มีไอร้อนลอยขึ้นมาจากพุดดิ้งเต้าหู้ในถ้วยสีขาวทั้งสองใบ
ดวงตาของครัสซูเป็นประกายขึ้นมาทันทีในขณะที่เขามองไปที่ถ้วยตรงหน้าเขา
กลิ่นหอมจางๆนี่กระตุ้นจมูกของเขา ถั่วเหลือง ?
อาหารรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสนี้ขาวมากและถูกราดเอาไว้ด้วยน้ำเชื่อมสีแดงทองทำให้พวกมันดูสวยงามราวกับแผ่นหยกสีขาวที่ถูกล้อมรอบไปด้วยด้วยอำพัน มันยืดหยุ่นและสั่นเล็กน้อยเมื่อแม็กซ์วางมันลง ครัสซูรู้สึกประหลาดใจ
กลิ่นหอมของน้ำเชื่อมก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาน้ำลายไหล มันน่าเย้ายวนเกินกว่าที่คนชอบกินของหวานจะต่อต้านได้
อูเรี่ยนเบะปาก แหวะ น้ำตาลมากเกินไป จากนั้นเขาก็ก้มลงไปมองถ้วยที่อยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าของเขาสว่างขึ้นในทันที
พุดดิ้งเต้าหู้ของเขามีเครื่องเคียงหลายอย่างและถูกราดด้วยน้ำซอสสีแดงส้ม มันมีกลิ่นที่น่าอร่อยจริงๆ
ดูน่ากินมาก มันน่าจะดี อูเรี่ยนคิดอย่างคาดหวัง
พวกเขาตักพวกมันเข้าปากเกือบจะพร้อมเพียงกัน
แม็กซ์ เอมี่และยาเบะมิยะยืนนิ่งพร้อมกับมองไปที่ชายชราทั้งสองคนและลุ้นว่าพวกเขาจะชอบแบบไหน
ตาของครัสซูเบิกกว้าง รสชาตินี้… พุดดิ้งเต้าหู้ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำเชื่อมละลายอยู่ภายในปากของเขา พุดดิ้งเต้าหู้นุ่มมาก น้ำเชื่อมเองก็หวานแต่มันไม่ได้กลบรสชาติของพุดดิ้งเต้าหู้เลย
หลังจากที่เขากลืนมันลงไปแล้วกลิ่นหอมและความหวานที่นุ่มนวลก็ยังตกค้างอยู่ภายในปากของเขา
ครัสซูมองไปที่แม็กซ์และรู้สึกสงสัย มันน่าจะทำมาจากถั่วเหลือง แต่ถั่วเหลืองมันนุ่มละมุนแบบนี้ได้ยังไง ? ฉันไม่จำเป็นต้องเคี้ยวมันเลยด้วยซ้ำ มันนุ่มและชุ่มฉ่ำ ! น้ำเชื่อมนี่ก็หวานแต่ไม่ได้หวานจนเกินไป มันอร่อยมาก เขาไม่สามารถหยุดกินได้
อูเรี่ยนตกใจมากและมองไปที่ช้อนที่ว่างเปล่าในมือของเขา มันจะไปมีของที่ดีขนาดได้ยังไงกัน ?!
พุดดิ้งเต้าหู้นุ่มๆพร้อมกับรสชาติของน้ำซอสและผักดองสับสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว มันกระตุ้นต่อมรับรสของเขาให้ตื่นเต้นและส่งเสียงเชียร์ รสชาติที่น่าพึงพอใจยังคงติดอยู่ที่ลิ้นของเขาหลังจากที่เขากลืนมันลงไป
ครัสซูรู้ว่าแม็กซ์ทำอาหารได้ดีดังนั้นพุดดิ้งเต้าหู้จึงไม่ทำให้เขาประหลาดใจเท่ากับอูเรี่ยน คนหลังนี่ไม่เคยกินอาหารที่แม็กซ์ทำมาก่อนจนกระทั่งตอนนี้ เขาชอบอาหารที่แม็กซ์เอามาให้เขาจริงๆ เขาตักมันเข้าปากอีกครั้งแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเขา
แม็กซ์เองก็ยิ้ม ดูเหมือนว่าพวกเขาจะชอบมัน เขารู้สึกดีเมื่ออาหารของเขาทำให้ลูกค้าของเขายิ้มได้
“ติ๊ง !”
“ติ๊ง !”
ครัสซูและอูเรี่ยนกินพุดดิ้งเต้าหู้เสร็จเกือบจะพร้อมกัน พวกเขามองดูถ้วยที่ว่างเปล่าด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
อูเรี่ยนวางช้อนลง “ฉันอยากได้พุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวเพิ่มอีกถ้วย มันน่าทึ่งมาก !” เขาพูดกับแม็กซ์ด้วยความตื่นเต้น
“แบบหวานดีที่สุด !” ครัสซูพูดพร้อมกับมองค้อนไปที่อูเรี่ยน จากนั้นเขาก็หันไปหาแม็กซ์ “แม็กซ์ ฉันขอพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานเพิ่มอีกชามได้มั้ย ? ฉันจะจ่าย บอกราคามาเลย”
“อาหารหวานๆมีไว้สำหรับเด็ก โตได้แล้วไอ้แก่ !” อูเรี่ยนพูดดูถูก
“พุดดิ้งเต้าหู้อร่อยมากเมื่อกินกับน้ำเชื่อม นายไม่มีทางรู้หรอกว่าเวลาความหวานมันไหลลงคอไปมันรู้สึกยังไง นายมันพวกนอกรีต นายควรจะถูกมัดไว้กับเสาแล้วเผาซะ !” ครัสซูพูดด้วยความโกรธและมองไปที่อูเรี่ยน มีแสงสีแดงเปล่งออกมาจากหัวไม้เท้าเวทย์ของเขา
“ฉันเป็นคนนอกรีต ? แกสิคนนอกรีต ! พุดดิ้งเต้าหู้ของแท้คือแบบคาว แกไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ารสชาติของมันจะดีขนาดไหนเมื่อกินกับน้ำซอสและเครื่องเคียงต่างๆ !” อูเรี่ยนพูดเสียงดัง น้ำแข็งปรากฏขึ้นมาจากใต้ฝ่าเท้าของเขาอีกครั้ง อุณหภูมิรอบๆตัวเขาเริ่มลดลง
แม็กซ์มองสลับไปมาระหว่างนักเวทย์ทั้งสองคนที่กำลังโกรธ “ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้วางแผนที่จะขายมันในวันนี้ ดังนั้นมันจึงไม่มีพุดดิ้งเต้าหู้เหลืออีกแล้ว” พวกเขาเริ่มต้นทำสงครามระหว่างคนชอบพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานกับคนชอบพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวในโลกนี้แล้ว
พวกเขามาที่นี่เพื่อเอมี่แต่พุดดิ้งเต้าหู้สามารถดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ผู้คนมักจะโต้เถียงกันว่าแบบไหนเป็นของแท้ด้วยการใช้คีย์บอร์ด พวกเขาจะไม่ต่อสู้กันจริงๆเพราะความขัดแย้งนี้
อย่างไรก็ตามครัสซูและอูเรี่ยนนั้นพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความเชื่อของตัวเอง
“ฉันชอบ…แบบหวาน” ยาเบะมิยะพึมพำ เสียงของเธอเบาจนแทบจะไม่ได้ยินดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินคำพูดของเธอนอกจากตัวเธอเอง
เอมี่ไม่เข้าใจความโกรธแค้นของพวกเขา พวกมันทั้งคู่อร่อยมาก ทำไมพวกเขาถึงต้องทะเลาะกันด้วย ?
ครัสซูและอูเรี่ยนรู้สึกผิดหวังและโต้ตอบกันด้วยความโกรธ
พุดดิ้งเต้าหู้จุดชนวนความโกรธของพวกเขา
ครัสซูลุกขึ้นยืน “อูเรี่ยน นายมันคนนอกรีต ! ฉันทนกับคนแบบนายมานานเกินไปแล้ว มาสู้กัน ! ฉันจะทุบหัวนาย !” เขาพูดอย่างกราดเกรี้ยวพร้อมกับชี้ไท้เท้าเวทย์ที่เปล่งแสงของเขาไปที่อูเรี่ยน
อูเรี่ยนเองก็ลุกขึ้นจากโต๊ะเช่นเดียวกัน “ฉันไม่กลัวแกหรอกครัสซู ฉันจะแช่แข็งแกด้วยน้ำแข็งของฉันแล้วเอาไปโยนทิ้งให้เป็นอาหารปลา !” เขาตอบด้วยเสียงแหบสาก ใบหน้าของเขาดูน่ากลัว
“พวกคุณจะต่อสู้เพื่อตัดสินว่าแบบไหนดีกว่ากันเหรอ ?” เอมี่ถามอย่างสงสัย
จากนั้นเธอก็ปรบมือหลังจากที่นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พวกคุณจะรออะไรกันอยู่ล่ะ แค่อย่าต่อสู้กันในร้านอาหารก็พอ”