World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 136.2 การเติบโตและความเคยชิน (2)

ตอนที่ 136.2 การเติบโตและความเคยชิน (2)

  ณ โรงฝึก

  ทีมฟางผิงไม่ใช่ทีมเดียวที่รู้ข่าวนี้ ทีมของเฉินหยุนซีก็กลับมาเช่นกัน

  ทั้งสองทีมมองหน้ากันไปมาอยู่ในโรงฝึก บรรยากาศเงียบลงแปลกๆ

  หลังจากนั้นพักใหญ่ ก็มีคนพูดขึ้นมาอย่างฉับพลัน  อาจารย์ไม่ช่วยเรา! เว้นแต่ทุกคนจะตาย! 

   รอบนี้ลู่คุนเฉียงถูกฆ่า รอบหน้าอาจเป็นเราก็ได้! 

   เราไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธขัดเกลาสองครั้ง เราจะตายอย่างไร้ประโยชน์! 

   ทุกคนระวังตัวด้วย อย่าทำอะไรงี่เง่าอย่างการแสดงความเห็นใจต่อศัตรู! ถ้าเราไม่ฆ่า เราจะถูกฆ่าแทน! 

   ความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้! จ้าวเหล่ยเป็นหัวหน้า แต่เขาไม่ใช่คนที่ต้องตาย! 

   ฟางผิง ฉันได้ยินมาว่าพวกนายสู้กับผู้ฝึกยุทธขั้นสองเหมือนกัน โชคดีที่ทีมนายไม่มีใครตาย ฉันคิดว่ามหาลัยคงอดใจรอให้พวกเราตายกันสักสองสามคนแทบไม่ไหว! 

   ทำไมพวกเขาต้องโหดร้ายขนาดนี้? พวกเราเป็นแค่เด็กใหม่ปีหนึ่ง… 

   พูดอะไรกัน? นายไม่ได้ยินคณบดีพูดเหรอ? พวกเขาไม่เสียดายถ้าเด็กใหม่ตาย เพราะพวกเขายังไม่ได้ลงทุนทรัพยากรเลี้ยงดูพวกเรามากนัก… 

   พวกเขามันปีศาจ! 

   สหาย เลิกบ่นเถอะน่า เราควรรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่เซ็นสัญญาแล้ว อาจารย์ถังก็บอกเราเหมือนกันว่ารางวัลที่มอบให้เรานั้นแลกกับชีวิตเรา… 

  ทุกคนคุยกันเข้มข้นขึ้น เฉินหยุนซีที่ขี้อายกัดริมฝีปากอย่างแรกโดยไม่ได้พูดอะไร

  มีคนพูดขึ้นมาเบาๆ  มหาลัยบอกไม่ใช่เหรอว่าภารกิจไม่ได้บังคับ ถ้าเกิด…ถ้าเกิดเราพักเพิ่มอีกสักสองสามวันล่ะ? 

  คนในทีมฟางผิงต่างหันไปมองเขา

  ตามแผนเดิม พวกเขามีกำหนดการออกไปทำภารกิจใหม่ในวันพรุ่งนี้

  ฟางผิงสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดอย่างจริงจัง  ภารกิจขั้นนี้ไม่ได้ยากจนเกินไป แถมมหาลัยยังมอบรางวัลอย่างใจกว้าง ถ้าเราไม่ขยันตั้งแต่ตอนนี้ เราจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกในอนาคต 

   ถ้าเรายอมแพ้ตอนนี้ เราจะป้องกันตัวเองในถ้ำใต้ดินได้ยังไง? 

   ฉันกลัวตายเหมือนกัน ฉันก็ไม่อยากทำภารกิจ แต่ตอนนี้… 

   เราต้องทำ! 

   ภารกิจตอนนี้ไม่ได้ยากจนเกินไป เราจะทำภารกิจขั้นหนึ่งสูงสุดก่อน และรอจนกว่าเราขัดเกลากระดูกได้มากขึ้นและมีอาวุธอัลลอยครบพร้อมค่อยรับภารกิจขั้นสอง 

   นี่เป็นครั้งเดียวที่เราจะได้คะแนนมากขึ้นเพื่อเตรียมตัวสำหรับอนาคต! 

   มหาลัยบอกชัดเจนว่ามีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ส่วนผู้อ่อนแอจะถูกกำจัด 

   เรามีพรสวรรค์ที่สุดในโม๋อู่ ไม่มีใครอยากถูกทิ้งอยู่ข้างหลัง ช้าไปก้าวเดียว นายต้องดิ้นรนเพื่อไล่ตามไปตลอดชีวิต 

   มีใครอยากถอนตัวไหม? 

  ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ จากนั้นถังซ่งถิงก็ถอนหายใจเสียงดัง  เราเข้าโม๋อู่มาแล้ว ทำไมเราต้องพูดเรื่องถอนตัวล่ะ? 

  ความเห็นของฟางผิงที่มีต่อเขาค่อนข้างดีขึ้น เจ้าหมอนี่หยิ่งผยอง แต่เขาก็ไม่ได้เลวร้าย

  เขาไม่ลังเลสักนิดตอนที่ฟางผิงขอดาบอัลลอยจากเขา อย่างน้อยพวกเขาก็เชื่อใจกันถึงขั้นนั้น

  ฟางผิงพยักหน้า เขาเตือนคนอื่นๆ  ไปเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ เปลี่ยนอาวุธ ซื้อยา เตรียมทุกอย่างที่ต้องการ 

   พรุ่งนี้เราจะลุยกันต่อ! 

   บาดแผลของเธอเป็นไงบ้าง? 

   ไม่ใช่เรื่องใหญ่  จ้าวเสวี่ยเหมยตอบ

   ฉันก็เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ 

   ฉะ…ฉันต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกสองสามวัน…  กระดูกมือของจ้าวชิงหัก มันต้องใช้เวลารักษานานเลยทีเดียว

   ไม่เป็นไร ทุกคนทำภารกิจขณะพักฟื้นไปด้วยก็ได้ ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งไม่ได้จัดการยากอะไรขนาดนั้น 

   ขอบใจ… 

  จ้าวชิงไม่อยากถอนตัว ถ้าเขาไม่ได้ออกไปทำภารกิจ เขาก็จะไม่ได้คะแนน

  …

  ฟางผิงออกเดินทางกันในวันที่ 6

  มันไม่ได้สะดุดตาเหมือนครั้งก่อน ไม่มีใครขับรถ พวกเขาตัดสินใจเช่ารถตู้เจ็ดที่นั่งสองคันจากมหาลัย

  ฟางผิงได้ 16 คะแนนมาแล้วตอนอยู่มหาลัย

  เขาใช้ 40 คะแนนไปกับดาบหนัก 4 กิโล ดาบร้ายแรงยิ่งกว่ารองเท้า นั่นเป็นสิ่งที่ฟางผิงรู้จากความผิดพลาดครั้งก่อน

  …

  ณ ชานเมืองเซี่ยงไฮ้ ในโกดังร้างแห่งหนึ่งในเมืองชางฝาน

  ฟางผิงฟันใส่ดาบในมืออีกฝ่ายหักครึ่งและถีบใส่หน้าอก เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้นมาชัดเจน

   หักแขนขาและพาตัวมันไป! 

  ถังซ่งถิงก้าวเข้ามาหักกระดูกเป้าหมายทันทีและแบกร่างอีกฝ่ายขึ้นมา เวลานั้นเองเขาก็เอ่ยถาม  ทุกคนเก่งขึ้นแล้ว นายคิดเรื่องรับภารกิจขั้นสองบ้างไหม? 

   ยัง 

  ฟางผิงพูดขณะที่พวกเขาเดินไปพร้อมกัน  พึ่งวันที่ 10 เอง ฉันมีความคิดนึง นายกับจ้าวเสวี่ยเหมยนำทีมนึง ฉันจะนำอีกทีมนึง พวกเราทั้งสองทีมจะทำภารกิจขั้นหนึ่งพร้อมกัน 

   เราจะมาเจอกันวันที่ 20 และไปทำภารกิจขั้นสอง ฟังดูเป็นไง? 

   ยังไงซะไปทำภารกิจด้วยกัน 10 คนก็ได้คะแนนไม่เท่าไหร่ 

  ถังซ่งถิงขมวดคิ้ว  เรามีอาจารย์คนเดียว… 

   นายยังคิดอยู่เหรอว่าเขาจะช่วยเรา? แล้วถ้าเขาไม่อยู่ล่ะ? 

  ฟางผิงแขวะโจวสือผิง เขาโผล่ออกมาให้เห็นหน้าก่อนหน้านี้ แต่ช่วงนี้เขาหายไปไหนไม่รู้แล้ว

   ตกลง! 

  ถังซ่งถิงกัดฟันพยักหน้า  ฉันจะขัดเกลากระดูกครบ 40 ชิ้นตอนวันที่ 20 ช่วงนี้ฉันก้าวหน้าเร็วมาก 

   ฉันก็ด้วย 

  จ้าวเสวี่ยเหมยตอบ เธอมองฟางผิงและพูด  ที่จริงนายจัดการผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดคนเดียวไหว 

  ฟางผิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ  เราไม่ได้ไปหาเป้าหมายทันทีหลังรับภารกิจ เราจะต้องหาข้อมูลและเตรียมการก่อน ทำภารกิจคนเดียวจะเสียเวลามากกว่า 

  คำพูดนี้ค่อนข้างจริง จ้าวเสวี่ยเหมยไม่ได้พูดอะไรอีก

  พวกเขาแยกทางกันทันที จ้าวเสวี่ยเหมยกับถังซ่งถิงนำทีมสี่คน ส่วนฟางผิงพาสามคนไปด้วย 

  ฟางผิงไม่รู้ว่าโจมสือผิงจะไปติดตามทีมไหน ถ้าอาจารย์ขั้นหกอย่างเขาอยากซ่อนตัว ไม่มีทางที่พวกฟางผิงจะหาเจอได้ Aileen-novel

  ฟางผิงไม่สนใจว่าโจวสือผิงจะแบ่งรางวัลยังไง

  หลังจากทีมฟางผิงเสร็จภารกิจแรก เขาก็ยืนยันได้ว่าโจวสือผิงไม่ได้อยู่กับพวกเขา อาจารย์ขั้นห้าที่ไม่คุ้นหน้าได้รับมอบหมายจากมหาลัยเพื่อแบ่งรางวัลแทน

  …

  วันที่ 15 ทีมของฟางผิงทำภารกิจสำเร็จไปแล้วสองภารกิจ

  มันก็สิบวันแล้วนับตั้งแต่ที่พวกเขาออกมาจากมหาลัย

  ช่วงต้นเดือนฟางผิงขัดเกลากระดูกไปแล้ว 40 ชิ้น ตอนนี้จำนวนเพิ่มขึ้นมาทุกๆสองวัน

  วันที่ 15 ฟางผิงขัดเกลากระดูกไปแล้ว 47 ชิ้น

  ทรัพย์สิน : 8,800,000

  ปราณและเลือด : 297แคล (297แคล)

  จิตใจ : 259เฮิรตซ์ (259เฮิรตซ์)

  ขัดเกลากระดูก : 47 ชิ้น (90%) 1 ชิ้น (58%) 158 ชิ้น (30%)

  ปราณและเลือดของฟางผิงเพิ่มขึ้นมา 1 แคลทุกครั้งที่ขัดเกลากระดูกเสร็จไปหนึ่งชิ้น ซึ่งช้ากว่าช่วงก่อน

  กระนั้นเขาก็จะเพิ่มปราณและเลือดได้เป็น 300แคลเมื่อคุณขัดเกลากระดูกครบ 50 ชิ้น

  เขาอาจมีปราณและเลือดถึง 320แคลเมื่อถึงขั้นหนึ่งสูงสุด

  ผู้ฝึกยุทธขั้นสองส่วนใหญ่จะมีปราณและเลือด 280-300แคลเมื่อทะลวงขั้นเสร็จใหม่ๆ แต่ปราณและเลือดของฟางผิงสูงกว่าคนส่วนใหญ่แล้ว

  ปราณและเลือดสูงก็หมายถึงการระเบิดพลังที่ดีกว่าและความต้านทานที่ดีกว่า

  ในโรงแรมเล็กๆ ฟางผิงกำลังตรวจสอบค่าสถานะ หลังพิจารณาอยู่ครู่นึง เขาก็กัดฟันกล่าว  ฉันต้องขัดเกลากระดูก 50 ชิ้นก่อน! เวลานี้ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าฉันก้าวหน้าเร็วเกินไป! 

  โจวสือผิงไม่อยู่ อาจารย์อีกคนก็ลึกลับซับซ้อน ฟางผิงตัดสินใจขัดเกลากระดูกของตนด้วยความช่วยเหลือของระบบ

  ด้วยวิธีนี้เขาจะใช้ค่าทรัพย์สินมากขึ้น แต่ความมั่งคั่งจะมาพร้อมกับความแข็งแกร่ง

  เขาต้องขัดเกลากระดูกทั้งหมดอีก 152% เพื่อขัดเกลากระดูกให้ครบ 50 ชิ้น 152% ก็หมายถึงค่าทรัพย์สิน 1.52 ล้าน

  ฟางผิงตัดสินใจ เขาตั้งสมาธิเพิ่มความคืบหน้าอยู่ในใจโดยไม่ลังเลอีก

  ไม่นาน ฟางผิงก็รู้สึกถึงปราณและเลือดที่พลุกพล่านที่ปะทะเข้ากับกระดูก

  ระบบใช้ปราณและเลือดเพื่อขัดเกลากระดูก แต่มันก็เพิ่มความแข็งแกร่งของกระดูกเท่านั้น ไม่ได้เพิ่มผิวหนังด้วย

  ตอนนี้ฟางผิงค้นพบแล้วว่ามันมีข้อจำกัด

  เมื่อผู้ฝึกยุทธขัดเกลากระดูกด้วยวิธีปกติ ปราณและเลือดจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเส้นลมปราณและผิวหนังพร้อมกับที่กระดูกได้รับการขัดเกลา

  ถ้าปราณและเลือดเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกระดูกอย่างเดียว มันก็หมายความว่าเขาจะพึ่งพากระดูกไม่ได้อีกถ้าร่างกายเขามาถึงขีดจำกัด

   ฉันรู้ว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น 

  ฟางผิงไม่แปลกใจเลย เขารอไปครึ่งชั่วโมงและเฝ้าดูค่าทรัพย์สินของเขาน้อยลงไปเรื่อยๆ

  เมื่อความรู้สึกเสียวซ่าในกระดูกหายไป เขาก็ดูค่าสถานะอีกครั้ง

  ทรัพย์สิน : 7,280,000

  จิตใจ : 297แคล (299แคล)

  จิตใจ : 257เฮิรตซ์ (259เฮิรตซ์)

  ขัดเกลากระดูก : 50 ชิ้น (90%) 156 ชิ้น (30%)

  ฟางผิงเหยียดขา มีเสียงกร๊อบแกร๊บดังมาจากขาซ้าย

   ขัดเกลากระดูก 50 ครั้ง ฉันเหลืออีก 12 ชิ้นจะเป็นขั้นหนึ่งสูงสุดแล้ว ตอนนี้ฉันได้รับพิจารณาแล้วว่าเป็นขั้นหนึ่งชั้นสูง 

   ฉันควรไปถึงขั้นหนึ่งสูงสุดได้ในกลางเดือนหน้า! 

  ฟางผิงแววตาเปล่งประกาย เขาเร็วเหนือกว่าหวังจินหยางเล็กน้อย เหล่าหวังพึ่งถึงขั้นหนึ่งสูงสุดตอนจบเทอมหนึ่ง เขายังเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดเมื่อเขามาท้าประลองกับผู้ฝึกยุทธของเซี่ยงไฮ้

   แน่นอนว่าปราณและเลือดของเขาต่ำกว่าฉัน แถมเขายังไปถึงขั้นหนึ่งสูงสุดช้ากว่าฉัน จิตใจของเขาย่อมต้องอ่อนแอกว่าฉันด้วยเหมือนกัน… 

   นั่นหมายความว่า…ฉันยังไล่ตามเขาทัน! 

  ฟางผิงใช้เวลาคำนวณการสูญเสียอยู่พักนึง เขาค่อนข้างเสียใจที่เห็นค่าทรัพย์สินลดจาก 10 ล้านเหลือ 7 ล้าน

  ค่าทรัพย์สินเขาลดลงเร็วมาก!

  เขาไม่ได้กลับมหาลัย ดังนั้นจึงยังไม่ได้รางวัลภารกิจ เขาได้แต่เก็บเกี่ยวผลกำไรจากผู้ฝึกยุทธที่เขาโค่นได้ระหว่างภารกิจเท่านั้น

  คนเหล่านี้ ฟางผิงค้นพบว่าคนส่วนใหญ่ยากจนมาก

  ถ้าพวกเขามีเม็ดยา พวกเขาก็จะกินลงไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาแทบไม่ได้เก็บของมีค่าไว้กับตัวเลย

   หลังจากนี้หนึ่งหรือสองภารกิจ เราจะไปรวมตัวกับพวกจ้าวเสวี่ยเหมยและเริ่มทำภารกิจขั้นสอง ผู้ฝึกยุทธขั้นสองมักจะร่ำรวยกว่าผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งเสมอ 

   ฉันแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก ฉันคงสู้กับผู้ฝึกยุทธขั้นสองได้ไม่ยากเท่าไหร่ 

  แทบไม่มีผู้ฝึกยุทธทั่วไปขั้นสองเลยที่ขัดเกลาสองครั้ง ฟางผิงผู้ฝึกยุทธขัดเกลาสามครั้งอาจมีปราณและเลือดสูงกว่าพวกเขาเสียอีก ถ้าพวกเขาประมือกันก็ไม่แน่แล้วว่าใครจะจัดการใคร…

 

World’s Best Martial Artist

World’s Best Martial Artist

Status: Ongoing

ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว!

หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง

ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย!

นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ

“สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?”

อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท