เชี่ย เจอคู่ต่อสู้แบบนี้น่าปวดหัวเหลือเกิน!
ถังซ่งถิงสบถก่อนจะหันหน้ามามองฟู่ชางติ่ง ไอดอลของนายไม่ได้ใช้หอก
หุบปาก!
ฟู่ชางติ่งอารมณ์ไม่ดี เขาจ้องมองไปบนเวที ถ้าไป๋อิ่นปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ปราณและเลือดเขาจะหมดลงซะก่อน
หานซวี่ก็ไม่ต่างกัน หลังประมือกับซุนหมิงยวี่เมื่อกี้ เขาก็บาดเจ็บแล้ว
พวกเขาไม่ได้คุยเรื่องซุนหมิงยวี่เสียมือ นี่ถือว่าเบาแล้ว ถ้ามันไม่ใช่การประลองสาธารณะ คงไม่มีใครหยุดหานซวี่และมีการตายเกิดขึ้น
ขณะที่พวกเขาพึ่งพูดกันจบ ไป๋อิ่นพลันตัวเซ เขาถูกแทงเข้าที่หลัง!
การแทงครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บหนักนัก แต่ไป๋อิ่นเกร็งสันหลัง ทำให้กระบี่ติดอยู่ครู่หนึ่ง
หานซวี่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอีกครั้ง เขาพยายามถอนกระบี่กลับและล่าถอยไปอย่างเร่งรีบ
อย่างไรก็ตามไป๋อิ่นไม่รู้ว่าคาดคำนวณไว้แล้วหรือมีสำนึกการต่อสู้สูงมาก ขณะที่หนีบปลายกระบี่เอาไว้ ขาซ้ายเขาก็เตะกลับหลังด้วยท่าม้าดีดกะโหลกในแง่มุมที่เป็นไปไม่ได้!
ถูกต้อง ท่าม้าดีดกะโหลก!
เวลานี้ไป๋อิ่นไม่มีหนทางโจมตีเขาด้วยดาบ แต่ลูกเตะครั้งนี้โจมตีได้เวลาพอเหมาะ กระแทกเข้าที่น่องหานซวี่เข้าเต็มเปา!
หานซวี่บาดเจ็บที่ขา ท่าร่างเชื่องช้าลงทันที ไป๋อิ่นย่อมไม่พลาดโอกาสนี้!
…
สมาชิกของพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ…มีจิตตานุภาพที่แข็งแกร่งมาก!
หลิวหัวหรงอุทานออกมา จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นซุนหมิงยวี่หรือไป๋อิ่น ถ้าพวกเขาเจอกับหานซวี่กลางป่าเขา ทั้งสองต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม ซุนหมิงยวี่ไม่สนใจอาการบาดเจ็บและจามขวานปะทะกับหานซวี่ ทำให้หานซวี่บาดเจ็บไม่น้อย
ไป๋อิ่นจงใจล่อให้หานซวี่โจมตีที่หลังและถือโอกาสนั้นสร้างความเสียหายที่ขาของหานซวี่ ตอนนี้ไป๋อิ่นเปลี่ยนจากฝ่ายรับเป็นต่อสู้ยืดเยื้อ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับว่าใครทนได้นานกว่ากัน
หานซวี่บาดเจ็บค่อนข้างหนักจากการประลองกับซุนหมิงยวี่ เขาอาจทนได้น้อยกว่าไป๋อิ่น เฉินเสวี่ยเยี่ยนพูดเสริม
กลับกันหลิวหัวหรงไม่เห็นด้วย ไม่จำเป็นเสมอไป ตั้งแต่เริ่มการประลอง ไป๋อิ่นปล่อยออกมาแปดกระบวนเพลง แถมยังเป็นการโจมตีเต็มกำลังทุกครั้ง!
เขาใช้ปราณและเลือดไปมากกว่า 200แคล ตอนนี้เขาร่อแร่แล้ว
สถานการณ์ของหานซวี่ก็ไม่ดีกว่ากันไปเท่าไหร่ไม่ใช่หรือ?
หานซวี่มีปราณและเลือดสูงกว่าเขา แถมวิชาก้าวย่างยังกินพลังน้อยกว่า…
ถ้าแบบนั้น คุณคิดว่าใครจะทนได้นานกว่ากัน?
บางทีอาจเป็นหานซวี่ แต่ต่อให้เขาชนะ เขาก็ไม่เหลือความแข็งแกร่งไปประลองรอบสามแล้ว
…
หลิวหัวหรงมีสายตาเฉียบแหลมไม่อาจปฏิเสธได้
หลังผ่านไปอีกยี่สิบถึงสามสิบวิ ไป๋อิ่นก็แกว่งดาบฟันดาบสุดท้ายแล้วตะโกนออกมา ผมยอมแพ้!
ทันทีที่พูดจบประโยค ร่างกายเขาก็ซวนเซจนเกือบล้มลง
หานซวี่หยุดเคลื่อนไหว ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ เขาหอบเบาๆและไม่ได้พูดอะไร
การโจมตีสองสามกระบวนท่าของไป๋อิ่นเมื่อกี้ทำให้ร่างกายกระเทือน หานซวี่ไม่มีท่าทีเรียบนิ่งอีก เสื้อผ้าบนร่างกายมีรอยขาดวิ่น เผยให้เห็นผิวหนังที่มีคราบเลือดมากมาย
กรรมการไม่ให้เวลาเขาและเอ่ยถามขึ้นมาทันที หานซวี่ ต่อไหม?
ไม่
หานซวี่ไม่ได้เลือกประลองต่อ เขาหยิบหอกยาวขึ้นมาจากพื้นและเดินลงจากเวทีประลอง
ประลองสองรอบ ทั้งสามต่างได้รับบาดเจ็บ
ซุนหมิงยวี่บาดเจ็บหนักสุด แต่หานซวี่ก็บาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน เขาบาดเจ็บหนักกว่าไป๋อิ่นเสียอีก ส่วนไป๋อิ่นบาดเจ็บที่เดียวเท่านั้นคือตอนโดนแทงที่หลัง
…
ล่างเวที ท่ามกลางฝูงชน
อู๋จื้อเห่าหน้าซีด นี่เหรอการประลองยุทธ?
แค่การประลองสองรอบ ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงอันตรายและความไม่แยแสต่อความปลอดภัย
หานซวี่ตัดข้อมือซุนหมิงยวี่โดยไม่ลังเลเลย
ไป๋อิ่นใช้ร่างกายตนเองเป็นตัวล่อ หันกลับใช้ดาบแทงหานซวี่อย่างไร้ความปราณี ถ้าหานซวี่หลบได้ไม่เร็วพอ เขาคงถูกผ่าครึ่งไปแล้ว
ในการประลองรอบสาม มหาลัยวิชายุทธปักกิ่งส่งหลี่หรานออกมา
เธอเป็นผู้หญิง แต่เธอเป็นคนเอาชนะฟู่ชางติ่งได้ตอนที่พบกันครั้งแรก แถมเธอยังเชี่ยวชาญดาบอีกด้วย
คราวนี้พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธส่งคนที่อ่อนแอกว่าออกมา เวลาผ่านไปได้ไม่นาน เท้าเขาก็ถูกดาบหลี่หรานแทงทะลุติดเวที!
อีกฝ่ายร้องโหยหวนไม่หยุด เขาถูกพาลงจากเวทีประลองอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ ฟางหยวนที่นั่งอยู่แถวหน้าแทบน้ำตาร่วง เธอมองหาฟางผิงไปทั่ว!
เจ้าคนขี้โกหก ไหนบอกว่าไม่อันตรายไง!
เพราะตั๋วที่ฟางผิงให้มา เธอจึงได้นั่งอยู่แถวหน้าชมดูการประลอง
ตั้งแต่เริ่มประลองมา เธอเห็นทุกอย่างชัดมาก ตอนที่ข้อมือของซุนหมิงยวี่ถูกตัดในการประลองรอบแรก เธอถึงกับเห็นมือที่หล่นอยู่บนพื้นกระตุกอยู่ครู่หนึ่ง
ข้างเธอ เสี่ยวหลิงกลัวมาพักใหญ่แล้วจนถึงขั้นหลับตาไม่กล้าดูอะไรอีก
ฟางหยวนไม่กล้าดูเช่นกัน แต่เธอหาฟางผิงไม่เจอ หัวใจของเธอร้อนรนขึ้นเรื่อยๆ
…
เวลานี้ฟางผิงจดจ่อกับการประลองจนลืมเรื่องน้องสาวไปสนิท
การประลองรอบสี่ หลี่หรานเจอกับผู้ฝึกยุทธหัวโตจากพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธที่ฟางผิงนึกชื่อไม่ออก
แต่ตอนนี้ เขานึกออกแล้ว!
สมาชิกคนที่สองที่มาจากมหาลัยวิชายุทธเป่ยเจียง เพื่อนร่วมมหาลัยของซุนหมิงยวี่ เหลียงเว่ยเย่า!
บางทีเขาอาจกำลังแก้แค้นแทนซุนหมิงยวี่ วิชาที่เหลียงเว่ยเย่าใช้ดุร้ายมาก!
เขาไม่ได้ใช้อาวุธ แต่สวมถุงมือแทน
เมื่อหลี่หรานควงกระบี่โจมตีเป็นครั้งที่สอง เหลียงเว่ยเย่าก็คว้ากระบี่เอาไว้ ก่อนที่หลี่หรานจะทันปล่อยมือ เธอก็ถูกหมัดของเหลียงเว่ยเย่ากระแทกเข้าที่กลางอก กระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร ทั่วทั้งร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด กระอักโลหิตออกมา จนทุกคนคิดว่าเธออาจถูกสังหารในหมัดเดียวไปแล้ว
เวลานั้นฝูงชนก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง
เขาต่อยผู้หญิง…
อย่าบอกว่าเธอเป็น ‘ผู้หญิง’ เธอพึ่งใช้กระบี่แทงใส่เท้าคนไปหมาดๆ…
แต่มันเป็นการประลองกระชับมิตรไม่ใช่เหรอ? ทำไมพวกเขาถึงสู้กันถึงขั้นนี้?
บางคนก็รู้สึกรับไม่ได้!
มันโหดร้ายเกินไป!
ผู้ร่วมประลอง 6 คนที่ขึ้นเวทีต่างบาดเจ็บกันทั้งหมด แถมอาการบาดเจ็บก็ไม่ใช่เบาๆ โดยเฉพาะหลี่หราน ซุนหมิงยวี่ บาดเจ็บสาหัส
จิงอู่เหลือ 3 คน พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธเหลือ 2 คน คนสุดท้ายเป็นเฉินเจียเซิงขั้นสอง
หลิวหัวหรงเมินคำพูดของฝูงชน เขาพูดด้วยความสงสัยแทน ฝั่งจิงอู่ หานซวี่และหลี่หรานออกจากเวทีแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะเหลือคนมากกว่าพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ 1 คน แต่พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธมีผู้ฝึกยุทธขั้นสองอยู่ คุณคิดว่าใครจะชนะ?
การประลองน่าดูชม จางเจิ้งกวงจากจิงอู่จะเอาชนะเหลียงเว่ยเย่าได้ก่อน ทำให้เฉินเจียเซิงต้องสู้สามหนึ่ง หรือเหลียงเว่ยเย่ากับเฉินเจียเซิงจะช่วยสร้างชื่อให้กับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธกัน?
จางเจิ้งกวงมาจากตระกูลจาง เขาไม่ได้มาสายดุดัน แต่มาแนวอ่อนหยุ่นของไท่จี๋แทน เขาจะใช้อ่อนสยบแข็งได้สำเร็จไหม? เฉินเสวี่ยเยี่ยนพูดต่อ
การประลองรอบแรกคาดไม่ถึงไปหน่อย ซุนหมิงยวี่แพ้เร็วเกินไป หานซวี่ก็จบเกมเร็วมาก…
ผมรู้สึกว่านักศึกษาใหม่เหล่านี้มีรูปแบบต่อสู้ดุร้ายกว่าผมเสียอีก สงสัยผมจะเริ่มแก่ตัวแล้วจริงๆ
ผู้ฝึกยุทธควรเป็นเช่นนี้ ถ้าไม่มีความกล้า งั้นคุณก็ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้ฝึกยุทธ! เฉินเสวี่ยเยี่ยนตอบอย่างเย็นชา
สีหน้าของผู้ชมดูขัดแย้งกันมาก นี่คือความหมายของการเป็นผู้ฝึกยุทธงั้นเหรอ?
ผู้ฝึกยุทธในจินตนาการพวกเขาคือ กุมอำนาจบนโลกยามตื่น นอนบนตักสาวงามยามหลับ นี่เป็นแค่จินตนาการงั้นเหรอ?
ขณะที่ผู้ชมรู้สึกหลากหลาย ผู้ฝึกยุทธคนที่สามของจิงอู่ก็ขึ้นเวที!
การประลองรอบนี้ไม่ได้สู้กันอย่างรวดเร็วหรือสู้กันดุร้ายเหมือนรอบก่อน
จางเจิ้งกวงเน้นหลีกเลี่ยงการปะทะ เขาจะล่าถอยทันทีเมื่อโจมตี
อย่างไรก็ตามสุดท้าย เมื่อเหลียงเว่ยเย่าผลาญปราณและเลือดจนหมด ทุกคนก็พบว่าตนเองคิดไปเอง!
จางเจิ้งกวงที่เชื่องช้ามาตลอดพลันคว้ามือขวาของเหลียงเว่ยเย่าและหักกระดูกอย่างแรง คนที่นั่งแถวหน้าได้ยินเสียงกระดูกหักชัดเจน!
พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธส่งคนออกมาสี่คนแล้ว แถมยังบาดเจ็บร้ายแรงกันทุกคน
บนชั้นสอง สองปรมาจารย์จากพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธมีสีหน้าอึมครึม พวกเขาแทบกระอักเลือด
ฟางผิงกับพวกอยู่กันเงียบๆเช่นกัน หวงจิ่งเข้ามาหาพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวและพูดขึ้นมาเบาๆ ตอนบ่าย ให้คิดว่ามันเป็นการประลองชี้เป็นชี้ตาย มันจะจบลงเมื่อมีฝ่ายใดตาย!
ต่อให้คุณไม่ฆ่าพวกเขา พวกเขาก็จะฆ่าคุณ!
เข้าใจแล้ว
ฟางผิงตอบ ตอนแรกเขายังมีความเพ้อฝันอยู่ แต่หลังเห็นความโหดร้ายข้างล่าง ถ้าเขาคิดเอาชนะโดยไม่ฆ่า เขาคงแส่หาที่ตายเอง
เวลานี้ คำพูดของหลู่เฟิ่งโหรวดังขึ้นมาในหัว
ไม่มีประลองกระชับมิตร เมื่อขึ้นไปบนเวทีประลอง มันก็มีแต่การประลองชี้เป็นชี้ตาย!