ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1387 : วิธี

ราชันเร้นลับ 1387 : วิธี

ด้านหลังม่านเงาอันไร้ขอบเขต มีแสงคล้ายคลื่นน้ำส่องกระเพื่อมขึ้น

ชายหนุ่มผมสีดำ ตาสีดำ หน้าผากกว้าง และใบหน้าผอมเพรียวลุกขึ้นกะทันหันราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย

แต่งกายในชุดคลุมสีดำทรงโบราณ มันเหยียดมือขวาออก พยายามนำแว่นตาขาเดียวออกจากความว่างเปล่ามาสวมที่ตาขวา

แต่คราวนี้ไม่มีสิ่งใดติดมือกลับมา

มือขวาของมันแช่อยู่กลางอากาศนานสองวินาที ก่อนจะดึงกลับลงมาวางไว้บนเบ้าตาขวา

ในเวลาเดียวกัน ข้างหูของมันได้ยินเสียงอันอ่อนโยนเจือความเย็นชา:

“สำหรับเขา บางสิ่งสำคัญยิ่งกว่าชีวิต… แต่สำหรับเจ้า นอกจากตัวเจ้าเอง ก็แทบไม่มีสิ่งใดควรค่าแก่การใส่ใจ… เมื่อถึงจุดที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิตของตัวเอง นั่นคือช่วงเวลาที่เจ้าพ่ายแพ้”

อามุนด์ยกมุมปาก คล้ายกับต้องการยิ้มและตอบกลับไปสองสามคำ แต่ท้ายที่สุดก็มิได้กล่าวสิ่งใด

เสียงเดิมยังคงพูดต่อ:

“ในฐานะสัตว์ในตำนานโดยกำเนิด การไม่มีหลักยึดเหนี่ยวตามปรกติถือเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญ… เจ้าอาจรู้จักความกล้าหาญและเสียสละ แต่คงยากที่จะทำความเข้าใจกับมัน”

สีหน้าอามุนด์เปลี่ยนไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยืนขึ้นจากความมืดที่มีแสงคล้ายคลื่นน้ำ

มันมองไปยังถุงมือหนังมนุษย์ที่ทำตัวพึงพอใจแม้จะถูกโยนทิ้งไว้ด้านข้าง จากนั้นก็ถอนสายตากลับ เอียงคอเล็กน้อยพลางกล่าว:

“น่าสนใจ… ถัดไป ข้าจะออกจากที่นี่ ออกไปยังอวกาศ… ที่นั่นน่าตื่นเต้นกว่าโลกความเป็นจริงมาก บางทีข้าอาจได้เข้าใจความหมายของคำสองคำที่เจ้าเพิ่งกล่าวออกมา”

“ที่นั่นเต็มไปด้วยอันตราย เมื่อเจ้าออกไปยังอวกาศ ข้าคงมิอาจส่งความช่วยเหลือใดจนกว่าทางนี้จะประสบความสำเร็จ แต่อย่างน้อยเจ้าก็สามารถหลีกเลี่ยงเขาได้” เสียงที่อ่อนโยนและเย็นชาตอบ

อามุนด์ไม่กล่าวสิ่งใดต่อ เพียงยกมือขวาขึ้นมาบีบเบ้าตาขวา จากนั้นก็หายเข้าไปในม่านเงาอันไร้ขอบเขต

เหนือสายหมอก ภายในวังโบราณ

ไคลน์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นอามุนด์ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดด้วยแรงระเบิดของมหานวดารา

หากมีทางเลือก ชายหนุ่มย่อมไม่อยากเสียสละตัวเองโดยการคืนชีพราชันสวรรค์ฟ้าดิน เพราะลึกๆ แล้วก็หวังที่จะปกป้องโลกนี้ด้วยตัวเองไปพลางค้นหาคำตอบของชีวิต

แต่แน่นอน ในเมื่อไม่มีทางเลือก ชายหนุ่มก็ไม่ลังเลที่จะปลุกราชันสวรรค์ฟ้าดินให้ลืมตาตื่น ไคลน์มั่นใจว่าตัวเองทำได้ และอามุนด์ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงไม่พยายามแข่งขัน แต่เลือกที่จะหลบหนี

จนกระทั่งเมื่อครู่ มันคือศึกวัดความกล้าหาญ ฝ่ายที่ไม่กลัวตายย่อมถือไพ่เหนือกว่า

และเป็นที่ชัดเจนว่า อามุนด์ไม่กล้าเดิมพันจิตใต้สำนึกของตัวเองเพียงเพราะเรื่องนี้

หลังจากโล่งอก ใบหน้าไคลน์ด้านหลังหน้ากากพิสดารและเย็นชาพลันบิดเบี้ยว

ใต้ชุดคลุมสีเข้มโปร่งแสงบนผิวกาย หนวดรยางค์มันลื่นและชั่วร้ายที่ยืดยาวออก บ้างกระดุกกระดิกอยู่บนพื้น บ้างกำลังยกขึ้นสูง โดยที่ทั้งหมดไม่ได้อยู่ในความควบคุมของไคลน์

ชายหนุ่มสัมผัสได้ ราชันสวรรค์ฟ้าดินในร่างตนกำลังตื่นขึ้นด้วยความเร่ง และดูเหมือนจะหยุดไม่อยู่อีกแล้ว

ต่อให้ไคลน์ตายไปและคืนชีพกลับมาด้วยพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ ชายหนุ่มก็ยังสลัดไม่หลุดจากสิ่งนี้ เพราะราชันเร้นลับเองก็ถือครองอำนาจในขอบเขต ‘ปาฏิหาริย์’ เช่นกัน

ทันใดนั้น ไคลน์หวนนึกถึงคำของเทวทูตมืดซาสเรีย หรืออีกนัยหนึ่งคือเทพสุริยันบรรพกาล:

“มหาต้นกำเนิดตื่นขึ้นในตัวข้า…”

วินาทีถัดมา ในจุดที่ร่างอามุนด์ร่วงหล่น กลุ่มแสงสว่างถูกแรงโน้มถ่วงที่มองไม่เห็นดึงเข้าหาตัวไคลน์

บ้างเป็นหนอนกาลเวลาสิบสองปล้อง บ้างเป็นหนอนดวงดาวสุกสว่าง และบ้างเป็นจุดแสงจำนวนมาก

ไคลน์พยายามกีดกันมิให้ตะกอนพลังเหล่านี้ผสานเข้ากับตัวเอง แต่ก็ต้องล้มเหลวเพราะอิทธิพลของเจตจำนงราชันสวรรค์ฟ้าดินภายในตัว

ร่างกายชายหนุ่มขยายออกราวกับลูกโป่ง แต่ทันใดนั้นก็บางลงและกลายเป็นกระดาษคน วนซ้ำไปมาเช่นนี้ไม่รู้จบ

หน้ากากบนใบหน้าทวีความสว่างและพิสดารยิ่งกว่าเก่า หนวดรยางค์มันเลื่อมและชั่วร้ายใต้ชุดคลุมเพิ่มจำนวนทุกขณะ แถมยังควบคุมไม่ได้

ตะกอนพลังของหนอนกาลเวลาหนึ่งก้อน ตะกอนพลังของกุญแจดาราหนึ่งก้อน… ไคลน์รู้สึกเหมือนจิตใจกำลังถูกกัดแทะและกลืนกินโดยสัตว์ประหลาดล่องหน นำมาซึ่งความเจ็บปวดแสนสาหัส

ในท้ายที่สุด ดวงตาคู่หนึ่งซึ่งคล้ายกับประกอบจากแสงดาวบริสุทธิ์และชั้นของประตูมายา กับแว่นตาขาเดียวที่ทำจากคริสตัล เริ่มผสานเป็นเนื้อเดียวกันและก่อตัวเป็นรูปทรง ก่อนจะลอยเข้าหาใบหน้าไคลน์ผ่านช่องว่างบนเบ้าตาหน้ากากพิสดาร

แทบจะในเวลาเดียวกัน บานประตูประหลาดที่ฉาบด้วยสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้นบนตัวไคลน์

ปราสาทต้นกำเนิด!

ในวินาทีนี้ เอกลักษณ์ของไคลน์ ปราสาทต้นกำเนิด รวมถึงเอกลักษณ์ของประตูและข้อผิดพลาด กำลังสร้างแนวโน้มการผนวกรวมที่รุนแรงขึ้น

เมื่อทั้งหมดผสานเข้าด้วยกัน ราชันเร้นลับจะตื่นขึ้นและคืนชีพโดยสมบูรณ์

ไคลน์เลื่อนมือขวาขึ้นมาปิดครึ่งใบหน้า

ร่างกายโน้มลง ประหนึ่งกำลังต่อสู้กับ ‘ตัวเอง’ อีกหนึ่งคน

อาศัยภาพจำและจุดยืนของตนที่เกิดจากหลักยึดเหนี่ยวของสาวก ในท้ายที่สุด ไคลน์สามารถเลื่อนการตื่นของเจตจำนงราชันเร้นลับออกไปได้ระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ทำให้แนวโน้มการผนวกรวมบรรเทาลง

ดวงตาแสงดาวและแว่นตาผลึกข้างเดียวยังคงลอยอยู่เบื้องหน้าไคลน์ ห่างออกไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร ประหนึ่งดาวเคราะห์กำลังโคจรรอบดวงอาทิตย์

ท่ามกลางความไม่สมดุลอย่างรุนแรง ไคลน์ไตร่ตรองและพบว่าสิ่งนี้ไม่น่าจะคงสภาพไว้ได้นาน บางทีอาจสองถึงสามนาที หรืออาจแค่สิบวินาที แนวโน้มการผนวกรวมจะเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างมิอาจต้านทาน สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีวันหวนกลับ ไอลีนโนเวล

“ฮะฮะ… นี้คงเป็นการฟิวชันในรูปแบบหนึ่ง” ไคลน์หัวเราะโดยปราศจากความเยือกเย็น

ถัดมา ชายหนุ่มปั่นหัวหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์ ส่งมันกลับสู่ภาวะถูกผนึกและลอยไปยังกองขยะ

จากนั้น ไคลน์ออกจากปราสาทต้นกำเนิดและก้าวเข้าไปในโลกดาราที่ประกอบจากสัญลักษณ์และอำนาจ

ที่นี่ดูคล้ายกับอวกาศ ทั้งมืดและลุ่มลึก กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต แต่ในความเป็นจริงแล้วมีหลายจุดที่แตก ตัวอย่างเช่น แม้จะเห็นดวงดาวคล้ายดวงอาทิตย์กำลังลอยอยู่ในจุดห่างไกล แผ่แสงสว่างและความร้อนตามปรกติ แต่ถ้าสามารถเข้าไปใกล้ๆ ได้โดยไม่เจ็บตัว จะพบว่าในจุดดังกล่าวของโลกวิญญาณมีลักษณะคล้ายม่านสีดำ และพระอาทิตย์ดวงดังกล่าวดูคล้ายกับภาพวาดสีน้ำมัน รายล้อมด้วยสัญลักษณ์และแนวคิดนามธรรม

ยิ่งไปกว่านั้น ภาพวาดพระอาทิตย์ก็มิได้งดงามสักเท่าไร ดูเหมือนกับถูกขีดเล่นด้วยฝีมือเด็กเล็กไร้พรสวรรค์ ทั้งดูขบขันและน่ากลัว

หากมองในอีกมุม นี่อาจเป็นตัวแทนของความไร้ระเบียบและบ้าคลั่งที่เป็นกฎเกณฑ์พื้นฐาน

เมื่อไคลน์เข้ามา มันสัมผัสถึงสายตาที่มองไม่เห็นทันที

บ้างมาจากพื้นที่ใกล้กับบาเรียโลก บ้างก็มาจากพื้นที่กว้างขวางและแฝงความมุ่งร้าย

มุมปากไคลน์ขดขึ้นอย่างมิอาจควบคุม ก่อนจะหันศีรษะไปยังทิศทางหนึ่ง จดจ้องบาเรียโลกพร้อมกับยกหนวดรยางค์มันลื่น

คู่ดวงตาแสงดาวและแว่นตาผลึกข้างเดียวเริ่มเกิดการหมุนวน

ทันใดนั้น สายตาทุกคู่จากอวกาศพลันถอนกลับ เหลือเพียงภาพวาดดวงจันทร์สีแดงที่ยังลอยอยู่ในลักษณะส่องแสง

“ฮะฮะ” ไคลน์หัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็เข้าไปในดินแดนอันมืดมิดที่เต็มไปด้วยวานิลลาราตรีและบุปผาหลับใหล

ในเวลาเดียวกัน เทพธิดารัตติกาลในเดรสประกายดวงดาวหลายชั้น ตาข่ายบางสีดำคลุมหน้า ปรากฏกายขึ้นบริเวณชายขอบอาณาจักรเทพ

ร่างกายของเธอมิได้ใหญ่โต มองไคลน์ด้วยสายตาเสมอกัน เหยียดแขนขวาพร้อมกับเผยให้เห็นเครื่องประดับทองคำรูปนก

ภายในศีรษะของเครื่องประดับทองคำรูปนก ภายในดวงตาทองแดง ชั้นของประตูมายากำลังส่องแสงพร้อมกับคายหยดน้ำไร้สีให้ลอยมาทางหน้ากากพิสดารและเย็นชาของไคลน์

เจตจำนงของราชันสวรรค์ฟ้าดินถูกส่งเข้าสู่ภาวะหลับลึกนิรันดร์ในทันที เฉกเช่นจิตใต้สำนึกเกือบทั้งหมดของไคลน์ เหลือไว้เพียงสติสัมปชัญญะแค่เล็กน้อย

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ชายหนุ่มดึงหน้ากากออกและเปลี่ยนผ้าคลุมให้เป็นเสื้อโค้ทกันลมสีดำ

จากนั้น ไคลน์เปลี่ยนแว่นตาขาเดียวให้เป็นถุงมือสีดำหนึ่งคู่ และเปลี่ยนดวงตาแสงดาวให้เป็นไม้ค้ำเลี่ยมละอองดาว

นี่เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงเชิงรูปลักษณ์ มิใช่แก่นแท้ของพวกมัน หากทั้งสองสิ่งออกห่างจากไคลน์ มันก็จะกลับไปยังรูปลักษณ์เดิม แต่แน่นอน หากชายหนุ่มปรองดองกับพวกมันและรักษาเสถียรภาพไว้ได้ และคอยปรับปรุงแนวคิดเชิงนามธรรมกับสัญลักษณ์อย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดรูปลักษณ์ของทั้งสองก็จะเปลี่ยนไปเป็นการถาวร

“สิ่งนี้อยู่ได้ไม่นานนัก ทำได้เพียงกำราบไว้ชั่วขณะ” เสียงเตือนอันอ่อนโยนของเทพธิดารัตติกาลดังขึ้น “หากใช้น้ำจากแม่น้ำอันธการนิรันดร์หลายครั้งติดต่อกัน เจตจำนงของราชันเร้นลับจะยิ่งตื่นขึ้นด้วยความเร่ง เพราะพระองค์จะสร้างความเคยชินกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่รู้จัก ในเวลาเดียวกัน ความพิเศษของปราสาทต้นกำเนิดและพรจากฉันจะค่อยๆ เลือนหายไป และคุณก็จะเข้าสู่ภาวะหลับใหลชั่วนิรันดร์”

ไคลน์ทำราวกับนั่นไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เพียงพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม:

“ผมรู้”

เทพธิดารัตติกาลกล่าวด้วยน้ำเสียงปลอมประโลมไคลน์:

“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น วิธีคิดและพฤติกรรมของอามุนด์อยู่นอกเหนือการคาดเดาของฉันโดยสิ้นเชิง สมแล้วที่เป็นเทพแห่งการหลอกลวง… หลังจากนี้ ใช่ว่าคุณจะไม่มีโอกาส คุณยังสามารถลองควบคุมปราสาทต้นกำเนิดเต็มรูปแบบ ดึงเจตจำนงของราชันเร้นลับให้หลับใหลไปพร้อมกัน เผชิญหน้าและผนวกรวมกับเขาภายในความฝัน ฉันสามารถมอบพรบางชนิดให้คุณได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือตัวคุณเอง… การกลายเป็นวันวานไม่จำเป็นต้องใช้พิธีกรรม ไม่มีพิธีกรรมใดสามารถเปลี่ยนแปลงการตื่นขึ้นของเจตจำนงมหาต้นกำเนิดได้ แต่เทพสุริยันบรรพกาลเชื่อว่า ลำดับในการปรองดองมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับจิตใต้สำนึกในระดับหนึ่ง และช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ…

“อันดับแรก กลายเป็นลำดับ 0 ของเส้นทางหนึ่งก่อน จากนั้นก็ควบคุมและผสานเข้ากับแก่นแท้แห่งต้นกำเนิด ตามด้วยการปรองดองกับเอกลักษณ์ของเส้นทางอื่น…

“การเป็นเทพสองเส้นทางก่อนจึงค่อยควบคุมและผสานเข้ากับแก่นแท้แห่งต้นกำเนิด ไม่ใช่วิธีการที่ดีหรือแย่…

“ทางเลือกที่แย่ที่สุดคือการผสานเข้ากับแก่นแท้แห่งต้นกำเนิดทีหลังสุด”

ไคลน์ยิ้ม:

“เป็นแนวคิดที่ดี และเมื่อมีใครตื่นขึ้นในภายหลัง ราชันเร้นลับก็จะถือกำเนิด… อาจเป็นเขา หรืออาจเป็นผมก็ได้… อา ผมจะเข้าควบคุมปราสาทต้นกำเนิดอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากเข้าสู่ภาวะหลับลึกนิรันดร์ ผมน่าจะทำให้ผนึกของทวีปตะวันตกอ่อนแอลงได้ จนถึงระดับที่สามารถผ่านเข้าออก”

เทพธิดารัตติกาลฟังคำไคลน์โดยไม่พูดขัด

ไคลน์กล่าวต่อไปด้วยรอยยิ้ม

“นี่เป็นทางเลือกของผมเอง… เคยเดาได้นานแล้วว่า สักวันผมต้องเผชิญหน้ากับพระองค์”

…………………………

ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

       เป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป
ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่
     แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา
ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง
ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น
    ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว
หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’
หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม
ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด
หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด
แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป
พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง
แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย
    เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท