แม็กซ์ยกคิ้ว คำพูดนี้ฟังดูคุ้นๆนะ… ผู้คนมากมายพูดประโยคเดียวกันนี้บนอินเทอร์เน็ต ดังนั้นเขาจึงคาดหวังว่าจะได้ยินมัน แต่เขาคิดไม่ถึงว่ายาเบะมิยะจะเป็นคนแรกที่พูดมันออกมา
แม็กซ์ยิ้มและส่ายหัว “เธออาจจะพบว่าตัวเองผิด” เขาบอก ความขัดแย้งเกิดขึ้นแล้วในหมู่พวกเรา… เขาไม่ต้องการโต้เถียงกับพนักงานเสิร์ฟของเขา ดังนั้นเขาจึงนั่งลงแล้วหยิบพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวขึ้นมากิน
เขาเลือกกินเครื่องเคียงตามความชอบของเขา ด้านบนของพุดดิ้งเต้าหู้สีขาวคือน้ำซอสสีส้มแดง ผักดองสับ ผักชี ต้นหอมซอย กระเทียมบดและน้ำมันงา มันยังคงร้อนอยู่
เขาตักบางส่วนเข้าปาก พุดดิ้งเต้าหู้นุ่มและเนียนมาก มันละลายไปกับน้ำซอสในทันที
เครื่องเคียงสดๆเขากันได้ดีกับพุดดิ้งเต้าหู้ หลังจากที่เขากลืนมันลงไปกลิ่นหอมจางๆก็ยังคงอยู่ภายในปากของเขา
ดวงตาของแม็กซ์เป็นประกายขึ้นมาในทันที มันดีกว่าพุดดิ้งเต้าหู้ที่ปักกิ่งมาก ! มันสมบูรณ์แบบ! เขาเร่งมือของเขา สามนาทีต่อมาเขาก็วางช้อนลงและมองดูที่ถ้วยเปล่าอย่างพอใจ พุดดิ้งเต้าหู้แสนอร่อยเป็นอาหารเช้าที่ยอดเยี่ยม ฉันคิดว่าโร่วเจียหมัวจะทำให้มันดียิ่งขึ้น มิยะชอบพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานและฉันชอบแบบคาว อยากรู้จังว่าเอมี่จะชอบแบบไหน ?
“พ่อคะ หนูหิวแล้ว” เอมี่พูดพร้อมกับอุ้มลูกเป็ดขี้เหร่เอาไว้ในอ้อมแขน เธอลงมาถึงชั้นล่างแล้ว เธอสูดลมหายใจเข้าและถามอย่างสงสัยว่า “พ่อคะ พ่อทำอาหารจานใหม่เหรอ ?”
“ใช่แล้วล่ะ เรามีเมนูใหม่ นั่งก่อนสิ พ่อจะไปเอาพุดดิ้งเต้าหู้มาให้ หนูชอบแบบหวานหรือแบบคาวล่ะ ? ” แม็กซ์ถามและลุกขึ้นยืน
“พุดดิ้งเต้าหู้ ? แบบหวานหรือแบบคาว ?” เอมี่ไม่เข้าใจ
“เอมี่ แบบหวานอร่อยมาก หนูน่าจะชอบ” ยาเบะมิยะแนะนำ
แม็กซ์ยกคิ้ว นั่นไม่ยุติธรรม ! ฉันต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อแนะนำพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาว
ดวงตาของเอมี่เป็นประกายขึ้นมา “จริงเหรอ ? แต่หนูแน่ใจว่าแบบคาวก็อร่อยมากเหมือนกัน” เธอหันไปหาแม็กซ์ “พ่อคะ หนูลองกินทั้งคู่เลยได้มั้ย ?”
แม็กซ์ถูกทำให้แปลกใจอีกครั้ง “แน่นอน” จากนั้นเขาก็ยิ้ม ฉันควรจะคิดได้นะว่ามันจะเป็นยังไง สมกับที่เป็นนักชิมตัวน้อยจริงๆ ! เธอจะเลือกแบบไหนนะหลังจากที่เธอลองกินทั้งคู่แล้ว ?
“ขอบคุณค่ะพ่อ !” เอมี่เดินมาที่โต๊ะอย่างมีความสุขในขณะที่ถืออุ้มลูกแมวตัวน้อยเอาไว้ เธอมองแม็กซ์ด้วยดวงตาสีฟ้าของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าพุดดิ้งเต้าหู้คืออะไร แต่เธอก็ชอบทุกอย่างที่พ่อทำ
หลังจากนั้นไม่นานแม็กซ์ก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถ้วยสองใบ เขาวางพวกมันลงบนโต๊ะ “ทางซ้ายเป็นแบบหวาน ส่วนทางขวาเป็นแบบคาว หนูอยากลองกินแบบไหนก่อน ?”
ยาเบะมิยะมองเอมี่อย่างคาดหวัง เธอสามารถบอกได้ว่าหัวหน้าของเธอชอบแบบคาวมากกว่า แต่เธอชอบแบบหวาน ดังนั้นเธอจึงหวังว่าเอมี่จะชอบเหมือนกัน
เอมี่โบกมือเล็กๆของเธอเหนือถ้วย “กลิ่นมันน่ากินมาก !” เธอพูดอย่างมีความสุข
“เหมียว เหมียว…” ลูกเป็ดขี้เหร่ร้องอยู่ในอ้อมแขนของเอมี่ มันปีนไปตามแขนของเธอและพยายามที่จะดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในถ้วย
เอมี่ผลักหัวเล็กของมันลง “หยุดมอง พวกมันเป็นของฉัน !”
“เหมียว…” ลูกเป็ดขี้เหร่มองไปที่เอมี่ด้วยสายตาไม่พอใจ ดวงตาสีไพลินของมันดูเศร้ามาก
เอมี่ไม่ได้สนใจมัน สายตาของเธอมองสลับไปมา จากถ้วยหนึ่งไปยังอีกถ้วยหนึ่ง พุดดิ้งเต้าหู้นั้นดูน่ารักและขาวเหมือนกับว่ามันทำมาจากหิมะ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วดึงถ้วยเข้าไปใกล้เธอ จากนั้นก็หยิบช้อนขึ้นมา
แม็กซ์หลุดยิ้มออกมาในทันที ทำได้ดีมากสาวน้อย ! สมกับที่เป็นลูกสาวของฉันจริงๆ !
ยาเบะมิยะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ละทิ้งความหวัง เอมี่น่าจะชอบแบบหวานเหมือนกัน เธอคิดอย่างแน่วแน่
“ฉันจะเริ่มกินล่ะนะ” เอมี่ตักพุดดิ้งเต้าหู้ขึ้นมาหนึ่งช้อน มันสั่นเล็กน้อยอยู่ในช้อน มันดูขาว นุ่ม ยืดหยุ่นและถูกเคลือบไปด้วยน้ำซอสสีส้มแดงและผักดองสับ หลังจากเธอที่เธอเอามันเข้าปากมันก็ละลายไปในทันที พุดดิ้งเต้าหู้แสนอร่อย ผักดองสับและน้ำซอสได้ผสมผสานกันอย่างลงตัวทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ
หลังจากที่เธอกลืนมันลงไปเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองแม็กซ์ “พ่อคะ พุดดิ้งเต้าหู้นี่อร่อยมาก แต่หนูจะกินโร่วเจียหมัวไปพร้อมกันเลยได้มั้ยคะ ?”
แม็กซ์พยักหน้า “ได้แน่นอน พ่อจะไปทำมาให้นะ” เขาตอบ เอมี่มีความชอบเหมือนกันกับฉัน ! เธอมีพรสวรรค์ในการกินจริงๆ
มันดีจริงๆเหรอ ? ยาเบะมิยะรู้สึกสงสัยในขณะที่เธอมองดูเอมี่กินอย่างมีความสุข แต่เมื่อเธอละสายตาของเธอจากเอมี่ไปที่พุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานเธอก็ตัดสินใจได้อีกครั้ง แบบหวานดีที่สุด !
แม็กซ์ทำโร่วเจียหมัวสองอันอย่างรวดเร็วแล้วทำพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวแสนอร่อยถ้วยหนึ่งให้กับตัวเอง
เอมี่กัดโร่วเจียหมัวคำหนึ่งและหันมากินพุดดิ้งเต้าหู้หนึ่งช้อน ดวงตาของเธอเบิกกว้างและเธอก็ยิ้มกว้าง เธอส่ายตัวของเธอไปมาอย่างมีความสุขมาก
สายตาของลูกเป็ดขี้เหร่มองตามการเคลื่อนไหวของช้อนของเอมี่และเต็มไปด้วยความปรารถนา
แม็กซ์ยิ้ม เอมี่ชอบพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาว
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แม็กซ์มองดูเวลา มันเพิ่งจะ 7 โมงดังนั้นเขาจึงไม่ได้ลุกไปเปิดประตู
“แม็กซ์ นี่ฉันเอง ฉันมาจากสำนักงานนักสืบเชอร์ล็อค ฉันมีบางอย่างจะให้คุณ” เสียงที่ฟังดูเร่งรีบดังขึ้น