ตอนที่ 80: การโจมตีที่สําคัญ
อันที่จริง ไป่เซหมินแข็งแกร่งกว่าเมื่อหลายวันก่อน
สถานะทางกายภาพหรือเวทย์มนตร์ของเขาไม่เปลี่ยนแปลง แต่อย่างใดและเขาก็ไม่ได้เลเวลอัพเช่นกัน เนื่องจากตอนนี้เขาอยู่ในกระแสน้ําวน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเอาชนะได้อย่างสมบูรณ์เขาสามารถพัฒนาไปสู่การดํารงอยู่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถได้รับพลังเพิ่มใด ๆ อันที่จริงแล้ว เขาไม่ได้ใช้แต้มสถานะที่มีอยู่ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ เพื่อเพิ่มค่าสถานะตามธรรมชาติของเขา
อย่างไรก็ตาม ในโลกนี้มีหลายวิธีที่จะแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มเลเวล โดยไม่ต้องได้รับพลังวิญญาณหรือค่าสถานะ แม้จะไม่มีสมบัติหรือได้รับม้วนคัมภีร์ทักษะก็ตาม
วิธีหนึ่งเหล่านั้นคือการเรียนรู้และใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วในวิธีที่เหมาะสมที่สุด ไป่เซหมินฝึกฝนอย่างแม่นยําเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นในลักษณะนี้ และแม้ว่าเขาจะยังมีทางยาวไป แต่ก็เป็นความก้าวหน้าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเทียบกับอดีต
นอกจากนี้ ไป่เซหมินยังได้ฝึกฝนการโจมตีประเภทอื่นๆ โดยใช้ทักษะที่เขามีร่วมกับสมบัติของเขา ทําให้เกิดเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่ง อันที่จริงการโจมตีครั้งก่อนเป็นเพียงหอกเพลิงแห่งเลือด… แต่เขาได้วางแผนบางอย่างที่ทรงพลังกว่านั้นโดยการใช้ทักษะทั้งสองนี้และเพิ่มอย่างอื่นเป็นตัวเพิ่มพลัง
[คุณได้รับพลังวิญญาณของลิงพลตตินั่มลําดับที่ 1 ระดับ 37 คุณไม่สามารถเพิ่มระดับหรือรับสถิติเพิ่มเติมก่อนที่คุณจะได้รับงานที่เกี่ยวกับลําดับที่ 1 ]
[คุณได้เรียนรู้ทักษะติดตัวพาสซีฟไม่จัดอันดับระดับ 5 การขว้าง]
ลูกกลมเรืองแสง 3 ลูกที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณออกมาจากร่างที่ไร้ชีวิตของลิงแพลตตินัมอันดับ 1 และเข้าไปในร่างของไป่เซหมิน, ซ่างกวนปิงเสว่ และเฉินเหอตามลําดับขนาดของลูกกลม นั้นค่อนข้างใกล้เคียงกันโดยแทบไม่มีความแตกต่างที่แทบจะแยกไม่ออก
นอกจากนี้ ยังมีอีกข้อความหนึ่งแวบเข้ามาในสายตาของไป่เซหมิน แม้ว่าเขาจะค่อนข้างแปลกใจ แต่ความประหลาดใจนั้นไม่ได้ดีขนาดนั้น เพราะเขาคาดหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เหตุผลล่ะ? แน่นอนว่าลิลิธคนสวยและเย้ายวน เธอได้อธิบายให้เขาฟังมากขึ้นเกี่ยวกับโลกแห่งทักษะ และ ด้วยเหตุนี้ความรู้ของไป่เซหมิน จึงเพิ่มขึ้นเป็นผลที่ตามมา
คนนั้นไม่เพียงสามารถเรียนรู้ทักษะโดยการฝึกอบรมเท่านั้น แต่ยังสามารถเรียนรู้ผ่านการเลื่อนทักษะ หลังจากเอาชนะศัตรูและทักษะสามารถพัฒนาได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสําหรับกฏนี้
โดยไม่สนใจโลกรอบตัวเขา ไป่เซหมิน มองไปที่ทักษะใหม่ เนื่องจากเป็นสิ่งที่เขาตั้งตารอเพราะทักษะนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสําหรับการวิวัฒนาการของเขาไปสู่ลําดับที่ 1 ได้
[การขว้าง (ทักษะแบบพาสซีฟที่ไม่ถูกจัดอันดับ) ระดับ 5: เมื่อขว้างสิ่งของด้วยมือเปล่า คุณมีโอกาส 20% ที่จะโจมตีติดคริติคอลแก่ศัตรู ทักษะนี้มาถึงจุดสูงสุดแล้วและไม่สามารถพัฒนาได้ด้วยตัวเอง]
มันยังเป็นสิ่งที่เขาคาดไว้อยู่แล้วในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาเพียงลําพังเป็นสิ่งที่ทําให้เขาประหลาดใจ และในที่สุดเขาก็เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างที่ลิลิธได้อธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับบันทึกวิญญาณและทักษะต่างๆ
นอกเหนือจากสถิติส่วนบุคคลแล้ว ยังมีสถิติอื่นๆ ที่ไม่ได้แสดงในหน้าต่างของแต่ละคนหรือสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดอีกด้วย ตัวอย่างของสิ่งนี้คือสถิติการโจมตีคริติคอล การป้องกัน ความเสียหายจากการโจมตี ฯลฯ เพื่อให้ได้สถิติเหล่านี้ เราจําเป็นต้องได้รับทักษะบางอย่างหรือไอเท็มบางอย่างที่ปกติแล้วจะไม่เกิดขึ้น หลังจากการพ่ายแพ้ของศัตรูและการแทรกแซงของบันทึกวิญญาณในพลังวิญญาณของผู้แพ้
ตัวอย่างเช่น ช่างตีเหล็กหรือช่างประดิษฐ์สามารถสร้างอาวุธ ชุดเกราะ เครื่องประดับ ซึ่งเพิ่มความเสียหายทางกายภาพหรือการป้องกันแต่ไม่ได้เพิ่มสถานะ เช่น ความแข็งแกร่ง ส่วนค่าของร่างกายที่สมบัติสร้างขึ้นนั้นมาจากพลังวิญญาณที่สามารถเพิ่มขึ้นได้
ลิลิธกล่าวว่าการดํารงอยู่ที่สูงขึ้นเรียกสถิติเหล่านี้ว่าเป็น ‘สถิติการติดตาม’ เนื่องจากสามารถติดตามสถิติเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่องโดยดูจากทักษะและอุปกรณ์ของตนเท่านั้น
นี่คือเหตุผลที่ว่าทําไมงานหรือชั้นเรียนดังกล่าวจึงถูกมองว่าเป็นสิ่งที่หายากและให้คุณค่าในทุกโลก เนื่องจาก บันทึกวิญญาณเป็นตัวตนที่ชอบธรรมที่อนุญาตให้ใครก็ตามที่มีพรสวรรค์และ ใช้มันในทางที่ถูกต้องและด้วยวัสดุที่เหมาะสมเพื่อให้กลายเป็นผู้มีอํานาจ แม้แต่คนที่ไม่มีความกล้าที่จะต่อสู้กับศัตรูที่ทรงพลังก็สามารถได้รับพลังตราบเท่าที่พวกเขารู้หรือมีคลาสของสิ่งประดิษฐ์หรือช่างตีเหล็กและอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน
ไป่เซหมินถอนหายใจ เมื่อเขาตระหนักว่ามีหลายสิ่งที่เขายังไม่รู้ และมีอีกกี่สิ่งที่เขายังไม่ได้สัมผัส แม้ว่าเขาอาจดูแข็งแกร่งมาก แม้ว่าจะเป็นความจริงที่ว่าข้อมูลล่วงหน้าของลิลิธเป็นประโยชน์กับเขามาก…. ความจริงก็คือว่าทั้งหมดนี้มีผลข้างเคียงที่ต่อต้านการผลิตด้วย และนั่นก็คือสิ่งที่เขาเริ่มตระหนักตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าสิ่งต่างๆนั้นมีน้ําหนักที่ไหล่ของเขาต้องแบกเอาไว้และใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้ในตอนแรก
ไป่เซหมิน นายโอเคไหม
หืม? ไป่เซหมินสะดุ้งจากความมึนงงและมองกลับมาด้วยรอยยิ้มสบาย ๆ ทําไมฉันจะต้องเป็นอะไร ฉันไม่ได้เผชิญหน้ากับลิงตัวนั้นโดยตรง และสิ่งที่ฉันทําคือจัดการกับการโจมตีครั้งสุดท้าย
อย่างนั้นเหรอ? ซ่างกวน ปิงเสว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า ถ้านายพูดอย่าง นั้น
ชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนไป่เซหมินจะแสดงสีหน้าหดหู ซึ่งทําให้เธอรู้สึกแปลกใจ เมื่อพิ จารณาถึงความแข็งแกร่งที่ล้นหลามที่เขาเพิ่งแสดงให้เห็น และวิธีการที่เขาได้อ้างชีวิตของลิงแพลตตินัมลําดับที่ 1 ได้ง่ายเพียงใด แม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่สัตว์ร้ายนั้นเคยถูกโจมตีจนหมดแรงโดยเธอและ เฉินเหอ ก่อนหน้านี้ การดํารงอยู่ของลําดับที่ 1 ก็ยังคงเป็นการดํารงอยู่ของสัตว์ประหลาดลําดับที่ 1 ที่น่าหวาดกลัว แต่ในไม่ช้าเธอก็ปฏิเสธความคิดนั้น หลังจากได้ยินคําตอบของเขาและถือว่าเป็นความคิดที่ผิดเกี่ยวกับเธอ
ไป่เซหมินก้มลงหยิบวัตถุ 3 ชิ้นที่ลิงแพลตตินั่มปล่อยออกมา น่าแปลกที่สัตว์ร้ายอันดับ 1 ได้ดรอปไอเทม 3 ชิ้น คัมภีร์ทักษะ ลูกแก้วสีแดง และลูกแก้วสีส้ม
เฉินเหอ จะเป็นไรไหมถ้าเราจะแบ่งสมบัติทั้งสามนี้ แล้วบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้น?
อืม เฉินเหอพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจังและพูดด้วยน้ําเสียงที่ลึกล้ําว่า การออกจากมหาวิทยาลัยอาจยากกว่าที่เราคิด และสมบัติทั้งสามนี้ไม่ว่าจะอ่อนแอแค่ไหน เราก็ต้องการมันอย่างแน่นอน
ไป่เซหมิน และ ซ่างกวน ปิงเสว่ มองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนที่จะมองย้อนกลับไปที่ เฉินเหอ ด้วยความขมวดคิ้ว
เห็นได้ชัดว่าสิ่งต่างๆ ซับซ้อนกว่าที่คาดไว้มาก…
สมบัติธรรมดา สมบัติหายาก และคัมภีร์ทักษะ มาดูกันว่ามันเป็นทักษะประเภทไหน ไป่เซหมินวางรางวัลชัยชนะลงบนกองเศษหินขนาดใหญ่ที่ถล่มลงมาและหยิบม้วนทักษะเพื่อดูว่ามันเป็นทักษะอะไรก่อนที่จะส่งต่อให้คนอื่นๆ
[การฟื้นฟู (แอคทีฟสกิลลําดับที่ 1) ระดับ 5. ฟื้นฟูค่าความแข็งแกร่งตามมานาที่ใช้ไป ทุกๆ 2 คะแนนมานาจะได้รับ 1 คะแนนค่าของความแข็งแกร่ง]
ไป่เซหมินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอย่างหนัก เมื่อเห็นทักษะที่เกิดขึ้นหลังจากการระเหิดของพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของลิงแพลตตินัม นี่คือสิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวังอย่างแน่นอนและพูดตามตรง ทักษะนี้ดูค่อนข้างอ่อนแอ เมื่อเทียบกับการควบคุมโลหิตของเขา แม้ว่าพวกมันจะเป็นทักษะระดับเดียวกัน
แฟลช แฟลช!
หลังจากการบีบเล็ก ๆ 2 ครั้ง ลูกกลมทั้ง 2 ก็ระเบิดเป็นแสงสีส้มและสีแดง ก่อนที่วัตถุใหม่ 2 ชิ้นจะปรากฏขึ้นบนกองเศษหินหรืออิฐ
