World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 174.2 ผู้จัดจำหน่ายทรัพยากรฝึกฝน (2)

ตอนที่ 174.2 ผู้จัดจำหน่ายทรัพยากรฝึกฝน (2)

  หลังกลับมามหาลัย ฟางผิงก็พิจารณาเรื่องนี้บ้างแล้ว จากนั้นเขาก็แวะแผนกโลจิสติกส์ ซึ่งไม่ค่อยมีคนนักเพราะมหาลัยยังไม่เปิดภาคเรียน

  เฒ่าหลี่ยังคงงีบหลับอยู่บนเคาน์เตอร์ เมื่อเขาเห็นฟางผิงเดินเข้ามา เขาก็ถาม  เจ้าหนู มาอีกแล้ว? 

   อาจารย์หลี่พูดแบบนั้นได้ไง? ผมมาคุยกับอาจารย์ 

  เฒ่าหลี่แค่นเสียง  เหอะเหอะ…ถ้าไม่มีธุระอะไรก็เลิกมาที่นี่ซะ! 

  ฟางผิงไม่คิดมาก เขานั่งลงข้างเคาน์เตอร์โดยไม่สนใจอะไร  อาจารย์ แผนกโลจิสติกส์ของมหาลัยค่อนข้างยุ่งเลยใช่ไหม? 

   ถูกต้อง 

   ยอดฝีมืออย่างอาจารย์ต้องมาขายของแบบนี้ ลดระดับอาจารย์แย่ 

   แถมนอกจากอาจารย์ยังมีผู้ฝึกยุทธอีกหลายคน พวกเขาต้องทำงานเปลี่ยนกะกัน 24 ชั่วโมง เสียเวลาฝึกฝนไปเปล่าๆ อาจารย์ไม่คิดแบบนั้นเหรอ? 

  น้ำเสียงของฟางผิงฟังดูราวกับไม่พอใจแทนพวกเขา เนื่องจากลูกค้าของแผนกโลจิสติกส์ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ คนธรรมดาจึงไม่มีคุณสมบัติดูแล ไม่เพียงแค่นั้นนักศึกษาบางคนมาถามคำถามด้วย พวกเขาแค่แลกทรัพยากรอย่างเดียว ซึ่งมันเสียเวลามาก

  เฒ่าหลี่จ้องมองเขาเงียบๆ เหลวไหล! ทรัพยากรส่วนหนึ่งของมหาลัยถูกเก็บไว้ที่นี่ ถ้าไม่มียอดฝีมือมาดูแลแล้วมันถูกปล้นล่ะ?

  แม้ทุกคนจะเป็นนักศึกษาโม๋อู่และไม่มีความกล้าพอที่จะทำแบบนั้น แต่มหาลัยย่อมไม่ปล่อยให้มีความเสี่ยงแม้แต่น้อยนิด

  ถ้าคนนอกแอบเข้ามาได้แล้วขโมยของจากแผนกโลจิสติกส์ มันจะยิ่งน่าอายกว่านั้นอีก

  ฟางผิงพูดต่อ  อาจารย์ ความเห็นผมคือ ภารกิจบนชั้นสามเป็นแนวคิดที่ดี ลงทะเบียนผ่านออนไลน์ได้เลย 

   มหาลัยได้พิจารณาสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์แลกเปลี่ยนอาวุธและเม็ดยาไหม? ถ้าทำแบบนั้นเราจะประหยัดได้ทั้งแรงคนและเงิน… 

   เอ๊ะ? สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์…  เฒ่าลี่ดูตกใจ

   ครับ ตอนนี้คนธรรมดามากมายซื้อของผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกันแล้ว มันสะดวกและรวดเร็ว พวกเราผู้ฝึกยุทธไม่ควรตามยุคสมัยบ้างเหรอ? 

  เฒ่าหลี่ขมวดคิ้ว  มันต่างกัน ของเรามูลค่ามันสูงเกินไป… 

   ที่จริงมันก็เหมือนกัน  ฟางผิงบอกเขา  ไม่ได้ต่างกันมากนัก ผู้ฝึกยุทธก็เป็นคนเหมือนกัน พวกเขาก็หวังให้ซื้อทรัพยากรง่ายขึ้นและเร็วขึ้นเหมือนกัน 

   รุ่นพี่บางคนก็อยู่ที่อื่น พวกเขาต้องกลับมาทุกครั้งเมื่ออยากแลกยา มันลำบากเกินไป 

   อาจารย์ ผมมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ผมค่อนข้างเชี่ยวชาญเรื่องวิ่งทำธุระให้คนอื่น 

   ถ้าผมสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มหาลัยและช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยไม่คิดค่าแรงเลย อาจารย์คิดว่ามหาลัยจะสนับสนุนโปรเจ็คนี้ไหม? 

   หืม?  เฒ่าหลี่แววตาเป็นประกายวูบนึง เขาจ้องมองฟางผิงอย่างจริงจังสักครู่ก่อนจะหัวเราะออกมา  เด็กน้อย เธอไม่ใช่คนที่ยอมทำงานฟรีๆ สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำธุระให้ฟรี…ไม่ มันไม่ใช่แน่ 

   ฉันว่าเธอเล็งทรัพยากรของมหาลัยไว้มากกว่า เธอวางแผนจะหนีไปหลังได้ทรัพยากรมหาศาลใช่ไหม? 

   อาจารย์พูดเรื่องอะไร?  ฟางผิงเถียงกลับอย่างไม่พอใจ  ผมดูเหมือนคนที่กล้าทำอะไรแบบนั้นเหรอ? มีปรมาจารย์มากมายอยู่ที่นี่ ผมไม่กล้าทำหรอกนอกจากผมจะอยากตาย 

   อาจารย์ ผมจริงจังนะ ผมจะสร้างแพลตฟอร์มให้มหาลัยฟรี 

   ผมไม่อยากให้อาจารย์เสียเวลาไปเปล่าๆ นักศึกษาจะได้ไม่ต้องแวะมาแผนกโลจิสติกส์ด้วย เพราะพวกเขาแลกของที่อยากได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 

   ส่วนผม ผมจะมาเอาทรัพยากรจากมหาลัยเมื่อได้รับคำสั่งซื้อแล้วเอาไปส่งให้ลูกค้า 

   แน่นอนผมจะจัดส่งไม่ได้หากลูกค้าอยู่ไกลเกินไป แต่เราจะค่อยๆขยายขอบเขตขึ้น 

   มหาลัยไม่จำเป็นต้องใช้เงินแม้แต่หยวนเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังคนเลย ผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง! 

   แน่นอน ผมจะเก็บค่าส่งประมาณ 100 หยวนจากนักศึกษา มันไม่สูงใช่ไหมล่ะ? 

   มันไม่เพียงแต่จะลดปัญหาให้อาจารย์ นักศึกษาจะได้ไม่ต้องลำบากด้วย เงินเล็กน้อยแค่นี้ ผมคิดว่าคงไม่มีใครใส่ใจ 

   อาจารย์ ผมมาจากครอบครัวธรรมดา ผมได้แต่พึ่งพาตัวเองเพื่อคิดวิธีหาเงิน… 

   ผมจะรับผิดชอบค่าชดเชยด้วย ถ้าของหายในความรับผิดชอบของผม ผมจะชดใช้เต็มจำนวน ถ้าเป็นแบบนี้ ทั้งมหาลัยและนักศึกษาจะได้ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความเสี่ยง… 

  อีคอมเมิร์ซเป็นธุรกิจที่พึ่งเกิดขึ้น ผู้ฝึกยุทธรุ่นเก่าแทบไม่มีใครเข้าใจเรื่องนี้

  เฒ่าหลี่พิจารณาคำพูดของฟางผิง จากที่ฟางผิงพูดมา ดูเหมือนจะมีข้อดีมากมาย แทบจะไม่มีข้อเสีย

  อาจารย์จะมีงานลดลง กำลังคนและค่าใช้จ่ายจะลดลง แถมยังลดปัญหาให้นักศึกษา…

  แต่เจ้าหนุ่มนี่จะทำไปเพื่อค่าส่งเล็กน้อยแค่นั้นจริงเหรอ?

  ฟางผิงสัญญาว่าจะชดเชยค่าเสียหายให้ นั่นหมายความว่าถ้าเขาทำอะไรหายไป ทางมหาลัยก็ไม่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน

  หลังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเฒ่าหลี่ก็เริ่มรู้สึกปวดหัว เขาถาม  เธอจะไหวเหรอ? เธอต้องรู้ก่อนนะว่านักศึกษาโม๋อู่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวิทยาเขต เธออาจส่งของรอบวิทยาเขตได้ แต่เมื่อคนนอกรู้ว่าเธอส่งเม็ดยาและอาวุธ มันต้องมีคนที่มีเจตนาไม่ดีแน่นอน 

   อาจารย์ ช่วงแรกเราจะเริ่มทำในวิมหาลัยก่อน  ฟางผิงเพิ่มความมั่นใจให้เฒ่าหลี่  ส่วนส่งนอกมหาลัย ผมจะจ้างผู้ฝึกยุทธทำ ให้พวกเขาคุ้มกันการจัดส่ง 

   ที่จริงผมไม่คิดว่ามันจะเสี่ยงเหมือนที่อาจารย์คิด ผู้ฝึกยุทธล้วนเป็นหัวกะทิ ถ้าไม่ได้กำไรหลักพันล้าน จะมีผู้ฝึกยุทธขั้นกลางมากแค่ไหนเชียวที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อก่ออาชญากรรม? ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธขั้นต่ำก็คงไม่ทำอะไรถ้าสิ่งของไม่ได้มีมูลค่าหลายล้าน 

   ช่วงแรกเราจะไม่รับคำสั่งซื้อราคาแพง ถ้าเราทำแบบนั้นความเสี่ยงจะลดน้อยลง 

  ในที่สุดเฒ่าหลี่ก็สนใจ แต่เขาก็ยังมีความไม่สบายใจหลงเหลืออยู่ เขาถามด้วยความสงสัย  เธอจะไม่หนีหลังได้เม็ดยาพวกนั้นไปจริงๆน่ะเหรอ? 

  ฟางผิงโต้แย้ง  อาจารย์ผมไม่ได้บ้า ผมเป็นนักศึกษาอัจฉริยะของโม๋อู่ ทำไมผมต้องทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นด้วย? 

   ผมแค่อยากหาเงินจากค่าส่งของ มันเป็นงานหนัก แต่ผมก็ได้เงินไม่มากหรอก 

   ผมต้องจัดการแพลตฟอร์มด้วย 

   แน่นอน มหาลัยจะพัฒนาขึ้นมาเองก็ได้ แต่ด้วยสถานะอาจารย์มันคงไม่เหมาะสม 

   มหาลัยควรสนับสนุนนักศึกษายากจนอย่างผมที่ต้องการเริ่มธุรกิจของตัวเอง อาจารย์ว่ามหาลัยจะเห็นด้วยไหม? 

   เลิกพูดถึงความจนของเธอทุกครั้งจะได้แล้ว! 

  เฒ่าหลี่กลอกตามองบน ถ้าเจ้าหนูนี่จน งั้นคนจนคงมีครึ่งค่อนโลกแล้ว!

  เขาแลกเม็ดยาไปมากแค่ไหนแล้ว? เขาขายได้กำไรมาเท่าไหร่?

  แต่ตอนนี้เจ้าหนูนี่ดันมาร่ำร้องบอกตัวเองจนอีก!

  หลังพิจารณาชั่วครู่ เฒ่าหลี่ก็พูด  มันอาจเป็นไปไม่ได้ แต่… 

  ฟางผิงแววตาเปล่งประกายคาดหวัง

   แต่เธอยังแข็งแกร่งไม่พอ นอกเสียจากว่า…  เฒ่าหลี่หยุดพูด

   นอกจากอะไร? 

   นอกจากว่าเธอไปขอให้อาจารย์เธอมาค้ำประกันให้ และรับผิดชอบกรณีสูญเสียทรัพย์สิน เธอทำเองไม่ได้ เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเธอมีทรัพย์สินเท่าไหร่? 

   อาจารย์ของเธอต่างออกไป อาจารย์ของเธอร่ำรวย ถ้าเธอหนีไปกลางคัน ทางมหาลัยจะได้เรียกเก็บค่าชดเชยจากอาจารย์ของเธอ 

   นอกจากนี้ มหาลัยต่างก็วุ่นวายกับถ้ำใต้ดิน ถ้าเธออยากทำจริงๆ พวกเขาย่อมไม่สร้างความลำบากให้เธอ 

   อีกเรื่อง  เฒ่าหลี่เตือน  ถ้าเธออยากส่งของ เธอต้องให้คนนอกเข้ามามหาลัย นั่นเป็นปัญหานิดหน่อย 

   ถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอกับอาจารย์ของเธอต้องเป็นคนรับผิดชอบ หลู่เฟิ่งโหรวจะยอมเป็นคนค้ำให้เธอเหรอ? ถ้าเธอโน้มน้าวหลู่เฟิ่งโหรวได้ อาจารย์จะไปคุยเรื่องนี้กับมหาลัยให้เอง 

   ผมต้องหาคนมาค้ำประกันเหรอ?  ฟางผิงรู้สึกปวดหัวขึ้นมา หลู่เฟิ่งโหรวจะยอมเหรอ?

  เขาไม่มั่นใจ!

  ถ้าฟางผิงได้คำสั่งซื้อชุดใหญ่แล้วหนีไปพร้อมกับเม็ดยา ทางมหาลัยจะสูญเสียหลักพันล้าน

  ยังไงเสีย การแลกเปลี่ยนย่อมไม่ใช่แค่คนสองคน

  เฒ่าหลี่คิดสักครู่แล้วกล่าว  เอ้อ ถ้ามหาลัยเห็นด้วย พวกเขาน่าจะส่งคนมาคุมเธอด้วย อย่าคิดฝันหวาน… 

   ไม่มีปัญหา 

  จากนั้นฟางผิงก็แทบไม่สนใจเรื่องอื่นเลย เขายิ้มประจบอีกฝ่าย  อาจารย์หลี่คิดว่ามันจะได้รับการอนุมัติไหม? หรือมหาลัยจะทำเอง? 

   ถ้าเธอไม่พูดถึง มหาลัยก็อาจทำเองสักวัน  เฒ่าหลี่พูด  แต่ถ้าเธอพูดถึง มหาลัยก็จะไม่แย่งเธอ แต่เธอต้องมีความสามารถ โม๋อู่สนับสนุนนักศึกษาที่มีความสามารถเสมอ ยิ่งเธอเก่ง เธอก็จะได้รับมากขึ้น 

   ’งั้นผมรบกวนอาจารย์จัดการเรื่องนี้หน่อยได้ไหม? ผมจะไปหาอาจารย์… 

  สิ้นเสียงพูด ฟางผิงก็รีบจากไป

  เฒ่าหลี่เห็นฟางผิงหายลับสายตาไปอย่างรวดเร็วแล้วรู้สึกหลากหลาย เจ้าเด็กนี่ค่อนข้างฉลาด แต่มันอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป การหันไปสนใจเรื่องอื่นอาจส่งผลต่อการฝึกยุทธ

  กลับกันถ้าเขาไม่หาเงินด้วยวิธีนี้ เขาจะต้องออกไปทำภารกิจ ไม่ว่าจะทางไหนมันก็ใช้เวลา

  อย่างไรก็ตามถ้าเขาหาเงินได้จริงๆ เรื่องแบบนี้จะไม่ใช่อุปสรรคอีก

  แต่โม๋อู่มีจำนวนนักศึกษาจำกัด ไม่ใช่ทุกคนที่จะแลกของได้ทุกวัน ฟางผิงจะได้รับคำสั่งซื้อเท่าไหร่เชียว?

  ถ้าเขารับคำสั่งซื้อ 100-200 ครั้ง ค่าส่งร้อยหยวนอย่างมากวันนึงเขาก็จะได้ประมาณหมื่นหยวน แถมมันยังต้องมีค่าใช้จ่ายอีก เขาจะหาเงินด้วยวิธีนี้ได้เหรอ?

  เฒ่าหลี่มีข้อสงสัย นอกจากนี้ถ้ามีอะไรสูญหายไป ฟางผิงต้องชดใช้อีก

   เฮ้อ ช่างเถอะ คนหนุ่มสาวมีความคิดมากมาย ปล่อยให้พวกเขาจัดการเรื่องซับซ้อนเองเถอะ 

  เฒ่าหลี่ส่ายหน้าและเอนกายงีบหลับอีกครั้ง

 

World’s Best Martial Artist

World’s Best Martial Artist

Status: Ongoing

ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว!

หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง

ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย!

นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ

“สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?”

อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท