World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 201.1 ความโศกเศร้ามีไว้ให้คนอ่อนแอ (1)

ตอนที่ 201.1 ความโศกเศร้ามีไว้ให้คนอ่อนแอ (1)

   อาจารย์ที่ไปช่วยหลานซือเวยกลับมาแล้ว! 

   อาจารย์หลิวหนานกั๋วพลีชีพ! 

   อาจารย์เฉินหยวนจี๋พลีชีพ! 

   ทุกคน รีบไปต้อนรับวีรบุรุษที่ประตูใต้กัน! 

  ขณะที่ฟางผิงกับคนอื่นๆในคลาสกำลังศึกษาแผนที่ถ้ำใต้ดิน ก็มีความวุ่นวายในห้องโถง นักศึกษาบางคนก็รีบวิ่งออกไป

  ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าหน้าซีดขาว ดูเศร้าสลดในทันที  ผู้ฝึกยุทธหนอ…เฮ้อ! 

  เสียงทอดถอนใจยาวเหยียดบีบคั้นหัวใจของผู้ได้ยิน

  …

  ห้านาทีต่อมา ฟางผิงกับเพื่อนร่วมชั้นก็มาถึงประตูใต้

  เวลานี้มีอาจารย์และนักศึกษาหลายคนยืนอยู่ตรงประตูใต้แล้ว

  หน้าสุด อาจารย์ใหญ่ผู้เฒ่าดูผมขาวโพลนยิ่งขึ้น

   เปิดประตู! 

  ไม่นาน ประตูก็เปิดออก รถบัสขนาดใหญ่สองสามคันขับเข้ามาอย่างช้าๆ

  จากนั้น ภายใต้สายตาของทุกคน คนจากรถบัสก็เริ่มขนเปลหามกับโลงศพลงจากรถ

  กลุ่มผู้ฝึกยุทธที่ก้าวลงจากรถบัสสีหน้าดูออกเลยว่าผ่านความยากลำบากมาหนักหนา หลายคนพันผ้าพันแผล ได้รับบาดเจ็บมาชัดเจน

   อาจารย์!  เฉินหยุนซีพลันร้องตะโกนออกมาจากกลางฝูงชน จากนั้นเธอก็พุ่งออกไปทันที

  ฟางผิงกับพวกก็เห็นไป๋รั่วซีกำลังลงจากรถเช่นกัน เธอเป็นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธที่ไปหลานซือเวย เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า พวกเขาก็รีบวิ่งออกไปเหมือนกัน

  …

  ไป๋รั่วซีดูเป็นเหมือนปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

  อย่างไรก็ตามเมื่อฟางผิงเข้ามาใกล้ เขาก็ตื่นตระหนก

  ไป๋รั่วซีแขนซ้ายหักครึ่ง! คนอื่นอยู่ไกลเกินไปจึงเห็นได้ไม่ชัดเจน

  เมื่อเธอเห็นทุกคนวิ่งมาหา ไป๋รั่วซีก็ส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วโบกมือเป็นสัญญาณไม่ให้พวกเขาเข้ามาใกล้

  เฉินหยุนซีใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แม้แต่ฟางผิงกับคนที่เหลือก็รู้สึกไม่สบายใจ ไม่มีใครรู้ว่าจะพูดอะไรดี

  …

  ด้านหน้า

  อาจารย์ใหญ่ผู้เฒ่า ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ก้าวเดินด้วยเท้าอันสั่นเทา แววตาเขาเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เขาพูดเสียงแผ่วเบา  ดีแล้วที่คุณกลับมา 

   อาจารย์ใหญ่! 

  ท่ามกลางเหล่าผู้ฝึกยุทธที่ลงจากรถบัส หนึ่งในนั้นเป็นชายชราใบหน้ามีรอยแผลขนาดใหญ่ เขากล่าว  ภารกิจของเราลุล่วงแล้ว 

   กองทัพถ้ำใต้ดินหลานซือเวยอันยิ่งใหญ่ถูกขับไล่ไปแล้ว! 

   อาจารย์โม๋อู่ 6 ท่านสิ้นชีพในสนามรบ ไม่มีใครถอยแม้แต่ก้าวเดียว! 

   เราสังหารยอดฝีมือขั้นหกได้ 3 คน ขั้นห้าได้ 11 คนและขั้นสี่อีก 27 คน เรานำพาเกียรติยศมาสู่ประเทศและโม๋อู่! 

   6 คน… 

  อาจารย์ใหญ่ไม่ได้สนใจจำนวนสังหารศัตรู ดวงตาเขาแดงก่ำ พูดพึมพำ  ปีนี้มีอาจารย์ 11 คนสังเวยชีวิต นักศึกษา 7 คนสังเวยชีวิตไป ทุกคนยังเด็กอยู่ ยังเด็กมาก… 

  จากนั้นเขาก็พึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา  แสดงความเคารพเหล่าวีรบุรุษ! 

  นักศึกษารุ่นพี่พากันก้มศีรษะลง โค้งคำนับ สีหน้าของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้า

  นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางผิงและนักศึกษาปีหนึ่งประสบกับเรื่องแบบนี้ พวกเขาจึงโค้งคำนับทั้งๆที่ยังสับสนงุนงง ไม่รู้จะทำอะไร

   เราจะทำพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่ โม๋อู่จะสนับสนุนครอบครัวของนักรบผู้กล้าเหล่านี้ ชื่อของพวกเขาจะถูกจารึกศาลวีรบุรุษ วันหนึ่งเมื่อเรากำราบถ้ำใต้ดินสำเร็จ เราจะแก้แค้นอีกครั้ง! 

  เมื่ออาจารย์ใหญ่พูดจบ เขาก็ทะยานขึ้นบนอากาศอย่างฉับพลันและหายตัวไปต่อหน้าทุกคน

  แม้ว่าอาจารย์ใหญ่จะไปแล้ว แต่พวกฟางผิงก็ยังสับสนงุนงงไม่หาย หวงจิ่งที่พึ่งมาถึงก็ออกตามหาเขาไปทันที

  ข้างๆพวกเขา ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าถอนหายใจเบาๆแล้วบ่นพึมพำออกมา  แผลเก่าอาจารย์ใหญ่ยังไม่หายดี อาจารย์กับนักศีกษาโม๋อู่ของเราสละชีวิตในสนามรบ อาจารย์ใหญ่ใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันแน่นอน หนี้เลือดต้องชดใช้ด้วยเลือด! 

   วันนี้ถ้ำใต้ดินจะมีการต่อสู้กันระหว่างปรมาจารย์เป็นแน่ 

   เราได้แต่หวังว่า… 

  แม้อาจารย์ใหญ่ผู้เฒ่าจะเป็นขั้นแปดสูงสุดแล้ว แต่เขาต่อสู้มากเกินไป ทั้งร่างกายมีแต่แผลเป็น ตอนนี้เขาอาจมุ่งหน้าไปถ้ำใต้ดินแล้วก็ได้

  หากเป็นแบบนี้ต่อไป ทุกคนกลัวว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะมีแต่แย่ลง

  พวกฟางผิงไม่รู้จะพูดอะไร ขณะที่พวกเขามองอาจารย์ที่ยังเงียบอยู่ตรงหน้า อาจารย์ไม่คุ้นหน้าหลายคนกำลังนอนอยู่บนเปลหาม พวกเขาต่างก็รู้สึกคับอกคับใจ

   นี่คือถ้ำใต้ดินเหรอ? 

   นี่เป็นปลายทางสุดท้ายของผู้ฝึกยุทธใช่ไหม? 

   … 

  เมื่อทุกคนยังคงสับสนงุนงงและโศกเศร้าเสียใจ อาจารย์ที่เหลือก็ยกเปลหามแล้วมุ่งไปยังสุสานที่อยู่ลึกลงไปในเขตใต้ อาจารย์โม๋อู่ทุกคนที่สละชีวิตจะเลือกฝังอยู่ที่นั่น

  ตำแหน่งอยู่ใกล้กับถ้ำใต้ดินโม๋อู่มาก แม้พวกเขาจะตายแล้ว แต่เหล่านักรบผู้กล้าก็หวังว่าตนเองจะปกป้องแผ่นดินอันบริสุทธิ์นี้ได้

  ไป๋รั่วซีไม่ได้ตามอาจารย์คนอื่นไป เธอเดินมาหาฝูงชนแล้วมองมาที่เฉินหยุนซี เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นเคย  ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ? อาจารย์ไม่เป็นไรสักหน่อย 

   อาจารย์… 

  มันต่างจากอาจารย์คนอื่นที่ไม่คุ้นหน้า ไป๋รั่วซีเป็นอาจารย์ที่ทุกคนรู้จัก แถมเธอยังเป็นอาจารย์ของเฉินหยุนซีด้วย

  เวลานี้แขนเธอหัก…

  เฉินหยุนซีน้ำตาอาบหน้า คนอื่นก็ไม่สบอารมณ์ไม่ต่างกัน

  เวลานั้นเอง หลู่เฟิ่งโหรวที่หายหน้าหายตาจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วเดินมาหาพวกเขา

  หลังชำเลืองมองเฉินหยุนซี หลู่เฟิ่งโหรวก็ระเบิดความโกรธ  หุบปาก! นางยังไม่ตาย เธอจะร้องไห้ทำไม? ไป๋รั่วซีรอดกลับมา ไม่มีอะไรให้ร้อง! 

  เสียงคำรามของเธอทำให้เฉินหยุนซีตกใจ

  หลู่เฟิ่งโหรวแค่นเสียงก่อนจะหันไปมองพวกฟางผิงแล้วพูดเบาๆ  ความเป็นความตายเรียบง่ายแบบนั้นแหละ ไม่จำเป็นต้องเศร้าเสียใจกันเกินไป 

   ถ้าสักวันหนึ่งฉันรอความตายอยู่ในถ้ำใต้ดิน ฉันก็ไม่ต้องการน้ำตาที่ไร้ประโยชน์พวกนี้! 

   ถ้ามีความสามารถพอ ก็จงกำราบถ้ำใต้ดินแล้วแก้แค้นให้เรา 

   ถ้าความสามารถไม่พอ งั้นก็คิดซะว่าเราป่วยตาย น้ำตาและความเกลียดชังของพวกนายล้วนไร้ประโยชน์ 

   อย่างน้อยนี่ก็เป็นความคิดของฉันหลู่เฟิ่งโหรว ถ้าฉันตายในสนามรบ ไม่ต้องมาฟูมฟายไร้ประโยชน์แบบนี้ให้ฉัน ฉันคิดว่าฉันมีชีวิตได้นานพอเห็นถ้ำใต้ดินถูกทำลายแน่นอน! 

  หลู่เฟิ่งโหรวสีหน้าดูไม่แยแส จากนั้นเธอก็หันไปสนใจไป๋รั่วซีแล้วเอ่ยถาม  ศิษย์ของเธอจะจัดการยังไง? 

  ไป๋รั่วซีพูดเบาๆ  พี่โหรว ฉันขอฝากหยุนซีด้วย 

  หลู่เฟิ่งโหรวขมวดคิ้วแล้วตอบอย่างเย็นชา  ฉันไม่รับศิษย์แบบนี้ ฉันไม่ชอบที่เธอร้องไห้! 

   พี่โหรว… 

   อาจารย์! 

  เฉินหยุนซีดูอึ้งๆ ไป๋รั่วซีกำลังฝากฝังเธอไว้กับหลู่เฟิ่งโหรวงั้นเหรอ?

  หลู่เฟิ่งโหรวชำเลืองมองเฉินหยุนซีแล้วพูดอย่างฉับพลัน  อาจารย์ของเธอบาดเจ็บสาหัส อวัยวะภายในบอบช้ำอย่างหนัก ต่อให้พักฟื้นสองสามปีก็ไม่หายดี แค่เดินเธอก็หอบแล้ว 

   ถ้าเธอมีความสามารถ ก็สังหารผู้ฝึกยุทธถ้ำใต้ดินขั้นหกสักสองสามคนเพื่อล้างแค้นให้กับอาจารย์ เธอร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเด็กจนทำให้ผู้ฝึกยุทธถ้ำใต้ดินจมน้ำตายได้งั้นเหรอ? 

   ถังเฟิงให้โอกาสเธอไปทำงานแนวหลังแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ยอมไป? 

   อย่าบอกนะว่าพอเข้าถ้ำใต้ดิน จะมีคนตายรอให้เธอร้องไห้ฟูมฟาย? 

  หลู่เฟิ่งโหรวแค่นเสียงเบาๆแล้วพูดต่อ  ถ้าเธออยากตายก็ตายไป แต่อย่าลากคนอื่นไปด้วย คนอื่นก็จำเรื่องนี้ไว้ให้ดี หลังเข้าถ้ำใต้ดินถ้าเธอตามไม่ทันก็ทิ้งเธอไว้เลย อย่าตายเพราะเธอเด็ดขาด! 

   มีปรมาจารย์อยู่ในตระกูลเฉิน ให้ปู่เธอปกป้องเอา โม๋อู่จะไม่ปกป้องศิษย์แบบนี้! 

  เฉินหยุนซีลดศีรษะลง ไม่รู้จะทำยังไง

  ไป๋รั่วซีพูดเบาๆ เธอค่อนข้างจนใจ  พี่โหรว เธอไม่มีประสบการณ์แนวนี้ ไม่ต้องพูดถึง… 

  หลู่เฟิ่งโหรวไม่ได้ตอบ เธอกลับมาหัวข้อเดิม  เธอมากับฉันได้ แต่เมื่อเธอมาเป็นศิษย์ฉัน ฉันจะไม่ปกป้องเธอเหมือนที่คุณทำ ถ้าเธอตาย ฉันก็จะปล่อยให้ตายไป! 

  คำพูดเหล่านี้ทำให้เฉินหยุนซีเงยหน้าขึ้นโดยพลัน

  ไป๋รั่วซีขมวดคิ้ว หลู่เฟิ่งโหรวพูดกับเฉินหยุนซีด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  เธอจ้องทำไม? เธอต้องทำแค่ภารกิจขั้นสองขั้นสามไม่กี่ภารกิจ ถ้าเธอตายจริง มันก็แปลว่าเธอมีความสามารถน้อยเกินไป 

   ตายอยู่ข้างนอกก็ยังดีกว่าตายอยู่ในถ้ำใต้ดิน 

   ฉันไม่ได้ว่างเหมือนอาจารย์เธอ ที่ถึงกระทั่งตามไปด้วยเพราะกลัวจะมีคนตาย น่าสมเพชนัก! 

   คราวหน้าถ้ากลัวตายนักก็อย่าไปทำภารกิจ ไม่งั้นก็ให้คนในตระกูลตามไปด้วย อาจารย์โม๋อู่จำเป็นต้องฝึกยุทธ ทั้งยังต้องไปทำภารกิจ ถ้าไม่ใช่เพราะเสียเวลาไปหนึ่งเดือน อาจารย์ของเธอคงบรรลุขั้นหกไปแล้ว ครั้งนี้ก็คงไม่บาดเจ็บร้ายแรงถึงขนาดนี้… 

   พี่โหรว!  ไป๋รั่วซีแผดเสียงเบาๆอีกครั้ง กลับกันหลู่เฟิ่งโหรวกล่าวอย่างเฉยเมย  ให้พวกเขาเผชิญกับความจริง ตอนนี้เธอปกป้องพวกเขา แต่เธอจะปกป้องพวกเขาไปได้ตลอดเหรอ? 

   ตอนนี้เธอแทบปกป้องตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว นับประสาอะไรกับปกป้องคนอื่น! 

   มีแต่ความแข็งแกร่งของตนเองเท่านั้นที่จะปกป้องตัวเองได้ดีที่สุด! 

   จากที่ฉันเห็น เธอก็แค่เด็กมีปัญหา… 

  หลู่เฟิ่งโหรวไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเดินจากไปทันที

  หลังจากเธอเดินจากไป เฉินหยุนซีก็พูดตะกุกตะกักพร้อมกับใบหน้าซีดขาว  อาจารย์…หนูทำให้อาจารย์เดือดร้อนมาก… 

  ไป๋รั่วซีอดยิ้มบางๆไม่ได้  อาจารย์หลู่ไม่ได้ตั้งใจหรอก อาจารย์หลู่เธอหวังว่าพวกเธอจะแข็งแกร่งขึ้นและพยายามให้มากขึ้น 

   อย่างไรก็ตามครั้งนี้อาจารย์บาดเจ็บจริง อาจารย์ไม่อยากให้เธอเสียเวลาเปล่า 

   มีอาจารย์คนอื่นรับศิษย์ที่เหลือไปแล้ว เธอมีพรสวรรค์มาก เพราะงั้นอาจารย์จึงเลือกฝากฝังเธอไว้กับอาจารย์หลู่ 

   เชื่อฟังอาจารย์หลู่ ตั้งใจฝึกฝน อย่าไปคิดมาก 

  เวลานั้นเอง ฟางผิงก็อดถามขึ้นมาไม่ได้  อาจารย์ไป๋แอบปกป้องพวกเรามาตลอดเลยเหรอ? 

  ไป๋รั่วซีตอบเบาๆ  อย่าคิดมาก ที่จริงมันเป็นข้อตกลงของทางมหาลัย นักศึกษาใหม่ออกไปทำภารกิจ ต้องมีคนไปปกป้องเสมอ 

   แน่นอน ตอนนี้เธอไม่ใช่นักศึกษาใหม่แล้ว อนาคตจะไม่มีใครไปปกป้องแล้ว พวกเธอต้องระวังให้มาก 

  ฟางผิงกับเพื่อนๆล้วนเป็นยอดหัวกะทิในหมู่เด็กปีหนึ่ง

  เมื่อพวกเขาออกไปทำภารกิจ จะไม่มีใครคอยดูแลได้อย่างไรกัน?

  ตอนเดือนมีนาคม ไป๋รั่วซีตามพวกเขาไปตั้งแต่ตอนที่พวกเขาก้าวออกจากมหาลัย ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ใช่คนที่ไปปรากฏตัวในหนานอู่แล้ว

  เฉินหยุนซีไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เธอถามเบาๆ  อาจารย์บาดเจ็บหนักมากเลยเหรอ? หนูขอให้ปู่มา… 

  ไป๋รั่วซีส่ายหน้าเบาๆ  ไม่ได้หนักขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องรบกวนปรมาจารย์เฉินหรอก ไม่นานอาจารย์ก็หายแล้ว 

   หยุนซีเธอต้องเข้มแข็งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ถังหรืออาจารย์หลู่ ทั้งสองต่างก็หวังว่าลูกศิษย์อย่างเธอจะแข็งแกร่งขึ้น อยู่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

   ไม่มีอาจารย์คนไหนหรอกที่อยากเห็นลูกศิษย์ตัวเองประสบอุบัติเหตุ มันก็แค่… 

  ไป๋รั่วซีถอนหายใจ มันก็แค่อาจารย์ต่างกัน วิธีการสอนของแต่ละคนย่อมต่างกัน

  บางทีอาจไม่ใช่วันนี้ แต่ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาก็จะเข้าใจ

   ไปเรียนต่อเถอะ อาจารย์จะไปสุสานสักพัก 

  ไป๋รั่วซีไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เริ่มเดินทางทางเขตใต้แทน ฝีเท้าของเธอดูหนักอึ้ง

 

World’s Best Martial Artist

World’s Best Martial Artist

Status: Ongoing

ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว!

หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง

ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย!

นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ

“สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?”

อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท