หยูซ่างฮวาถาม อาจารย์ ถ้าเป็นแบบนั้น เซี่ยงไฮ้ต้องรับมือกับกำลังพลของถ้ำใต้ดินแค่ 2 แสนใช่ไหม?
แค่?
ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าระเบิดเสียงหัวเราะ เธอรู้ไหมว่าถ้ำใต้ดินแข็งแกร่งแค่ไหน?
กำลังพลของพวกมันมีผู้ฝึกยุทธอยู่ถึง 10% พวกมันมีกองทัพผู้ฝึกยุทธของตัวเอง!
เป็นกองทัพที่เป็นผู้ฝึกยุทธล้วน!
ในถ้ำใต้ดินที่อาวุธเย็นเป็นกษัตริย์ ไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ฝึกยุทธกว่าสองหมื่นคนมันน่ากลัวแค่ไหน!
หยูซ่างฮวาอดถามขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ ไม่ใช่ว่ากองทัพของเราก็มีกองทัพผู้ฝึกยุทธเหรอ?
มันไม่เหมือนกัน ในช่วงหลายปีมานี้ กองทัพได้ฝึกฝนผู้ฝึกยุทธมามากมาย
ปัจจุบันนี้ประเทศจีนมีผู้ฝึกยุทธมากกว่าล้านคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธปราณและเลือดหรือผู้ฝึกยุทธสายต่อสู้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกยุทธไม่ได้อยู่กองทัพทั้งหมด แต่ก็มีผู้ฝึกยุทธอยู่มากมาย ถ้านำเขตทหารมารวมกัน จะมีไม่ต่ำกว่าสองแสนคน เป็นสองเท่าของนักศึกษามหาลัยวิชายุทธ
ทว่ากองทัพจำเป็นต้องปกป้อง 22 ทางเข้า พอผู้ฝึกยุทธถูกแบ่งไปปกป้องแต่ละทางเข้า จำนวนก็จะถูกลดลงไปจำนวนมาก
นอกจากนี้สังคมยังต้องการกองทัพเพื่อปราบปรามลัทธิชั่ว ทำให้เสียผู้ฝึกยุทธไปอีกกลุ่ม
มีผู้ฝึกยุทธจากกองทัพน้อยกว่า 5000 คนเสียอีกที่ประจำการอยู่ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้
ดังนั้นเราจึงได้แต่ตั้งรับ อีกอย่าง…พวกมันยังมีถึง 13 เมือง ต่อให้เราผนึกกำลังทำลายเมืองเทียนเหมิน แล้วหลังจากนั้นล่ะ?
ถ้าเราต่อสู้กับเมืองเทียนเหมินแล้วบาดเจ็บล้มตายกันทั้งสองฝ่าย พอพวกมันได้กำลังเสริมจากเมืองอื่น กองทัพของเราจะถูกกวาดล้างทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ถ้าตอนนี้เราทำศึกยืดเยื้อกับเมืองเทียนเหมิน เมืองอื่นก็จะไม่ส่งกำลังเสริมมา ถ้ำใต้ดินคิดมากเรื่องอาณาเขตมาก จนกว่าเมืองเทียนเหมินจะตกอยู่ในสถานะขอความช่วยเหลือ เมืองอื่นส่วนใหญ่จะนั่งบนเขาดูเสือกัดกัน
จากการสังเกตของเรา ถ้ำใต้ดินไม่มีรัฐบาลรวมอำนาจ ทุกเมืองเป็นอิสระต่อกัน
กล่าวอีกนัยนึง กำลังทหารกับผู้ฝึกยุทธของเราในถ้ำใต้ดินต่อกรได้กับเมืองเทียนเหมินเมืองเดียว…
ผิดแล้ว! ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าส่ายหน้าอีกครั้ง เราไม่ได้ต่อกรกับพวกมัน เราถูกบังคับให้เป็นฝ่ายรับ เราต่อกรกับเมืองเทียนเหมินไม่ได้
แน่นอนอาจารย์กำลังพูดถึงบนสนามรบ ถ้ำใต้ดินไม่กล้าโจมตีค่ายเราเต็มกำลัง
ประการแรกเลยคือ ค่ายของเราคุ้มกันอย่างแน่นหนา แถมถ้ำใต้ดินยังเคยสูญเสียครั้งใหญ่มาก่อน
ประการที่สอง ในช่วงเวลาวิกฤต เราเคยระดมปรมาจารย์หลายท่านมาปิดล้อมแล้วกวาดล้างพวกมัน หากไม่มีการช่วยเหลือจากเมืองแนวหลัง เมืองเทียนเหมินย่อมต่อกรกับทั้งประเทศจีนไม่ได้
อย่างไรก็ตามยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ของเราไม่สามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งเต็มกำลังในสนามรบได้ ไม่สามารถกวาดล้างเมืองเทียนเหมินได้ เว้นแต่เราจะมั่นใจมากพอว่าจะจัดการการผนึกกำลังของ 13 เมืองได้
ไม่ใช่แค่นั้น ทางเหนือสุดของ 13 เมืองยังมียอดฝีมือที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
เมื่อปรมาจารย์มนุษย์รวมตัวกันมากเกินไป ยอดฝีมือเหล่านี้จะถูกอัญเชิญมา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในถ้ำใต้ดินของเมืองหลวงเมื่อ 70 ปีก่อน ในปีนั้น ปรมาจารย์ในประเทศมีไม่ถึง 100 คน มีปรมาจารย์มารวมตัวกันมากกว่า 40 คนเพื่อพยายามกวาดล้างถ้ำใต้ดินของเมืองหลวง…
ผลลัพธ์คือผู้ฝึกยุทธแปลกหน้าที่น่าหวาดหวั่นจำนวนมากปรากฏขึ้นจากส่วนลึกของถ้ำใต้ดิน
สุดท้าย ประเทศจีนสูญเสียปรมาจารย์ไป 16 คน การต่อสู้ครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายต่อรากฐานของประเทศ จิงอู่เกือบถูกทำลาย อาจารย์ใหญ่ รองอาจารย์ใหญ่ และคณบดีสาขาต่างๆล้วนถูกสังหาร!
ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าอดทอดถอนใจไม่ได้เมื่อนึกถึงอดีต
หลายปีมานี้ จิงอู่เสียปรมาจารย์ไปมากมายในการต่อสู้ และส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับสงครามขนาดใหญ่เช่นนี้
โม๋อู่กับมหาลัยอื่นๆที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังไม่ได้มีส่วนร่วมกับสงครามครั้งใหญ่ในถ้ำใต้ดิน แต่จิงอู่เป็นกองกำลังหลักมาตลอด จำนวนผู้เสียชีวิตตั้งแต่ก่อตั้งมหาลัยมาจึงมีมากกว่าสองหลัก
ฟางผิงและคนอื่นๆในคลาสต่างก็รู้สึกคับอกคับใจ
ถ้าเป็นแบบนั้น หมายความว่าเราได้แต่ป้องกันงั้นเหรอ?
แม้พวกเขาจะถูกโจมตี พวกเขาก็เอาชนะสงครามขนาดเล็กกับถ้ำใต้ดินไม่ได้
ขนาดใหญ่หมายถึงการพนันอนาคตประเทศจีน ต่อให้พวกเขาชนะ อย่างมากพวกเขาก็ทำได้แค่ข่มถ้ำใต้ดิน 1-2 แห่ง ทว่าเมื่อพวกเขาทำแบบนั้น เป็นไปได้มากว่ายอดฝีมือระดับปรมาจารย์มากกว่าครึ่งจะต้องสละชีวิต
ถ้าทำแบบนั้น ทางเข้าถ้ำใต้ดินที่เหลือล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้น?
ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าหัวเราะ ไม่จำเป็นต้องมองแง่ร้ายขนาดนั้นหรอก เด็กรุ่นใหม่เติบโตเร็วมาก อนาคตยังสดใสอยู่
เมื่อสิบกว่าปีก่อน ประเทศจีนมียอดฝีมือระดับปรมาจารย์เท่าไหร่เชียว?
แล้วตอนนี้ล่ะ?
ปัจจุบันเราแข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้ำใต้ดินเติบโตไม่เร็วเท่าเรา เพราะงั้นเราจึงตั้งรับอยู่ตลอด เราถ่วงเวลาเพื่อหาโอกาสให้คนรุ่นต่อไป
ประเทศจีนมีปรมาจารย์หลายร้อยคน ถ้าเราจะโจมตีจริงๆ เราก็กวาดล้างทางเข้าถ้ำใต้ดินได้อย่างน้อยสามแห่งห้าแห่ง
อย่างไรก็ตาม ถ้าถ้ำใต้ดินเชื่อมต่อกันจริง แล้วเรากวาดล้างทางเข้าไปหลายแห่ง เราจะถูกบุกโจมตีเต็มกำลังทันที
เพราะงั้นเราจึงยอมสู้รบเล็กๆดีกว่า ชีวิตมนุษย์เป็นเดิมพัน เราจะไม่ทุ่มเต็มกำลัง!
สมัยนี้ปรมาจารย์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่ก่อน ประเทศจีนมีปรมาจารย์ไม่ถึงร้อยคนด้วยซ้ำ
ในช่วง 30 ปีให้หลัง มีปรมาจารย์ปรากฏเกือบร้อยคน!
โดยเฉลี่ยแล้ว มีปรมาจารย์ปรากฏปีละ 3 คน ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก
มีปรมาจารย์ปรากฏในแวดวงธุรกิจทุกปี รวมถึงในรัฐบาลด้วย
ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ รัฐบาลไม่ยินยอมเปิดฉากต่อสู้ครั้งใหญ่ หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตาย สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คืออดทนและถ่วงเวลา!
ยิ่งพวกเขาถ่วงเวลาได้มากเท่าไหร่ มนุษยชาติก็จะมีหวังมากขึ้นเท่านั้น ยังไงเสียการต่อสู้ครั้งสุดท้ายก็ยังขึ้นอยู่กับยอดฝีมือ
ความจริงแล้ว ภารกิจและการต่อสู้ปกติในถ้ำใต้ดินล้วนเป็นการฝึกฝนยอดฝีมือ!
กองทัพ รวมถึงผู้ฝึกยุทธขั้นต่ำถึงขั้นกลางสละชีวิตในภารกิจไปมากมาย แต่มันก็ช่วยไม่ได้ หากไม่มีใครยอมเสียสละ จุดจบของมนุษยชาติคงอยู่ไม่ไกล
ไม่มีนักศึกษาคนไหนถามอะไรเพิ่มอีก กลับกันทุกคนต่างก็เริ่มมองดูโต๊ะทราย
13 เมืองถ้ำใต้ดินกระจายตัวเป็นรูปใบพัด
พื้นที่ทางใต้สุดของถ้ำใต้ดินเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ซึ่งยังเป็นถิ่นฐานของเซี่ยงไฮ้ ค่ายของประเทศจีนตั้งอยู่ริมทะเลนี้
เมืองเทียนเหมินตั้งอยู่ห่างจากค่ายประมาณ 80 กิโลเมตร
มันอาจฟังดูไม่ไกลนัก ในสังคมสมัยใหม่ ถ้าเราขับรถเร็วๆ เราจะใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง
อย่างไรก็ตามในถ้ำใต้ดินที่เน้นการเดินเป็นหลัก 80 กิโลเมตรค่อนข้างห่างไกลเลยทีเดียว กองทัพที่เดินเท้าได้ 50 กิโลเมตรต่อวันถือเป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง 70 กิโลเมตรต่อวันถือเป็นกองทัพชั้นยอดแล้ว
ห่างออกไป 80 กิโลเมตร เมืองเทียนเหมินยังเป็นประตูเมืองถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้
เมืองอื่นทุกเมืองล้วนตั้งอยู่หลังเมืองเทียนเหมิน
ถ้ำใต้ดินมีภูเขา มีทะเลสาบ มีทุกอย่างเหมือนบนโลก
ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าเห็นว่าทุกคนมองแผนที่โต๊ะทรายกันอย่างตั้งใจ เขาก็หัวเราะอีกครั้ง เทคโนโลยีเป็นสิ่งมหัศจรรย์ แผนที่ถ้ำใต้ดินสามมิติของเราใกล้สำเร็จแล้ว ทุกคนจะสัมผัสกับถ้ำใต้ดินได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หลังเราเข้าถ้ำใต้ดิน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ห้ามออกนอกรัศมี 30 กิโลเมตรของค่าย
เราทำการกวาดล้างพื้นที่รัศมีนี้แล้ว มันจึงค่อนข้างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม กำลังพลเมืองเทียนเหมินก็เคลื่อนไหวเช่นกัน ซึ่งรวมถึงทหารผู้ฝึกยุทธและผู้ฝึกยุทธที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพด้วย อันตรายจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในถ้ำใต้ดิน นอกจากมนุษย์ถ้ำใต้ดินที่พวกเราเรียกกันชั่วคราวก็มีอันตรายอย่างอื่นอีกมากมาย!
มันรวมถึงสัตว์และพืชถ้ำใต้ดินด้วย สัตว์บางชนิดมีพลังระดับเดียวกับยอดฝีมือขั้นสูง ถ้ำใต้ดินอาจเป็นเหมือนโลกเทพนิยายในตำนานมากกว่า ที่ทั้งสัตว์ทั้งพืชถูกมองเป็นสัตว์ปีศาจ
อันตรายมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
กลับกันโอกาสมีอยู่ทุกที่เช่นกัน
ทำไมมนุษย์ถึงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ?
มันเกี่ยวข้องกับถ้ำใต้ดินเป็นอย่างยิ่ง!
เราผลิตเม็ดยาต่างๆ พัฒนาและใช้ประโยชน์จากแร่พลังงาน แม้แต่สร้างเคล็ดวิชาต่อสู้ก็ด้วย ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับถ้ำใต้ดิน
เธอรู้ไหมทำไมนักศึกษาขั้นห้าในโม๋อู่ถึงก้าวหน้าได้เร็วนัก?
มันเกี่ยวข้องกับโอกาสที่พบในถ้ำใต้ดินด้วย!
อาจารย์จะไม่ไล่แนะนำพวกเธอทีละอย่าง เหตุผลที่ทำไมไม่มีการพัฒนาตำรามาก่อนเป็นเพราะก่อนหน้านี้ มีเพียงผู้ฝึกยุทธขั้นสามเท่านั้นที่ไปถ้ำใต้ดินได้ ขั้นตอนแรกก่อนเข้าถ้ำใต้ดินอย่างถูกต้อง เราต้องเข้ารับการฝึกฝนระยะสั้นในกองทัพ
ในกองทัพ มีข้อมูลมากมายที่ถูกรวบรวมเอาไว้
นี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่โม๋อู่จัดคลาสฝึกพิเศษกับขั้นสอง ดังนั้นตอนนี้เราจึงกำลังเจรจากับกองทัพเพื่อจัดเตรียมตำราถ้ำใต้ดินมาแจกจ่ายให้ทุกคนเอาไปดู ทำความเข้าใจให้ลึกขึ้น…
ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าพูดจนปากคอแห้ง ทุกคนฟังจนมึนเมา
ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ายอดฝีมือขั้นห้าได้รับโอกาสจากถ้ำใต้ดิน
ผู้ฝึกยุทธทุกคนต่างก็แสวงหาความแข็งแกร่ง ผลประโยชน์ในถ้ำใต้ดินอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้ฝึกยุทธเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองต่อไป
ตอนนี้ในใจของทุกคน ภาพของถ้ำใต้ดินเริ่มชัดเจนขึ้นมาแล้ว
ฟางผิงไม่สนใจความเป็นไปได้ที่จะหลงทางในถ้ำใต้ดินอีก
ถ้ำใต้ดินไม่ใช่ทะเลทรายหรือทุ่งหญ้า มีเมือง มีฐานที่มั่นของมนุษย์ จะหลงทางง่ายๆได้ยังไงกัน?
ฟางผิงครุ่นคิดถึงผลประโยชน์มากมายในถ้ำใต้ดิน ยามนี้ทุกคนต่างก็แทบทนไม่ไหวที่จะเข้าถ้ำใต้ดิน ค้นหาโชคลาภเพื่อก้าวสู่ขั้นสามขั้นสี่และแม้แต่ขั้นห้าให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามเวลานั้นเอง ก็มีน้ำเย็นมาราดศีรษะ ดับความร้อนของทุกคนทันที