EP 469
By loop
“ เฮ้ลองดูไปที่สมุดบันทึกที่หมอหลิงถืออยู่สิ ทำไมมันถึงดูสวยจัง”
“ มันไม่น่ามีขายตามตลาดทั่วไปนะ”
“ มันดูทันสมัยสุดๆไปเลย โดยเฉพาะด้วยปกสีน้ำตาลนั้น มันดูเรียบง่ายและสะอาดมากไม่เหมือนสมุดที่ขายในตลาดทั่วไป สมุดพวกนั้นดูเชยเอามากๆเลย”
“ ว้าวหมอหลิงวางสมุดไว้ที่หัวเข่า ฉันเองก็อยากเป็นสมุดนั้นจัง…”
พยาบาลสาวสองสามคนซ่อนตัวอยู่ในสถานีพยาบาลขณะที่พวกเขาจ้องมองไปปที่หลิงรัน พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถทนเสน่ห์ที่เหลือล้นของหลิงรันได้เลย
“พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่?” หัวหน้าพยาบาลเดินมาจากด้านหลังหลังจากหลังจากเธอเดินตรวจรอบวอร์ดเสร็จ ทันใดนั้นเธอก็มีท่าทีที่โมโหขึ้นมาทันทีเมื่อจับได้ว่าพยาบาลสาวสองคนนี้กำลังอู้งานอยู่ เพราะตอนนี้แผนกพยาบาลยุ่งมากและมีผู้ป่วยจำนวนมากถูกบังคับให้เข้ารับการผ่าตัดมากมาย
เนื่องจากพวกเธอเองก็ยังมีประสบการณ์ไม่มากนักกับอาชีพพยาบาล และเมื่อเจอเช่นนี้พยายาลที่ดูเหมือนจะอายุแกกว่าก็พยายามพูดเบี่ยงเบนไปทางอื่น“ หัวหน้าพยาบาลหมอหลิงกำลังบันทึกข้อมูลบางอย่างดังนั้นเราจึงต้องการดูว่ามีอะไรให้เราช่วยได้บ้าง”
หัวหน้าพยาบาลก็นึกอะไรบางอย่างได้ เธอเดินไปที่ด้านหลังของสถานีพยาบาลก่อนที่จะมองไปตามทิศทางที่พวกเขาชี้ไป อย่างที่พวกเขาพูดเธอเห็นหลิงรันนั่งอยู่บนม้านั่งริมทางเดินโดยมีขาข้างหนึ่งไขว้กัน สมุดบันทึกที่มีปกสีน้ำตาลวางอยู่บนขาของเขาในขณะที่เขาเขียนอย่างรวดเร็ว
สมุดบันทึกสีน้ำตาลเป็นทรงสี่เหลี่ยมและมันดูโง่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อวางร่วมกับหลิงรัน ปกสีน้ำตาลให้ความรู้สึกที่ดูทันสมัยมาก
“ ไม่ต้องมาเชไชเลยพวกเธอแค่หลงเสน่ห์หมอหลิงใช่ไหม แต่อย่าลืมว่าพวกเธอยังมีงานอีกมากมายที่จะต้องไปทำนะเข้าใจหรือเปล่า” หัวหน้าพยาบาลไม่แม้แต่จะมองไปที่พยาบาลสองสายนั้นขณะที่ให้คำแนะนำ
พยาบาลสาวที่เพิ่งถูกบ่นไปตอนนี้เธอดูมึนงงเล็กน้อยกับเรื่องนี้ พวกเธอทั้งคู่ออกจากสถานีพยาบาลอย่างไม่เต็มใจและจัดการงานของพวกเธอด้วยความรวดเร็ว แต่สายตาของพวกเธอยังมองหลิงรันตามไปโดยที่ตาไม่กระพริบ
“ โอ้ใช่เขาซื้อสมุดมากจาที่ไหนกัน ทำไมมันดูสวยจังเลย” หัวหน้าพยาบาลหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาและพูดว่า“ ขอฉันถ่ายรูปหน่อย ครั้งหน้าฉันจะให้ลูกสาวซื้อสมุดอย่างงี้ให้ฉันบ้าง”
พยาบาลสาวคนอื่น ๆ รู้สึกว่าเหตุผลของหัวหน้าพยาบาลนั้นเป็นความคิดที่ดี ดังนั้นพวกเธอเองก็จึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาและถ่ายภาพไปที่หลิงรันอย่างรวดเร็วเช่นกัน
พยาบาลสาวที่มีอายุมากที่ในกลุ่มพยาบาลสาวเธอคิดจะแกล้งหัวหน้าพยาบาล “ หัวหน้าค่ะ ต้องไม่ให้ลูกสาวของหัวหน้าเห็นรูปถ่ายของหมอหลิงนะ ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องมาโรงพยาบาลทุกวันแน่ๆเลย”
“ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือถ้าเธอคิดว่าแพทย์ทุกคนน่าตาดีอย่างหมอหลิง และเธอสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนพยาบาลน่าจะเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจมากกว่าอีก”
พยาบาลสาวสองสามคนถอนหายใจอย่างแรง
หัวหน้าพยาบาลยังรู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่เธอจะโชว์รูปถ่ายนี้ให้กับลูกสาวเห็น เธอจึงวางโทรศัพท์และไอออกมาก่อนจะพูดว่า“ ถ้าพวกเธอนั่งมองหมอหลิงรันจนพอใจแล้วพวกเธอก็ควรไปทำงานสักที นอกจากนี้ให้มองหาสมุดบันทึกประเภทเดียวกันเมื่อพวกเธอว่าง เดียวเราค่อยไปเดินหาสมุดเล่มนั้นกัน”
“ตกลงค่ะ.”
“ ถูกต้องแล้วสมุดบันทึกที่เราใช้ตอนนี้ไม่ได้ทำให้ เรามีแรงจูงใจในการทำงานเลย”
“ การใช้สมุดบันทึกของหมอหลิสามารถทำให้ ฉันสนใจทุกอย่างในโรงพยาบาลได้ทันที”
สถานีพยาบาลเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ดีและพวกเธอรู้สึกมีแรงบันดาลใจในการทำงานมากยิ่งขึ้นด้วย
หลิงรันนั่งอยู่ที่ทางเดินเป็นเวลาสองชั่วโมงก่อนที่เขาจะจดข้อมูลในสมุดบันทึกจนเสร็จ
จากนั้นหลิงรันก็กลับมาที่สำนักงานที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สองของเมืองอู๋ซินที่ถูกจัดส่วนตัวไว้ให้เขา เขาเปิดคอมพิวเตอร์เปรียบเทียบข้อมูลของผู้ป่วยและเริ่มทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบ
สภาพของผู้ป่วยทั้งยี่สิบห้ารายนี้แตกต่างกันดังนั้นวิธีการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยทุกรายจึงแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยโรคสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท
ประเภทแรกถือได้ว่าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการคงตัว เศษนิ่วที่เหลืออยู่ต่ำกว่า 1% อีกทั้งพวกเขาจะเสียเลือดน้อย ไม่มีการติดเชื้อและออกจากห้องไอซียูในเวลาอันสั้น…กล่าวได้ว่าเกือบจะได้รับผลการผ่าตัดที่สมบูรณ์แบบผ่านการผ่าตัดตับระดับปรมาจารย์
แต่สำหรับผู้ป่วยประเภทที่สอง … ผู้ป่วยประเภทที่สองจะมีการวินิจฉัยโรคที่ดีขึ้นแม้ว่าเศษหินที่เหลืออยู่และการเสียเลือดอาจไม่ต่ำกว่าผู้ป่วยประเภทแรกก็ตาม อย่างไรก็ตามระดับความสบายของพวกเขาโดยทั่วไปสูงขึ้นพวกเขารู้สึกเจ็บปวดน้อยลงและสภาพจิตใจก็ดีขึ้น แม้ว่าศัลยแพทย์จะไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้มากนัก แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าอาการนี้ คือสิ่งที่พวกเขาเหล่าแพทย์ใฝ่หามาตลอดหลังจากทำงานเป็นศัลยแพทย์มาเป็นเวลานาน
หลิงรันเดาว่าบางทีเขาอาจจะสร้างผลลัพธ์ประเภทที่สองด้วยการผ่าตัดตับระดับสมบูรณ์แบบในอัตราที่คงที่เท่านั้น
หลิงรันสรุปผลลัพธ์หล่านี้ได้เนื่องมาจากปัจจัยและความบังเอิญบางอย่างเท่านั้นหรือหากหลิงรันเชี่ยวชาญการผ่าตัดตับระดับสมบูรณ์แบบก่อนที่เขาจะทำการผ่าตัดตับให้กับคนเหล่านี้พวกเขาจะได้รับเงื่อนไขที่ดีกว่า
เมื่อหลิงรันคิดถึงเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องบางอย่าง
บางครั้งเมื่อการผ่าตัดทำได้ดีไม่ได้หมายความว่าศัลยแพทย์ทำสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ผู้ป่วยก็จำเป็นเช่นกันที่จะต้องผ่าตัดให้ได้ผลดี ผู้ป่วยจะต้องทำสิ่งที่ถูกต้องหรือต้องไม่เกิดขอผิดพลาดใดๆเลย!
หลิงรันลุกขึ้นปรบมือก่อนที่เขาจะตะโกนว่า“ ไปตรวจวอร์ดอีกรอบก่อนที่เราจะทำการผ่าตัด”
มาหยานลิ กำลังหลับอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา เขาตื่นขึ้นมาทันทีและพึมพำ“ ผมไม่ไหวแล้ว…ผมไม่อยากไปแล้ว…”
เขาลืมตาขึ้นและหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็ปล่อยลมหายใจโล่งอก
“ มากับฉัน ฉันจะไปตรวจรอบวอร์ดอีกครั้ง” หลิงรันพูดซ้ำ
“ ให้ผมโทรหาหยูหยวน และ หมอลู่?” มาหยานลินถาม ทั้งคู่ควรกำลังจัดการกรณีฉุกเฉินบางอย่างอยู่ เมื่อมีผู้ป่วยจำนวนมากในวอร์ดและเมื่อผู้ป่วยแต่ละคนมีคำถามที่ต้องการถามแพทย์จนทำให้แพทย์ถึงกับชะงักและแพทย์ประจำบ้านหลายคนถึงกับอึ้งและไม่สามารถตอบใดๆได้เลย ถึงแม้จะมีเวลาในการเดินรอบวอร์ดมากแค่ไหนก็ตาม
หลิงรันส่ายหัว “ แค่สองคนก็เพียงพอแล้ว”
“ ขอโทษนะ…” โจวซินเยียนรู้สึกลังเลขณะที่เขาลุกขึ้นยืน เขากล่าวว่า“ หมอหลิงคุณคงกำลังคิดถึงปัญหาบางอย่างออกแล้วสินะ ในตอนนี้ดังนั้นผมจึงไม่อยากจะขัดคุณ แต่…ผมขอลาได้ไหม”
“ ตอนนี้?” หลิงรันมองไปที่นาฬิกาของเขา ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว
“ใช่.” โจวซินเยียนถอนหายใจออกมา เขากล่าวว่า“อดีตภรรยาของผมพึงมาถึงหยุนหัว และเธอก็ยืนยันว่าให้ผมไปหาเธอ”
“ตกลง.” หลิงรันไม่ต้องการรั้งใครที่กำลังรีบ เขาคิดและพูดว่า“ คุณสามารถไปหาหมอจินและไปขอเบิกเงินที่เขา”
หลิงรันเองไม่เคยขาดแคลนเงินหรือต้องการเงินมากมายอะไร อย่างไรก็ตามหลิงรันเองก็เขาใจความจริงบางอย่าง: ทุกสิ่งในโลกต้องใช้เงิน ตัวอย่างเช่นในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างการผ่าตัดเขาต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่และค่าใช้จ่ายนั้นจะต้องใช้เงิน หากไม่มีเงินเขาจะไม่สามารถอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าได้?
หลิงหรันไม่รู้ว่า โจวซินเยียนจำเป็นต้องอาบน้ำและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายหรือไม่ ก่อนที่เขาจะได้พบกับอดีตภรรยาของเขา แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่จริงจังของโจวซินยียน หลิงหรันรู้สึกว่าโจวซินเยียน อาจต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่
“ตาม หยูหยวนมาและขอให้เธอมากับฉันในการตรวจรอบวอร์ด”หลิงรันกล่าว เมื่อทำเช่นนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งและนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เขาเปิดอีเมลของเขาและเขียนรายการข้อมูลที่เขาต้องการได้รับจากรอบวอร์ดก่อนที่เขาจะคลิกปุ่มส่งและส่งอีเมลไปยังหยูหยวน
สำหรับแพทย์การทำศัลยกรรมการสรุปผลการผ่าตัดและการตีพิมพ์บทความวิจัยถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ
หลิงรันเองพัฒนาทักษะของเขาในการทำงานทางคลินิกด้วยวิธีนี้และเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะเชี่ยวชาญในความรู้ที่เขามีหรือไม่
สิ่งที่ดีที่สุดในการพัฒนาวิทยาศาสตร์สมัยใหม่คือไม่จำเป็นต้องให้ใครเก็บความรู้และทักษะไว้กับตัวเอง
ไม่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีความสามารถในการแสดงความสามารถของตนให้ผู้อื่นเห็น ความสำเร็จของวิธีการผ่าตัดหรือการพัฒนาทักษะจนครบกำหนดในที่สุดไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงบันดาลใจเพียงอย่างเดียว
มนุษย์มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานหลายล้านปี ตามประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้วานรบรรพบุรุษของเราได้ทดสอบเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกมันในช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจนับครั้งไม่ถ้วน ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับมนุษย์แล้วที่จะทำให้แรงบันดาลใจเหล่านั้นเติบโตเต็มที่โดยการเรียนรู้จัดเตรียมและพัฒนาสิ่งเหล่านั้น
โจวซินเยียนไปหาหมอจินทันทีหลังจากที่เขาทำตามสิ่งที่หลิงรันสั่งทั้งหมด
แพทย์ประจำตัวของเหม่ยเทียนกุ้ยปัจจุบันเป็นพวกคนรวยในจังหวัดฉางซี ประวัติย่อของด็อกเตอร์จินนั้นสมบูรณ์และใสสะอาด อีกทั้งเขาได้รับความไว้วางใจจากผู้คนมากมาย ในขณะเดียวกันการเชื่อมต่อทางสังคมของเขาก็กว้างมาก หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นร่วมกันในทุกสาขาอาชีพก็เท่ากับว่าทุกคนในทุกสาขาอาชีพจะเจ็บป่วยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
วิธีการของหมอจินแตกต่างจากของศาสตราจารย์หวาง เขาริเริ่มที่จะทำความเข้าใจความต้องการของผู้ป่วยที่เป็นโรคตับก่อนที่จะแนะนำให้รู้จักกับหลิงหรัน
เมื่อการผ่าตัดของหลิงรันประสบความสำเร็จและผู้ป่วยได้รับการรักษาเป็นผลสำเร็จพวกเขากล่าวขอบคุณหลิงหรันและหมอจิน
นอกจากนี้เนื่องจากหลิงรันไม่ใช่คนง่ายๆจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลักสูตรที่หมอจินได้รับความไว้วางใจจากทุกคนมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้หมอจินจึงกลายเป็นหมอประจำครอบครัวของคนไข้หลายคน
เมื่อ โจวซินเยียนเคาะและเข้ามาเขาเห็นหมอจินกำลังโทรศัพท์อยู่
“เดี๋ยวนะ.” หมอจินปิดโทรศัพท์และลดเสียงลงเพื่อพูดสองสามคำก่อนที่เขาจะวางโทรศัพท์ เขาแสดงรอยยิ้มที่เป็นมิตร แต่ปลอมบนใบหน้า“ หมอโจวคุณมีอะไรหรือเปล่า มีเรื่องอะไรของหมอหลิงฝากมาหรอ”
“ มันไม่เกี่ยวกับหมอหลิง แต่เป็นเรื่องของผมเอง” โจวซินเยียนลดเสียงลงและบอกหมอติน เกี่ยวกับการที่เขาขอลากลับบ้านและเขาต้องการเงินไปให้กับเขา
หมอจินหัวเราะอย่างไม่ลังเล“ เราควรจะจ่ายค่าผ่าตัดฟรีแลนซ์ให้คุณก่อนหน้านี้ แต่มีคนไข้จำนวนมากเข้ามาไม่หยุดเราจึงไม่สามารถคำนวณได้ รอสักครู่ให้ฉันหาคนคิดออกก่อนและโอนจำนวนเงินไปยังบัตรของคุณ”
“ เออ…ผมอยากได้เงินสด” โจวซินเยียนรู้ว่าเขาจำเป็นต้องใช้เงินเมื่อเขากลับไปในภายหลังดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้าในเรื่องนี้ ที่สำคัญที่สุดเขารู้ว่ามีอุปสรรคอยู่เสมอระหว่างการโอนเงิน …
หมอจินมองไปที่โจวซินเยียน ก่อนที่เขาจะหัวเราะ“ เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เงินคุณ ถ้าคุณกลับไปพร้อมเงินจำนวนมากผมก็ต้องส่งคนไปคุ้มกันคุณด้วยเช่นกัน”
คำตอบนี้ทำให้ โจวซินเยียนตะลึงไปเล