World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 84

ตอนที่ 84

งานเลี้ยงจบลงแล้ว

ถานเจิ้นผิงก้าวขึ้นรถ เขามองลูกชายคนโตที่ไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรแล้วถอนหายใจ “คนที่เหมือนกันมักอยู่ด้วยกันจริงๆ”

ลูกชายทั้งสองของเขาเข้ามหาลัยวิชายุทธได้ และกําลังจะกลายเป็นนักศึกษาวิชายุทธ

กระนั้นเมื่อเทียบกับฟางผิงแล้ว มารยาทของพวกเขาต่างกันมาก

ฟางผิงฉลาดมาก เขารู้ว่าเมื่อไหร่ควรสู้เมื่อไหร่ควรถอย

มันเห็นได้จากตอนแรกที่เขาเจรจาแทนจินเค่อหมิง ฟางผิงประเมินสถานการณ์ได้อย่างช้านาญ

เขารับผลประโยชน์จากคนอื่น แต่ไม่ได้ทําให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ผู้อํานวยการจินถึงกับขอบคุณฟางผิงด้วยซ้ํา

ซองแดงที่เขามอบให้มาจากคําสั่งของจินเค่อหมิง นั่นเป็นความจริง

ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ฟางผิงก็เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการแล้ว การฝากเขาดูแลพ่อแม่ให้เป็นแค่การไว้หน้าเขาเท่านั้น

ฟางผิงเป็นนักศึกษามหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ ใครจะโง่ไปสร้างปัญหาให้พ่อแม่ของเขาล่ะ?

เป็นถานเจิ้นผิง ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งที่ฝากผู้ฝึกยุทธขั้นสามดูแลลูกชายต่างหากที่หน้าด้าน

มิตรภาพของหวังจินหยางกับฟางผิงอาจไม่ได้เกิดจากแค่พรสวรรค์อย่างเดียว

มีอัจฉริยะอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แม้ว่าฟางผิงจะไม่เลว แต่ก็มีผู้เข้าสอบวิชายุทธคนอี นอีกมากตัวหวังจินหยางเองก็เป็นอัจฉริยะ แล้วอะไรที่ทําให้เขาเห็นฟางผิงเท่าเทียมกับตน?

ถ้าเกิดฟางผิงมีแค่พรสวรรค์ มันคงไม่พอให้หวังจินหยางมาเกี่ยวข้องด้วยหรอก

ยิ่งกว่านั้นในฐานะผู้นํากระทรวงศึกษา มีตําแหน่งสูงในเมือง ถานเจิ้นผิงมีความเข้าใจบางอย่างอยู่บ้าง

ฟางผิงกับหวังจินหยางรู้จักกันตอนหวังจินหยางกลับมาเมืองหยางเฉิงครั้งก่อนเพื่อจับกุมหวงปิน

ต่อมาก็มีข่าวเปิดเผยว่าหวงปินได้เช่าห้องอยู่ชั้นบนของห้องฟางผิง

หวังจินหยางเดินทางไปเขาชางซานโดยสูญเปล่าและเดินทางกลับมา แต่จู่ๆเขาก็นํา ศพหวงปินไปกรมสืบสวน ระหว่างชันสูตรก็พบว่าหวงปินเสียชีวิตจากแรงอัดกระแทก แต่ก็มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจํานวนมากบนร่างกายรวมถึงร่องรอยของยาในร่างกาย

(ผู้แปล : แรงอัดกระแทกมาจากหวังจินหยาง อาการบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นของฟางผิง)

หวังจินหยางจําเป็นต้องทําแบบนั้นเพื่อจัดการหวงปินด้วยเหรอ?

นอกจากหวังจินหยางแล้ว จะเป็นฝีมือใครได้อีกบ้าง?

ถานเจิ้นผิงไม่ได้คิดมากนัก กรมสืบสวนก็ไม่ได้สืบสวนเพิ่มเติมเช่นกัน เขาตายไปแล้ว คดีจี งถูกปิด

อย่างไรก็ตามความคิดเหล่านี้ไม่ได้หายไป

“หวงปิน ผู้ฝึกยุทธขั้นสองสูงสุด ตกอยู่ในเงื้อมมือของเด็กที่ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ!”

“หลังเกิดเรื่อง หวังจินหยางช่วยกําจัดหลักฐานให้

“สมบัติของหวงปินถูกแบ่งกัน”

“หวังจินหยางไม่ได้มอบทรัพยากรฝึกฝนของเตรียมผู้ฝึกยุทธสูงสุดให้ฟางผิง ตัวหวังจินหยางเองยังมีทรัพยากรให้ตัวเองไม่พอเลยด้วยซ้ํา

เมื่อนําชิ้นส่วนปริศนามาปะติดปะต่อกัน หลายอย่างก็ชัดเจนขึ้น

แม้ว่าฟางผิงจะดูไม่อันตราย แต่เขาเป็นแมงป่องพิษ เขาไม่ขาดความรู้และประสบการณ์เขา ไม่ได้ขาดเมื่อเทียบกับหวังจินหยาง

แถมฟางผิงยังเข้ามหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ได้ เขาอาจไปได้เหนือกว่าหวังจินหยาง

ความคิดเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวเขา ถานเจิ้นผิงพลันเอ่ยขึ้น “ห่าว เทา นับแต่นี้ไปให้คุยกับเพื่อนร่วมชั้นให้มากขึ้น”

ถานเทากับภานเห่ารีบพยักหน้า แม้ว่าพ่อของพวกเขาจะไม่ได้พูดอะไร พวกเขาก็รู้ว่าต้องทํายังไง

ฟางผิงไม่แน่ใจว่าถานเจิ้นผิงกําลังคิดอะไรอยู่

ถ้ามีคนเดาถูกว่าเกิดอะไรขึ้นกับหวงปิน เขาก็ไม่แปลกใจ

ถ้าเขาไม่เป็นที่รู้จัก มันคงไม่ถูกเปิดเผย

อย่างไรก็ตามเขาเข้ามหาลัยวิชายุทธ แถมเขายังสนิทกับหวังจินหยาง มันไม่ยากที่จะสรุปว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

อย่างไรก็ตามฟางผิงในตอนนี้ไม่ได้กังวลว่าคนอื่นจะรู้ไหม

คนนึงเป็นประธานสมาคมวิถียุทธ เป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสาม

อีกคนเป็นนักศึกษาใหม่ของมหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ที่ใกล้เข้าสู่ขอบเขตผู้ฝึกยุทธแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเมืองหยางเฉิงหรือเมืองรุ่ยหยาง ต่อให้มีคนรู้ว่าพวกเขาเอาสมบัติของหวงปินไปพวกเขาก็ไม่แสดงความเห็นกับการกระทําของพวกเขา

ส่วนเหยื่อที่ถูกหวงปินปล้นนั้น

บางคนเสียชีวิต และไม่จําเป็นต้องสนใจบุคคลเสียชีวิตนัก

ทรัพยากรที่หวงปินปล้นมานั้นไม่ได้มาจากช่องทางที่ถูกกฎหมาย ของเหล่านี้ซื้อได้จากตลาดมืด แต่ไม่อาจทําได้อย่างเปิดเผย

เหยื่อที่ยังมีชีวิตอยู่ย่อมไม่กล้าพูดอะไร พวกเขาทําได้แต่กล้ํากลืนอยู่เงียบๆ

ตอนกรกฎาคม ฟางผิงเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองของเพื่อนๆเช่นกัน

นอกเหนือจากนั้น ฟางผิงก็ยังฝึกฝนไม่หยุดและยังสอนน้องสาวฝึกฝนด้วย

และในที่สุดฟางหยวนก็รู้เหตุผลที่เธอไม่อยากอาหารแล้ว!

ฟางผิงไม่มีแผนซ่อนฤทธิ์ยาเติมเต็มเลือดและลมปราณกับเธอ พอเขาไปมหาลัย ยาเติมเต็มเลือดและลมปราณที่เหลือก็ต้องให้น้องสาวใช้

ถ้าเขาไม่อธิบายให้เธอเข้าใจชัดเจน เด็กสาวอาจกินยาตามใจชอบโดยไม่ใส่ใจ จากนั้นมันจะเป็นปัญหา

เมื่อเธอพบว่ามันเป็นเพราะเธอกินยาเติมเต็มเลือดและลมปราณ ฟางหยวนก็ถลึงตาใส่จนแทบฆ่าคนได้

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอรู้สาเหตุที่ทําให้เธอไม่อยากอาหารแล้ว อีกส่วนเป็นเพราะเนื่องจากฟางผิงให้เม็ดยาอันล้ําค่ากับเธอ ซึ่งมันสิ้นเปลืองมาก!

นี่เป็นเม็ดยาที่มีมูลค่าหลายพันหยวน แถมฟางผิงยังหลอกให้เธอคิดว่ามันเป็นช็อคโกแลตรูปถั่ว!

นอกจากนี้ เมื่อเธอคิดถึงตอนที่ฟางผิงให้เม็ดยาเติมเต็มเลือดและลมปราณกับหลิวเหวินหลิวอู่คนละเม็ดก่อนพวกเขากลับไป ฟางหยวนก็รู้สึกอยากไปบ้านน้าเพื่อเอาเม็ดยากลับคืนมาต่อให้ต้องฆ่าคนก็ตาม

ฟางยิ่งใช้เวลาเกือบเดือนฟังคําบ่นของฟางหยวน

เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม มันก็ถึงเวลาฟางผิงออกเดินทาง

เขาจะไปเซี่ยงไฮ้ก่อนกําหนดเพื่อหาทางหาเงินและทําความคุ้นเคยกับเมือง

ณ สถานีรถไฟ

ขณะที่เขากําลังจะออกเดินทาง ฟางหยวนก็ร้องไห้อย่างหนัก

ที่เธอเรียกเขาว่า “ฟางผิงฟางผิง”มาโดยตลอดไม่ได้หมายความว่าเธอจะเกลียดพี่ชาย มันเป็นการแสดงความรักในแบบของเธอ

ฟางผิงมักจะเก็บของอร่อยๆให้เธอ ถ้าเป็นอะไรสนุกๆ เขาก็จะปล่อยให้เธอได้เล่นก่อน ถ้ามีใครรังแกเธอ ฟางผิงก็จะทุบตีคนๆนั้นแก้แค้นให้เธอมาเสมอ

ฟางผิงหลอกให้เธอกินเม็ดยาหลายหมื่นหยวนโดยบอกว่ามันเป็นช็อคโกแลตรูปถั่ว

ตอนนี้ฟางผิงกําลังจะไปเซี่ยงไฮ้และอาจไม่กลับมาหลายเดือน

เพื่อนร่วมชั้นเธอเคยบอกว่านักศึกษามหาลัยวิชายุทธยุ่งมาก และอาจไม่ได้กลับบ้านตอนปิดเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อนด้วย

ตั้งแต่เด็ก ฟางหยวนไม่เคยแยกจากฟางผิงเลย ครั้งก่อนตอนที่ฟางผิงไปสอบสิบกว่าวัน เธอคิดถึงเขามาก

ตอนนี้เขาจะหายไปหลายเดือน เมื่อมาถึงสถานีรถไฟ ฟางหยวนก็ตาบวมเป่ง เธอจับเสื้อฟางผิงไม่ยอมปล่อย

สุดท้าย หลังฟางผิงสัญญากับเธอหลายข้อ พ่อแม่ดุไปหลายที่ ฟางหยวนถึงปล่อยอย่างไม่เต็ม

เมื่อฟางผิงขึ้นรถไฟ เด็กสาวก็สะอึกสะอื้นออกมา “อย่าลืม..อย่าลืมกลับมาบ้านช่วงวันหยุดโทรหาหนูบ่อยๆ ต้องบอกหนูตอนมีแฟน…”

ฟางผิงบีบแก้มเธออย่างไร้ปราณี และมันเป็นครั้งแรกเลยที่ฟางหยวนอยากให้พี่ชายบีบแก้มเธอนานๆ

” พี่ไปก่อนนะ! เป็นเด็กดีล่ะ!”

ฟางผิงโบกมือลาพ่อแม่ เขาก้าวขึ้นไปบนรถไฟท่ามกลางสายตาเป็นห่วงและไม่เต็มใจของครอบครัว

“ฟางผิง! ดูแลตัวเองด้วย!”

เด็กสาวตะโกนเสียงดัง น้ําตารินไหลอย่างห้ามไม่อยู่

ฟางผิงที่ขึ้นรถไฟแล้วรู้สึกเจ็บแปลบในใจ แม้แต่ความคิดที่จะไปมหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ก็หายไปไม่น้อย

World’s Best Martial Artist

World’s Best Martial Artist

Status: Ongoing

ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว!

หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง

ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย!

นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ

“สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?”

อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท