ไคลน์จ้องไปยังแผ่นหนังด้านหน้าเป็นเวลานานโดยไม่เคลื่อนไหว
ผ่านไปสักพัก มันใช้มือเคาะขอบโต๊ะทองแดงยาวอย่างอ่อนโยน ส่งผลให้วัตถุทั้งหมดเลือนหายไป
ชายหนุ่มเสกนาฬิกาพกทองคำออกมาเปิดฝา จากนั้นก็ส่งข้อความไปเตือนให้เดอะซันน้อยเตรียมเข้าประชุม
หลังจากหัวใจเต้นราวหนึ่งพันครั้ง ลำแสงสีแดงสว่างขึ้นสองฝั่งโต๊ะทองแดงยาว ก่อตัวเป็นร่างคนบนเก้าอี้พนักสูงเรียงราย
สายตาของสมาชิกทุกคนทอดไปยังร่างของบุคคลในตำแหน่งประทานหลังม่านหมอกสีเทาทันที
เมื่อเห็นว่ามิสเตอร์ฟูลมิได้สวมแว่นตาขาเดียว เดอะสตาร์ เลียวนาร์ดถอนหายใจยาวด้วยความผ่อนคลาย จากนั้นก็หันไปมองยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวอีกฝั่งเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของเดอะเวิร์ล เกอร์มันสแปร์โรว์
ในทำนองเดียวกับ เฮอร์มิท แคทลียา จัสติส ออเดรย์ เมจิกเชี่ยน ฟอร์ส ต่างหันไปทางเดอะเวิร์ลเมื่อยืนยันว่าเดอะฟูลปรกติดี
คนหนึ่งทราบว่าเดอะเวิร์ลตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายและทำได้เพียงรอคอยความช่วยเหลือจากเดอะฟูล คนหนึ่งติดต่อไม่ได้เป็นเวลาสองวันและสงสัยว่าเกอร์มันสแปร์โรว์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของจอร์จที่สาม ส่วนคนสุดท้ายทราบว่าเดอะเวิร์ลต้องเข้าไปพัวพันกับแผนการของจอร์จที่สามและกังวลว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อพบว่าเดอะเวิร์ล เกอร์มันสแปร์โรว์ยังไม่บุบสลายและไม่มีอาการผิดปรกติ จัสติส ออเดรย์ถอนสายตากลับ จับชายกระโปรงมายาและหันไปทำความเคารพตำแหน่งประธาน
“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ฟูล~”
แม้ว่าสถานการณ์รอบโลกจะกำลังโกลาหล แต่การที่ชุมนุมทาโรต์ยังรักษาสถานะเดิมไว้ได้ ทำให้ออเดรย์อารมณ์ดีขึ้นมาก
เมื่อสมาชิกชุมนุมทาโรต์ทำความเคารพตามมิสจัสติส เดอะฟูล ไคลน์พยักหน้าแผ่วเบาพลางโบกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนนั่ง
จากนั้นก็มองไปรอบตัวพร้อมกับหัวเราะในลำคอ
“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะกังวลเรื่องที่ชุมนุมทาโรต์ในวันนี้จะถูกจัดตามปรกติหรือไม่”
ได้ยินคำถามดังกล่าว แฮงแมน อัลเจอร์พลันใจเต้นแรงราวกับได้ยินเสียงหัวใจจากข้างใบหู
มันเชื่อโดยไม่เคลือบแคลงว่ามิสเตอร์ฟูลหมายถึงตน และเตรียมจะมอบบทลงโทษที่นุ่มนวล
กล่าวอีกนัยหนึ่ง พระองค์กำลังเปิดโอกาสให้สารภาพ
อัลเจอร์ก้มหน้าพร้อมกับเปล่งเสียงสั่นเครือ
“เป็นเพราะพวกเรายังศรัทธาไม่มากพอ จึงคิดฟุ้งซ่านไม่เป็นเรื่อง”
อึก…ทำไมมิสเตอร์แฮงแมนถึงสารภาพความผิดแทนพวกเรา…เมจิกเชี่ยน ฟอร์สผู้บอกให้ซิลถามมิสเตอร์ฟูลว่าวันนี้จะมีการชุมนุมหรือไม่ เลิกขบคิดให้ปวดสมอง รีบหันไปทางสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวและสารภาพ
“เป็นเพราะพวกเรายังศรัทธาไม่มากพอ จึงคิดฟุ้งซ่านไม่เป็นเรื่อง”
หมายความว่าไม่ได้มีแค่เราที่สวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูล…มิสเตอร์แฮงแมนเองก็คิดมากจนกังวลว่าชุมนุมทาโรต์อาจยกเลิกในสัปดาห์นี้ จึงตัดสินใจถามเพื่อยืนยันให้แน่ใจ? แต่ฟอร์สไม่น่าจะทำแบบนั้น…ออเดรย์มองไปทางด้านข้างด้วยความประหลาดใจ
เดอะฟูล ไคลน์พยักหน้าแผ่วเบาพลางมองไปรอบตัวอีกครั้ง
“ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะกังวล”
มันแสยะยิ้มก่อนจะถอนหายใจ
“ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข้ายืมร่างเดอะเวิร์ลเพื่อเล่นเกมกับอามุนด์ในดินแดนเทพทอดทิ้ง…โชคดีที่ไม่ทำให้ชุมนุมทาโรต์ต้องยกเลิก”
ทุกประโยคที่มันพูดคือความจริง แต่รายละเอียดปลีกย่อยขึ้นอยู่กับการตีความของสมาชิกแต่ละคน
ด้วยวิธีนี้ต่อให้อามุนด์ปล่อยข่าวว่าเดอะเวิร์ล เกอร์มันสแปร์โรว์คือคนเดียวกับเดอะฟูล สมาชิกชุมนุมทาโรต์ก็จะทำเพียงหัวเราะเยาะในใจและเย้ยหยันว่าอามุนด์พยายามใช้ลูกไม้ตื้น ๆ นั่นเพราะการที่เดอะฟูลเท่ากับเดอะเวิร์ลในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ได้แปลว่าทั้งสองคนจะเป็นคนเดียวกันตลอดไป การจงใจพูดความจริงเพียงส่วนเดียวไม่ต่างอะไรกับการโกหก
เล่นเกมกับอามุนด์…ตาแก่เดาถูก มิสเตอร์ฟูลจงใจใช้ไคลน์เป็นเหยื่อล่ออามุนด์…พิจารณาจากผลลัพธ์ ดูเหมือนว่าท่านจะได้รับบทสรุปที่น่าพึงพอใจ และอามุนด์เกิดความเสียหายใหญ่หลวง…เนื่องจากเรื่องราวตรงตามที่เดอะสตาร์ เลียวนาร์ดคาดเดา มันจึงไม่เคลือบแคลงในคำพูดของมิสเตอร์ฟูล
มิสเตอร์ฟูลตอบช้าไปสิบห้านาทีเพราะกำลังยุ่งอยู่กับอามุนด์? พลังของท่านฟื้นฟูถึงระดับนี้แล้วหรือ? จัสติส ออเดรย์เกิดความประหลาดใจเจือยินดี ในแง่หนึ่งรู้สึกเป็นเกียรติอย่างอธิบายไม่ถูก
แฮงแมน อัลเจอร์ตีความจากความนัยแฝงของอีกฝ่าย เดาว่ามิสเตอร์ฟูลฟื้นฟูขึ้นมากจนสามารถชิงความได้เปรียบเหนือราชาเทวทูต
นั่นทำให้มันยิ่งหงุดหงิดตัวเองที่บังอาจเคลือบแคลงและทดสอบอีกฝ่าย
การที่มิสเตอร์ฟูลบอกใบ้ล่วงหน้าว่าชุมนุมทาโรต์อาจถูกยกเลิก เป็นเพราะพระองค์เล็งเห็นแล้วว่ากำลังปะทะกับอามุนด์? พระองค์สามารถวางแผนและเป็นฝ่ายกำหนดเวลาเปิดฉากใส่อามุนด์ได้ก่อน? อัลเจอร์ไตร่ตรองหลายสิ่งพลางพบว่า ความคิดอันต่ำต้อยของตนมิอาจถูกปิดบังต่อหน้าตัวตนอันสูงส่ง
มันเตือนตัวเองอีกครั้ง: ห้ามทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้อีกเป็นอันขาด!
กลายเป็นว่าการที่มิสเตอร์เวิร์ลไม่ตอบเรากลับมา เป็นเพราะระหว่างนั้นกำลังถูกมิสเตอร์ฟูลยืมร่างไปสู้กับอามุนด์…ราชาเทวทูตที่ชื่ออามุนด์ต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน มิสเตอร์ฟูลถึงกับลงมือด้วยตัวเอง…เมจิกเชี่ยน ฟอร์ส และจัดจ์เมนต์ ซิล หันมองหน้ากันและเข้าใจโดยปริยาย
เฮอร์มิท แคทลียาเริ่มเข้าใจเหตุผลที่เดอะเวิร์ล เกอร์มันสแปร์โรว์หายตัวไป จากนั้นก็เดาว่าการที่ผู้ส่งสารซึ่งผูกพันทางวิญญาณไม่สามารถรับรู้ตำแหน่งของอีกฝ่าย เป็นเพราะเธอมิอาจย่างกรายเข้าสู่ดินแดนเทพทอดทิ้ง
ขณะเดียวกันเธอก็ตกตะลึงเรื่องที่ราชาเทวทูตเริ่มออกหน้าเคลื่อนไหว และพบว่านี่คงเป็นสัญญาณของวันสิ้นโลกตามคำทำนาย
เดอะมูน เอ็มลินย่อมไม่ทราบความเคลื่อนไหวของโลกภายนอก ทำได้เพียงกวาดสายตาไปรอบตัวและสังเกตอาการกดตะลึงของสมาชิกคนอื่นพลางครุ่นคิด มันรู้สึกว่าการถูกขังราวหนึ่งสัปดาห์ของตน ช่างยาวนานราวกับหนึ่งเดือน จนต้องพลาดข่าวสำคัญไปมากมาย
มิสเตอร์เวิร์ลมาเยือนดินแดนเทพทอดทิ้ง…มิสเตอร์ฟูลใช้ร่างกายของเขาเพื่อสู้กับอามุนด์? เดอะซัน เดอร์ริคประหลาดใจในตอนต้น แต่จากนั้นก็เกิดเป็นความยินดีปรีดา
นั่นหมายความว่า การสำรวจครั้งถัดไปของเมืองเงินพิสุทธิ์จะง่ายขึ้นมาก!
เด็กหนุ่มรีบมองไปทางโต๊ะทองแดงยาวและโพล่ง
“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ ท่านเจ้าเมืองต้องการพรจากท่านเพื่อประกอบพิธีกรรม…ไม่ทราบว่าอนุญาตหรือไม่”
ไคลน์ที่ทราบเรื่องนี้จากคำสวดวิงวอน พยักหน้ารับแผ่วเบา
“แน่นอน”
หลังจากได้ยินคำสัญญา เดอร์ริคฉีกยิ้มอย่างมิอาจควบคุม แสดงอารมณ์ไม่ถูกไปสักพัก
ผ่านไปสองสามวินาที มันรีบก้มหน้าและกล่าวเสียงดัง
“ศรัทธาของผมมีเพียงมิสเตอร์ฟูลเท่านั้น!”
เดอะฟูล ไคลน์พยักหน้ารับ หันไปทางเฮอร์มิทและกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน
“คราวนี้มีคำถามอะไร”
อึก…ราชินีมิได้เขียนบอกไว้ในจดหมาย…เฮอร์มิท แคทลียาผงะในตอนต้นก่อนจะตัดสินใจถามในสิ่งที่ตัวเองอยากทราบ นั่นเพราะเธอได้รับสิทธิ์ให้ถามได้อย่างอิสระจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว
หญิงสาวครุ่นคิดหลายวินาที
“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ ความจริงเบื้องหลังการตายของจอร์จที่สามคืออะไร”
ทันทีที่สิ้นเสียงเฮอร์มิท จัสติส ออเดรย์และคนที่เหลือต่างจดจ่อสมาธิทันที
นี่คือสิ่งที่พวกมันอยากทราบใจแทบขาด
จากบรรดาทั้งหมด เดอะสตาร์ เลียวนาร์ดพอจะรู้เรื่องอยู่บ้าง แต่ก็อยากทราบถึงเนื้อหาในเชิงลึกของเหตุการณ์
ในหมู่สมาชิกชุมนุมทาโรต์ บุคคลเดียวที่ตามใครไม่ทันคือเดอะมูน เอ็มลิน สมองของมันเต็มไปด้วย ‘หา?’ และ ‘เกิดอะไรขึ้น?’
มันยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ด้วยซ้ำ จึงยังไม่ทราบว่ากษัตริย์จอร์จที่สามสิ้นพระชนม์แล้ว
สำหรับเดอร์ริค แม้จะไม่ทราบว่าจอร์จที่สามเป็นใคร แต่เด็กหนุ่มก็ไม่สนใจอะไรแล้ว
เดอะฟูล ไคลน์เผยรอยยิ้มอบอุ่นและตอบเสียงเรียบ
“จอร์จที่สามต้องการเป็นจักรพรรดิมืด จึงขุดค้นซากโบราณสถานของทูดอร์ขึ้นมาใหม่ จากนั้นก็ค้ามนุษย์และก่อโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์ โดยในภายหลังได้ริเริ่มสงครามด้วยการจงใจปล่อยให้กองเรือเหาะของฟุซัคเข้ามาทิ้งระเบิดในเมืองหลวง…แต่ท้ายที่สุด เจ้านั่นล้มเหลวในพิธีกรรมเนื่องจากสุสานลับถูกทำลาย”
มันอธิบายเข้าประเด็นอย่างสั้นกระชับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและมิได้เอ่ยว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องในจุดใด
การริเริ่มลงลึกรายละเอียดด้วยตัวเองดูจะขัดกับมาดของเดอะฟูล
โศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์…กองเรือเหาะทิ้งระเบิด…จอร์จที่สามจงใจปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อที่ตนจะได้กลายเป็นเทพ? ดวงตาของจัสติส ออเดรย์เบิกกว้างหลังจากนึกทบทวนเหตุการณ์
ทันใดนั้นเธอเข้าใจทันทีว่าเหตุใดเดอะเวิร์ล เกอร์มันสแปร์โรว์ถึงพยายามยับยั้งมิให้จอร์จที่สามกลายเป็นเทพ
สุภาพบุรุษรายนี้เป็นคนอ่อนโยนและเห็นใจเพื่อนมนุษย์ จึงไม่มีวันปล่อยให้คนชั่วที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากมายได้ลอยนวล
หากเปลี่ยนเป็นเราก็คงคิดจะทำแบบเดียวกัน แต่ในภายหลังก็ต้องปล่อยวางเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมา…แต่มิสเตอร์เวิร์ลเป็นคนแน่วแน่และเด็ดขาด…หรือบางทีอาจเป็นเจตจำนงของมิสเตอร์ฟูล…ออเดรย์ชำเลืองเดอะเวิร์ล เกอร์มันสแปร์โรว์ที่นั่งนิ่งในตำแหน่งสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวอีกฝั่ง
จักรพรรดิมืด…จอร์จที่สามต้องการเถลิงบัลลังก์เทพ? อา…มิสเตอร์ฟูลถือครองไพ่เย้ยเทพเส้นทางจักรพรรดิมืด…เกอร์มันสแปร์โรว์ตามสืบเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์และโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันมาสักพักแล้ว…ดูเหมือนว่าแผนการของพระองค์จะประสบความสำเร็จด้วยดี…นั่นทำให้พลังของพระองค์ฟื้นฟูกลับมาจนสามารถต่อกรกับราชาเทวทูตได้แล้ว? ยิ่งคิด แฮงแมนก็ยิ่งฮึกเหิมเจือความหวาดกลัว นั่นเพราะว่าแม้ตนจะได้รับคำบอกใบ้ล่วงหน้าในระดับหนึ่ง แต่กลับไม่เคยคาดเดาแผนการของมิสเตอร์ฟูลได้ถูกต้องเลย
เดอะสตาร์ เลียวนาร์ด เมจิกเชี่ยน ฟอร์ส และสมาชิกชุมนุมทาโรต์คนอื่นเผยสีหน้าตกตะลึง ส่วนเฮอร์มิท แคทลียาที่พอจะเดาได้ในระดับหนึ่ง ระงับความตื่นตระหนักและถามเพิ่มเติม
“เรียนมิสเตอร์ฟูล เหล่าเจ็ดเทพมีท่าทีกับเรื่องนี้อย่างไร”
…………………………