The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 460 ยังมีชีวิตอยู่ต้องเจอคน หากตายแล้วต้องพบศพ

บทที่ 460 ยังมีชีวิตอยู่ต้องเจอคน หากตายแล้วต้องพบศพ

“กลับไปคุยกันที่บ้านเถอะ”

เทียนอ้ายพูดด้วยท่าทีจริงจัง

กู้ชิงหยิ่งดูสับสนเล็กน้อย เธอพยักหน้า ลุกขึ้นกำลังจะเดินไปด้านหน้า

แต่เพราะกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย กำลังขาอ่อนแรงและเดินโซเซ

เทียนอ้ายตกใจมาก จึงรีบเดินเข้าไปประคอง

“ทำไมเธอต้องทรมานตัวเองแบบนี้ด้วย ?” เทียนอ้ายพูด

กู้ชิงหยิ่งยิ้มอย่างเศร้าหมองโดยไม่พูดอะไร

กลับไปถึงด้านในคฤหาสน์

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงเองก็เดินลงมาด้านล่าง

หลี่หวั่นชิงรีบเดินเข้าไปประคองกู้ชิงหยิ่ง

ส่วนกู้โก๋ฮั๋วก็เชื้อเชิญให้เทียนอ้ายนั่งลง แล้วถามว่า : “เทียนอ้าย ทางฝั่งของเธอสืบได้ความอะไรบ้าง ?”

ไม่ว่าจะเป็นกำลังของหน่วยข่าวกรองบริษัทชิงหยิ่ง หรือจะเป็นพลังของหน่วยข่าวกรองของตระกูลเทียนและพันธมิตรทางธุรกิจคนอื่นๆ ของกู้โก๋ฮั๋ว

ขอบเขตและความลึกในการสืบหานั้น ยังห่างไกลจากหน่วยงานที่เทียนอ้ายสังกัดอยู่มากนัก

อีกทั้งหน่วยงานที่เทียนอ้ายสังกัดอยู่นั้นมีลักษณะเฉพาะ แม้กระทั่งอยู่ต่อหน้า กู้โก๋ฮั๋วยังไม่สามารถสอบถามอะไรจากปากของเทียนอ้ายได้เลย

เทียนอ้ายขมวดคิ้ว จัดระเบียบความคิดอยู่สักครู่ แล้วค่อยๆ พูดออกมา

“ฉันอาศัยข้อมูลของโรงแรมที่เฉินตงเข้าพัก แล้วแอบตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนถนนบริเวณโดยรอบโรงแรม ผลลัพธ์ที่ได้ออกมา พอจะสรุปได้ว่าน่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขา”

“เดี๋ยวก่อน !”

กู้โก๋ฮั๋วรีบเรียกให้หยุด : “กล้องวงจรปิดบนถนนบริเวณโดยรอบโรงแรม พวกเราไปตรวจสอบมาแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกตินี่”

“ลุงกู้คะ ที่พวกคุณสืบหามาต้องไม่มีความผิดปกติแน่นอน”

เทียนอ้ายแสดงท่าทีภาคภูมิใจออกมาโดยไม่รู้ตัว : “แต่ผลการตรวจสอบที่ได้จากหน่วยข่าวกรองของหนู แตกต่างจากผลลัพธ์ที่พวกคุณสืบหามาได้”

เทียนอ้ายเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า : “คืนที่เฉินตงกดตัดสายโทรศัพท์ของกู้ชิงหยิ่ง กล้องวงจรปิดที่อยู่บนถนนด้านนอกลานจอดรถของโรงแรมถูกปิดหมด อีกทั้งคืนนั้นถนนก็ถูกสั่งปิดอีกด้วย”

เปรี้ยง !

คำพูดประโยคนี้ เหมือนกับฟ้าผ่าลงมากลางห้องนั่งเล่น

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงตกตะลึงไป

มือทั้งสองข้างของกู้ชิงหยิ่งประสานกันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“แต่ข้อมูลที่ฉันได้จากหน่วยข่าวกรอง ในคืนนั้นที่โรงแรมและบนถนนไม่มีความผิดปกติใดๆ เลย” กู้โก๋ฮั๋วไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

เขารู้ดีว่าตัวเองมีอิทธิพลมากขนาดไหน และยิ่งรู้ดีถึงความสามารถของหน่วยข่าวกรองของเขา

แต่สิ่งที่เทียนอ้ายพูดขึ้นในตอนนี้ ไม่เหมือนกับผลลัพธ์ที่ได้มาจากหน่วยข่าวกรองเลยแม้แต่น้อย !

“ถ้าจะบอกว่ากล้องวงจรปิดที่พวกของลุงกู้เห็น เป็นของปลอมล่ะคะ ?”

เทียนอ้ายเลิกคิ้ว ดวงตาของเธอเป็นประกาย : “เชื่อว่าลุงกู้ก็คงรู้ดีถึงความสามารถของเทคโนโลยีทุกวันนี้ หากต้องการสร้างของปลอมขึ้นมา เชื่อว่าก็สามารถทำการตัดต่อวิดีโอได้ใช่ไหมล่ะคะ ? เตรียมอัดวิดีโอเอาไว้หนึ่งช่วง แล้วปรับเปลี่ยนเวลา ด้วยความสามารถของพวกแฮกเกอร์ นี่คงไม่ใช่เรื่องยากใช่ไหม ?”

ริมฝีปากของกู้โก๋ฮั๋วขยับ แต่พูดอะไรไม่ออก

การที่แฮกเกอร์จะเปลี่ยนแปลงเวลาในกล้องวงจรปิดรุ่นเก่านั้น เป็นเรื่องง่ายมากจริงๆ

อีกทั้งเพราะเป็นวิดีโอรุ่นเก่า หากต้องการสืบหา คงไม่สามารถเปิดดูวิดีโอทีละรายการได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

ทว่า หลังจากที่กู้โก๋ฮั๋วเงียบไป

ความเหน็บหนาวได้แผ่ซ่านจากเท้าของเขา ไล่ขึ้นไปจนถึงศีรษะ

ตอนนี้ต่อให้เป็นกู้โก๋ฮั๋ว ก็ยังรู้สึกขนลุก

เมื่อเห็นท่าทีของกู้โก๋ฮั๋ว เทียนอ้ายก็พูดว่า : “ตอนนี้ลุงกู้รู้แล้วใช่ไหมคะว่าเรื่องนี้มีความซับซ้อนแค่ไหน ?”

กู้โก๋ฮั๋วพยักหน้าเงียบๆ

กู้ชิงหยิ่งและหลี่หวั่นชิงหันมองกู้โก๋ฮั๋วพร้อมกัน

กู้ชิงหยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างร้อนรน : ” พ่อคะ เรื่องนี้ซับซ้อนขนาดไหนคะ ? เฉินตงเป็นอะไรกันแน่ ?”

กู้โก๋ฮั๋วพยายามระงับความกลัวที่เกิดขึ้น แล้วหันไปพูดกับกู้ชิงหยิ่งว่า : “ถึงแม้การตัดต่อกล้องวงจรปิดจะเป็นเรื่องง่าย แต่ตัวพ่อเองก็ยังไม่สามารถทำได้ เข้าใจแล้วใช่ไหม ?”

กู้ชิงหยิ่งตัวสั่นเทา เธอรู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนกอย่างสุดขีด

คำพูดของพ่อ หากจะพูดให้เข้าใจได้ง่ายก็คือ เขาไม่มีอำนาจพอที่จะตัดต่อกล้องวงจรปิดได้ ดังนั้น คนที่สามารถดัดแปลงกล้องวงจรปิดได้ จะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งมากกว่าพ่อแน่นอน !

บริษัทชิงหยิ่ง เป็นที่รู้จักในระดับสากลมาเป็นเวลานาน

ในตลาด ถือว่าเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง

คนที่แข็งแกร่งกว่าพ่อ จะต้องน่ากลัวขนาดไหนกัน ?

ทำไมเฉินตงถึงไปมีเรื่องกับคนแบบนี้ได้

ดวงตาของกู้ชิงหยิ่งก็แดงก่ำและเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาทันที

จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้น ไม่สนใจว่าร่างกายกำลังอ่อนแอ ฝืนเดินออกไปด้านนอก

“ชิงหยิ่ง เธอจะไปไหน ?”

เทียนอ้ายสังเกตเห็นเป็นคนแรก จึงได้เข้าไปขวาง

“ฉันจะไปหาเขา”

กู้ชิงหยิ่งร้องไห้อย่างหนัก ขัดขืนไปพลางร้องไห้ไปพลาง : “หากยังอยู่ต้องพบคน หากตายแล้วต้องพบศพ !”

คำพูดนี้ ราวกับว่าเธอใช้พลังทั้งหมดที่มี พูดผ่านไรฟันออกมา

กุ๋โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงรีบเดินตามไป แล้วช่วยเทียนอ้ายขวางกู้ชิงหยิ่งไว้

“เสี่ยวหยิ่ง ตอนนี้ลูกร่างกายอ่อนแอ ควรจะอยู่บ้านดูแลตัวเองให้ดี และดูแลลูกในท้องให้ดี !”

“พ่อจะต้องหาเขาให้เจอ เรื่องตามหาเฉินตง พ่อจะต้องคิดหาวิธีให้ได้ ตอนนี้ลูกวิ่งออกไปเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะหาเฉินตงไม่เจอ แต่จะพลอยทำให้ลูกได้รับอันตรายไปด้วย”

“ฮือฮือฮือ……”

กู้ชิงหยิ่งร้องไห้เสียงดัง ใบหน้าซูบผอมของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา : “เขาบอกว่าจะมาขอโทษหนูแท้ๆ ทำไมตอนนี้จู่ๆ ถึงได้หายตัวไป หนูจะไปหาเขา หนูจะไปถามต่อหน้าเขา ว่าเขาหมายความว่าอย่างไรกันแน่ !”

“พ่อคะแม่คะ ไปหาเป็นเพื่อนหนูหน่อยได้ไหม ? เขาเป็นผู้ช่วยให้รอด เขาสามารถช่วยคนในเครื่องบินทั้งลำได้ แล้วทำไมถึงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ? ไม่ ต่อให้เขาตายไปแล้ว หนูก็ต้องพบศพของเขาให้ได้ !”

เธอขอร้องอ้อนวอนอย่างน่าเวทนา

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงรู้สึกร้อนใจ ราวกับมดที่อยู่บนหม้อร้อนๆ

ไม่รู้ว่าควรจะขัดขวางกู้ชิงหยิ่งเช่นไรดี

ต่อให้จะมี “การทรยศ” เกิดขึ้น

แต่ความรู้สึกที่ลูกสาวมีให้ต่อเฉินตงนั้น สองสามีภรรยาต่างรู้ดี

ถ้าหากไม่รัก จะเสียดายที่ต้องเลิกกันเช่นนี้หรือ ?

อีกทั้งตอนนี้เฉินตงยังมาเกิดข่าวร้ายเช่นนี้อีก

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก แล้วจะให้ลูกสาวทนรับไหวได้อย่างไร ?

ตุ้บ !

จู่ๆ ก็มีเสียงดังเกิดขึ้น

เทียนอ้ายยกมือขึ้น แล้วกระแทกลงไปที่ท้ายทอยของกู้ชิงหยิ่ง

กู้ชิงหยิ่งหมดสติไปทันที

ภาพนี้ ทำให้กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงตกใจจนหน้าถอดสี

เทียนอ้ายรีบพูดอธิบายว่า : “วางใจเถอะค่ะคุณลุงคุณป้า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ทำให้ชิงหยิ่งสงบลงก่อนเท่านั้น”

เมื่อได้ยิน

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงก็มีท่าทีเบาใจลงมาก

กู้โก๋ฮั๋วรีบถามต่อ : “เทียนอ้าย เธอสืบรู้อะไรมาอีกบ้าง ?”

“ไม่มีแล้วค่ะ ตอนนี้รู้มาเพียงเท่านี้”

เทียนอ้ายส่ายหัวอย่างเคร่งขรึม แล้วหันมองกู้ชิงหยิ่งที่หมดสติไป แล้วหันกลับมาพูดกับกู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงว่า : “คุณลุงคุณป้า พวกคุณต้องปลอบใจเสี่ยวหยิ่งสักหน่อยนะคะ ฝีมือของเฉินตงหนูเองก็เคยเห็นมากับตา แน่นอนแล้วว่าต้องเกิดเรื่องขึ้น แต่ตอนนี้ ตัวเขาน่าจะยังไม่เป็นอะไร”

“ได้”

เทียนอ้ายออกจากคฤหาสน์ไป

หลังจากกลับเข้าไปนั่งในลัมโบร์กีนี เธอก็ลูบดั้งจมูกของเธอ แล้วยิ้มออกมาอย่างเศร้าสร้อย

“คืนนั้น หงหุ้ยส่งคนหลายพันคนไปตามชายฝั่ง ต้องการที่จะตามหาอะไรกันแน่ ?

นี่เป็นข้อมูลอีกอย่างที่เธอได้มาจากหน่วยข่าวกรองของหน่วยงาน

แต่เป็นเพราะสถานะที่ไม่ธรรมดาของหงหุ้ย ทำให้เธอปิดบังข้อมูลเรื่องนี้ ตอนที่เล่าเรื่องทุกอย่างให้พวกของกู้ชิงหยิ่งทั้งสามฟัง

แต่ทว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นห่างจากช่วงเวลาที่เฉินตงหายตัวไปเพียงไม่นาน สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกสนใจ

“หงหุ้ยปิดเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ ส่งคนออกไปกว่าพันคน ที่น่าตกใจก็คือแม้กระทั่งหน่วยข่าวกรองของลุงกู้และพ่อก็ไม่อาจสืบรู้ได้ ช่างแข็งแกร่งจริงๆ”

เทียนอ้ายสตาร์ทรถ แววตาเป็นประกาย : “ถ้าเช่นนั้น ก็เริ่มลงมือสืบหาจากหงหุ้ยก่อนก็แล้วกัน !”

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน