The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 455 ผู้ช่วยให้รอดคือสามีของฉัน ?

บทที่ 455 ผู้ช่วยให้รอดคือสามีของฉัน ?

“ภรรยาของผมล่ะ ?”

เฉินตงรีบเดินเข้าไปหาเทียนอ้าย

เขาคิดไม่ถึงว่ากู้ชิงหยิ่งจะรู้จักกับเทียนอ้าย แต่เขาจำได้ว่า เมื่อครู่ในสายโทรศัพท์ เทียนอ้ายพูดว่าจะพากู้ชิงหยิ่งมาด้วย

ตอนนี้เขาอยากจะพบเพียงแค่กู้ชิงหยิ่งเท่านั้น !

เมื่อเห็นเฉินตงเดินตรงเข้ามา

ใบหน้าของเทียนอ้ายก็แดงก่ำ และมีท่าทีตื่นตระหนก

ไม่เย่อหยิ่งและดุร้ายอย่างเช่นเมื่อครู่อีกต่อไป

หลงเหลืออยู่เพียงแค่ท่าทีตกใจเท่านั้น

สิ่งที่ปรากฏต่อสายตา ด้วยระยะห่างที่ใกล้เข้ามา ใบหน้าของเฉินตงเป็นเหมือนกับค้อน ที่ทุบลงบนตาของเทียนอ้ายอย่างแรง

“ว้าย !”

จู่ๆ เทียนอ้ายก็กรีดร้องขึ้นมา แล้วรีบหันหลังวิ่งหนีไป

เสียงกรีดร้องนี้

ทำให้เฉินตงยืนผงะอยู่ที่เดิม : “???”

กู้ชิงหยิ่งที่อยู่ในรถลัมโบร์กีนีก็ผงะไปเช่นเดียวกัน

สองสามีภรรยากู้โก๋ฮั๋ว และพ่อแม่ของเทียนอ้ายก็ผงะไปด้วย

นี่……มันเรื่องอะไรกัน ?

เทียนอ้ายรีบวิ่งกลับไปที่รถลัมโบร์กีนี ราวกับพบเจอเรื่องน่าตกใจอย่างมาก

ในขณะที่กู้ชิงหยิ่งกำลังมองดูด้วยสายตาตื่นตะลึง เธอก็สตาร์ทรถ เหยียบคันเร่ง และเลี้ยวหัวรถมุ่งหน้าออกจากลานจอดรถอย่างรวดเร็ว

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำให้กู้ชิงหยิ่งคาดไม่ถึง

เธอมองผ่านกระจกไปยังเฉินตงที่ยืนผงะอยู่ที่เดิม ตามสัญชาตญาณ

และในขณะเดียวกับที่เธอกำลังมองออกมา เฉินตงก็ตั้งสติได้พอดี และจ้องมองไปที่รถลัมโบร์กีนี

ตอนนี้เองที่ทั้งสองสบตากัน

ใบหน้าที่เฝ้าคะนึงหาปรากฏขึ้นในดวงตา

“เสี่ยวหยิ่ง !”

เฉินตงตะโกนเสียงดัง แล้ววิ่งตามรถไปอย่างบ้าคลั่ง

แต่เทียนอ้ายที่กำลังอยู่ในอาการตกใจ ก็ยิ่งขับรถออกไปด้วยความเร็ว และหายไปต่อหน้าต่อตาเฉินตง โดยเหลือทิ้งไว้เพียงแค่ควัน

เฉินตงหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม แล้วเหม่อลอย : “คุณ ทำไมไม่ยอมพบหน้าผม ? ผมมาเพื่อที่จะขอโทษนะ !”

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?”

พ่อของเทียนอ้ายตั้งสติขึ้นมาได้ ต่อให้เคาะหัวก็ไม่อาจคิดออกได้ จึงรีบเรียกให้คนขับรถสตาร์ทเครื่อง

เห็นชัดๆ ว่าเทียนอ้ายไปสั่งสอนเฉินตง แต่ทำไมเมื่อเจอกับเฉินตง หลับวิ่งหนีราวกับกระต่ายที่หวาดกลัวเช่นนั้น ?

สองสามีภรรยากู้โก๋ฮั๋วเองก็หันมองหน้ากัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง

รถลัมโบร์กีนีส่งเสียงคำรามและแล่นอยู่บนถนนด้วยความเร็ว

เทียนอ้ายยังไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้ เธอมองรถไปพลาง และจ้องมองทางด้านหน้าตาเขม็ง แล้วบ่นพึมพำออกมาราวกับคนเสียสติ

“เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้อย่างไร ? เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ?”

ส่วนกู้ชิงหยิ่งเอง เมื่อครู่ได้สบตากับเฉินตง

ตอนนี้ก็นั่งก้มหน้าก้มตาด้วยความโศกเศร้า มองทั้งสองข้างประสานกันแน่นจนเล็บบาดเข้าที่ผิวหนัง

ในขณะที่บรรยากาศเงียบสงัด น้ำตาของเธอก็ไหลรินออกมาจากหางตา

ระยะเวลาที่กลับไปถึงคฤหาสน์ ด้วยการขับรถอย่างรวดเร็วของเทียนอ้าย ทำให้ลดทอนเวลาไปได้เกือบครึ่ง

เอี๊ยด !

ลัมโบร์กีนีจอดลงที่สวนดอกไม้ของคฤหาสน์

ภายในรถ บรรยากาศเงียบสงัด

เทียนอ้ายกำลังนั่งเหม่อเลย ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อครู่

เธอก็รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกแผดเผา

สวรรค์ !

นี่ฉันเป็นบ้าไปแล้วหรือ ถึงได้คิดจะไปสั่งสอนเขา ?

จากนั้น สายตาของเธอก็หันไปจับจ้องที่กู้ชิงหยิ่งที่เอาแต่นิ่งเงียบตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วถามยืนยันอีกครั้งอย่างไม่อยากเชื่อว่า : “เสี่ยวหยิ่ง ผู้ชายคนนั้นคือสามีของเธอจริงๆ หรือ ? เขา……ชื่อเฉินตง ?”

“อืม” กู้ชิงหยิ่งเงยหน้า ยิ้มอย่างหดหู่ พร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

เทียนอ้ายตัวสั่น และไม่พูดอะไรไปพักใหญ่

นี่มันเป็นพรหมลิขิตแบบไหนกันแน่ ?”

ตอนนี้ ในที่สุดรถลัมโบร์กีนีก็ขับเข้ามาในคฤหาสน์

เพิ่งจะจอดรถ สองสามีภรรยากู้โก๋ฮั๋วและพ่อแม่ของเทียนอ้ายก็รีบลงจากรถทันที แล้ววิ่งตรงไปยังรถลัมโบร์กีนี

กู้โก๋ฮั๋วเปิดประตูรถแล้วเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“เทียนอ้าย เมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?”

เมื่อเห็นแววตาที่เป็นประกายของผู้ใหญ่ทั้งสี่คน เทียนอ้ายก็แทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

“เจ้าเด็กคนนี้ รีบพูดมาเร็วเข้า”

พ่อของเทียนอ้ายพูดเร่งรัด : “บอกว่าจะไปสั่งสอนเขา แล้วทำไมลูกถึงทำเหมือนกับเห็นผี แล้วรีบวิ่งหนีขนาดนั้น ?”

เมื่อได้ยิน

แม้แต่กู้ชิงหยิ่งเองก็หันไปมองเทียนอ้ายด้วยความสงสัย

ปฏิกิริยาหลังจากที่เทียนอ้ายเจอกับเฉินตงเมื่อครู่ มันช่างผิดปกติจริงๆ!

“หนู……”

เทียนอ้ายลูบหน้าของเธอ สีหน้ายังคงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก : “หนู หนูไม่กล้าสั่งสอนเขา”

อะไรนะ ? !

ทุกคนผงะไปพร้อมกัน

แววตาของกู้โก๋ฮั๋วเป็นประกาย หรือเทียนอ้ายจะรู้ฐานะที่แท้จริงของเฉินตง ?

“ที่ลูกบอกว่าไม่กล้าสั่งสอนเขา หมายความว่าอย่างไร ?”

พ่อของเทียนอ้ายรีบถามต่อ เขารู้จักนิสัยของลูกสาวตัวเองดี เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ต่อให้เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ เกรงว่าเทียนอ้ายก็ยังกล้าที่จะถลกหนังออกมา

ทว่า

เทียนอ้ายพูดว่า : “เขาคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตหนู”

เปรี้ยง !

ทุกคนผงะไปทันทีรวมถึงกู้ชิงหยิ่งด้วย

จากนั้น เทียนอ้ายก็พูดขึ้นอีกว่า : “เหตุการณ์ปล้นเครื่องบิน เฉินตงเป็นคนช่วยหนู หากไม่มีเขาคอยแอบให้ความช่วยเหลือ หนูคงจะตายอยู่บนเครื่องบินไปนานแล้ว”

คำพูดที่พูดออกมาราวกับเสียงฟ้าผ่า ฟาดลงมาจนทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมากทันที

พวกของกู้โก๋ฮั๋วทั้งสี่คนตกใจจนอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก

“เสี่ยวหยิ่ง สามีของเธอคือผู้ช่วยให้รอดในเหตุการณ์ปล้นเครื่องบินตัวจริง !” ใบหน้าอันงดงามของเทียนอ้ายแดงก่ำ ตอนนี้เธออยากจะแทรกแผ่นดินหนีจริงๆ”

บนเครื่องบิน หากไม่มีเฉินตงคอยช่วยเหลือ เธอคงต้องตายอยู่ในมือของผู้ร้ายอย่างแน่นอน

แล้วเธอยังคิดที่จะสั่งสอนเฉินตงอีกหรือ ?

“สามีของฉัน……คือผู้ช่วยให้รอด ?” กู้ชิงหยิ่งตกตะลึงและเหม่อลอยไปพักใหญ่

ใครจะไม่อยากให้สามีของตนเองเป็นฮีโร่บ้าง ?

แต่ตอนนี้สถานการณ์ระหว่างเธอกับเฉินตง ทำให้กู้ชิงหยิ่งเกิดความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าควรจะยินดีหรือร้องไห้

เทียนอ้ายหันมองกู้ชิงหยิ่งที่กำลังใจลอย จู่ๆ แววตาก็ปรากฏความอิจฉาขึ้นมา

เธอพึมพำเบาๆ ว่า : “เดิมที ที่เขาไม่ต้องการรับความดีความชอบในครั้งนี้ ก็เป็นเพราะต้องการรีบมาขอโทษเธอนี่เอง”

คำพูดนี้ เป็นเหมือนมือใหญ่ที่สัมผัสเข้ามาในหัวใจของกู้ชิงหยิ่ง

ตอนนี้ อารมณ์ของเธอซับซ้อนจนถึงขีดสุด และเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างรวดเร็ว

สองสามีภรรยากู้โก๋ฮั๋วและพ่อแม่ของเทียนอ้ายเอง ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปจนประหลาด

ก่อนหน้านี้ พวกเขายังพูดคุยถึงสาเหตุว่าเพราะเหตุใด ผู้ช่วยให้รอดถึงไม่ยอมรับความดีความชอบในครั้งนี้ จริงๆ แล้ว……ก็เพื่อกู้ชิงหยิ่งนี่เอง ?

โดยเฉพาะพ่อของเทียนอ้าย เขาอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมาว่า : “แม้แต่ความดีความชอบใหญ่หลวงขนาดนั้นก็ยังไม่ยอมรับ แต่กลับตั้งใจที่จะมากล่าวขอโทษกับเสี่ยวหยิ่งให้ได้ เด็กคนนี้น่าจะไม่ได้ปฏิบัติกับเธอเหมือนกับที่พวกเราคิดหรอกนะ ?”

คำพูดนี้ ราวกับน้ำที่เทลงไปในหม้อร้อนๆ

ทำให้กู้ชิงหยิ่งและสองสามีภรรยากู้โก๋ฮั๋ว ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที

กู้โก๋ฮั๋วมีท่าทีโกรธเคือง : “เจ้าสัตว์เดรัจฉานนั่นทรยศหักหลังลูกสาวฉันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ทำเช่นนี้ ก็คงเป็นเพียงแค่การเสแสร้งเท่านั้น ? ต่อให้เขาเสียสละมากแค่ไหน ก็ไม่อาจชดเชยกับความผิดที่หักหลังลูกสาวของฉันได้ !”

“น้องกู้ นายใจเย็นหน่อยสิ !”

พ่อของเทียนอ้ายรีบพูดขึ้น : “ฉันเองก็ไม่ได้พูดว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เพียงแต่ฉันรู้สึกว่าเด็กคนนี้ยอมละทิ้งความดีความชอบใหญ่หลวงเช่นนี้ เพื่อที่จะรีบมาพบเสี่ยวหยิ่ง คงต้องมาด้วยความตั้งใจแน่นอน ไม่น่าจะใช่คนเลวร้ายอะไรนัก”

“พี่เทียน นาย……”

กู้โก๋ฮั๋วคิดจะโต้เถียง

แต่จู่ๆ เทียนอ้ายกลับพูดขึ้นว่า : “ลุงกู้คะ ความดีความชอบครั้งนี้ หากตกอยู่ในมือหนูก็เพียงพอที่จะทำให้หนูได้เลื่อนขั้นถึงสามขึ้นอย่างสบายๆ แม้แต่เฉินตงเอง นี่ก็ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ตนเองได้มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก ถ้าหากเขาไม่ได้ใส่ใจเสี่ยวหยิ่งจริง จะปฏิเสธง่ายๆ เพียงเพราะต้องการมาให้ทันเวลาอย่างนั้นหรือคะ ?”

คำพูดนี้ ทำให้กู้โก๋ฮั๋วพูดไม่ออก

“เสี่ยวหยิ่ง หนูคิดว่าอย่างไรล่ะ ?” จู่ๆ หลี่หวั่นชิงก็พูดขึ้น

สายตาหันไปจับจ้องอยู่ที่กู้ชิงหยิ่งทันที

หากจะพูดกันตามตรง ความคิดเห็นของพวกเขาก็เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วต้องดูการตัดสินใจของกู้ชิงหยิ่ง

“เสี่ยวหยิ่ง หรือจะลองโทรกลับดูสักครั้ง ลองพบหน้ากันดูสักหน่อย ?” เทียนอ้ายเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

กู้ชิงหยิ่งเหม่อลอยไป

เธอเผชิญหน้ากับเทียนอ้ายด้วยความลังเล

ในที่สุด เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เธอกดโทรศัพท์หาเฉินตงด้วยความคาดหวัง

เพียงแต่ เมื่อเสียงเรียกสายดังขึ้นหนึ่งครั้ง สายโทรศัพท์ก็ถูกตัด……

กู้ชิงหยิ่งตัวสั่น เมื่อได้ยินเสียงเงียบในโทรศัพท์ เธอก็รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาทันที

เขา……ต้องการอะไรกันแน่ ?

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท