A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World – ตอนที่ 91

Chapter 91 : อัพเกรดเงินค่าใช้จ่าย

แม็กซ์พยักหน้ายิ้ม “พ่อเชื่อว่าหนูทำได้” ความเป็นห่วงของเอมี่ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวด เด็กเกเรมักจะล้อเลียนวิธีการเดินของแม็ก อเล็กซ์เมื่อเขาเดินกะเผลกไปบนถนนและมักจะขว้างปาก้อนหินใส่เขา

เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เอมี่เห็นภาพนี้ แต่เธอก็ยังเห็นมันหลายครั้ง สาวน้อยยืนขวางอยู่ด้านหน้าเขาและร้องไห้พร้อมกับบอกให้เด็กพวกนั้นออกไป เขาจำมันได้เหมือนกับเพิ่งจะผ่านมาเมื่อวาน บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ความคิดว่าจะปกป้องฉันได้หยั่งรากลึกลงไปในในความคิดของเธอ

เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเอมี่ที่ดูจริงจังและมุ่งมั่นแม็กซ์ก็อดไม่ได้ที่จะอุ้มเธอขึ้นมากอดไว้ในอ้อมแขนและจูบไปที่หน้าผากของเธอ เธอเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเขาและเป็นคนที่เขารักมากที่สุด เธอมักจะจัดลำดับความสำคัญให้เขาเป็นที่หนึ่งเสมอ มันทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นและทำให้เขารู้สึกอยากจะร้องไห้

“ไม่ต้องห่วง พ่อเองก็จะแข็งแกร่งขึ้นเหมือนกัน มันเป็นพ่อที่ควรจะปกป้องหนู หนูแค่มีความสุขทุกวันก็พอแล้ว” แม็กซ์กระซิบข้างหูเธอ ฉันไม่ใช่พ่อที่ดีเลย ฉันปล่อยให้เธอแบกรับภาระมากเกินไป

“แต่…” เอมี่เงยหน้าขึ้น

แม็กซ์รู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร เขาส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “วันมะรืนนี้คือวันหยุดของเรา เราสามารถเล่นได้ทั้งวัน เราจะไปโรงเรียนเคออสเพื่อดูว่าเราสามารถหานักเวทย์ที่เหมาะสมจะมาสอนหนูได้มั้ย”

ดวงตาของเอมี่เป็นประกายขึ้นมาในทันที “จริงเหรอคะ ?” เธอมองแม็กซ์ด้วยดวงตาสีฟ้าคู่ใหญ่ของเธอจากนั้นเธอก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย “แต่หนูสัญญากับคุณปู่เคราครึ่งไว้แล้วว่าจะสอนเวทย์ลูกไฟให้กับเขา หนูไม่อยากถูกเรียกว่าคนโกหก”

แม็กซ์ส่ายหัวของเขายิ้ม “จริงๆแล้วเขาเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลังมาก แต่เขาต้องการพาหนูไปที่ไกลแสนไกลเพื่อเรียนรู้เวทมนตร์ดังนั้นพ่อจึงปฏิเสธเขา หนูไม่ต้องสอนเวทย์ลูกไฟให้เขาหรอกเพราะว่าเขารู้วิธีใช้มันอยู่แล้ว”

“จริงเหรอคะ ? แต่เคราของเขาถูกเผาด้วยไฟของหนู” เอมี่พูดอย่างไม่อยากเชื่อ

แม็กซ์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “นั่นเป็นเพราะลูกไฟของหนูทรงพลังมาก ดังนั้นถ้าหนูจะใช้มันอีกครั้งอย่างแรกหนูต้องพิจารณาว่าเขาหรือเธอสามารถทนรับมันได้มั้ย ไม่งั้นพวกเขาอาจจะถูกย่าง” แม็กซ์พูดอย่างจริงจัง

เขาสอนให้เธอเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังที่เธอครอบครอง

ถึงแม้ว่าเอมี่จะยังเป็นเด็กแต่แม็กซ์ก็เริ่มสอนมุมมองเกี่ยวกับโลกนี้ให้เธอแล้ว เขาไม่ได้คาดหวังให้เธอเป็นนักบุญแต่เขาไม่ต้องการให้เธอเติบโตขึ้นมาเป็นปีศาจเช่นกัน

ความมีน้ำใจเป็นสิ่งที่ดีและการทำอะไรก็ควรจะมีขอบเขต

นั่นคือสิ่งที่เขาค่อยๆจับประเด็นได้หลังจากที่พระเจ้าส่งเขามาที่โลกนี้ การทำทุกอย่างควรจะมีขอบเขต บางคนอาจจะหลบหนีจากการลงโทษของมนุษย์ได้ แต่ยังไงเขาก็ไม่สามารถหนีจากการพิพากษาที่ชอบธรรมของพระเจ้าได้

เอมี่พยักหน้าอย่างจริงจัง “เข้าใจแล้วค่ะพ่อ” จากนั้นเธอมองไปที่ลูกแมวน้อยที่กำลังมองดูพวกเขาอยู่ “ย่าง ย่าง…” เธอพึมพำเสียงเบา

“เหมียว…” คำพูดของเอมี่ทำให้มันรู้สึกเสียวสันหลังวาบและตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

“ไปเล่นกับลูกเป็ดขี้เหร่เถอะ ถ้าหนูเหนื่อยก็ขึ้นไปนอนที่ชั้นบน พ่อจะทำความสะอาดร้านก่อน” แม็กซ์ลูบผมของเอมี่พร้อมยิ้มแล้ววางเธอลงบนพื้น

เอมี่ส่ายหัวของเธอ “ไม่ค่ะ ลูกเป็ดขี้เหร่, นางฟ้าเห็ดและหนูจะรออยู่ตรงนี้” เธออุ้มลูกแมวแล้วปีนขึ้นไปบนเก้าอี้สูง เปิดกล่องเพลงและฮัมเพลง ทันใดนั้นเธอก็มองไปที่แม็กซ์ที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่และถามว่า “พ่อ ถ้าหนูร้องเพลงให้คุณครูลูน่าฟังเธอจะมีความสุขมั้ย ?”

แม็กซ์พยักหน้ายิ้ม “แน่นอน เธอจะมีความสุข” เอมี่ชอบลูน่าจริงๆ แต่เธอยังเด็กเกินไปที่จะเข้าไปเรียนในโรงเรียนเคออส แต่ลูน่ามักจะปล่อยให้เธอเข้าไปเรียนหลายต่อหลายครั้ง

แม็กซ์วางแผนที่จะตรวจสอบครูบางคนในโรงเรียนเพื่อดูว่าพวกเขาสามารถสอนเอมี่เกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นของเวทมนต์ได้หรือไม่

เอมี่เสกเวทย์ลูกไฟขึ้นมาได้ด้วยตัวเธอเอง ถ้าเธอไม่รู้เกี่ยวกับพื้นฐานของเวทมนต์เธออาจจะไม่สามารถควบคุมพลังนี้ได้ เขาไม่ต้องการให้สาวน้อยของเขากลายเป็นอันธพาลในสายตาของคนอื่น มีความแตกต่างมากระหว่างไร้เดียงสาและสัตว์ป่า

เอมี่พยักหน้า “งั้นหนูจะฝึกให้มากขึ้น หนูจะร้องเพลงให้พ่อและคุณครูลูน่าฟัง” เธอพูดอย่างจริงจังและเริ่มฮัมเพลงอีกครั้ง

แม็กซ์ยกยิ้มและรีบทำงาน เอมี่เริ่มคุ้นเคยกับการพูดว่า ‘พ่อ (Dad)’ แล้ว ถึงแม้ว่าบางครั้งเธอจะยังใช้ ‘พ่อ (Father)’ โดยไม่รู้ตัวก็ตาม แม็กซ์ไม่สนใจอีกต่อไป บางครั้งเขาก็พบว่าคำว่า ‘พ่อ (Father)’ นั้นน่ารักเล็กน้อย เขาตัดสินใจปล่อยให้เธอเรียกตามที่เธอต้องการ

แม็กซ์ทำความสะอาดร้านและหมักเนื้อสำหรับสามวันแล้วล้างมือให้สะอาด เอมี่ฟุบหลับอยู่บนเคาน์เตอร์พร้อมกับลูกแมวที่หลับอยู่ในอ้อมแขนของเธอ กล่องเพลงยังคงเล่นอยู่แต่ดูเหมือนว่าเสียงของมันจะเพี้ยนไปสักหน่อย

แม็กซ์ยกคิ้ว “ระบบ ฟังเสียงกล่องเพลงราคา 5,000 เหรียญทองแดงของนายสิให้ตายเถอะ ! มันพังหลังจากที่ซื้อมาได้แค่วันเดียวเอง !” เขาพูดในใจ

“ไม่มีเครื่องจักรอะไรที่สามารถเคลื่อนไหวได้ไปตลอดกาล ดังนั้นคุณภาพเสียงจะเปลี่ยนไปเมื่อพลังงานใกล้หมด คุณแค่ต้องซื้อถ่านขนาด A สี่ก้อนเพื่อเปลี่ยนแทนถ่านเก่า” ระบบพูดอย่างใจเย็น

“กล่องเพลงที่หรูหราขนาดนี้นายยังใช้ถ่านขนาด A ! มันควรมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมและที่ชาร์จ !” แม็กซ์บ่น

“ในคำแนะนำอย่างละเอียดที่หน้าคำอธิบายจะบอกไว้อย่างชัดเจนว่ากล่องเพลงนี้ใช้พลังงานจากถ่านขนาด A สี่ก้อน ไม่ใช่ความผิดของฉันที่คุณไม่ได้อ่าน แต่ฉันสามารถเปลี่ยนให้คุณถ้าคุณต้องการ คุณมีตัวเลือกสี่ข้อให้เลือก” ระบบพูดนิ่งๆ

“รอเดี๋ยว…” ในขณะที่แม็กซ์ดูตัวเลือกทั้งสี่ที่ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาเขาก็รู้สึกว่าเขากำลังถูกระบบหลอก เขาไม่มีเวลาอ่านคำแนะนำและระบบก็ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ เขารู้สึกรำคาญเล็กน้อย

เมื่อเขามองดูตัวเลือกทั้งสี่ข้อเขาก็เกือบจะไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเขาเอาไว้ได้

“ข้อหนึ่ง : เปลี่ยนแหล่งพลังงาน แบตเตอรี่ขนาด A สี่ก้อนจะถูกแทนที่ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมความจุมากพิเศษที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว การชาร์จสามนาทีสามารถใช้งานกล่องเพลงได้นานสามชั่วโมง ถ้ามันถูกชาร์จจนเต็มมันสามารถใช้ได้นานถึงสามวัน ราคา : 10 เหรียญทอง อุปกรณ์เสริม : ที่ชาร์จหนึ่งอัน

“ข้อสอง : เปลี่ยนแหล่งพลังงานและเสื้อผ้า นอกจากบริการแบบเดียวกับข้อแรกแล้วคุณจะได้รับเสื้อผ้าสวยๆ 10 ชุดสำหรับตุ๊กตา คุณสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เพียงแค่กดปุ่ม ราคา : 20 เหรียญทอง”