EP 492.1
By loop
“ ฉันสงสัยว่าทำไมผู้อำนวยการแผนกของเราจึงต้องยอมหลิงรัน อยู่ตลอดเวลา” ทันใดนั้นแพทย์คนหนึ่งก็หัวเราะเบา ๆ ราวกับว่าเขาเพิ่งค้นพบความลับที่ทำให้โลกแตก
หลังจากที่เขาพูดแบบนั้นเขาก็ยกคางขึ้นสองสามครั้ง
อย่างไรก็ตามในขณะนั้นแพทย์อีกสองคนไม่มีความตั้งใจที่จะล้อเล่นกับเขา
“ เขาจัดการกับท่อน้ำดีในช่องท้องได้อย่างไรกัน?”
“ ฉันคิดว่า จริงๆแล้วทุกคนก็สามารถผ่าตัดตับได้เหมือนกันหมดนั้นแหละแต่สิ่งที่น่าแปลกคือ หลิงหรันจัดการกับท่อน้ำดีในช่องท้องได้ดีกว่าคนอื่นอย่างไร”
ทั้งสองคำถามของแพทย์ทั่งคู่มาคล้ายว่าจะได้รับคำตอบเดียวกันแล้ว
“ ตอนนี้ฉันก็คิดถึงคำถามนี้เหมือนกัน” จางอันหมินหัวเราะเบา ๆ สองสามครั้ง จากนั้นเขาก็ถอดกล้องส่องผ่าตัดออกมา และเริ่มทำการปิดหน้าท้อง
แพทย์อีกสามคนยืนอยู่ข้างๆจางอันหมินและรอให้เขาพูดต่อ แต่จางอันหมินไม่ได้พูดอะไรเลยจนเวลาผ่านไปแล้วสิบวินาที ทันใดนั้นแพทย์ที่คนหนึ่งก็รู้สึกตัวและพูดว่า“ เดี๋ยวก่อนให้ฉันขอล้างมือก่อน ฉันอย่างจะช่วยด้วย”
หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้นเขาก็ออกจากห้องผ่าตัดออกไปล้างมือ หลังจากที่เขากลับมาเขาขอให้พยาบาลใส่ชุดผ่าตัดให้เขา จากนั้นเขาก็เริ่มทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยคนแรกของจางอันหมิน
ในโรงพยาบาลเกรดเอ เช่นโรงพยาบาลหยุนหัว เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สิ้นเปลืองเวลามากเมื่อต้องหันมาจัดการกับวัสดุรักษาทางการแพทย์
เนื่องจากชุดผ่าตัดมีราคาเพียงประมาณสิบหรือยี่สิบหยวนแพทย์จึงมักใส่ไว้ทุกเมื่อที่ต้องการแม้ว่าชุดผ่าตัดเหล่านั้นจะต้องถูกทิ้งลงถังขยะหลังจากใช้เพียงครั้งเดียวก็ตาม พนักงานก็สิ้นเปลืองเช่นเดียวกันกับการขัดผิวที่ต้องผ่านการฆ่าเชื้อภายใต้อุณหภูมิสูงหลังจากใช้งานเพียงครั้งเดียวและเครื่องมือผ่าตัดที่ต้องฆ่าเชื้อหรือโยนทิ้งหลังจากใช้เพียงครั้งเดียว มีหลายครั้งที่เครื่องมือผ่าตัดถูกโยนทิ้งไปโดยมันไม่เคยถูกใช้เลย มันมีเพียงรองเท้าแตะเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยซักและยังคงสกปรกตลอดกาล
แพทย์ไม่ได้ให้ความสนใจมากนักกับจำนวนของสครับชุดผ่าตัดหรือเครื่องมือผ่าตัดที่ถูกอบความร้อนฆ่าเชื้อ ไม่มีใครบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตอนนี้จางอันหมินมีผู้ช่วยสำหรับการทำการ ปิดหน้าท้องโดยใช้เวลาสั้นลงมาก
ผู้ช่วยถอดที่หนีบออกในขณะที่ยื่นไหมผ่าตัดให้จางอันหมินในขณะที่จางอันมินเย็บเนื้อเยื่อเข้าด้วยกันทีละชั้น การปิดช่องท้องใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
ในตอนนั้นจางอันหมินพูดด้วยน้ำเสียงลึกลับ“ ฉันรู้สึกว่าเหตุผลหลักที่หมอหลิงสามารถทำความสะอาดท่อน้ำดีในช่องท้องได้ดีก็เพราะว่าเขาเลือกตำแหน่งได้ดี”
“ตำแหน่ง?”
“ได้. ตำแหน่งการมีความสำคัญมาก” จางอันหมินกล่าว “ ถ้าพวกนายให้ความสนใจสักหน่อย นายจะสังเกตได้ว่าตำแหน่งที่เขาผ่าตัดตับของผู้ป่วยคือจุดที่นิ่วในท่อน้ำดีมีความเข้มข้นมาก นอกจากนี้มันง่ายมากที่เขาจะเอานิ่วพวกนั้นออกมาได้ทันที”
“ เขาเลือกตำแหน่งเช่นนั้นได้อย่างไร”
“ อาจเป็นรูปแบบหนึ่งของรูปทรงเรขาคณิต” จางอันหมินไม่มีคำตอบจริงๆเขาจึงทำอะไรบางอย่างขึ้นมา แน่นอนความคิดนี้ได้ข้ามความคิดของเขาไปแล้ว จางอันหมินไม่รู้ว่าการคาดเดาของเขาถูกต้องหรือไม่
เนื่องจากแพทย์ที่เข้าร่วมอีกสามคนไม่ได้ดูการผ่าตัดพวกเขาจึงสามารถจินตนาการถึงสิ่งต่างๆได้เท่านั้น ยิ่งพวกเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่จางอันหมินพูดนั้นสมเหตุสมผล
“ มันเหมือนกับ…มันเรียกว่าอะไรอีกล่ะ? โอ้กำลังเย็บแบบเสริมแรง”
“ นายยังจำรูปทรงเรขาคณิตที่เราเรียนสมัยโรงเรียนมัธยมได้ไหม”
“ เราต้องสร้างเส้นเสริมด้วยเมื่อเราต้องการทำให้เส้นเลขาคณิตดูแข็งแรงขึ้นถูกไหม”
“ ตามแนวความคิดนี้คงยากสำหรับฉันที่จะเลือกตำแหน่งที่ดีสำหรับการผ่าตัดตับ ย้อนกลับไปในสมัยมัธยมปลายฉันรู้สึกแย่มากกับการเรียนเกี่ยวกับรูปเลขาคณิต และเป็นเรื่องยากมากที่ฉันจะทำคะแนนในวิชานี้ได้มากกว่าเก้าสิบคะแนนในตอนนั้น “
“ สำหรับฉันฉันเองก็แย่มากในวิชาคณิตศาสตร์ขั้นสูง สิ่งต่างๆเช่นการบูรณาการและเรขาคณิตทำให้เกรดของฉันต่ำเอามากๆ”
แม้ว่าพวกเขาจะออกจากโรงเรียนมานานกว่าสิบปีแล้ว แต่เหล่าแพทย์ก็ยังจำวิชาคณิตศาสตร์ที่พวกเขาเคยเรียนในโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี
พวกเขาคิดถึงสมัยวัยเยาว์ เมื่อย้อนอดีตถึงสมัยอยู่ในโรงเรียน แม้ว่าพวกเขาจะจำสูตรและขั้นตอนที่แน่นอนไม่ได้อีกต่อไป แต่ความยุ่งยากที่พวกเขาต้องเผชิญเพื่อฝึกฝนทฤษฎีทางคณิตศาสตร์เหล่านี้และความรู้สึกอันหอมหวานของความรอดเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาหยุดพักก็ยังคงสดชื่นอยู่ในใจ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดเต็มใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ท้ายที่สุดแล้วสำหรับแพทย์ที่สามารถสร้างตำแหน่งของเขาในโรงพยาบาลหยุนหัวได้เขาจึงเป็นนักเรียนที่โดดเด่นในโรงเรียนได้ตอนนี้ความสามารถของพวกเขาถูกมองว่าไม่มีอะไรนอกจากแพทย์ธรรมดาในโรงพยาบาล มันยิ่งทำให้พวกเขาคิดถึงวัยเรียนมากขึ้น
จางอันหมินไม่มีเวลามากนักสำหรับการพูดไร้สาระ เขาพูดคุยกันอีกเล็กน้อยในขณะที่เขาช่วยซูเจียฟูซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์ของการผ่าตัดทำความสะอาดห้องผ่าตัด จากนั้นเขาก็รีบถอดชุดผ่าตัดและรีบเข้ารับการผ่าตัดตามกำหนดการครั้งต่อไป
เนื่องจากแพทย์ที่อีกสามคนจำเป็นต้องรีบทำการผ่าตัดอื่น ๆ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแยกทางไปทำหน้าที่ แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะพูดคุยกันต่อก็ตาม
แม้ว่าจางอันหมินจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไปที่ห้องผ่าตัดโดยเร็วที่สุด แต่เขาก็กลายเป็นผู้ช่วยคนที่สองเท่านั้น
ผู้ช่วยคนแรกคือ มาหยานลิน เนื่องจากตอนนี้หยูหยวน เป็นหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านและเป็นครั้งแรก ในช่วงสองสามเดือนที่เธอต้องรับผิดชอบการผ่าตัดส่วนใหญ่ในแผนกฉุกเฉิน นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผ่าตัดในเวลากลางคืนเนื่องจากหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านมักเป็นกลุ่มแรกที่ต้องเตรียมพร้อมในการผ่าตัดฉุกเฉิน ด้วยเหตุนี้ หยูหยวน จึงไม่สามารถติดตาม หลิงรัน ไปได้ทุกการผ่าตัด ได้อีกต่อไป
หลิงรันเองก็ไม่ได้สนใจว่าผู้ช่วยคนแรกของเขาจะใคร หากผู้ช่วยคนแรกของเขามีความชำนาญก็จะทำให้หลิงรันสามารถทำงานได้อย่างเร็วขึ้นเล็กน้อยและให้ความสำคัญกับรายละเอียดการผ่าตัดบางอย่างได้ หากผู้ช่วยคนแรกของเขาไม่ชำนาญเขาเพียงแค่ชะลอความเร็วเล็กน้อยและใส่ใจกับทุกอย่างในการผ่าตัด
หากหลิงรันต้องระบุความแตกต่างอย่างหนึ่งระหว่างการมีแพทย์ประจำและมีแพทย์ประจำบ้านมาเป็นผู้ช่วยคนแรกของเขาเขาจะบอกว่าการมีแพทย์ประจำเป็นผู้ช่วยคนแรกของเขา อาจทำให้หลิงรันสามารถผ่าตัดเพิ่มได้อีกสองครั้งก่อนที่จะต้องกินซีรั่มอีกขวด .
ในฐานะหมอผู้ที่ครอบครองซีรัมพลังงานถึงเจ็ดร้อยสิบแปดขวดในตอนนี้ หลิงรันสามารถจัดการกับเคสการรักษาทั้งหมดได้สบายมาก
“ จางอันหมิน เตรียมตัวให้พร้อม นายจะทำหน้าที่สอดกล้องผ่าตัดเข้าไป” เมื่อหลิงรันเห็นว่าจางอันหมินมาถึงแล้วเขาก็มีความสุขมากที่ได้มอบหมายงานให้จางอันหมิน
หลิงรันคิดว่าจางอันหมินที่มีส่วนร่วมในการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับถุงน้ำดีในช่วงห้าหรือหกปีที่ผ่านมาอาจมีทักษะในการใช่กล้องผ่าตัด ระดับผู้เชี่ยวชาญแล้วก็ได้ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นก็ตาม ทักษะของเขาในการจับกล้องผ่าตัด นั้นน่าจะเพียงพอสำหรับการผ่าตัดเช่น การผ่าตัดตับ
“ฮะ?” จางอันหมินถึงกับ อ้าปากค้าง “ ให้ผมถือกล้องผ่าตัดอย่างงั้นหรอ? ให้ผมทำจริงๆหรอ?”
หลิงรันขมวดคิ้ว “ ทำไมนายต้องถามคำถามเดิมซ้ำด้วย!”
“ ผม? ผมถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ หรือไม่? หึ…ผมคิดว่า ผมทำมันได้” จางอันหมินยืนมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง
“ อย่าถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ อีกต่อไป พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ทำเช่นนั้นอีก” หลิงรันไม่ชอบคำพูดของจางอันหมินเลย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอยู่ที่จุดนั้นนานเกินไป
จางอันหมินพยักหน้าอย่างระมัดระวังและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ แต่ถ้าผมถือกล้องผ่าตัด ผมเกรงว่าอัตรานิ่วที่ตกค้างอยู่ในถุงน้ำดีจะสูงมากเลยนะครับ”
เขารู้ถึงความสามารถของตัวเองดี เมื่อใดก็ตามที่เขาถือกล้องผ่าตัด ในระหว่างการผ่าตัดตับ มันจะทำให้การรักษายุ่งยากขึ้นที่จะได้อัตรานิ่งตกค้างเฉลี่ย 17% นับประสาอะไรกับต่ำกว่า 2%
แต่หลิงรันทำให้จางอันหมินมองอย่างงงงวย “ ใครบอกนายว่า การถือกล้องผ่าตัดได้ไม่ดี เป็นปัจจัยชี้ขาดเมื่อพูดถึงอัตรานิ่วตกค้างในถึงน้ำดี”
“ ไม่ใช่เหรอ? มันไม่ได้เป็นอย่างงั้นหรอ…” จางอันหมินตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะหุบปากเพราะเขาไม่ต้องการที่จะตอบคำถามเดิมซ้ำสอง
“ มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการตกค้างของนิ่ว นายสามารถค้นหาเอกสารการวิจัยและอ่านเพิ่มเติมได้หลังจากนี้ การใช้กล้องส่องเพื่อเข้าไปผ่าตัด ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง” แม้ว่าหลิงรันจะขี้เกียจเกินไปที่จะให้คำอธิบายหลังจากคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจที่จะตอบสนองความกระหายความรู้ของจางอันหมิน เขากล่าวว่า“ หากมีอะไรที่นายไม่เข้านายสามารถถาม หยูหยวน ได้ก่อน”
“ โอ้ได้สิ” จิตใจของ จางอันหมินยุ่งเหยิงไปหมด จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแพทย์ที่ทั้งสี่คนรวมทั้งตัวเขาเองเกิดสิ่งผิดปกติในระหว่างการสนทนาของพวกเขาในตอนนี้?