สีหน้าของกู้โก๋ฮั๋วเปลี่ยนไป
กำลังจะเอ่ยเตือน
กลับถูกพ่อของเทียนอ้ายห้ามเอาไว้ : “น้องกู้ คนประเภทนี้ต้องสั่งสอนสักหน่อย วางใจเถอะ เทียนอ้ายรู้จักความพอดี”
กู้โก๋ฮั๋วเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกมา เมื่อเห็นท่าทางที่กู้ชิงหยิ่งร้องไห้อย่างหนัก เขาก็รู้สึกเหมือนมีมีดมากรีดที่หัวใจ จึงได้ข่มอารมณ์เอาไว้
หลี่หวั่นชิงเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ต้องได้รับการแก้ไข
หากยื้อต่อไป พวกเขาไม่รู้ว่าเฉินตงจะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับลูกสาวสุดที่รักของพวกเขาแล้ว ต้องถือเป็นความเจ็บปวดครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
ตอนนี้ ในเมื่อเฉินตงมาแล้ว เทียนอ้ายเองก็กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้ !
“หนูไม่อยากเจอเขา”
กู้ชิงหยิ่งส่ายหัวทั้งน้ำตา
เทียนอ้ายเลิกคิ้ว : “ครั้งนี้ไปเพื่อแก้แค้น ไม่ถือว่าเป็นการไปพบเขา !”
ขณะที่พูด เธอไม่ได้สนใจว่ากู้ชิงหยิ่งจะรับปากหรือไม่ แต่กลับลากกู้ชิงหยิ่งเดินออกไปด้านนอกทันที
“กล้ามาทำร้ายเพื่อนของฉันแบบนี้ วันนี้ฉันจะต่อยเขาให้ฟันร่วงหมดปากเลยคอยดู !”
ถึงแม้จะไม่ได้เจอกู้ชิงหยิ่งมาหลายปี แต่ความเป็นเพื่อนสนิทยังคงอยู่ ทั้งสองตระกูลเองก็สนิทสนมกัน ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องแบบนี้ หากเกิดกับผู้หญิงคนอื่น ก็คงทนไม่ได้เช่นกัน
ภรรยากำลังตั้งท้องอยู่ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือถูกสามีนอกใจ ?
ผู้ชายเลวๆ เช่นนี้ อย่าว่าแต่เกิดเรื่องกับกู้ชิงหยิ่งเลย ต่อให้เกิดเรื่องขึ้นกับคนแปลกหน้าคนอื่นๆ เทียนอ้ายก็ไม่อาจทนนั่งดูอย่างเฉยเมยได้แน่นอน
ผ่านไปห้านาที รถลัมโบร์กีนีก็ขับออกไปจากคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
และหลังจากผ่านไปอีกสองนาที ก็มีรถโรลส์-รอยซ์ขับตามออกไปจากคฤหาสน์เช่นเดียวกัน
บนรถโรลส์-รอยซ์
กู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยารู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก แต่ใบหน้าของพ่อแม่เทียนอ้ายนั้น กลับเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
“น้องกู้ นายเป็นห่วงมากเกินไปหรือเปล่า ? เทียนอ้ายก็แค่ไปสั่งสอนคนคนหนึ่ง พวกเราต้องตามไปมากมายขนาดนี้เลยหรือ ?” พ่อของเทียนอ้ายรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
“ผมไม่ค่อยวางใจคนหนุ่มสาวนัก ผู้ใหญ่อย่างพวกเราควรจะไปแอบสังเกตการณ์ดูสักหน่อย”
กู้โก๋ฮั๋วยิ้มเยาะออกมา
เขารู้ฐานะของเฉินตงดี และยิ่งรู้ดีว่าทักษะในการต่อสู้ของเฉินตงนั้นน่ากลัวขนาดไหน
ที่ตามไปก็เพราะเป็นห่วงกู้ชิงหยิ่งและเทียนอ้าย
ท้ายที่สุดแล้วใครจะสั่งสอนใครก็ยังไม่แน่
แต่สิ่งนี้ เขาก็ไม่กล้าพอที่จะพูดออกไป อย่างไรเสียที่เทียนอ้ายทำไปทั้งหมด ก็เพื่อช่วยระบายความแค้นให้กับกู้ชิงหยิ่ง
“ถือว่าคืนนี้จะมีทางออกที่ดี และทำให้เสี่ยวหยิ่งมีความสุขขึ้นมาได้สักเล็กน้อย” หลี่หวั่นชิงถอนหายใจด้วยความสงสาร
แม่ของเทียนอ้ายเองก็ถอนหายใจตามไปด้วย : “เด็กคนนี้ เอาแต่เก็บกดความรู้สึกของตนเองเอาไว้เช่นนี้ มิหนำซ้ำยังตั้งท้องอยู่ด้วย หากไม่ระบายอารมณ์ออกมาบ้าง จะต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่นอน”
อีกทางด้านหนึ่ง
ลัมโบร์กีนีซึ่งกำลังแล่นอยู่อย่างรวดเร็วบนถนน
กู้ชิงหยิ่งกำลังนั่งเหม่อลอย มือทั้งสองข้างกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น
เทียนอ้ายซึ่งกำลังขับรถอยู่นั้น เต็มไปด้วยความโกรธ ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความแค้น
“เสี่ยวหยิ่ง ตอนนี้ไอ้หมอนั่นอยู่ที่ไหน ?”
กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว : “ฉันไม่รู้ หรือว่าพวกเราจะกลับกันก่อน ฉันไม่ยากพบหน้าเขาจริงๆ”
“ไม่ได้ไปพบหน้าเขาสักหน่อย แต่ไปสั่งสอนเขาต่างหาก !” เทียนอ้ายทุบกำปั้นด้วยความโกรธ “ไม่ต้องคิดอะไรมาก พอเจอเขาก็ต่อยเขาสักหมัดเพื่อระบายความแค้นให้เธอก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
“แต่ว่า……” แววตาของกู้ชิงหยิ่งดูเป็นกังวล
ยังไม่ทันพูดจบ เสียงของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เมื่อเห็นเลขหมายที่โทรเข้ามา ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งก็เปลี่ยนไปทันที
เกิดความลังเลใจขึ้นมา
เมื่อเห็นภาพนี้ เทียนอ้ายก็รู้สึกประหลาดใจ : “ใครโทรมา ?”
กู้ชิงหยิ่งที่เพิ่งจะหยุดร้องไปไม่นาน กลับร้องห่มร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง
“เขาหรือ ?”
เทียนอ้ายเลิกคิ้ว จู่ๆ เธอก็แย่งโทรศัพท์มาจากกู้ชิงหยิ่งและกดรับสาย
เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “คุณอยู่ที่ไหน ?”
เฉินตงที่อยู่ในสายรู้สึกประหลายใจเล็กน้อย : “คุณคือใคร ?”
“ไม่ต้องสนใจว่าฉันเป็นใคร ตอนนี้ฉันกำลังพาเสี่ยวหยิ่งไปหาคุณ”
เฉินตงที่อยู่ในสาย นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
จากนั้นจึงบอกที่อยู่ออกมาด้วยความยินดี เป็นโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของกู้ชิงหยิ่งมากนัก
ตู๊ด !
หลังจากวางสายโทรศัพท์
เทียนอ้ายยื่นโทรศัพท์คืนให้กู้ชิงหยิ่ง จากนั้นจึงถือโอกาสตบไหล่กู้ชิงหยิ่ง : “พอได้แล้ว อีกเดี๋ยวฉันจะช่วยสั่งสอนเขาแทนเธอเอง”มองดูเทียนอ้ายที่กำลังโมโห และใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ในใจของกู้ชิงหยิ่งก็รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เหมือนมีหลากหลายอารมณ์ผสมปนเปและพัวพันกันอยู่
ต้องไป……พบเขาจริงๆ หรือ?
อีกทางด้านหนึ่ง หลังจากเฉินตงวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง จนไม่หลงเหลือร่องรอยของความทุกข์ก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย
เสียงของหญิงแปลกหน้าในสายโทรศัพท์ ทำให้เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
เขาไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ ตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจก็คือ ผู้หญิงคนนั้นกำลังพาเสี่ยวหยิ่งเดินทางมาหาเขา
นี่……ถือเป็นการช่วยเหลือครั้งใหญ่จริงๆ!
เฉินตงเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วอาบน้ำและแต่งตัวใหม่อีกครั้ง
จากนั้นก็เป็นการรอคอยที่ยาวนาน
เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง สายที่โทรเขามาปรากฏขึ้นเป็นชื่อ “ภรรยา” สองคำ ทำให้เฉินเติงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
เขารีบรับโทรศัพท์ ปลายสายยังคงเป็นเสียงที่ฟังดูหยาบคายเมื่อครู่
“ออกมาที่ลานจอดรถของโรงแรม ! ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ !”
ตู้ด !
วางสายโทรศัพท์
เฉินตงผงะไปครู่หนึ่ง ทำไมเสียงนี้ ยิ่งฟังยิ่งคุ้น ?
เคยเจอ……ที่ไหนกันแน่ ?
เขาส่ายหัวแล้วรีบเดินออกจากห้องไป และเดินลงไปชั้นล่างของโรงแรม
ในลานจอดรถของโรงแรม กู้ชิงหยิ่งและเทียนอ้ายนั่งอยู่ในรถลัมโบร์กีนี
มือทั้งสองข้างของกู้ชิงหยิ่งประสานกันแน่น อยู่ในอารมณ์สับสนจนถึงขีดสุด
ทั้งเครียด ทั้งกังวล และมีอารมณ์ที่ยากจะใช้คำพูดอธิบายออกมาได้
เทียนอ้ายวางโทรศัพท์ แล้วหันมองกู้ชิงหยิ่ง : “ชิงหยิ่ง เดี๋ยวเธอก็นั่งดูอยู่ในรถนี่ล่ะ ฉันจะสั่งสอนเขาให้ฟันร่วงหมดปากเลย”
ขณะที่พูด เธอยังทำท่าสะบัดคอและมือ พร้อมทั้งส่งเสียงแสดงความพร้อมที่จะต่อสู้
ท่าทีเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและดุดัน
กู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ด้านข้างนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
ทำเพียงแค่เหลือบมองโรงแรมเป็นระยะๆ
ในที่สุด ร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นสู่สายตา
“อ้ายอ้าย เขามาแล้ว”
จู่ๆ กู้ชิงหยิ่งก็พูดขึ้นมา
“คอยดูฉันนะ !”
เทียนอ้ายเปิดประตูรถด้วยความโกรธ แล้วปิดอย่างแรงจนดังปัง จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเฉินตงซึ่งยืนอยู่ในที่ไกลๆ อย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะระยะห่าง บวกกับท่าทีที่เฉินตงกำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อหากู้ชิงหยิ่งหลังจากที่เข้ามาในลานจอดรถ ทำให้เทียนอ้ายเห็นหน้าตาของเฉินตงได้ไม่ชัดเจน
ส่วนภายในรถโรลส์-รอยซ์ที่จอดอยู่ตรงมุมอีกด้านหนึ่ง
สองสามีภรรยากู้โก๋ฮั๋วและพ่อแม่ของเทียนอ้าย ก็กำลังจ้องมองเฉินตงที่เดินเข้าไปในลานจอดรถอย่างเคร่งขรึม
เมื่อเห็นเทียนอ้ายลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปหาเฉินตงด้วยความโมโห
พ่อแม่ของเทียนอ้ายก็รู้สึกขำทันที
พ่อของเทียนอ้ายหันไปตบไหล่ของกู้โก๋ฮั๋ว : “น้องกู้ คอยดูให้ดีนะ หลายปีมานี้ลูกสาวสุดที่รักของเราไม่ได้ฝึกมาเสียแรงเปล่า เธอจะต้องช่วยสั่งสอนเจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่ให้รู้สำนึกสักครั้งได้อย่างแน่นอน”
ในเวลาเดียวกันนี้
เทียนอ้ายที่กำลังเดินตรงเข้าไปหาเฉินตง ค่อยๆ ขมวดคิ้ว
ความโกรธบนใบหน้าค่อยๆ จางหายไป
เมื่อมองดูคนที่กำลังมองซ้ายมองขวาคนนั้นอยู่ และระยะห่างที่ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ
“ทำไมยิ่งมองยิ่งคุ้น ?”
เทียนอ้ายที่กำลังนึกสงสัยขึ้นมา ยังคงเดินต่อไปไม่หยุด
อีกทั้งยังตะโกนใส่เฉินตงด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม : “เฮ้ คุณคือสามีของชิงหยิ่งใช่ไหม ?”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกน
เฉินตงที่กำลังมองซ้ายมองขวา รีบหันหาเสียงทันที
เมื่อเห็นเทียนอ้าย เขาก็ผงะไป
ส่วนเทียนอ้ายเองก็หยุดเดินอย่างกะทันหัน และมองเฉินตงด้วยความประหลาดใจ
ใบหน้าหล่อเหลาและเย็นชาที่ดูคุ้นเคยนั้น จู่ๆก็เป็นเหมือนค้อนที่ทุกเข้ามาที่ตาของเธออย่างแรง
“คุณนั่นเอง ?”
“คุณนั่นเอง ?”
เฉินตงและเทียนอ้ายพูดออกมาด้วยความประหลาดใจแทบจะพร้อมกัน
“ภรรยาขอผมล่ะ ?” เฉินตงรีบเอ่ยถามขึ้น
“คุณคือสามีของชิงหยิ่งจริงๆ หรือ ?”
ใบหน้าอันงดงามของเทียนอ้ายแดงก่ำ อยู่ในท่าทีเขินอายอย่างมากและตื่นตระหนก
นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ?
สามีของกู้ชิงหยิ่ง คือผู้ช่วยให้รอด ?