บทที่ 28 กระสุนปืน
ชายหนุ่มถือปืนอยู่ในมือขวาและคนในมือซ้าย ดูจากเสื้อผ้าเหมือนว่าเป็นผู้จัดการเซี่ย แต่เขาไม่รู้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว
ผู้จัดการเซี่ยถูกโยนลงไปกองแน่นิ่งบนพื้น คาดว่าเขาน่าจะตายแล้ว
จ้าวหยูขนลุกซู่ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าคนที่มามีเป้าหมายที่เงินในตู้เซฟ แถมอีกฝ่ายยังมีปืนมาด้วย เกรงว่าวันนี้เขาไม่รอดแล้ว
“สหาย ทุกอย่างก็คุยกันได้นะ” เมื่อมองดูดวงตาที่นิ่งสงบของชายหนุ่ม จ้าวหยูยกมือและยืนขึ้นช้าๆ สมองของเขาหมุนอย่างรวดเร็ว พยายามหาทางออกจากอันตรายในครั้งนี้
“ห้ามขยับ!”
เสียงของชายหนุ่มไม่ดังมาก แต่เสียงนี้เพียงพอที่จะทำให้จ้าวหยูหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด แม้แต่การหายใจของเขาก็หยุดนิ่งไปด้วย
“เอาเงินของฉันออกมา”
แน่นอนว่ามันมาเพื่อเงิน
จ้าวหยูทั้งรู้สึกเศร้าและโกรธอย่างอธิบายไม่ถูก ไร้ยางอาย กล้าดียังไงมาเรื่องเงินฉันเป็นของตัวเอง
เขาชี้ไปที่ตู้เซฟ “เงินอยู่ในนั้น”
ริมฝีปากของชายหนุ่มยกยิ้มขึ้น
จ้าวหยูคิดเพียงครึ่งวินาทีก่อนจะตัดสินใจ ถึงมันจะเป็นเงินจำนวนมหาศาล แต่มันก็ไม่คุ้มค่ากับชีวิตของเขา เขาควรให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟังจะดีกว่า
ด้วยร่างกายที่สั่นเทา เขาใช้กุญแจที่ผูกติดกับกระเป๋ากางเกงไขเปิดตู้เซฟและเผยให้เห็นเงินกองใหญ่ข้างใน
“เอาพวกมันมาวางไว้บนโต๊ะ” เสียงของโจรหนุ่มยังคงเย็นชาและไร้ความปรานี
จ้าวหยูไม่กล้าที่จะท้าทายและรีบย้ายเงินมาที่โต๊ะทีละกอง ในไม่ช้า โต๊ะก็เต็มไปด้วยกองธนบัตร
หนึ่งสองสาม……
สิ่งที่ทำให้จ้าวหยูงงคือโจรหนุ่มนับไปเพียงแค่ 10 กองและใส่พวกมันไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขา สิ่งที่ทำให้เขางงยิ่งกว่านั้นคือโจรหนุ่มดึงธนบัตรออกไปเพิ่มอีก 5 กอง
โจรหนุ่มคนนี้ทำตามคำสั่งของใครหรือไม่? ทำไมเขาถึงเอาเงินไปแค่นั้น?
โจรพูดขึ้นว่า “ฉันพนันด้วยเงิน 30,000 หยวน 10,000 พนันที่ฝรั่งเศสจะชนะในอัตราต่อรอง 1.45 อีก 10,000 หยวนพนันว่าฝรั่งเศสจะทำประตูในอัตราต่อรอง 2.9 และอีก 10,000 เดิมพันว่าฝรั่งเศสจะทำได้สองประตูในอัตราต่อรอง 5.2 รวมเป็น 125,500 … เงินก้อนนี้บวกกับ 25,000 หยวนก่อนหน้า ทุกอย่างถือว่าจบกัน จำไว้ว่าคราวหน้าอย่าโกงเงินของฉันอีก”
เขาไม่ใช่คนโง่ ไม่อย่างนั้นเขาจะเปิดบาร์ขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ยังไง?
จ้าวหยูค่อนข้างเข้าใจแล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!
“ผู้จัดการเซี่ยเกิดอะไรขึ้น?” จ้าวหยูตะโกนอย่างโกรธจัด ผู้จัดการเซี่ยที่นอนอยู่บนพื้นราวกับศพก่อนหน้านี้รีบกระโดดขึ้นและรีบวิ่งออกไปที่ประตูทันที
ผู้จัดการเซี่ยฉลาดมาก เขารู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ถ้าเขาอยู่ที่นี่ต่อไป
ความเร็วของเขาเร็วมาก
น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะวิ่งเร็วแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถเรากว่ากระสุนได้
ปัง……
ปืนถูกยิง
ผู้จัดการเซี่ยรู้สึกชาที่ต้นขาก่อนที่เขาจะกลิ้งลงไปกับพื้นอย่างควบคุมไม่ได้ หลังจากหยุดลงที่พื้น เขาก็แตะมือลงไปที่ต้นขา มันเปียก! เมื่อมองไปที่มือ มันคือเลือด!
ปืนจริง! กระสุนเองก็จริงเช่นกัน!
ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของผู้จัดการเซี่ยคิดเขาจะต้องหาไอ้สารเลวเสี่ยวฮุยคนนั้นให้เจอ แล้วฆ่ามันทิ้งซะ!
ตั้งแต่วินาทีที่ผู้จัดการเซี่ยกระโดดขึ้น ถานเสี่ยวเทียนก็เข้าใจ
ปรากฏว่าผู้จัดการเซี่ยคนนี้เป็นคนที่โกงเงินของฉัน
เขาเดินเข้าไปหาผู้จัดการเซี่ยที่กำลังกลิ้งด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น นั่งยองๆ ลงแล้วเอาปากกระบอกปืนแตกลงที่หัว ปืนพก type 63 ค่อยๆ เริ่มเลื่อนจากหน้าผากของผู้จัดการเซี่ยลงมาจนกระทั่งหยุดลงตรงหัวเข่าของเขา และเสียงของโจรหนุ่มผ่อนคลายและดูสบายๆ ราวกับว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้เป็นกิจวัตรประจำวันของเขา “ไม่มีใครสามารถโกงเงินของฉันได้… แกจะควรขอบคุณฉันนะ ตั้งแต่ที่ฉันมาที่นี่ ตั้งแต่ว่านี้เป็นต้นไป แกจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสุขสบายบนรถเข็น”
คราวนี้ผู้จัดการเซี่ยได้เห็นดวงตาของถานเสี่ยวเทียนอย่างชัดเจน มันทั้งเย็นชา ไร้ความปรานีและไม่เห็นค่าชีวิต
จู่ๆ จ้าวหยูก็พูดขึ้นว่า “สหายที่ดี คุณมาจากไหน? กล้าดียังไงมาสร้างปัญหาในถิ่นของฉัน?”
ตึง!
ประตูห้องผู้จัดการถูกเปิดออกจากด้านนอก เด็กเสิร์ฟที่นอนอยู่ในล็อบบี้ ตอนนี้มารุมกันอยู่ที่หน้าห้องแล้ว เสียงปืนมันดังเกินไปจนทำให้ทุกๆ มา
“หัวหน้า!”
“ผู้จัดการ!”
คนทั้งหมดกำลังยืนพูดอยู่ที่ประตู ไม่มีใครกล้าก้าวเข้ามา
ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที เด็กคนนี้มีปืนอยู่ในมือ และมีเลือดอยู่ที่ขาของผู้จัดการเซี่ย!
ถานเสี่ยวเทียนยืนอย่างสงบ มองไปที่กลุ่มคนที่ประตู จากนั้นก็มองไปที่จ้าวหยูโดยไม่พูดอะไร
จ้าวหยูเท้าโต๊ะด้วยมือเดียว แม้ว่าเขาจะดูสงบ แต่มือซ้ายที่สั่นเทาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความโกรธที่อยู่ภายในใจของเขา
เขาไม่ได้คาดหวังว่าคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดจะทำเรื่องแบบนี้และมันยังทำให้เขาเจอกับหายนะอีกด้วย
“ผู้จัดการเซี่ยเกิดอะไรขึ้น?” จ้าวหยูพูดออกมาช้าๆ ทีละคำ
ผู้จัดการเซี่ยรู้แล้วว่าเขาไม่สามารถเก็บความลับได้อีกต่อไป เขาอดทนต่อความเจ็บปวดและสารภาพเรื่องนี้กับจ้าวหยู
จ้าวหยูเงียบไปครู่หนึ่งแล้วยกมือขึ้นทำท่าทางส่งแขก “สหายที่ดี ทั้งหมดเป็นเราที่ผิดเอง ไปเอาเงินของคุณไปเถอะ ที่เหลือฉันจะจัดการของฉันเอง”
ตั้งแต่ที่เจ้านายพูดแบบนี้ พนักงานเสิร์ฟที่ประตูก็แบ่งออกเป็นสองแถวโดยอัตโนมัติ หลีกทางให้ถานเสี่ยวเทียนก้าวออกไป
แต่แทนที่จะเดินไปที่ประตู เขากลับเดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ช่วยโทรออกไปที่เบอร์ 9257 บอกอีกฝ่ายว่าเสี่ยวเทียนมีปัญหา ให้โทรกลับมาเบอร์นี้ด่วน” (น่าจะคุยกับโอเปอร์เรเตอร์มั้ง?)
เมื่อได้ยินตัวเลข 9257 คิ้วของจ้าวหยูก็กระตุกขึ้นทันที แน่นอนว่าเขารู้ว่านี่คือหมายเลขเพจเจอร์ของไห่หงษ์ เด็กคนนี้รู้จักพี่สาวของเขางั้นเหรอ? ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคืออะไร?
ไม่นานก็มีสายเข้ามา ถานเสี่ยวเทียนเหลือบมองที่จ้าวหยูและกดแฮนด์ฟรี
เสียงสังหารของไห่หงษ์ดังก้องไปทั่วห้อง “ไอ้สารเลวรู้ไหมว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว หากไม่มีเหตุฉุกเฉินจริงๆ ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด”
“พี่หงษ์ ผมอยู่ในห้องทำงานน้องชายของพี่! ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นหรอก ผมแค่ยิงขาของผู้จัดการของเขาเท่านั้น ใช่! พี่ควรมาที่นี่ตอนนี้เลย น้องชายของพี่กำลังโกรธมาก ผมเริ่มกลัวนิดหน่อยแล้ว”
“ห๊า?! ปืน? ปืนอะไร? แล้วเสี่ยวหยูอยู่ที่นั่นไหม เร็วเข้า ให้เขามาพูดสาย” เสียงของไห่หงษ์ตึงเครียดขึ้น
จ้าวหยูตะโกนออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “พี่สาวผมอยู่ที่นี่”
“เสี่ยวเทียนเป็นน้องชายของฉัน แกต้องใจเย็นๆ ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ รอฉันก่อน!”
โทรศัพท์วางสายไป
จ้าวหยูมองไปที่ถานเสี่ยวเทียนขึ้นและลงหลายๆ ครั้งจากนั้นก็หันศีรษะและบอกพวกพนักงานเสิร์ฟว่า “พวกแกมาทำแผลให้เหล่าเซี่ย ส่วนที่เหลือออกไปจากที่นี่ให้หมด”
หลังจากช่วงเวลาที่วุ่นวาย ตอนนี้มีเพียงจ้าวหยูและถานเสี่ยวเทียนเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในห้องทำงาน แล้วก็เหล่าเซี่ยที่นอนอยู่บนโซฟา
“มีบุหรี่ไหม?” ถานเสี่ยวเทียนกล่าวประโยคแรกออกมา
จ้าวหยูส่งบุหรี่ให้อย่างเงียบๆ แต่สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ “ในเมื่อคุณรู้จักกับพี่สาวของผม แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกผมดี ทำต้องทำแบบ…”
ถานเสี่ยวเทียนบ่นวงแหวนควันขึ้นเพดานห้องและไม่ตอบอะไร
ตอนแรกเขาไม่ต้องการจะให้ไห่หงษ์รู้เรื่องนี้ แต่ในไม่ช้าก็เร็วจ้าวหยูก็จะรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับไห่หงษ์ เขาไม่ต้องการจะทำให้สองพี่น้องต้องมาบาดหมางกันเพราะเรื่องนี้
ยี่สิบนาทีต่อมา เสียงที่กังวลของไห่หงษ์ก็ดังขึ้นที่หน้าห้อง “ทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน?!”