World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 166 สิ้นสุดงานประลอง

ตอนที่ 166 สิ้นสุดงานประลอง

  ในการประลองนัดที่สอง สวี่อี้ข่ายประมือกับฟางเหวินเสียง

  สวี่อี้ข่ายทำตามคำแนะนำของฟางผิง เคลื่อนไหวอย่างมั่นคง เขาสู้ยืดเยื้อกับฟางเหวินเสียง ยั่วโมโหเขาเป็นครั้งคราว

  สายตาของทุกคนเบิกกว้าง จ้องมองฟางเหวินเสียงยอดฝีมือขั้นหนึ่งสูงสุด เนื่องจากอาการบาดเจ็บ สุดท้ายเขาก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงครวญคราง

  ในการประลองรอบสาม จางเจิ้งกวงเจอกับสวี่อี้ข่าย

  จางเจิ้งกวงบาดเจ็บที่แขน เขาจึงใช้ได้แค่มือเดียว

  กระนั้นจางเจิ้งกวงที่โกรธเกรี้ยวก็อาศัยแขนข้างเดียว ต่อยต่อเนื่องเจ็ดหมัด ทำให้สวี่อี้ข่ายบาดเจ็บหนัก

  ส่วนตัวเขา ถูกสวี่อี้ข่ายโจมตีสวนกลับ เลือดไหลทะลักจากแขน

  ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดขัดเกลาสองครั้งสองคน ถูกผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งชั้นสูงสองคนเล่นงาน ทำให้สถานการณ์ดูสิ้นหวังยิ่งขึ้น

  …

  ในการประลองนัดสี่ เฉินหยุนซีเผชิญกับจางเจิ้งกวง

  เมื่อเห็นจางเจิ้งกวงบาดเจ็บสาหัส เมื่อขึ้นมาบนเวที เฉินหยุนซีจึงพูดเบาๆ  ถอนตัวตอนนี้ดีกว่าไหม อย่าทำให้การรักษาล่าช้าเลย… 

  บางทีจางเจิ้งกวงคิดว่าเฉินหยุนซีเยาะเย้ยเขา ผู้ฝึกยุทธที่เคยสุขุมหนักแน่นมาตลอดพลันโกรธขึ้นมา

  บางทีเป็นเพราะเขาไม่เต็มใจ หรือด้วยเหตุผลอื่น

  อย่างไรก็ตามจางเจิ้งกวงต่อสู้ดุเดือดมาก!

  ทุกคนคิดว่าแขนซ้ายเขาใช้การไม่ได้ แต่ขณะประมือกับเฉินหยุนซี จางเจิ้งกวงจู่ๆก็ใช้แขนซ้ายที่บาดเจ็บสาหัสปลดปล่อยวิชาขั้นต่ำ เพลงหมัดเพ่าฉวน!

  (ผู้แปล : แปลตรงตัวว่าหมัดปืนใหญ่)

  เมื่อเขาสำแดงเพลงหมัดนี้ คนของจิงอู่หลายคนก็ร้องตะโกน บางคนก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่

  …

  บนชั้นสอง ยอดยุทธถอนหายใจออกมา  เด็กน้อยนี่ต้องการเอาชนะเกินไป เมื่อสำแดงเพลงหมัดเพ่าฉวน ฉันเกรงว่ากระดูกแขนเขาคงแตกเป็นเสี่ยงๆ ต่อให้พักฟื้นสามเดือนห้าเดือนก็อาจไม่ดีขึ้น 

  เฉินหยุนซีเป็นคนเมตตา เมื่อเธอเห็นร่างกายยับเยินของคู่ต่อสู้ เธอก็อยากทำให้ปราณและเลือดเขาหมดจนออกจากเวทีไป

  แต่ก่อนที่เธอจะตอบสนอง จางเจิ้งกวงก็ชกหน้าท้องเธออย่างรุนแรงจนพ่นเลือดสดๆออกมา

  …

  หลังเวที

  ไป๋รั่วซีกล่าวอย่างจนใจ  ฉันเตือนเธอตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าดูถูกใคร อย่าสงสารคู่ต่อสู้บนเวทีประลอง 

   แล้วตอนนี้… 

  จางเจิ้งกวงบาดเจ็บสาหัสมานานแล้ว แต่เฉินหยุนซีปราณและเลือดเต็มเปี่ยม ขึ้นเวทีประลองครั้งแรก สภาพดีจนดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว

  กระนั้นเธอก็ถูกผู้ฝึกยุทธกึ่งพิการระดับขั้นเดียวกันเล่นงาน ไป๋รั่วซีผิดหวังจนถึงขีดสุด

  …

  เห็นได้ชัดว่าเฉินหยุนซีก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

  เธอกระอักเลือดออกมา มองดูจางเจิ้งกวงหมดสติล้มลงกับพื้น

  เขาโจมตีอย่างสิ้นหวัง ทำให้ตัวเองบาดเจ็บหนักก็เท่านั้น

  มันคุ้มไหม?

  จิงอู่แพ้ชัดเจนแล้ว เวลานี้ควรเน้นพักฟื้นไม่ใช่เหรอ?

  ไม่มีใครให้คำตอบเฉินหยุนซีได้!

  เมื่อหานซวี่เป็นคนที่สามขึ้นสังเวียน เฉินหยุนซีที่เปี่ยมไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจก็ระบายใส่หานซวี่ แถมก่อนหน้านี้หานซวี่ยังเป็นคนที่ทำให้หยางเสี่ยวม่านบาดเจ็บหนัก!

   ฉันจะฆ่านาย! 

  นี่อาจเป็นคำพูดที่รุนแรงที่สุดที่ทุกคนได้ยินเฉินหยุนซีพูดนับตั้งแต่เข้าโม๋อู่

  จากนั้น เฉินหยุนซีที่มักจะอ่อนโยนแบบบางก็แสดงความสามารถเชิงยุทธอย่างเต็มที่!

  เธอเรียนวิชากระบี่กับไป๋รั่วซี แต่เวลานี้เฉินหยุนซีโยนกระบี่ทิ้งไปแล้ว

  เธอใช้กระบี่ เพราะเธอรู้สึกว่ามันเหมือนเทพเซียน

  อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายความว่าเธอจะสำเร็จวิชากระบี่มาก

  ตรงกันข้าม เฉินหยุนซีเป็นตัวแทนของการต่อสู้ประชิด ช่วงมหาลัยเปิด เธอใช้ขาเรียวยาวทั้งสองข้างเกือบเตะฟู่ชางติ่งจนตาย

  เฉินหยุนซีใช้แรงเต็มกำลัง ทะยานขึ้นบนฟ้า ย่ำอากาศ ขาทั้งสองเคลื่อนไหวด้วยความเร็วแสง เหวี่ยงเท้าเตะหานซวี่กลางอากาศ!

  …

   ขั้นว่างเปล่า! 

  ผู้ฝึกยุทธในฝูงชนพูดออกมาเบาๆ เป็นขั้นว่างเปล่าอีกคน!

  จากโม๋อู่ ก่อนหน้านี้ฟางผิงก็ได้แสดงจวงกงขั้นว่างเปล่าแล้ว ตอนนี้เฉินหยุนซีก็แสดงความแข็งแกร่งขั้นว่างเปล่าเช่นกัน

  หานซวี่ค่อนข้างตะลึง

  ก่อนหน้านี้ตอนที่เฉินหยุนซีประลองกับจางเจิ้งกวงที่กึ่งพิการ ดูเธอค่อนข้างลำบาก แถมตอนท้ายเธอยังโดนหมัดของจางเจิ้งกวง บาดเจ็บพอดู…

  ทำไมพอถึงตาเขา ผู้หญิงคนนี้ถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน?

  หานซวี่ทั้งสับสนทั้งโกรธ!

  ทำไมพวกเขาถึงเป็นแบบนี้ตลอดเลย!

  คู่ต่อสู้ที่เขาเจอสู้จนไม่คิดชีวิตทุกคน!

  คราวนี้เขาทำผลงานได้ไม่ดี เขาอยากแก้ตัวจากรอบก่อน แต่พอเขาขึ้นเวที เขาก็พบกับผู้หญิงบ้าคนนี้!

  หานซวี่โกรธมาก เขาถูกลูกเตะอีกฝ่ายติดต่อกัน เท้าเขาเบลอวูบ พยายามเว้นระยะห่างแล้วบดขยี้ผู้หญิงคนนี้จนตายด้วยความเร็ว

  อย่างไรก็ตามเมื่อหานซวี่เคลื่อนไหว ขาเรียวยาวคู่หนึ่งก็โผล่มาที่หน้าผากเขาอีกครั้ง!

   วิชาก้าวย่างเธอมีความสำเร็จสูงมาก! 

  หลิวหัวหรงประหลาดใจ เขากล่าวอย่างเร่งรีบ  สมาชิกทีมสำรองของโม๋อู่ เฉินหยุนซี มีจวงกงขั้นว่างเปล่า วิชาก้าวย่างมีความสำเร็จสูง แถมความเร็วยังไม่ได้ด้อยไปกว่าหานซวี่…หานซวี่เจอคู่ต่อสู้แล้ว! 

   อ้าก! 

  หานซวี่โกรธมาก ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!

  สมาชิกทีมสำรอง โม๋อู่พยายามหลอกใคร!

  เขาได้ประมือกับฟู่ชางติ่งและหยางเสี่ยวม่านจากโม๋อู่มาแล้ว จวงกงของทั้งสองยังไม่บรรลุขั้นว่างเปล่า เจ้าพวกขี้โกหก!

  ยิ่งกว่านั้นถังซ่งถิงกับจ้าวเสวี่ยเหมยยังมีความแข็งแกร่งระดับค่าเฉลี่ย แต่พวกเขาเป็นสมาชิกทีมหลัก

  เฉินหยุนซีสมาชิกทีมสำรองจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร!

  หานซวี่โกรธมาก แต่เฉินหยุนซีก็เช่นกัน!

  เพื่อนเธอบาดเจ็บ อาจารย์เธอดูถูกเธอ เธอเห็นจางเจิ้งกวงน่าสงสาร แต่อีกฝ่ายวางแผนเล่นงานเธอ

  คนอื่นได้เข้าทีมหลัก แต่เธอได้เข้าทีมสำรอง

  ถังเฟิงกระทั่งบอกให้เธอไปรับราชการ ไปเป็นฝ่ายธุรการแนวหลัง!

  ส่วนไหนกันที่เธอดีไม่พอ!

  ยิ่งเธอคิดเท่าไหร่ เธอก็รู้สึกเดือดดาล ยิ่งเธอเดือดดาลเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งโกรธ!

  เรียวขาไหววูบ ระเบิดปราณและเลือดที่แข็งแกร่งฉับพลัน โจมตีส่วนล่างของหานซวี่

  เธอจะเตะเจ้าหมอนี่ให้ตาย!

  ผู้ชายไม่ใช่ตัวดี!

  อย่าให้จางเจิ้งกวงมาเจอเธออีกจะดีกว่า ไม่งั้นเธอจะเตะเขาตายแน่นอน!

   เสี่ยวม่านพูดถูก ผู้ชายไม่ใช่ตัวดี! 

  เฉินหยุนซีตะโกนเสียงดังอย่างอดไม่ได้ สายตาเธอมองหานซวี่ไม่ต่างจากสายตาที่มองศัตรูคู่อาฆาต เจ้าหมอนี่ก็อยากเล่นงานเธอเหมือนกัน!

  ตั้งแต่ขึ้นเวที เจ้าหมอนี่ก็อยากเล่นงานเธอ มันน่ารำคาญเสียจริง!

  …

   วิชาต่อสู้ขั้นกลาง ลูกเตะต่อเนื่องสิบแปดกระบวน ดวงของหานซวี่… 

  หลิวหัวหรงไว้อาลัยหานซวี่สามวิ

  เฉินเสวี่ยเยี่ยนเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอธิบายเบาๆ  ลูกเตะต่อเนื่องสิบแปดกระบวน เป็นวิชาเตะระดับสูงในหมู่วิชาขั้นกลาง มันมีเงื่อนไขสูงมาก จวงกงต้องบรรลุขั้นว่างเปล่าถึงจะฝึกได้ 

   ยิ่งกว่านั้น เตะต่อเนื่องสิบแปดครั้ง ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง 

   ลูกเตะแรกของเฉินหยุนซีระเบิดปราณและเลือดประมาณ 10แคล แต่ตอนนี้เธอเตะครั้งที่เจ็ดแล้ว ปราณและเลือดระเบิดออกมาประมาณ 70แคลแล้ว! 

  เมื่อเธอพูดเช่นนั้น เฉินเสวี่ยเยี่ยนก็ตกใจ  ปราณและเลือดของเธอไม่ถูกต้อง! 

  เตะเจ็ดครั้งติดแบบนี้ต้องหมดปราณและเลือดไป 280แคล เธอจะตายเอา!

  อย่างไรก็ตามเฉินหยุนซีไม่มีอาการแบบนั้นเลย หลิวหัวหรงเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา  ไม่ใช่ว่าเธอมีปราณและเลือดสูงกว่า 350แคล เธอ…เธอเหมือนจะกิน… 

  ขณะที่เขาอยากพูดอะไรบางอย่าง เขาก็เห็นหานซวี่ที่อยู่บนเวทีประลองถูกเตะลงพื้นดังปัง ร่างกายโชกไปด้วยเลือด!

  เตะเจ็ดครั้งติด เฉินหยุนซีเตะจนผลาญปราณและเลือดถึง 280แคล!

  ภายใต้การระเบิดปราณและเลือดครั้งนี้ หานซวี่แทบถูกเตะตาย!

   เอ่อ… 

  เกิดความเงียบทั้งโรงยิม

  ไม่มีใครคาดคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้!

  หานซวี่ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของจิงอู่ถูกสมาชิกทีมสำรองจัดการสองครั้งติด!

  …

  หานซวี่ทอดกายอยู่บนพื้น ไม่ได้รู้สึกอะไรนอกจากอยากตาย เขาไม่ได้คิดอะไรอื่นเลย

  เขาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงโชคร้ายแบบนี้!

  เขาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าทำไมผู้หญิงพวกนี้ถึงได้รอเจอกับเขาก่อนค่อยระเบิดความสามารถ!

  จางเจิ้งกวงไอ้เวรกึ่งพิการ เล่นงานเธอได้จนเธอกระอักเลือด แต่พอถึงตาเขา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ตลอดเลย!

  ผู้หญิงคนนี้ หลังระเบิดความสามารถ เธอไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขาเลย

  เขายังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับในช่วงสองสามวันนี้ หลังประมือกับเฉินหยุนซี เขาก็สลัดเธอไม่หลุด ถูกเตะเจ็ดครั้ง ชีวิตแทบดับสูญ!

  ‘ทำไม!’

  นี่เป็นความคิดเดียวที่ล่องลอยอยู่ในใจหานซวี่ ทำไม?

  …

  หลังเวที

  ฟางผิงกลืนน้ำลาย เอ่ยถามเสียงเบา  เธอยังเป็นผู้หญิงตัวเล็กน่ารักอยู่ไหม? 

  ฟู่ชางติ่งดูอายๆ เขาพูดอย่างกระอักกระอ่วน  บางทีเธออาจ…โกรธนิดหน่อย… 

   วันนั้นของเดือนเหรอ? 

   อาจมาก่อนกำหนด… 

  ขณะที่ทั้งสองพูดจาเหลวไหล ไป๋รั่วซีก็ถลึงตามองพวกเขาอย่างดุร้ายก่อนที่สีหน้าเธอจะดูประหลาดใจ

  ‘เด็กคนนี้…เตะเจ็ดครั้งต่อเนื่องได้ตั้งแต่ตอนไหนกัน?’

  นอกจากนี้…สิ่งที่เฉินหยุนซีกินไปเมื่อกี้ดูไม่เหมือนยาปราณและเลือด…มันเป็น…

  ไป๋รั่วซีพิจารณาอยู่ในหัวสักครู่ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ  ยาคืนชีพ? 

  เมื่อฟางผิงได้ยินแบบนั้น เขาก็อ้าปากค้าง ครึ่งลมหายใจต่อมาเขาถึงพูดอย่างตะกุกตะกัก  ยาคืนชีพ? นั่นเป็น…นั่นเป็นยาคืนชีพ 200 คะแนนอันนั้นเหรอ? 

   น่าจะใช่นะ… 

  ไป๋รั่วซีก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่เธอก็ยังพยักหน้า  มีเพียงยาคืนชีพเท่านั้นที่รักษาอาการบาดเจ็บและฟื้นฟูปราณและเลือดให้เธอได้… 

  ฟางผิงตกใจมาก คุณพระ มีคนในคลาสที่ยิ่งใหญ่กว่าครอบครัวของฟู่ชางติ่งแล้ว!

  200 คะแนน!

  แม้แต่ในโม๋อู่ การกล้าจ่าย 200 คะแนนเพื่อแลกเม็ดยาที่ฟื้นฟูปราณและเลือดและรักษาบาดแผลเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธขั้นสามขึ้นไปทำกัน

  ที่อื่นขายยาคืนชีพเม็ดนึงไม่ต่ำกว่าห้าล้าน!

  เธอพึ่งกินไปงั้นเหรอ?

  เธอกินไปด้วยอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ!

  มีหลายคนอยู่หลัง แต่ผู้หญิงคนนี้พึ่งกินไปเพื่อที่จะได้ระเบิดปราณและเลือดให้ได้นานขึ้น?

  ‘เธอควรพูดก่อนหน้านี้! ถ้าเธอบอกก่อน เธอจะได้เอามาให้ฉันได้ ฉันจะได้สังหารหานซวี่ให้!’

  หลังประลองไปหลายรอบ จะกินยาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไม่มีใครสิ้นเปลืองได้เท่านี้

  แม้แต่จิงอู่ก็เช่นเดียวกัน มันไม่คุ้ม

  เม็ดยาทุกชนิดออกฤทธิ์อย่างช้าๆ ซึ่งแปลว่าประสิทธิภาพของยาจะไม่ได้ดีกว่าเพียงเพราะเป็นเม็ดยาที่มีขั้นสูง

  ยาคืนชีพไม่มีขั้น เพราะมันถูกจัดเป็นเม็ดยาประเภทพิเศษ

  เม็ดยาเหล่านี้ใช้ได้ในสถานการณ์ที่บาดเจ็บสาหัสเพื่อยื้อชีวิตรอการช่วยเหลือ ส่วนการฟื้นฟูปราณและเลือดบางส่วนก็เพื่อเป็นการรักษาชีวิตเช่นกัน

  ไม่มีใครใช้เป็นยารักษา!

  เวลานี้ เฉินหยุนซีสิ้นเปลืองกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว!

  …

  ฟางผิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่จ้าวเหล่ยกำลังมึนงง

  ‘ฉันขึ้นเวทีประลองคนที่เท่าไหร่นะ?’

  ‘คนที่สี่!’

  ‘ใช่ คนที่สี่!’

  ‘จิงอู่ยังเหลือสองคน สมาชิกทีมสำรองกึ่งพิการสองคน งั้นฉันยังมีคนให้สู้อยู่ไหม?’

  ขณะที่เขากำลังคิด เฉินหยุนซีก็ประลองกับจางอี้ชวนบนเวทีแล้ว

  สามนาทีต่อมา จางอี้ชวนก็รับมือเธอไม่ไหว ส่วนเฉินหยุนซีปราณและเลือดถูกใช้ไปจนหมดเช่นกัน ทั้งสองล้มลงกับพื้นทีละคน

   ยังเหลือหยางซ่วย…ใช่แล้ว ยังเหลือหยางซ่วย…  จ้าวเหล่ยบ่นพึมพำ

  ฟางผิงที่อยู่ข้างๆก็ได้สติกลับมาเช่นกัน เขาเบ้ปาก  เมื่อวานหยางซ่วยถูกเฉินเจียเซิงเล่นงานจนกระดูกหน้าอกหัก อย่างมากเขาก็คงเหลือความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งชั้นสูง นายอย่าแพ้ดีกว่านะ 

   ฉัน… 

  จ้าวเหล่ยโกรธมาก เขาแทบกระอักเลือด!

  ‘ฉันเตรียมตัวมาหลายเดือนเพียงเพื่อขึ้นเวทีประลองกับผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งชั้นสูงงั้นเหรอ?’

  …

  เวลานี้ ที่จริงแพ้ชนะเป็นที่แน่นอนแล้ว

  หานซวี่แพ้ให้กับเฉินหยุนซีกะทันหัน ซึ่งเกินความคาดหมายของทุกคน

  จิงอู่ก็คาดไม่ถึงเช่นกัน!

  ตามความคิดพวกเขา หานซวี่ชนะเฉินหยุนซีแน่นอน มีหวังชนะจ้าวเหล่ยก่อนจะไปตัดสินกับฟางผิงตอนท้าย

  ถ้าเป็นแบบนั้น ต่อให้จิงอู่แพ้ ความพ่ายแพ้ของพวกเขาก็ไม่น่าอับอาย

  การประลองระหว่างสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าหานซวี่แพ้ให้กับฟางผิงเพราะประลองมาแล้วสองคน มันก็คงไม่เป็นข่าวใหญ่

  นอกจากนี้หลังจากหานซวี่ จิงอู่ยังเหลืออีกสองคน ต่อให้พวกเขาถูกทุบตีจนเละ แต่มันก็ยังพิสูจน์ว่าจิงอู่แข็งแกร่งมาก พวกเขาก็แค่ดวงไม่ดี

  แต่ตอนนี้ล่ะ?

  …

  บนเวที จ้าวเหล่ยหดหู่หงอยเหงาอย่างเห็นได้ชัด

  การรังแกผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดกึ่งพิการที่ขัดเกลากระดูกหนึ่งครั้งให้ความรู้สึกอับอายอยู่บ้าง

  เขารู้สึกว่าแค่เดินขึ้นมาบนเวที คู่ต่อสู้ของเขาก็คงกระอักเลือดแล้ว เขาที่เป็นยอดฝีมือโม๋อู่ต้องรังแกคนพิการแบบนี้เหรอ?

  ‘ฉันควรยอมแพ้แล้วปล่อยให้ฟางผิงมาจัดการแทนไหม?’

  ความคิดนี้ล่องลอยอยู่ในหัว แต่เขาคิดว่า ถ้าเขาทำแบบนั้น อาจารย์เขาคงทุบเขาจนตาย จ้าวเหล่ยได้แต่ถอนหายใจแล้วรังแกคนกึ่งพิการ

  …

  หนึ่งนาทีต่อมา หยางซ่วยจากจิงอู่ก็ล้มลง

  จ้าวเหล่ยไม่ได้ฉวยโอกาสนี้ตามล่าอีกฝ่ายเพราะมันไม่จำเป็น

  อาจารย์ของจิงอู่ถอนหายใจออกมาแล้วตะโกนยอมแพ้

  โม๋อู่ชนะการประลองนัดนี้!

  หลังเวที ฟางผิงก็รู้สึกไร้รสชาติ รอบนี้ตารางการประลองอัดแน่นเกินไป เพราะงั้นพวกเขาถึงได้ประลองกับจิงอู่ที่แทบพิการกันทั้งทีม

  ยิ่งกว่านั้นโม๋อู่มีพลังเต็มเปี่ยม แต่ไม่มีแรงจูงใจต่อสู้เลย

  นอกจากนี้มันยังเป็นการประลองครั้งแรก ในตอนแรก ทุกคนต่อสู้รุนแรงเกินไป ไม่คิดสงวนพลังไว้บ้างเลย

  สุดท้าย แม้แต่ทีมห้าคนยังไม่สมบูรณ์เลย

  ตอนนี้ด้วยการระเบิดพลังกะทันหันของเฉินหยุนซี ไม่ต้องพูดถึงฟางผิง ขนาดจ้าวเหล่ยยังไม่ค่อยได้ทำอะไร แทนที่จะบอกว่าหยางซ่วยแพ้ให้กับจ้าวเหล่ย น่าจะบอกว่าบาดแผลเขารุนแรงจนทำให้ล้มลงเองมากกว่า

   โม๋อู่ชนะ! 

   อันดับหนึ่งของงานประลองนี้ มหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้! 

   อันดับสอง มหาลัยวิชายุทธปักกิ่ง! 

   อันดับสาม พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ… 

  พร้อมกับเสียงอันดังของหลิวหัวหรง การประลองยุทธสาธารณะระดับประเทศครั้งแรกก็จบลงอย่างเป็นทางการ

  งานประลองนี้มีผู้ฝึกยุทธมากมายที่สร้างความประทับใจให้ผู้คน

  ฟางผิงเป็นคนนึง หานซวี่เป็นคนนึง ซุนหมิงยวี่ เฉินเจียเซิง จางเจิ้งกวง หลี่หราน หยางเสี่ยวม่าน จ้าวเสวี่ยเหมย ไป๋อิ่น เหลียงเว่ยเย่า เฉินหยุนซี…แม้แต่เว่ยซู่เจี๋ยที่ถูกเตะส่วนลับก็ถูกรวมด้วย

  มีเพียงจ้าวเหล่ยคนเดียวที่ไม่ถูกนับ

  อันดับหนึ่งวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ แม้ว่าเขาจะได้ประลองนัดสุดท้ายในรอบชิง แต่ก็ไม่มีใครจำเขาได้

  การต่อสู้น่าเบื่อเกินไป!

  ชกสามหมัด กวาดเท้าเตะสองครั้ง บาดแผลของหยางซ่วยก็ทรุดตัว แล้วเขาก็ล้มลงกับพื้น!

  จ้าวเหล่ยแข็งแกร่งไหม?

  ไม่มีใครรู้!

  พวกเขาไม่มีทางรู้ ใครจะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งหรือไม่ พวกเขารู้แค่ว่าจ้าวเหล่ยเอาชนะผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งกึ่งพิการได้

  เมื่องานประลองจบลง ผู้ชมล่างเวทีและนักศึกษาโม๋อู่ล้วนส่งเสียงเฮแสดงความยินดี

  กลับกัน หลังเวทีฟางผิงกับพวกไม่รู้สึกตื่นเต้นเลย

  จ้าวเหล่ยใจลอย รู้สึกโศกเศร้าขุ่นเคือง

  ฟู่ชางติ่งระวังตัวมาก ไม่กล้ามองสาวๆที่ได้รับบาดเจ็บ

  สาวๆพูดกันเสียงเบา รวมถึงจ้าวเสวี่ยเหมยและหยางเสี่ยวม่านที่รีบมาจากห้องพยาบาลด้วย สามสาวคุยกันตื่นเต้นมาก

  ส่วนฟางผิง…

  ตอนนี้ฟางผิงจ้องกระเป๋าของเฉินหยุนซีไม่หยุด เขาอยากรู้ มียาคืนชีพอยู่ในนั้นอีกมั้ยนะ?

   เราชนะ! 

  ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนพูด แต่บรรยากาศหลังเวทีก็ค่อยๆดีขึ้น ทุกคนสบตากันและเผยรอยยิ้มผ่อนคลาย  มันจบแล้ว!

  คลาสเรียนเริ่มไม่นาน พวกเขาก็ต้องมาเตรียมตัวสำหรับการประลอง และมันก็จบลงแล้ว

  โม๋อู่ต่อสู้มาต่อเนื่องและคว้าชัยชนะมาอย่างมั่นคงจนได้อันดับหนึ่ง

   เราชนะแล้ว…ถึงเวลาพูดเรื่องเงินแล้ว… 

  ฟางผิงพึมพำเบาๆพร้อมกับคลี่ยิ้มจริงใจ อันดับหนึ่ง มหาลัยจะมอบรางวัลให้เท่าไหร่กันนะ?

  มันจบแล้ว!

  คลาสเรียนเริ่มไม่นาน พวกเขาก็ต้องมาเตรียมตัวสำหรับการประลอง และมันก็จบลงแล้ว

  โม๋อู่ต่อสู้มาต่อเนื่องและคว้าชัยชนะมาอย่างมั่นคงจนได้อันดับหนึ่ง

   เราชนะแล้ว…ถึงเวลาพูดเรื่องเงินแล้ว… 

  ฟางผิงพึมพำเบาๆพร้อมกับคลี่ยิ้มจริงใจ อันดับหนึ่ง มหาลัยจะมอบรางวัลให้เท่าไหร่กันนะ?

 

World’s Best Martial Artist

World’s Best Martial Artist

Status: Ongoing

ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว!

หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง

ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย!

นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ

“สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?”

อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท