเสียงเย็นชาดังออกมาจากในรถ
แทบจะในเวลาเดียวกัน เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขึ้น
เฉินตงเหยียบคันเร่ง แล้วขับออกไป ทิ้งให้เย่หลิงหลงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
ฮะ!
ผู้คนต่างตกตะลึง
เสียงอุทานดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ให้ตายเถอะ ช่างไม่รู้จักอ่อนโยนกับผู้หญิงเอาเสียเลย เจ้าหนุ่มนั่นช่างแข็งกระด้างจริงๆ? ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ กลับทำหยาบคายใส่เธอ?”
“โฉมงามกับอสูรจริงๆ ทำไมสาวงามเช่นนี้ถึงไม่สนใจอสูรอย่างฉันบ้าง?”
“เชอะ พวกนายมันตาบอดกันทั้งนั้น ไม่ดูบางเลยว่าผู้ชายคนเมื่อครู่คือใคร นั้นคือเฉินตง เจ้าของบริษัทไท่ติ่งเชียวนะ!”
……
หลังจากเสียงพูดนี้ดังขึ้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที
เพราะเย่หลิงหลงนั้นงดงามมากจริงๆ ดังนั้นเมื่อครู่ตอนที่ยืนอยู่ที่รถบีเอ็มดับเบิลยู i8 ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่แอบยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป
อีกทั้งภาพระหว่างเฉินตงและเย่หลิงหลงเมื่อครู่ ก็ถูกถ่ายเอาไว้ทั้งหมดแล้ว
เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในจิตใจของทุกคน
ในเมืองนี้ เฉินตงมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมานานแล้ว
เรื่องที่เฉินตงแต่งงาน เป็นที่โด่งดังไปทั้งเมือง
แต่ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อครู่……
กว่าทุกคนจะตั้งสติได้ เย่หลิงหลงก็ขับรถออกไปด้วยความโมโหนานแล้ว
ผู้คนที่หวนคิดถึงเรื่องนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย ความงดงามเช่นนี้ ได้เห็นน้อยลงสักหน่อยก็ทำให้รู้สึกเสียดาย
แต่ในขณะที่รู้สึกเสียดายนั้น คนจำนวนหนึ่งที่ถ่ายรูปไว้ ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความคิดพลุ่งพล่านขึ้นมาในหัว
ในยุคที่สื่อพัฒนาไปอย่างก้าวไกล การที่จะกลายเป็นคนดังในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นถือเป็นเรื่องง่ายมาก บางครั้งเพียงอาศัยแค่เป็น “ข่าว” สักหนึ่งครั้งก็เพียงพอ
เมื่อกลับไปถึงเขตวิลล่าเขาเทียนซาน
กู้ชิงหยิ่งกำลังจัดเรียงเอกสารอยู่
เมื่อเฉินตงเห็นก็รู้สึกเป็นห่วง จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วพูดว่า “ที่รัก ตอนนี้คุณกำลังท้องอยู่ ต้องพักผ่อนให้มาก อย่าหักโหมเกินไปนัก”
ตอนนี้กู้ชิงหยิ่งเป็นคนดูแลบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่มาตลอด โครงการก่อสร้างของไท่ติ่งนั้น ล้วนแล้วแต่อาศัยการจัดหาวัสดุจากบริษัทวัสดุก่อสร้างหยิ่งลี่ทั้งสิ้น
“อีกสองวันพ่อกับแม่ก็จะมาแล้ว ฉันจะต้องจัดการเอกสารให้เรียบร้อยสักหน่อย ถึงตอนนั้นจะได้ให้พวกเขาช่วยฉันตรวจสอบดู?”
กู้ชิงหยิ่งยิ้มหวาน “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ทำให้ฉันเหนื่อยได้หรอกค่ะ ฉันดูแลบริษัทวัสดุก็สร้างยิงลี่ นี่เป็นงานที่ง่ายมาก กลับเป็นคุณต่างหากที่คอยเตือนฉัน แต่ตัวคุณเองก็ต้องรู้จักรักษาสุขภาพให้มากกว่านี้สักหน่อยจึงจะดี”
เฉินตงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ไม่ใช่ว่าเขาเหนื่อยแค่ไหน แต่เป็นเพราะคำพูดของกู้ชิงหยิ่งทำให้เขานึกขึ้นมาได้
ด้วยวุฒิการศึกษาของกู้ชิงหยิ่ง ดูแลบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่หนึ่งบริษัท ก็ถือว่าเป็นการใช้คนที่มีความสามารถเหนือกว่างาน
เอกสารที่อยู่ในมือของกู้ชิงหยิ่งเหล่านี้ หากคิดจะจัดการ สำหรับกู้ชิงหยิ่งแล้วถือเป็นเรื่องง่ายมาก
หลังจากบิดขี้เกียจ เฉินตงก็ก้มลงไปจูบหน้าผากของกู้ชิงหยิ่ง “ผมขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวจะมาช่วยคุณจัดการ”
“ไปเถอะค่ะ”
กู้ชิงหยิ่งยิ้ม
มองดูเฉินตงที่เดินขึ้นไปชั้นบน ดวงตาของเธอก็สั่นเครือ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ จางหายไป
หลังจากเฉินตงขึ้นไปชั้นบนแล้ว
เธอก็พึมพำออกมาด้วยความสงสัยอีกครั้ง “กลิ่นหอมจากธรรมชาตินั่นอีกแล้ว……”