The Bloodline System ศึกแห่งสายเลือด – ตอนที่ 169

ตอนที่ 169

ตอนที่ 169: ความภาคภูมิใจของชั้นเรียนพิเศษ

“ผู้สมัครคนนั้นเพิ่งจะจัดการกับ AI ระดับ 6 โดยไม่เปิดใช้งานสายเลือดของเขาเลยเหรอ?”

ความตกใจในน้ำเสียงของเขาชัดเจน

เขาจ้องไปที่หน้าจอโฮโลแกรมอื่น ๆ พยายามดูว่าเขาพลาดผู้สมัครคนอื่นที่อาจแสดงความกล้าหาญแบบเดียวกับที่กุสตาฟทำหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสอบเป็นเวลานาน เขาก็ไม่พบสิ่งใดเลย

ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่บนหน้าจอกำลังดิ้นรนเพื่อจัดการกับ AI ด้วยการเปิดใช้งานสายเลือดของพวกเขา ตรงกันข้ามกับผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ กุสตาฟจัดการกับ AI 5 ตัวโดยใช้กำลังของตนเองเท่านั้น

AI ระดับ 6 เปรียบได้กับเลือดผสมระดับซูลูขั้นที่ 2 ดังนั้น มันจึงเป็นที่แน่นอนว่าเลือดผสมกำลังมีปัญหาในการเอาชนะพวกเขาแน่นอน

แม้ว่าเลือดผสมส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมจะมีคนที่อยู่ในขั้นที่มากกว่าขั้นที่ 2 แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะ AI ระดับ 6 หลายตัวภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่ได้รับความเสียหาย

‘จากการสแกน สายเลือดของเขาควรจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง… เขาจะสามารถใช้ความแข็งแกร่งระดับนี้ได้อย่างไรโดยไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย’ กราเดียร์ ซานาทัสคิด

“นำข้อมูลของผู้สมัครคนนั้นมา” กราเดียร์ ซานาทัสชี้ไปที่หน้าจอ ซึ่งแสดงให้เห็นกุสตาฟกำลังวิ่งไปทั่วป่า

ทรูนน!

หน้าจอโฮโลแกรมอีกอันปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ซึ่งแสดงข้อมูลส่วนบุคคลของกุสตาฟ

ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด และสิ่งอื่น ๆ มากมายถูกแสดง

“อืม… กุสตาฟ คริมสัน…” กราเดียร์ ซานาทัสพึมพำด้วยใบหน้าแปลก ๆ ที่สงสัยว่าทำไมชื่อนี้ถึงคุ้นเคยสำหรับเขา

ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นทันที เมื่อสังเกตเห็นข้อมูลบางอย่าง

“พ่อแม่ของเขาคือชาวออสโลฟ?” เขาพูดออกมาด้วยความไม่เชื่อและสับสน

‘อัจฉริยะอีกคนจากตระกูลออสโลฟ พวกเขามีลูก 3 คนงั้นหรือ? เพราะพี่ใหญ่ของเอ็นดริกมีสายเลือดที่อยู่ในระดับต่ำ ฉันสงสัยว่าทำไมสิ่งนี้ไม่ดึงดูดสายตาของผู้ตรวจสอบ… เลือดผสมของความสามารถนี้น่าจะผ่านการทดสอบพิเศษแล้ว…’ กราเดียร์ ซานาทัส คิด ในขณะที่งงงวยกับข้อมูลใหม่ที่เขาค้นพบ

‘ทำไมเขาถึงตั้งชื่อว่า “คริมสัน” ถ้าครอบครัวเดิมของเขาคือ ออสโลฟ?’

—–

หน้าจอขนาดยักษ์วางอยู่หน้าห้องโถง และคนหนุ่มสาวหลายคนในชุดเครื่องแบบสีขาวล้วนนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับฉากกั้น

เด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่มีความมั่นใจและภาคภูมิใจ เมื่อทุกคนดูหน้าจอด้วยท่าทางครุ่นคิด

ผนังกระจกสามารถมองเห็นได้ทางด้านขวาของห้องโถง มองเห็นเมฆผ่านผนังกระจก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระดับความสูงปัจจุบันของตำแหน่งนี้สูงมาก

ที่เบาะหน้า เด็กผู้ชายที่มีผมสีดำหยิกแต่งตัวเหมือนคนอื่นๆ นั่งไขว่ห้าง

ในบรรดาคนอื่นๆ ดูเหมือนว่าเขาจะอายุน้อยที่สุดเพราะหน้าตาของเขา

เขามีใบหน้าที่ขัดแย้ง ในขณะที่เขาจ้องไปที่หน้าจอข้างหน้า

“มีปัญหาอะไรเหรอ เอนดริก นายทำตัวแปลก ๆไป ตั้งแต่เรามาถึงห้องโถง นายป่วยหรือเปล่า?” หญิงสาวที่มีผมสีบลอนด์ยาวอยู่ข้างๆ เขาเปล่งเสียงออกมาด้วยสีหน้ากังวลใจ ขณะที่ยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าของเขา

ปะ!

“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อดกลั้น พลางสะบัดมือออกจากใบหน้าของเขา

เธอสะบัดมือออกทันทีแต่ยังคงหันหน้าเข้าหาเขา

เอ็นดริกยังคงกัดฟันของเขา ในขณะที่เขาจ้องไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้าจอ

**เว็บAileenก็อบแบบนี้ไม่ดีนะ ดีแต่ก็อปน่ะ คนอ่านก็สนับสนุนพวกนี้เก่ง**

เธอสังเกตเห็นสิ่งนี้และมองไปตามสายตาของเขา เพื่อดูว่าเขากำลังจ้องมองอะไรอยู่

ในส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้าจอ เด็กชายร่างสูงที่มีผมสีบลอนด์สกปรกเพิ่งออกจากป่าเล็กๆ และตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังทางผ่านภูเขา

“หืม? ทำไมนาย 2 คนดูเหมือนกันจัง” เธอถามด้วยสายตาสงสัย

“ไม่ใช่ธุระของเธอ…” ก่อนที่เอนดริกจะพูดจบประโยคก็มีคนมาขัดจังหวะจากด้านข้าง

“นั่นพี่ใหญ่ของนายไม่ใช่เหรอ” เด็กหนุ่มผมสั้นสีน้ำตาลถาม ขณะชี้ไปที่หน้าจอ

“เอ่อ พี่ใหญ่ของเอนดริกงั้นเหรอ?” หญิงสาวเปล่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจและหันกลับมาจ้องที่หน้าจอ

‘ไม่น่าแปลกใจ’ เธอกล่าวภายในใจ

“พี่ใหญ่งั้นเหรอหมายความว่าไง!” ใบหน้าของเอ็นดริก บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ในขณะที่เขาจ้องไปที่คนที่อยู่ทางขวามือของเขา

พื้นที่รอบ ๆ เอ็นดริกบิดเบี้ยวในทันใด

“ฮึ!” เด็กชายข้างๆ เขาล้มลงกับพื้นโดยคุกเข่าลงกับพื้น

“นายกำลังทำอะไรน่ะ?” เขาตะกุกตะกัก ขณะถาม และร่างกายก็กำลังสั่นเทา

คนอื่นๆ ในห้องโถงต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างกะทันหันและจ้องมองที่ด้านหน้าด้วยท่าทางตะลึงงัน

“เขาไม่ใช่พี่ชายของฉัน!” เอนดริกพูดเสียงดัง ทำให้พื้นที่บิดเบี้ยวมากยิ่งขึ้น

เด็กชายรู้สึกกดดันอย่างหนักลงมาที่เขาทำให้ร่างกายของเขาถูกตรึงไว้กับพื้นอย่างแรง

ป๋อม

“เอ็นดริก หยุด” เด็กผู้หญิงทางด้านซ้ายของเขาเปล่งเสียงออกมา

“หุบปาก! เพียงเพราะเธอผ่านการทดสอบพิเศษมาได้ไม่ได้หมายความว่าเธออยู่ในระดับเดียวกับฉัน!” เอนดริกเปล่งเสียงออกมาด้วยท่าทางภาคภูมิใจทำให้หญิงสาวสะดุ้งกลับพูดไม่ออก

เขาหันไปหาเด็กชายที่กำลังดิ้นรนที่จะเคลื่อนไหวบนพื้น

“ครั้งหน้าระวังคำพูดนะ ไอ้โง่!” เขาพูดก่อนจะหันหลังจะออกจากห้องโถง

เด็กชายที่อยู่บนพื้นรู้สึกว่าอากาศกลับมาเป็นปกติ และร่างกายของเขาก็สว่างขึ้นอีกครั้ง

เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ในขณะที่หอบหายใจพร้อมกับความเขินอายที่มองเห็นได้บนใบหน้าของเขา

แซ่ด! แซ่ด! แซ่ด!

-“ชิ เขาเอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้นทั้งๆที่ยังหนุ่มอยู่”

-“เขาเป็นคลาสพิเศษ ที่คาดไม่ถึงสินะ”

-“ไม่มีนักเรียนชั้นเรียนพิเศษมาที่นี่ซักคนยกเว้นเขา”

– “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขามีพี่ชาย”

ห้องโถงที่เงียบงันส่งเสียงดังเล็กน้อยหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น

เด็กผู้หญิงที่พยายามหยุดเอนดริก ก่อนหน้านี้ช่วยเด็กผู้ชายอีกคนลุกขึ้น

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย เอนดริก ว่านายจะทำอย่างนั้นกับฉัน ฉันเป็นรุ่นพี่ของนายมาหลายปีแล้ว” เขาเปล่งเสียงออกมาหลังจากนั่งลง

“เกิร์ก อย่าโกรธเขาเลย” เธอพูดด้วยสายตาอ้อนวอน

“เธอคอยสนับสนุนเขาเสมอ พอลล่า แต่เขาทำกับเธอเหมือนว่าเธอเป็นคนบ้า” เกิร์กพูดด้วยท่าทางสงสาร

“ฉัน… อย่า…” เธอตะกุกตะกักไม่รู้จะพูดอะไร

The Bloodline System ศึกแห่งสายเลือด

The Bloodline System ศึกแห่งสายเลือด

The Bloodline System

ศึกแห่งสายเลือด

ไทม์ไลน์ในอนาคตโลกถูกเยี่ยมชมโดยสายพันธุ์ที่เรียกว่า ‘Slarkovs(สลาคอฟ)’ หลังจากสูญเสียดาวเคราะห์ที่บ้านของพวกเขาไป และในการค้นหาดาวเคราะห์ดวงใหม่ ‘โลก’ ก็เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้ต่อไป

มนุษย์และสลาคอฟทําข้อตกลงกัน เพื่อแลกกับสลาคอฟที่สามารถอาศัยอยู่บนโลกได้ สลาคอฟได้ซื้อขายเทคโนโลยีและความรู้ของพวกเขาสําหรับบ้านหลังใหม่ พวกเขาคล้ายกับมนุษย์ ยกเว้นบางคนที่มีความแตกต่างเล็กน้อย

ดังนั้นการเข้ากับสังคมจึงไม่เป็นปัญหา ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สลาคอฟและมนุษย์เริ่มผสมพันธุ์กันและแพร่พันธุ์ลูกหลาน สิ่งนี้ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่เรียกว่า ‘พวกเลือดผสม’

หลายศตวรรษต่อมาเลือดผสมสามารถเจาะเข้าไปในสายเลือดของพวกเขาและแสดงผลงานที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

‘กุสตาฟ’เกิดมาในยุคที่สายเลือดเป็นสิ่งที่กำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง เขาต้องดิ้นรนเพื่อให้เหมาะสมกับสายเลือดที่ไร้ประโยชน์
ของเขา ทำให้เขามีความสามารถในการเปลี่ยนสีผม ทำลายความหวังและความฝันของเขา เพื่ออนาคตที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น

ชะตากรรมของเขาพลิกผันเมื่อสถานการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้เขาได้พบกับระบบที่ทำให้เขามีพลังในการปลดล็อก และอัพเกรดสายเลือดโดยการทำภารกิจให้สำเร็จ

แต่เขาก็งงงันกับสองภารกิจที่มีกำหนดเวลา 5 ปี ความสำเร็จจะทำให้เขาได้รับรางวัลที่ไม่อาจจินตนาการได้ …
แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่รอเขาอยู่หากเขาล้มเหลวคือ … ตาย!

ติดตามกุสตาฟในการเดินทางที่น่าสนใจของเขา ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยแสนอันตราย และบางทีอาจเป็นความตาย ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท