ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1148 : ไม่สายเกินไป

ราชันเร้นลับ 1148 : ไม่สายเกินไป

ในการต่อสู้ระดับสูง มีโอกาสน้อยมากที่จะใช้ยันต์ให้สำเร็จ นั่นเพราะไม่มีใครคิดจะปล่อยให้คู่ต่อสู้ท่องคาถาจนจบ สาเหตุที่ทริสซี่สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ เพราะเธอทำการแผดเผาจากภายในออกสู่ภายนอก ต้องขอบคุณเปลวไฟสีดำที่ดูชั่วร้าย พวกมันคล้ายกับดูดซับความร้อนในบริเวณใกล้เคียงไว้ทั้งหมดจนทำให้เกิดผลึกน้ำแข็งหนา ด้านนอกผลึกน้ำแข็งยังมีใยแมงมุมล่องหนที่พันซ้อนทับกันหลายชั้นจนเกิดเป็นรังไหม

อาศัยการป้องกันสามชั้น ทริสซี่ถ่วงเวลาไว้ได้หนึ่งถึงสองวินาที จึงรีบหยิบยันต์เพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าออกมาและเปล่งเสียง

วันวาน!

เปลวไฟสีใสลุกโชนท่ามกลางเพลิงสีดำที่ดูชั่วร้าย ยันต์เพชรสลายตัวไปอย่างเงียบงันและหลอมรวมเข้ากับความว่างเปล่า

ไคลน์มอบสิ่งนี้ให้กับแม่มด โดยหวังว่าการโจมตีจากทั้งสามทิศทางจะมีจุดใดจุดหนึ่งสร้างความเสียหายได้สำเร็จ

ทริสซี่มองเห็นสายหมอกสีเทา มองเห็นจุดแสงซึ่งเป็นฉากในอดีต เรียงรายหนาแน่นราวกับทะเลดวงดาว

ประกอบด้วยภาพสมัยเด็กของเธอที่เตร็ดเตร่ไปตามท้องถนน ตอนนั้นยังถูกแก๊งอันธพาลควบคุมตัว ถูกบังคับให้ฉ้อโกงและปล้นจี้ชาวบ้าน จนกระทั่งเข้าร่วมกับชุมนุมสัมผัสวิญญาณและกลายเป็นนักลอบสังหาร เขาเริ่มมีความสุขกับการปลิดชีวิตผู้อื่น สังหารหมู่ และคอยกระตุ้นให้ผู้คนเผยใบหน้าที่แท้จริงหลังหน้ากาก จนกระทั่งเขากลายเป็นเธอ กลายเป็นแม่มด เริ่มสร้างภัยพิบัตินานาชนิด แต่ในภายหลัง ภายใต้การจัดแจงของนิกายแม่มด ทริสซี่ถูกส่งตัวไปเป็นภรรยาลับของเจ้าชายเอ็ดซัค ยิ่งเวลาผ่านไป ความเป็นตัวเองก็ยิ่งลดลงเนื่องจากหลงมัวเมาไปกับความสุขสม แม้จะพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้น แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงถลำลึกเข้าไปในนรกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ขณะครุ่นคิด ภาพการมองเห็นของทริสซี่ขยายเข้าไป

ภายในจุดแสงดังกล่าว สนามหญ้าด้านนอกหน้าต่างมีสีเขียวขจี กลุ่มม้ากำลังเดินอ้อยอิ่ง มองเห็นหลุมกอล์ฟได้จากจุดห่างไกล และภายในบ้านมีตู้จัดแสดงที่บดบังทัศนียภาพบางส่วนจากประตู

ทริสซี่ในอดีตกำลังยืนริมขอบฉาก มองออกไปด้านนอก มือซ้ายสวมแหวนไพลิน

ในตอนนั้นเธอยังไม่ใช่ผู้วิเศษลำดับห้า และไม่มีพลังใดควรค่าแก่การให้ตัวตนในปัจจุบันหยิบยืม ทว่าเธอมีแหวนของนิกายแม่มดที่เกี่ยวพันกับแม่มดบรรพกาลอย่างใกล้ชิด

สิ่งที่ทริสซี่ต้องการจะยืมคือแหวน!

เพียงพริบตา แหวนไพลินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปรากฏขึ้นบนนิ้วก้อยของทริสซี่ แตกต่างจากในอดีต ปัจจุบันเธอมีอักขระพิเศษที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการยอมจำนนต่อแม่มดบรรพกาล และนั่นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เธอกลายเป็นครึ่งเทพลำดับสี่

กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้ว่าร่างจริงจะยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอในการเป็น ‘ภาชนะ’ ให้ทวยเทพสถิต แต่ตอนนี้มีเพียงพอแล้ว

แหวนไพลินช่วยให้ทริสซี่ได้รับแรงบันดาลใจบางอย่าง

เฝ้ามองฉากในอดีตเป็นครั้งสุดท้าย ทริสซี่ทำลายรังไหมใยแมงมุม ละลายผนึกน้ำแข็งหนาอย่างเงียบงัน จนกระทั่งเปลวไฟสีดำเริ่มสลายตัว หญิงสาวยกมือซ้ายขึ้น หลับลงตาพลางแสยะยิ้ม จากนั้นก็เลื่อนแหวนไพลินสัมผัสกับหว่างคิ้ว

แหวนหลอมละลายราวกับโลหะ ไหลซึมเข้าสู่ศีรษะของทริสซี่ในลักษณะกึ่งจริงกึ่งมายา

เมื่อเปลวไฟสีดำถูกเจ้าชายโกรฟละลายจนหมด หอกแสงเล่มยาวที่ลุกโชติช่วงได้ถูกยิงใส่หญิงสาว

ด้านหน้าคมหอก ปีกสีขาวทยอยกางออกทีละคู่ ห่อหุ้มปลายหอกประหนึ่งเทวทูตโอบกอด อำนาจของมันคือการผนึกพื้นที่โดยรอบทั้งหมด ส่งผลให้เป้าหมายมิอาจหลบหนี

ในเวลาเดียวกัน ทริสซี่ลืมตาขึ้น เป็นดวงตาสีดำสนิท

เส้นผมของเธอลอยขึ้นไปในอากาศ ทุกเส้นขยายขนาดจนเท่ากับอสรพิษตัวเล็ก พื้นผิวมันวาวและดูชั่วร้าย สุดปลายเป็นหัวงูฝังลูกตาสีดำขาว ปากอ้าออกเล็กน้อยพร้อมกับแลบลิ้นสองแฉก

หอกที่ควบแน่นจากแสงบริสุทธิ์หยุดลงตรงหน้าทริสซี่ประหนึ่งถูกยันไว้ด้วยมือล่องหน มิอาจเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว

หอกแสงเปลี่ยนเป็นสีเทาอย่างรวดเร็ว จากมายากลายเป็นจริง ราวกับหอกที่แกะสลักจากหิน

หอกตกลงพื้นกระแทกขอบผาชัน กระจัดกระจายกลายเป็นเศษผง

รอบตัวทริสซี่ สีเทาอ่อนกระจายออกไปเป็นวงกว้างในทุกทิศทางประหนึ่งมีชีวิตชีวา ทุกจุดที่พวกมันผ่าน หินจะยิ่งทวีความแข็ง ส่วนวัตถุประเภทอื่นจะถูกทำให้กลายเป็นหิน

พิธีกรรมต่าง ๆ ภายในโบราณสถานหมายเลขหนึ่งถูกย้อมด้วยสีเทาทันที ส่งผลให้เทวทูตที่คอยปกป้องสุสานลับแห่งอื่นมิอาจค้นพบความผิดปรกติของที่นี่และรุดมาช่วยเหลือ

เพียงพริบตาเจ้าชายโกรฟถูกรายล้อมด้วยสีเทาที่แผ่ขยายเข้ามาในความว่างเปล่า และทำได้เพียงพึ่งพาแสงจากมงกุฎหนามเหนือศีรษะในการสร้างเขตปลอดภัยอันคับแคบรอบตัว หมดสิทธิ์ใช้งานพลัง ‘ห้าม’ โดยสิ้นเชิง

ทริสซี่ซึ่งดวงตาปราศจากสีขาว ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองคู่ต่อสู้ เพียงย่างกรายไปทางสุสานลับด้านล่างหุบเขาอันมืดมิดในสภาพเส้นผมอสรพิษชี้ขึ้นฟ้า

บึ้ม!

ผืนดินสั่นสะเทือนรุนแรง ส่วนลึกของหุบเหวส่งเสียงพังทลายแผ่วเบา ขณะเดียวกัน อุกกาบาตสีแดงหางเป็นเปลวเพลิง ผุดขึ้นจากความว่างเปล่าและพุ่งผ่านแม่มดทริสซี่ไปทางสุสานลับ

เพียงพริบตาโบราณสถานการณ์กำลังเผชิญหน้าหายนะ

จอร์จที่สามซึ่งกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการดื่มโอสถ สัมผัสถึงเหตุการณ์ดังกล่าวและผุดความโกรธเคืองเจือสับสน

มันแบ่งพลังออกมาบางส่วนอย่างยากลำบาก อาศัยการเตรียมการล่วงหน้า จอร์จที่สามส่งพลัง ‘บิดเบือน’ ไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อแยกสุสานลับออกจากโลกแห่งความจริง ป้องกันมิให้อุกกาบาตและแผ่นดินไหวสัมผัสกับสุสาน

บึ้ม! ครืน!

ท่ามกลางภัยพิบัติ หน้าผาชันทรุดตัวลงทีละนิด โบราณสถานเริ่มถูกทำลายไปทีละส่วน ทันใดนั้น น้ำเสียงเจือความโกรธของจอร์จที่สามดังมาจากภายในสุสานลับที่มีโลกเป็นของตัวเอง

“เธอเสียสติไปแล้วหรือ?”

สำหรับผู้วิเศษลำดับ 4 การฝืนเป็นภาชนะให้ทวยเทพ ชะตากรรมเดียวที่รออยู่คือความตาย!

ทริสซี่หัวเราะในลำคอ ผิวหน้าของเธอที่ดำเนินมาถึงขีดจำกัดเริ่มปริแตกทีละจุด เผยให้เห็นเลือดเนื้อที่คล้ายกับกำลังยุบพองอย่างบ้าคลั่ง

แม่มดที่มีสภาพน่าสะพรึง พ่นลมหายใจเย้ยหยันและกล่าว

“ตอนจบของบทละครที่ดี ควรลงเอยด้วยความตายของพวกคนเลวไม่ใช่หรือ? ทั้งนาย…และฉัน…”

ยังไม่ทันจะสิ้นเสียง ทริสซี่แสยะยิ้มชั่วร้ายพร้อมกับเสกอุกกาบาตกระแทกใส่สุสานลับที่ถูกกีดกันด้วยห้วงมิติ หวังทำลายมันให้สิ้นซาก

ภายในสุสานแห่งอื่น ไคลน์มิได้เล่นใหญ่เกินตัว รีบตัดการเชื่อมต่อกับปราสาทต้นกำเนิด ทำให้ดูเหมือนตนขอความช่วยเหลือจากมิสเตอร์ฟูล

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ควรจะทำให้เทวทูตทุกตนหยุดนิ่งและแหงนหน้ามอง แต่น่าเสียดาย เทวทูตแห่งการปกปิดเป็นเพียงภาพฉายที่ไคลน์ดึงมาจากช่องว่างประวัติศาสตร์ เธอทำได้เพียงต่อสู้ตามสัญชาตญาณ ส่งผลให้สถานการณ์ทวีความโกลาหล

ทันใดนั้นภาพฉายของวิลเลียมออกัสตัสที่หนึ่งชักดาบเรเพียร์สีเงินออกมาชี้ไปด้านหน้าแล้วก็ตวัดลง

โดยไม่ต้องเปล่งเสียง ความโกลาหลและพิสดารภายในโบราณสถานทั้งหมดหยุดลงทันที การต่อสู้ถูกแบ่งออกเป็นหลายสังเวียน

เฮอร์มิสดวลกับสตรีเลอโฉมใบหน้าเฉื่อยชา เทพหายนะเซียอาชิงความได้เปรียบเหนือไรเน็ตต์ไทน์เคอร์ ภาพฉายทางประวัติศาสตร์ของจักรพรรดิโรซายล์และเทวทูตแสงกำลังรายล้อมไคลน์ วิลเลียมออกัสตัสอยู่ในตำแหน่งอิสระที่คอยป้องกันมิให้เกิดความเสียหายกับสุสานด้านล่าง

สมแล้วที่เป็นหัตถ์ประกาศิต…รูม่านตาไคลน์พลันเบิกกว้าง และแทบไม่ต้องคิด มันสอดมือขวาเข้าไปในเสื้อ เหยียดมือซ้ายออกไปด้านหน้าเพื่อยืมพลังจากตัวเองในอดีต

ไม่ว่าจะเป็นกงสุลมรณะ หัวหน้าสำนักชีรัตติกาล หรือเทวทูตแห่งการปกปิด ทั้งหมดล้วนเป็นภาพฉายทางประวัติศาสตร์ที่มีตัวตนสูงเกิดกว่าระดับของไคลน์ ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังวิญญาณมหาศาลเพื่อคงสภาพ ก่อนที่พลังวิญญาณจะเหือดแห้ง ไคลน์จำเป็นต้องยืมพลังจากตัวเองในอดีต

ผลลัพธ์ทำให้ร่างกายชายหนุ่มเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณปลอม และภายในห้านาทีถัดไป สิ่งนี้จะทำหน้าที่เหมือนพลังวิญญาณจริงทุกประการ

ทันใดนั้นไคลน์เห็นแสงสว่าง

เทวทูตซึ่งเกิดจากการควบแน่นแสงบริสุทธิ์ แผ่นหลังมีปีกมายา ทำการพรั่งพรูน้ำตกแสงใส่ชายหนุ่มอย่างท่วมท้น

ท่ามกลางทะเลแห่งแสงอันเจิดจ้า วัตถุบางชนิดร่วงหล่นอย่างรวดเร็วไปในทิศทางของสุสาน

หนังสือปกสีเข้มที่ทำจากกระดาษหนัง

การเดินทางของกรอซาย!

ไคลน์อาศัยแก่นสำคัญของพลังแบ่ง ‘หนอนวิญญาณ’ และพลังแปลงโฉม ทำการหดตัวกลายเป็น ‘ที่คั่นหนังสือเลือดเนื้อ’ และซ่อนตัวอยู่ในการเดินทางของกรอซาย ปกป้องตัวเองจากแสงสว่างอันท่วมท้น

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากแสงสว่างยังคงส่องโดนบางจุดของร่างกาย

ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ในตำแหน่งที่การเดินทางของกรอซายร่วงหล่น จักรพรรดิโรซายล์ในเครื่องแต่งกายสง่างามกำลังยืนรอในท่ายกมือ

“…” โดยไม่สนใจประเด็นอื่น ไคลน์คิดออกเพียงวิธีปกป้องตัวเองเบื้องต้น

ซ่อนตัวอยู่ในช่องว่างประวัติศาสตร์!

ครืน!

เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องจากด้านนอกโบราณสถาน

แรกเริ่มด้วยการดังจากจุดห่างไกล แต่ปิดท้ายด้วยเสียงที่ใกล้ราวกับดังขึ้นข้างหู

ไคลน์และภาพฉายทางประวัติศาสตร์ รวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโบราณสถานพลันตกตะลึงและยืนแข็งทื่อ เช่นเดียวกันกับ ‘ทะเลแสง’ ที่ลดทอนความเจิดจ้าลง

ไม่สิ ยังเหลือหนึ่งบุคคลที่ไม่ได้รับผลกระทบ เทวทูตแห่งการปกปิดของโบสถ์รัตติกาล สตรีใบหน้างดงามและเฉื่อยชารายนี้ฉวยโอกาสทำให้ร่างกายจางลง กลายเป็นลวดลายจำนวนมากที่สื่อถึงการปกปิดและความสยดสยอง โลกที่แปลกประหลาดขยายปกคลุมเฮอร์มิส ไรเน็ตต์ไทน์เคอร์ ท่อนแขนของเซียอา เทวทูตแสง และวิลเลียมออกัสตัสที่หนึ่ง

แม้ว่าสิ่งที่ไคลน์อัญเชิญจะเป็นเพียงภาพฉายทางประวัติศาสตร์ซึ่งถูกลดทอนฝีมือลงมาก แต่แก่นแท้บางอย่างยังคงอยู่!

ในที่สุดความโกลาหลที่คาดหวังก็มาถึง!

สำหรับผู้ช่วยคนอื่นของจอร์จที่สาม เช่นราชาเทวทูตมันยังคงอยู่ในสุสานแห่งอื่น

ในวินาทีที่โลกประหลาดกึ่งโปร่งใสก่อตัวขึ้น เทวทูตทุกตนพยายามขัดขืน

ท่ามกลางความโกลาหล โลกประหลาดถูกฉีกทำลายอย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ภายใต้การชักนำของหญิงสาว กลุ่มก้อนลำแสงผสานเข้ากับพลังของเทวทูตและพุ่งตรงไปยังสุสานลับด้านล่าง

ครืน!

เสียงฟ้าร้องดังสนั่นอีกระลอก จักรพรรดิโรซายล์ที่พยายามจะหยุด ผงะตกใจอีกครั้งจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด

เพียงพริบตา สุสานลับสีเข้มที่ดูสง่างามถูกโจมตีจนเกิดรอยแตกลึกบนพื้นผิว เผยให้เห็นสภาพด้านใน

ภายในช่องว่าง กระแสเลือดพวยพุ่งขึ้นมาด้านบน บ้างเป็นสีแดงสด บ้างหมองคล้ำ

บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!

คราวนี้เป็นปืนใหญ่อัดอากาศที่ยิงโดยไคลน์ผู้กลับคืนร่างมนุษย์ในท่าถือการเดินทางของกรอซาย

สุสานลับที่ใกล้พังทลายรอมร่อ ถึงคราวจบสิ้นโดยสมบูรณ์ เลือดด้านในพรั่งพรูออกมาเพิ่มขึ้น

เนื่องจากสุสานถูกทำลาย พิธีกรรมเลื่อนลำดับของจอร์จที่สามจึงขาดเสถียรภาพเพราะเสาหลักในการค้ำจุนหายไป

หากมีสุสานเพียงหลังเดียวที่ถูกโจมตี มันยังสามารถพึ่งพาการเชื่อมต่อระหว่างตนกับสุสานเหล่านั้นเพื่อสร้างแนวป้องกันบางอย่าง แต่ปัจจุบันมันเผชิญหน้ากับการโจมตีที่หนักหน่วงเกินไป

เมื่อร่างมายาของมันเริ่มเดือดปะทุ จอร์จที่สามมิอาจคงสภาพพลัง ‘บิดเบือน’ ที่ส่งไปยังโลกภายนอกได้อีก ในที่สุดสุสานซึ่งเคยถูกตัดขาดจากโลกความจริงก็กลับมาปรากฏต่อหน้าทริสซี่

ใบหน้าชุ่มเลือดของหญิงสาวซึ่งกำลังบิดเบี้ยว ยกโค้งมุมปากอย่างพึงพอใจ

กรุงเบ็คลันด์ จัตุรัสรำลึก

“เหล่าพสกนิกรที่รักทุกท่าน…” ขณะจอร์จที่สามเจ้าของหนวดทรงโบราณและใบหน้าเคร่งขรึม เตรียมกล่าวปิดสุนทรพจน์ เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วจัตุรัส

เลือดเนื้อของมันกลายเป็นสะเก็ดดอกไม้ไฟที่กระจายเต็มอากาศ

ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

       เป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป
ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่
     แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา
ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง
ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น
    ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว
หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’
หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม
ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด
หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด
แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป
พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง
แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย
    เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท