ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ตอนที่ 683

ตอนที่ 683

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 683 : แกก็อยู่ที่นี่ด้วยสินะ
ราชันเร้นลับ 683 : แกก็อยู่ที่นี่ด้วยสินะ
โดย
Ink Stone_Fantasy
‘ด้ายวิญญาณ’ สีดำที่งอกยาวออกจากแต่ละร่างกาย เริ่มปรากฏในการมองเห็นของไคลน์อย่างเด่นชัด แต่ชายหนุ่มยังไม่คิดจะแผ่พลังวิญญาณออกไปครอบงำพวกมันทันที

หลังจากจำแนกและยืนยันว่าด้ายวิญญาณกลุ่มใดเป็นของโมโซน่า ไคลน์จิบเบียร์มอลต์พลางชมการชกมวยบนสังเวียนอย่างไม่ละสายตา ท่าทีเหมือนกับคนทั่วไปที่เข้ามาหาความสุข

นักมวยสองคนซึ่งร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า ปราศจากอุปกรณ์ป้องกันทุกชนิด กำลังกระหน่ำหมัดใส่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย กำปั้นกระแทกใส่เนื้อหมัดแล้วหมัดเล่า เพียงไม่นานสถานการณ์ก็เริ่มดุเดือด

ได้เห็นเช่นนั้น สิงห์พนันขี้เมาหลายคนต่างเลือดลมสูบฉีด ตะโกนเรียกชื่อนักมวยฝั่งที่ตนลงเดิมพันอย่างไม่ขาดปาก สลับกับการตะโกนว่า

“ฆ่ามัน!”

“ซัดไอ้ลูกโสเภณีให้หมอบ!”

บนชั้นสอง โมโซน่าจดจ่ออยู่กับสังเวียนจนลืมซิการ์ในมือขวา ส่วนมือซ้ายเริ่มกำหมัดแน่น

จากบรรดาคนรอบตัวทั้งหมด นอกเหนือจากกลุ่มที่หันหลังหรือหันข้างให้เพื่อคอยระวังอันตราย คนส่วนใหญ่อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปทางสังเวียนด้านล่างซึ่งสองนักชกกำลังชุ่มโชกไปด้วยเลือด

ไคลน์ยกแขนขึ้น จิบเบียร์เย็น คล้ายกับหายใจลำบากขึ้นเล็กน้อยจากบรรยากาศที่คุกรุ่น

ทันใดนั้น พลังวิญญาณของชายหนุ่มเริ่มแผ่ออกจากร่างกายอย่างเงียบงัน สัมผัสเข้ากับกลุ่มด้ายมายาสีดำที่เป็นของโมโซน่า

หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที

ขณะโมโซน่าจมูกแดงเตรียมขยับกำปั้นประหนึ่งลงไปชกในสังเวียนเสียเอง สมองของมันพลันวิงเวียนกะทันหัน

โมโซน่ารู้สึกว่าฉากรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไป คล้ายกับมีกระจกหนาหลายชั้นวางซ้อนทับ

ความคิดความอ่านของมันช้าลงอย่างชัดเจน ราวกับทุกส่วนในสมองกำลังขึ้นสนิม

เนื่องจากเหยื่อเป็นเพียงคนธรรมดา ความแข็งแกร่งของร่างวิญญาณจึงต่ำกว่าผู้วิเศษมาก ไคลน์สามารถควบคุมขั้นต้นได้ภายในไม่ถึงยี่สิบวินาที

เจ็ดวินาที!

แค่เจ็ดวินาทีเท่านั้น!

แย่ล่ะสิ… มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเรา… ดูเหมือนกับ… ผู้วิเศษ… ที่มีพลังประหลาด… โมโซน่าซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับโจรสลัด ย่อมไม่ใช่คนแปลกหน้าในโลกผู้วิเศษ และเป็นเหตุผลที่มันยอมทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อจ้างผู้วิเศษมาคุ้มกัน หากไม่ใช่เพราะสุขภาพถูกทำลายด้วยเหล้าเบียร์จนร่างกายอ่อนแอลงมาก เพิ่มความเสี่ยงในการคลุ้มคลั่งจากการดื่มโอสถ โมโซน่าคงเลือกจะครอบครองพลังวิเศษเอาไว้กับตัวสักหนึ่งชนิด

เป็นเพราะยังขาดประสบการณ์และสมองทำงานได้ช้าลง กว่าโมโซน่าจะรู้ตัวว่าถูกเล่นงานก็ปาเข้าไปสิบกว่าวินาที เมื่อเริ่มฉุกคิดได้ มันเตรียมเหยียดแขนพร้อมกับอ้าปากตะโกนขอความช่วยเหลือ

ทว่า การเคลื่อนไหวของร่างกายกลับเป็นไปอย่างเชื่องช้า เสียงพูดเล็ดลอดจากลำคออย่างแผ่วเบา สืบเนื่องจากคนรอบตัวส่วนใหญ่กำลังสนใจเพียงเวทีมวยอันดุเดือด ผนวกกับเสียงตะโกนอึกทึกครึกโครมภายในผับ และคนคุ้มกันส่วนมากจะคอยระวังอันตรายจากด้านนอก จึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปรกติที่เกิดขึ้นกับโมโซน่า

เมื่อถึงช่วงที่บรรยากาศการชกผ่อนปรนลงชั่วคราว บอดี้การ์ดและลูกน้องบางคนหันกลับมามองเจ้านายเล็กน้อย แต่ก็จะพบเพียงว่า ดวงตาของโมโซน่าหมองลงจากปรกติไม่มาก ตำแหน่งของมือไม้ผิดธรรมชาติเล็กน้อย คล้ายกับกำลังหมกมุ่นอยู่กับสังเวียนมวย รอคอยผลลัพธ์ด้วยใจจดจ่อ

น้ำตาเริ่มเอ่อล้นตรงขอบตา มันพยายามคลายนิ้วออกเพื่อปล่อยให้ซิการ์ตกพื้น จะได้ดึงดูดความสนใจของลูกน้องรอบตัว

แต่ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งพบความสิ้นหวัง สมองของมันช้าลงเรื่อย ๆ การเคลื่อนไหวร่างกายเพียงเล็กน้อยต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งนาทีจึงจะสำเร็จ และเหนือสิ่งอื่นใด ปลายนิ้วของตัวเองเริ่มไม่ฟังคำสั่ง!

แปะ!

ซิการ์ที่ถูกจุดค้างไว้สักพัก ตกลงบนพื้นชั้นสองของผับ น้ำตาของโมโซน่าไหลอาบใบหน้า ลามลงไปจนถึงลำคอ

เมื่อบรรดาคนคุ้มกันหันมาเห็นและเตรียมถามว่า เจ้านายตื่นเต้นจนน้ำตาไหลเลยหรือ โมโซน่าพลันงอตัวกะทันหัน เช็ดหน้าเล็กน้อยและก้มหยิบซิการ์บนพื้น

“เป็นการชกที่ดีมาก! เพิ่มเงินค่าจ้างให้ฝั่งที่ชนะ!” โมโซน่าสะบัดซิการ์ จัดปกเสื้อ ยกมุมปากขึ้นอย่างมีความสุข

มันมิได้เจาะจงว่าต้องเพิ่มเท่าไร เพราะไคลน์ยังไร้เดียงสาในธุรกิจประเภทนี้ ทำได้เพียงกล่าวส่งเดชอย่างคลุมเครือ

ถูกต้อง ในปัจจุบัน โมโซน่าแห่งพรรคโลเอ็นใหม่ กลายเป็นหุ่นเชิดของไคลน์อย่างสมบูรณ์!

เนื่องจากหัวหน้าแก๊งอันธพาลรายนี้เป็นเพียงคนธรรมดา แถมร่างวิญญาณยังอ่อนออกว่ามนุษย์ปรกติที่สุขภาพดี ชายหนุ่มจึงใช้เวลาเพียงสองนาทีกับสิบห้าวินาทีในการเข้าควบคุมอย่างสมบูรณ์

หากต้องใช้เวลานานกว่านี้ ไคลน์อาจต้องหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คน หรือไม่ก็ใช้พลังมายาสร้างภาพหลอน เหล่าบอดี้การ์ดจะได้สนใจแค่ภัยคุกคามจากภายนอก ไม่พบความผิดปรกติบนตัวโมโซน่า

“ฆ่ามัน!”

“ฆ่ามัน!”

เสียงตะโกนของผู้ชมเริ่มดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง เหตุเพราะการชกมวยบนสังเวียนใกล้จะสิ้นสุดลงเต็มที โดยโมโซน่ายังคงส่งสัญญาณบอกให้คนคุ้มกันดูเกมต่อไป

จนกระทั่งนักมวยคนหนึ่งล้มลงอย่างไม่ได้สติ โมโซน่าหยิบซิการ์และพูดขึ้น

“กลับห้องกันเถอะ ฉันอยากพักผ่อนแล้ว”

“ขอรับ นายท่าน” บอดี้การ์ดกับลูกน้องรีบเข้ามาล้อมกรอบและช่วยอารักขาไปตามทางเดินทาง จากนั้นก็เปิดประตูห้องพัก

หลังจากสั่งให้ทุกคนไปประจำจุดสำคัญและกำชับว่าห้ามรบกวน โมโซน่าเดินมาเปิดตู้นิรภัย ด้านในมีเอกสารเกี่ยวกับยาเสพติดชนิดใหม่จำนวนหนึ่ง จึงหยิบสิ่งที่คิดว่าน่าจะสำคัญออกมาตรวจสอบ

ถัดมาไม่นาน ชายหนุ่มเก็บรวบรวมเอกสารและที่อยู่ซึ่งตัดมาจากหนังสือพิมพ์ บรรจุลงในกระเป๋าเอกสารพร้อมกับเงินสดเจ็ดร้อยห้าสิบแปดปอนด์

กริ๊ก! โมโซน่าเปิดประตูห้องพัก ตะโกนบอกลูกสมุน

“โยนกระเป๋าใบนี้ไว้ใต้เสาโคมไฟต้นที่สามของมุมตรอก”

“ครับบอส” คนของมันมิได้เอ่ยถามถึงจุดประสงค์

นี่เป็นกฎเหล็ก!

ปิดประตูห้องกลับไปใหม่ โมโซน่าควานหาเทียนไขสามเล่มและวัตถุแฝงพลังวิญญาณ จากนั้นก็ใช้ปากกาและกระดาษขาวเขียนสัญลักษณ์ที่สอดคล้องกับ ‘เดอะฟูล’ อย่างระมัดระวัง ครึ่งหนึ่งของสัญลักษณ์เป็นภาพ ‘เนตรไร้รูม่านตา’ ซึ่งหมายถึงความลับ และอีกครึ่งหนึ่งคือ ‘เส้นเกลียวบิด’ ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลง

จากนั้น หัวหน้าแก๊งอันธพาลที่กลายเป็นหุ่นเชิดโดยสมบูรณ์ จุดเทียนไข ใช้น้ำหอมแทนน้ำมันสกัดและน้ำค้างบริสุทธิ์ สวดวิงวอนด้วยท่าทางเคร่งขรึม

โมโซน่าพึมพำนามของ ‘เดอะฟูล’ แผ่วเบา ปากขยับท่องคาถาภาษาเฮอร์มิสโบราณที่มันไม่เคยรู้จักมาก่อน ตามด้วยการหยิบวัตถุแฝงพลังวิญญาณขึ้นมา ปลดปล่อยพลังให้หลอมรวมกับสายลมรอบตัว เกิดเป็นบานประตูมายาบนแสงเทียนไขที่เริ่มเปลี่ยนรูปร่าง – หากปราศจากวัตถุแฝงพลังวิญญาณ ไคลน์เตรียมใช้เลือดของโมโซน่าแทน เพราะเลือดมนุษย์เองก็เป็นวัตถุวิญญาณชนิดหนึ่ง!

ณ ห้องน้ำชั้นหนึ่ง ไคลน์ร่างต้นเดินถอยหลังสี่ก้าว ส่งตัวเองเข้าสู้มิติสายหมอกเทา

ชายหนุ่มมิได้นำไพ่จักรพรรดิมืดออกมาใช้ เพียงเคลื่อนย้ายกระแสของมิติแห่งนี้ด้วยพลังตัวเองและเชื่อมต่อเข้ากับกระดาษรูปคน จนบานประตูแห่งการสังเวยและรับมอบเริ่มสั่นสะเทือน

กระดาษรูปคนเริ่มเปลี่ยนรูปร่างเป็นเทวทูต ด้านหลังมีปีกสิบสองคู่สยายออก เทวทูตกระดาษบินเข้าไปในประตูมายาและลึกลับ ผ่านห้วงความว่างเปล่าที่มืดมิดไร้ก้นบึ้ง ตรงมายังโมโซน่าซึ่งอยู่ภายในห้องพักส่วนตัว

ไคลน์ทำเช่นนี้เพื่อ รบกวนพลังทำนายจากภายนอกและพลังพิเศษแกะรอยทุกชนิด!

จากนั้น ชายหนุ่มหยิบยุบพองหิวโหยโยนออกจากประตูมายาตามมาด้วยกัน!

ยุบพองหิวโหยถูกส่งมายังโลกความจริงผ่านพิธีกรรมรับมอบ ถุงมือหนังมนุษย์ข้างนี้กำลังออกอาการหิวกระหายชัดเจนเนื่องจากไม่ได้กินอะไรมานานแล้ว!

ในวินาทีนี้ ไคลน์ส่งจิตตัวเองออกจากมิติหมอก กลับมายังห้องน้ำชั้นหนึ่ง เพ่งจิตควบคุมหุ่นเชิดอยู่ห่างกันหลายสิบเมตรอีกครั้ง ทันใดนั้น โมโซน่าที่ตัวแข็งทื่อมาสักพัก เริ่มปิดปากสนิทพร้อมกับหยิบถุงมือขึ้นมาจากแท่นบูชา

กึ่งกลางฝ่ามือเริ่มแยกออกจากกัน เผยให้เห็นซี่ฟันมายาสีขาวเรียงรายสองแถว!

สัมผัสการ ‘เชิดหุ่น’ ของไคลน์เริ่มจางลงอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มตัดสินใจตัดการควบคุมหุ่นเชิดด้วยตัวเอง

ผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย แต่เพียงไม่นานก็กลับสู่ภาวะปรกติ

จากนั้น ไคลน์ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินออกจากห้องน้ำไปยังเคาน์เตอร์ นั่งดื่มเบียร์มอลต์ที่ยังเหลืออยู่

ขณะเดียวกัน อาศัยเนตรด้ายวิญญาณ ชายหนุ่มพบหนูตัวหนึ่งบนชั้นสอง จึงแผ่พลังวิญญาณออกไปควบคุมและประสบความสำเร็จภายในไม่ถึงสองนาที

หนูเริ่มขยับตัวอย่างเงอะงะคล้ายกับไม่ชำนาญ พยายามสำรวจทางเดินและรูตามผนัง ใช้เวลาสักพักก่อนจะพบทางลับจากห้องอ่านหนังสือ ตรงเข้าไปในห้องพักของโมโซน่า

ภาพที่เห็นคือ ถุงมือแผ่นบางซึ่งทำจากหนังมนุษย์ กำลังวางแผ่อยู่บนพื้นอย่างสงบนิ่ง ส่วนโมโซน่าไม่เหลือแม้แต่เสื้อผ้าสักหนึ่งชิ้น

หนูตัวดังกล่าวปีนขึ้นโต๊ะอ่านหนังสือ คาบกระดาษซึ่งมีสัญลักษณ์ของเดอะฟูลและนำไปจ่อเปลวไฟเทียนไข

กระดาษลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็กลายเป็นซากขี้เถ้า

หลังจากดับเทียนทั้งสามเล่มและเก็บสิ่งของกลับที่เก่า หนูหุ่นเชิดวิ่งกลับมาหายุบพองหิวโหยและคาบขึ้นมา

จากนั้น มันย้อนกลับทางเก่า ออกจากห้องพักของโมโซน่า

หนูหุ่นเชิดวิ่งออกไปทางระเบียงชั้นสองอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะค่อยๆ ปีนลงด้วยความระมัดระวัง

ณ ชั้นหนึ่ง ตรงเคาน์เตอร์

ไคลน์กระดกเบียร์อึกสุดท้าย วางแก้วลงพร้อมกับลุกขึ้นยืน

ชายหนุ่มจัดระเบียบหมวกผ้าไหมทรงกึ่งสูง สอดมือสองข้างเข้าไปในกระเป๋าของโค้ทกระดุมสองแถวสีดำ เดินผ่านสิงห์พนันขี้เมาอย่างไม่รีบร้อน ออกไปยังถนนด้านนอกร้าน

อาศัยเสาโคมไฟนำทาง ชายหนุ่มตรงมายังมุมตรอกแห่งหนึ่งด้วยความเร็วปรกติ นำกระดาษรูปคนออกมาจุดไฟและสะบัด ก้มหยิบกระเป๋าเอกสารใต้เสาโคมไฟต้นที่สาม

ทันใดนั้น หนูสีเทาที่คาบถุงมือหนังมนุษย์แผ่นบาง กระโจนออกจากเงามืดด้านข้าง

ไคลน์โน้มตัวลงอีกครั้งด้วยสีหน้าเรียบเฉย หยิบยุบพองหิวโหยขึ้นจากปากหนู

ถัดมา หนูสีเทาเดินจากไป ปืนลงถังขยะใบหนึ่งและนอนแน่นิ่ง เพียงไม่นานก็หยุดหายใจ

ท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิด ภายใต้แสงไฟจากเสาตะเกียงแก๊ส ไคลน์ยืนกางนิ้วทั้งห้าอย่างเยือกเย็น สวมยุบพองหิวโหยเข้าที่มือซ้าย

หลังจากขยับข้อนิ้วเพื่อปรับให้ถุงมือกระชับ ชายหนุ่มถือกระเป๋าเอกสาร เดินผ่านผับต้นโอ๊กที่ยังคงครึกครื้น หายตัวไปโดยสมบูรณ์เมื่อถึงสี่แยก

หลังจากนำเศษกระดาษเขียนที่อยู่และตราไปรษณียากรออกจากกระเป๋าเอกสาร ไคลน์แปะพวกมันลงบนจดหมายและหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ เปลี่ยนรูปโฉมกลับเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ ขึ้นรถม้าเช่าตรงไปยังเขตอื่นของท่าเรือ

ปลายทางคือผับที่เต็มไปด้วยโจรสลัดซึ่งแอนเดอร์สันเป็นคนแนะนำ!

หลังจากเข้าไปในผับ ไคลน์กวาดตาสำรวจด้านในอย่างคร่าว

ทันใดนั้น มันได้พบหนึ่งบุคคลที่คุ้นเคย

รูปร่างสันทัด ริมฝีปากสีม่วง ดวงตาสีน้ำตาลแฝงจิตสังหารและความดุดัน ไม่ใช่ใครนอกจากผู้ช่วยกัปตันของ ‘ราชาอมตะ’ อาการิธ ‘จอมเชือด’ จิลเซียส เจ้าของค่าหัวเก้าพันห้าร้อยปอนด์!

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า หลังออกจากเขตน่านน้ำอันตราย ‘แจ้งมรณะ’ ได้ตรงมายังเกาะทอสคาร์เตอร์เพื่อเติมเสบียง!

แกเองก็อยู่ที่นี่ด้วยสินะ… ไคลน์เม้มปากเล็กน้อย ภายในใจฉุกคิดได้ว่า ไม่มีโอกาสใดเหมาะจะล่า ‘ปีศาจ’ ไปกว่าการได้พบกันโดยบังเอิญอีกแล้ว!

ในวินาทีที่ชายหนุ่มผุดเจตนาร้าย จิลเซียสตระหนักถึงและมองมายังประตูทางเข้าทันที

ไคลน์คว้าเบียร์จากโต๊ะใกล้เคียงและโยนใส่อีกฝ่ายโดยไม่ลังเล

จากนั้น ชายหนุ่มชักลูกโม่ออกมาและเล็งใส่อย่างเย็นชา

ปัง!

……………………………………..

ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

       เป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป
ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่
     แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา
ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง
ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น
    ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว
หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’
หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม
ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด
หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด
แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป
พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง
แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย
    เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท