EP 590
เฉินเต๋อกัวจอดรถริมถนนห่างจากสาขาโรงพยาบาลที่โรงพยาบาลไปไฮ่หยาง ในขณะที่เขาเดินไปเขาก็ได้ยินเสียงที่คล้ายกับเสียงหมูที่ทําเมื่อพวกมันถูกเชือดดังออกมาจากสาขาของโรงพยาบาล
ลูกพี่ลูกน้องของเขาเฉาซวงที่มาด้วยก็ยิ้ม “โรงพยาบาลเล็ก ๆ ที่น่าสนใจนะข้างในดูค่อนข้างมีชีวิตชีวามากเลยไม่ใช่หรือยังไงกัน?”
“ฉันเองจะไม่อธิบายว่ามันไม่ได้มีชีวิตชีวาอย่างที่นายคิดหรอก” เฉินเต๋อกัวเองดูท่าทางรำคาญ หลิงรันจะทําการผ่าตัดส่องกล้องส่องให้กับแม่ของเขา มันทําให้เขากังวลมากๆเพราะเขาไม่เคยรู้จักหลิงรันมาก่อนเลยและไม่รู้ว่าฝีมือทางการแพทย์ของหลิงรันจะอยู่ในระดับใดอีกด้วย
แม้ว่าพ่อของเขาจะมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลไบ๋ไฮเซียงในฐานะหัวหน้าเขตและเคยพบกับหลิงรัน แต่เฉินเต๋อกัวก็ไม่ค่อยเชื่อใจพ่อของเขาสักเท่าไรนัก
คนธรรมดามักจะแสดงอคติต่เจ้าหน้าที่รัฐเสมอ หลังจากที่คน ๆ หนึ่งทํางานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมาเป็นเวลานานพวกเขาอาจจะเชื่อว่านั่นเป็นสิ่งที่ปกติๆ คนหนึ่งเป็นเช่นนั้นและลงเอยด้วยการมองโลกที่บิดเบี้ยว
ซึ่งแน่นอนการกระทําเช่นนี้เขามักจะเห็นเลขาของพ่อของเฉินเต๋อกัวนั้นทําเป็นประจํา ถึงแม้เลขาคนนั้นจะตําแหน่งไม่ได้สูงมาก แต่เขามีกล้าที่จะขับรถผ่าไฟแดงหลาย ๆ จุดตลอดทางเพื่อให้ทันเวลาอาหารเช้า
เฉินเต๋อกัวไม่รู้ว่าบุคคลที่ได้รับการยกย่องจากนักวิชาการรู้จะมีฝีมือในการักษาเป็นอย่างไร อีกทั้งอายุของเขายังดูเด็กอยู่เลย แต่เฉินเต๋อกัวก็กับมารู้สึกได้แวบหนึ่งว่าหลิงรันน่าจะไม่ใช้หมอธรรมดาอย่างแน่นอน
ในขณะที่เขาฟังเสียงผิดปกติที่ดังออกมาจากสาขาโรงพยาบาลไบ๋ไฮเซียงในตอนนี้ เฉินเต๋อกัวก็สามารถหลบความอคติภายในใจของเขาออกไปได้
ถึงแม้แม่ของเขาจะไปที่เซี่ยงไฮ้ แต่พวกเขาไม่สามารถส่งเธอกลับไปที่ศูนย์เวชศาสตร์ออร์โธปิดิกส์และการกีฬาและขอให้นักวิชาการสู้เพื่อทําการรักษาเธอได้ ไม่ว่าเขาจะคิดหาวิธีใดก็ไม่มีธีไหนดีเท่ากับวิธีนี้
เฉาซวงเองก็ไม่ได้ดูกังวลอะไรมากกับเหตุการณ์นี้ เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ไม่เห็นแปลกเลยฉันเห็นคนเต้นรําในบ้านงานศพมาก่อน”
“เต้นรําในบ้านงานศพคนนั้นต้องเป็นบ้าแน่ ๆ”
“ดูเหมือนว่าบุคคลนั้นกําลังเต้นรําเพื่อเฉลิมฉลองการเสียชีวิตของอดีตสามีของเธอ” เฉาซวงใช้คําพูดได้ดีมากและเขาเปลี่ยนทิศทางความคิดของเฉินเต๋กัวได้อย่างง่ายดาย
การแสดงออกของเฉินเต๋อกัว ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาเพิกเฉยต่อเสียงแปลก ๆ และเข้าไปในสาขาโรงพยาบาลไบ๋ไฮเซียง
ในขณะที่เขาก้าวเข้าไปในสาขาของโรงพยาบาลเขาเห็นว่าหมอและคนไข้ทุกคนมองไปในทิศทางเดียวกัน
“เกิดอะไรขึ้น?” เฉาซวงริเริ่มที่จะก้าวไปข้างหน้าและถามแพทย์ที่มีประสบการณ์
เขาพยายามเบิกทางเพื่อหามุมเข้าไปสังเกตความวุ่นวายนั้นและพูดอย่างฟุ้งซ่านว่า “ภรรยาของคนไข้พยายามจะแสดง ฉันคิดว่าพวกเขาไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้”
“หือไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้หรือไม่?” ทั้งเฉินเต๋อกัว และเฉาซวง ต่างก็สงสัย
เมื่อหมอที่ดูมีประสบการณ์หันมาและเห็นเครื่องแต่งกายของเฉินเต๋อกัวและ เฉาซวงเขาก็ตัดสินใจที่จะเดินหนีจากเรื่องนี้ไป “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไม่ว่าจะเป็นอะไรผู้หญิงคนนั้นตะโกนมาสักพักแล้ว”
เมื่อ เฉินเต๋อกัว และ เฉาซวงได้ยินสิ่งนี้พวกเขาก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ชายคนนั้นสินะหลิงหรัน” เนื่องจากเฉาซวงสูงกว่าเฉินเต๋อกัวทําให้เขาอยู่ในมุมที่มองเห็นหลิงรันในขณะที่เกิดความชุลมุนได้อยู่
ด้วยความตกใจเฉินเต๋อกัวกล่าวว่า “นายรู้จักเขาได้อย่างไรนายเคยพบหลิงรันมาก่อนหรือป่าว?
“เปล่า แต่ลุงฉันเคยเจอ เขาไม่เคยเห็นบอกว่าหลิงรันจะหล่อมากขนาดนี้?”
“มีคนหล่อมากมายในโลกนี้” เฉินเต๋อกัว หัวเราะ
เฉาซวงส่ายหัว “นายจะไม่พูดแบบนั้นหลังจากเจอเขา”
ในตอนนี้ตําแหน่งที่เฉินเต๋อกัวนั้นมองไม่เห็นอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวก่อนที่จะเขย่งปลายเท้าเพื่อดูความวุ่นวายอีกครั้ง หลิงรันหันมาและหยูหยวนเป็นคนแรกที่เขาสังเกตเห็น “ฉันเห็นคนแคระ”
ผู้ป่วยกําลังร้องครวญคราง
ญาติๆของผู้ป่วยกรีด
ผู้คนที่ล้อมรอบพวกเขากําลังสนทนากัน
ร่างกายของผู้ปวยเบียดเสียดกัน
ใช้เวลาเพียงแค่มองหาหยุหยวนเพียงครั้งเดียวเพื่อมองเห็นเฉินเต๋อกัว และเธอจับจ้องไปที่เขาเหมือนเหยี่ยว
เฉินเต๋อกัวซึ่งอยู่ห่างจากเธอประมาณสิบฟุตยิ้มอย่างรู้สึกผิด เพียงแค่นั้นหยูหยวนก็หยุดยิ้ม
เฉินเต๋อกัวเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขาและพึมพําเบา ๆ กับลูกพี่ลูกน้องของเขา “เมื่อคนสองคนที่มีมุมมองต่างกันมาเจอกันพวกเขาไม่สามารถสื่อสารกันได้เพราะโลกของพวกเขาต่างกัน
“อะไร?”
“ฉันไม่เห็นหลิงหรัน”
“ลองดูดีๆ” เฉาซวงเพียงแค่เม้มริมฝีปาก
เฉินเต๋อกัวปลายนิ้วเท้าอีกครั้ง ในขณะนั้นหลิงรันได้หันมาหาเขาแล้ว
เฉินเต๋อกัว จําเขาได้ทันที เขาพูดด้วยความประหลาดใจ “มิน่าเล่า…”
“คิดเหมือนฉันใช่ไหม”
“ใช่” เฉินเต๋อกัว พิมพ์และสายตาของเขาจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของหลิงรัน
หลิงรันกําลังเย็บแผลของคนไข้
ในตอนนี้จุดที่ได้รับบาดเจ็บหลิงรันได้ฉีกเสื้อในส่วนนั้นออกมา นอกเหนือจากนี้เนื้อตัวของผู้ป่วยยังดูม่อมแม่มมาก ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นดินและเลือด มันเป็นภาพที่น่าสยดสยอง
หลิงรันสวมหน้ากากปิดปากและคิ้วของเขาขมวดมุ่น อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างคล่องแคล่วและเกือบเป็นจังหวะ
จากนั้น เฉินเต๋อกัวก็ให้ความสนใจกับเสื้อผ้าและผมของหลิงรันเขาสังเกตเห็นโดยสัญชาตญาณว่าหลิงรันดูเหมือนจะเป็นพวกที่รักความสะอาดเอามากๆ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขากําลังทําอยู่ตอนนี้ก็ยังห่างไกลจากสุขอนามัย
เนื้อของผู้ป่วยเผยออกมาและบาดแผลก็มีเลือดไหลออกมา เฉินเต๋อกัวเหลือบมองไปที่หลิงรันอีกครั้งก่อนที่เขาจะพูดช้าๆ “เขาดูเหมือนหมอ”
“ถ้าฉันหล่อขนาดนี้ฉันจะอยู่ที่บาร์ตลอดไป” เฉาซวงลูกพี่ลูกน้องของเฉินเต๋อกัว มีบุคลิกที่ค่อนข้างดีและเขาค่อนข้างจะเป็นพวกเข้าสังคมเก่ง อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะทํางานบริการเช่นนั้น
เฉินเต๋อกัวยิ้มและไม่พูดอะไร เขาเฝ้าดูขณะที่หลิงรันเย็บผู้ป่วยเสร็จและพูดคุยกับญาติในครอบครัวของผู้ป่วย เขาเดินไปข้างหน้าหลังจากที่ฝูงขนแยกย้ายกันไป
“หมอหลิง” เฉินเต๋อกัว ทักทายหลิงรัน
“เดี๋ยวก่อนฉันต่อคิวมาตั้งนานฉันต้องรักษาก่อน” เสียงของผู้หญิงที่เคยกรีดร้องนั้นดูน่ากลัวอยู่แล้ว แต่เธอก็ถูกครอบงําเช่นเคย เมื่อเธอหันไปมองหลิงรันเธอก็ไม่สามารถทําให้สีหน้าของเธอออนลงได้ทันเวลา เธอเพียงแค่ลดเสียงลงและพูดว่า “ช่วยรักษาเขาด้วย พ่อของลูกฉันยังต้องทํางาน เป็นพนักงานเสริฟ์และเขาไม่สามารถที่จะพิการได้”
“เขาจะพิการแน่นอน” หลิงรันตอบ จากนั้นเขาก็ยิ้มให้เฉินเต๋อกัวเป็นรอยยิ้มที่ดูสง่างามจริงๆ
หยูหยวนรีบวิ่งไปยืนระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับหลิงรัน เธอบอกว่า “สามีของคุณจะกลับมาเป็นปกติหลังจากที่เขาพันแผลแล้วช่วยตามผมไปทําเอกสารให้เสร็จ”
“เขาไม่ใช่สามีของฉัน” หญิงสาวกล่าวอย่างมั่นใจ และฉันยังไม่ได้รับเอกสารใด ๆ เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หลังจากที่เขาฟื้น”
มีข้อมูลมากมายในคําพูดเหล่านั้นและแพทย์สองสามคนก็หันมามองเธอ
เมื่อหลิงรันจัดการพันแผลจนเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นหลบผู้หญิงคนนั้นและออกจากห้องรักษา
เนื่องจากเขาได้เย็บแผลให้ผู้ป่วยและกําหนดยาให้กับเขาแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ไม่ใช่เรื่องของเขา เขาไม่สามารถดูแลน้อยลงหากผู้ป่วยปฏิเสธที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลและพยายยามบ่ายเบี่ยงค่ารักษา
เฉินเต๋อกัว และเฉาซวงติดตามหลิงรันไปทันที พวกเขาทักทายหลิงรันอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาเดินห่างออกมาจากห้องรักษา
หลิงรันไม่แม้แต่จะหยุดมองพวกเขา
“เรานัดคุณมาผ่าตัดแม่ของผม” เฉินเต๋อกัว ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดคุยเกี่ยวกับแม่ของเขาและจากนั้นเขาก็สามารถดึงดูดความสนใจของหลิงรันได้
“โอ้คุณเป็นลูกของเฉาลู่?” ภรรยาของหัวหน้าเขตเป็นคนเดียวที่หลงรันตกลงที่จะผ่าตัดเมื่อไม่นานมานี้เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าเฉินเต๋อกัวพูดถึงใคร
เฉินเต๋อกัวพยักหน้าอย่างโกรธเกรี้ยวและถอนหายใจตัวยความโล่งอก
“แม่ของคุณมีอาการปวดบ่อยหรือป่าว?” หลิงรันถามคําถามในทันที
“เอิ่ม …” เฉินเดือกัวลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า “อาการบวมที่หัวเข่าของเธอดูเหมือนจะแย่ลงเธอยังสามารถยืนได้ แต่โดยพื้นฐานแล้วเธอไม่สามารถเดินได้แล้ว”
หลิงรันฮัมเพลงเพื่อรับทราบ จากมุมมองของแพทย์อาการของเฉาลู่ถือว่าคงที่
แม้ว่าเฉินเต๋อกัวจะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นว่าหลิงรันเป็นอย่างไรเขาก็รีบพูดว่า “หมอหลิงผมอยากจะขอความช่วยเหลือ”
หลิงรันยังคงเดินไปข้างหน้าและไม่ตอบสนอง
“ประมาณนี้… หมอหลิง…”
หลิงรันเร่งฝีเท้า
เฉินเต๋อกัวเริ่มวิ่ง แม้ว่าขาของเขาจะยาวประมาณ 1.5 เท่าของขาของหยูหยวน แต่ก็ยังถือว่าสั้น เขาเร่งฝีเท้าและสบตากับหลิงหรันก่อนจะพูดต่อ “หมอหลิงคุณกลับไปที่หยุนหัวสักพักได้ไหมช่วงนี้แม่ของฉันกินยาแก้ปวดทุกวันมันอาจจะช่วยเธอได้มากในการผ่าตัดก่อนหน้านี้”
หลิงรันหยุดเดินและขมวดคิ้วเมื่อเอ่ยถึงคนไข้ “ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้พวกคุณไม่ควรคิดที่จะให้ศัลยแพทย์คนอื่นทํางานแทนหรือไม่แพทย์หลายคนในแผนกศัลยกรรมกระดูกของโรงพยาบาลหยุนหัวรู้วิธีดําเนินการกับผู้ปวยที่เป็นอาการอักเสบที่เยื่อบุ”
ถือเป็นการผ่าตัดที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งในบรรดาการผ่าตัดกระดูกหลิงรัน ไม่เห็นความจําเป็นที่จะต้องกลับไปที่หยูหยวนเพื่อสิ่งนี้ ไม่ใช่ว่าเขาสามารถผ่าตัดคนไข้ทุกคนที่ต้องการเขาได้ เขาจะเสียเวลามากขึ้นหากต้องเดินทางไป – กลับ
เฉินเต๋อกัวส่ายหัว “เนื่องจากนักวิชาการจําแนะนําคุณเราอยากให้คุณปฏิบัติต่อแม่ของเรา”
“คนไข้สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้ใช่ไหมพวกคุณสามารถส่งเธอไปที่โรงพยาบาลบาซ๋างเซียงได้” หลิงรันประนีประนอมเล็กน้อย แม้ว่าโรงพยาบาลในสาขาโรงพยาบาลไบ๋ไฮเซียงจะไม่ได้มีอุปกรณ์ครบครัน แต่ผู้ป่วยก็แค่ได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการอักเสบที่เยื่อบุและอุปกรณ์ที่นี่ก็เพียงพอแล้ว
เฉาซวงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เราปล่อยให้คนไข้นั่งอยู่ในรถเป็นเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงไม่ได้หรอกนะถนนเป็นหลุมเป็นบ่อและเธอคงเจ็บปวดมาก”
“พวกคุณสามารถใช้เฮลิคอปเตอร์ได้ด้วย” ผู้อํานวยการแผนกฮงปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลัง ควันบุหรี่ เขาดูเหมือนราชาแห่งแหลมทอง [1]
ออร่าที่เปล่งออกมาจากผู้อํานวยการแผนกฮงนั้นแข็งแกร่งกว่าของเฉาซวง เฉาชวงพึมพำ ทําไมเขาไม่เดินทางปกติ?”
“บางที่วันๆหนึ่งในฐานะหมอก็ต้องมีเรื่องให้ต้องทําหลายเรื่องเช่นกัน” จากนั้นผู้อํานวยการแผนกฮงก็เปลี่ยนหัวข้อว่า “หลิงรัน ถ้าไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่คุณต้องทําในสองสามวันนี้ ”
“พี่ใหญ่พี่สาว!”
“น้องสาว!”
เสียงคํารามสองสามคําดังขึ้นจากด้านหลังและกลบเสียงของผู้อํานวยการแผนกฮง
ทุกคนมองไปข้างหลังพวกเขาและเห็นว่าผู้หญิงที่กําลังกรีดร้องตอนนี้เดินปวกเปียกและ นอนอยู่บนพื้นหยูหยวนกําลังเตรียมทํา CPR อยู่แล้ว
“หัวใจหยุดเต้น นําเครื่องกระตุ้นหัวใจ!” หยูหยวนตะโกนก่อนที่จะเธอนอนหงายและทําการกดหน้าอก
หลิงรันวิ่งเข้าหาหยูหยวน และผู้หญิงคนนั้นทันที