ผมรับรองเลย สิบถึงยี่สิบปีข้างหน้า ในบรรดาผู้ฝึกยุทธรุ่นใหม่ 40 คนที่อยู่ตรงหน้าทุกท่าน พวกเขาจะกลายเป็นบุคคลทรงอำนาจในทุกสาขา ในทุกพื้นที่ของประเทศ!
ไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับการประเมินของหลิวหัวหรง
ภายในหนึ่งปี แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางอัจฉริยะของมหาลัยวิชายุทธ แต่ก็มีบางคนโดดเด่นอยู่เหนือคนอื่น นั่นเป็นความจริง
ถัดไป ผมขอเชิญหัวหน้าทีมทั้งสี่ก้าวออกมา!
ฟางผิง หานซวี่ เว่ยปิน ซุนหมิงยวี่ เดินออกมา
พรุ่งนี้จะเป็นการประลองรอบแรก จะมีการประลองสองนัดในหนึ่งวัน! สุดท้ายทีมจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มทีมชนะกับกลุ่มทีมแพ้
ส่วนสำคัญอีกส่วนของพิธีเปิดวันนี้คือการจับสลากตัดสินคู่ประลอง!
หลิวหัวหรงพูดเสียงดัง บัดนี้ ขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีจางเป่ยฮ่าวเป็นเจ้าภาพจับสลาก!
การมีปรมาจารย์เป็นเจ้าภาพแสดงให้เห็นแล้วว่าการประลองมีความสำคัญแค่ไหน
นอกจากนี้มันยังเป็นการบอกทุกคนด้วยว่าการประลองนี้ไม่มีเล่นใต้โต๊ะ ไม่มีใครรอดพ้นสายตายอดยุทธระดับปรมาจารย์ได้ ไม่แม้แต่ระดับปรมาจารย์เอง!
อีกอย่าง มหาลัยวิชายุทธต่างอยู่ใต้สังกัดกระทรวงศึกษา มีรองรัฐมนตรีระดับปรมาจารย์เป็นเจ้าภาพ ย่อมไม่มีมหาลัยวิชายุทธคัดค้าน
…
หวังว่าจะไม่ใช่จิงอู่นะ
ถังเฟิงพึมพำเบาๆอยู่ชั้นสอง
ต่อให้เจอกับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ ถังเฟิงก็ไม่กังวลนัก
โม๋อู่กับจิงอู่ยืนหยัดอย่างภาคภูมิใจมานานหลายปี รักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งอันดับสองมาตลอด พวกเขาย่อมมีความมั่นใจ
ศิษย์ของพวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะ แม้ว่ามหาลัยวิชายุทธทั่วไปจะมีทรัพยากรอย่างพวกเขา แต่อัจฉริยะยังไงก็ยังเป็นอัจฉริยะ
ต่อให้คุณขยันฝึก แต่เป็นไปได้เหรอที่อัจฉริยะจากโม๋อู่จิ่งอู่จะลดความขยันลง?
เดิมทีพวกเขาอยู่เหนือคุณอยู่แล้ว ครึ่งปีผ่านไป พวกเขาก็ยังอยู่เหนือกว่าคุณ เว้นแต่อีกฝ่ายจะค้นพบผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากเป็นพิเศษ
ผู้ฝึกยุทธขั้นสองทั้งสองคนจากพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธต่างก็ใช้เวลาไปมากมายเพื่อฝึกฝนมาจนถึงขั้นสอง
พวกเขาจะมีเวลามาฝึกวิชาต่อสู้ไหม?
พวกเขาจะมีเวลาออกไปทำภารกิจไหม?
ด้วยจำนวนอัจฉริยะมากมายในจิงอู่โม๋อู่ ไม่ใช่ว่าไม่มีใครที่มีความสามารถบรรลุขั้นสอง อันที่จริงมีมากมายเสียด้วยซ้ำ แต่มีกี่คนกันที่เลือกทะลวงก่อน?
ในความเห็นของถังเฟิง พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธบ่มเพาะผู้ฝึกยุทธขั้นสองทั้งสองมาเป็นแค่การอวดโอ่ความมั่นใจที่ผิดพลาด ตอนนี้เขากังวลแค่ว่าฟางผิงจะจับได้จิงอู่
…
นอกจากถังเฟิง อาจารย์ที่ดูแลมหาลัยอื่นบางคนก็กำลังสวดอธิษฐานเช่นกัน
จับสลากรอบแรกจะส่งผลต่อการประลองนัดหลังๆอย่างใหญ่หลวง
ถ้าสองทีมที่แข็งแกร่งมาประลองกัน มีโอกาสสูงที่จะบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย และทำให้ทีมอื่นได้เปรียบ
บนเวที
จางเป่ยฮ่าวชูกล่องใสขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ข้างในนี้มีลูกบอลอยู่ 4 ลูก แต่ละลูกจะมีชื่อเขียนไว้ข้างใน พวกเธอเลือกหยิบได้คนละลูก
ฟางผิงปล่อยลมหายใจออกมา และก้าวไปหยิบลูกบอล
อีกสามคนก็ไม่ได้ลังเล พวกเขาต่างก็หยิบไปคนละลูก
ทั้งเวทีตกลงสู่ความเงียบ ทุกคนเฝ้ารอรายชื่อประลองรอบแรกอย่างใจจดใจจ่อ
…
ตอนนี้ฟางหยวนกลับมาเป็นปกติแล้ว เธออธิษฐานเบาๆ อย่าเป็นพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ อย่าเป็นพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ…
ในสายตาของผู้คนมากมาย พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธอันตรายเกินไป
ผู้ฝึกยุทธขั้นสองถึงสองคน!
อีกสามทีมมีแค่ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งเท่านั้น…ความแตกต่างกว้างใหญ่เกินไปแล้ว
ทีมแรกที่ต้องเจอกับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธมีโอกาสพ่ายแพ้สูงมาก
พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธเป็นอันดับหนึ่ง จิงอู่อันดับสอง โม๋อู่อันดับสาม แปดมหาลัยพันธมิตรอันดับสี่ นี่เป็นอันดับที่อยู่ในใจทุกคน
แต่ฟางหยวนไม่รู้เลยว่าตอนนี้ ฟางผิงกำลังพึมพำซ้ำไปซ้ำมา พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ!
ซุนหมิงยวี่ที่อยู่ข้างๆมีสีหน้าน่าเกลียด!
หมายความว่ายังไง?
ฟางผิงดูถูกพวกเขาเหรอ?
อีกด้านหนึ่ง หานซวี่หัวเราะออกมาปุบปับ ขอโทษด้วย แต่พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธเป็นของเรา พวกนายต้องเจอกับแปดมหาลัยพันธมิตร
เวรเอ้ย!
ฟางผิงสบถ ไม่ค่อยพอใจนัก เขาเบ้ปากและพูดขึ้นมา ถือว่านายโชคดีไป!
ไม่จำเป็นต้องมาเถียงเรื่องนี้กันหรอก ไม่ช้าก็เร็ว เราก็ต้องเจอกันบนเวทีประลอง
นั่นก็จริง
ทั้งสองคุยกันราวกับไม่มีใครอยู่รอบๆ อีกด้านหนึ่งเว่ยปินยิ้มออกมาซื่อๆ พวกนายไม่มั่นใจไปหน่อยเหรอ?
ซุนหมิงยวี่หัวเสียมาก!
ความเห็นของฟางผิงบอกเป็นนัยๆว่าจิงอู่เอาชนะพวกเขาได้ง่ายๆ
มันยังตีความได้อีกว่าจิงอู่ได้โอกาสฉายแสงแล้ว
สำหรับพวกเขา ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งจะเอาชนะขั้นสอง แต่ในสายตาคนนอก มันเป็นการต่อสู้ข้ามขั้น มันเจ๋งเกินไปแล้ว!
ฟางผิงไม่เหลือบแลซุนหมิงยวี่ กลับกันเขามองเว่ยปินและยิ้มบางๆ มั่นใจก็ดี อาจารย์ของเราบอกว่าถ้าเราสู้ได้ดีและชนะมาง่ายๆ อาจารย์จะมอบคะแนนให้เราฟรีๆ ถ้าเราแพ้ เราอด
เขาไม่ได้ลดเสียงเลย แม้ว่าผู้ชมตรงหน้าอาจจะไม่ได้ยิน แต่ยอดยุทธชั้นสองย่อมได้ยินแน่นอน
หวงจิ่งชำเลืองถังเฟิงแวบนึง ส่วนถังเฟิงก็มุมปากกระตุกยิบๆพลางคิดในใจ ‘บ้าเอ้ย! ฉันบอกตอนไหนกันว่าจะให้คะแนนฟรีๆ!’
‘ฟางผิง เจ้าเด็กนี่ สร้างข่าวลือต่อหน้าผู้คนมากมาย!’
เว่ยปินไม่โกรธ เขาเผยรอยยิ้มออกมา อาจารย์ของเราก็มีความตั้งใจแบบนั้นเหมือนกัน
หลังพวกเขาคุยกันช่วงสั้นๆ จางเป่ยฮ่าวก็เปิดปากพูดด้วยเสียงอันดัง มันดังพอที่จะดังก้องไปทั่วโรงยิม
การประลองรอบแรก จิงอู่จะเจอกับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ!
โม๋อู่จะพบกับแปดมหาลัยพันธมิตร!
พรุ่งนี้ วันที่ 11 มกราคม เวลา 8 นาฬิกา จิงอู่กับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธจะประลองเปิดงาน!
มันไม่สำคัญว่าการประลองจะเริ่มตอนเช้าหรือตอนบ่าย
ส่วนทำไมพวกเขาถึงให้จิงอู่กับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธเริ่มประลองเป็นคู่แรก ก็เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม
ฝ่ายนึงเป็นมหาลัยวิชายุทธที่แข็งแกร่งที่สุด ส่วนอีกฝ่ายเป็นพันธมิตร 89 มหาลัยที่มีผู้ฝึกยุทธขั้นสองถึงสองคน
การเจอกันของทั้งสองฝ่ายจะทำให้ผู้ชมเดือดพล่านในพริบตา
เป็นไปตามคาดไว้ เมื่อผู้ชมได้ว่าทั้งสองฝ่ายประลองกันรอบเช้า ผู้ชมล่างเวทีต่างก็เปล่งประกายด้วยความคาดหวัง
พิธีเปิดใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง ตั้งแต่แนะนำสมาชิกทีม 40 คนบนเวทีทีละคนไปจนถึงจับสลากจับคู่ประลอง
สุดท้ายจางเป่ยฮ่าวก็พูดปิดท้ายก่อนจะก้าวลงเวที จากนั้นพิธีเปิดก็สิ้นสุดลง
…
ก่อนที่พวกฟางผิงจะได้ลงจากเวที ข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วโลกโซเชียล!
การประลองนัดแรกวันพรุ่งนี้ จิงอู่เจอกับพันธมิตร 89 มหาลัย!
โม๋อู่เจอกับแปดมหาลัยพันธมิตร!
ผู้ฝึกยุทธขั้นสอง 2 คนปรากฏในพันธมิตร 89 มหาลัย ส่วนสมาชิกมหาลัยอื่นมีแต่ขั้นหนึ่งสูงสุด!
หัวหน้าทีมจิงอู่ หานซวี่ ไม่เสียชื่อนักเรียนอันดับหนึ่งของประเทศ เขาจะพามหาลัยวิชายุทธปักกิ่งไปคว้าชัยชนะ!
หัวหน้าทีมโม๋อู่ ฟางผิง เป็นเพียงคนเดียวในทีมโม๋อู่ที่เป็นแค่เตรียมผู้ฝึกยุทธตอนสอบเกาเข่า!
มีผู้ฝึกยุทธขั้นสองเพียงสองคน ซุนหมิงยวี่และเฉินเจียเซิง ผู้ชมช็อค!
ยอดยุทธระดับปรมาจารย์ถูกเชิญมาเป็นเจ้าภาพพิธีเปิดงานประลองระดับประเทศของมหาลัยวิชายุทธ!
…
ข่าวแพร่กระจายบนอินเตอร์เน็ตไม่ต่างกับไฟป่า โดยเฉพาะการประลองระหว่างจิงอู่กับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธในวันพรุ่งนี้ คนนับไม่ถ้วนต่างเฝ้ารอด้วยความตื่นเต้น!
นอกจากนี้ยังมีข่าวของฟางผิงด้วย
ชายคนนี้ อัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาในสายตาของคนทั่วไป แต่ผลสอบเกาเข่าน้อยที่สุดในบรรดาผู้เข้าร่วมประลองทั้ง 40 คน
แม้แต่คนจากพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธก็มีผลสอบเกาเข่าไม่ด้อยไปกว่าฟางผิง
ยกตัวอย่างพวกซุนหมิงยวี่และเฉินเจียเซิง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ฝึกยุทธตั้งแต่ตอนสอบ ต่อมาพวกเขาถึงถูกมหาลัยวิชายุทธท้องถิ่นดึงตัวไว้
งานประลองครั้งนี้เกิดขึ้นจากความเห็นของพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าพวกเขาเตรียมการไว้ตั้งแต่แรกแล้ว และดึงตัวผู้ฝึกยุทธมามากมายก่อนเกาเข่าด้วยค่าตอบแทนสูงลิ่ว
