“เธอจำทุกอย่างได้ถูกต้องในเวลาสั้นๆ” แม็กซ์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกแปลกใจแต่ก็พอใจ เขาพบว่าเขาได้เจอกับพนักงานเสิร์ฟที่ดีแล้ว
เอมี่ปรบมืออย่างยินดี “คุณน่าทึ่งมากพี่สาวมิยะ !” เธออุทานและมองยาเบะมิยะด้วยสายตาชื่นชม
ยาเบะมิยะรีบโบกมือปฏิเสธในทันที “ไม่…ฉันหมายถึงขอบคุณนะ” ใบหน้าของเธอแดงขึ้นมาด้วยความสุข
เธอมีความจำที่ดีแต่เพื่อนร่วมงานของเธอคิดว่าความสามารถของเธอมันไร้ประโยชน์ เธอไม่เคยได้รับคำชื่นชมมาก่อนดังนั้นการได้รับความชื่นชมจากเอมี่และการได้รับการยอมรับจากแม็กซ์จึงช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเธอ
“เห็นได้ชัดว่าความจำของเธอไม่มีปัญหา แต่ภาระงานที่นี่ค่อนข้างหนัก เธอคิดว่าเธอสามารถจัดการกับมันได้มั้ย ?” แม็กซ์ถามในขณะที่มองไปที่หญิงสาวร่างผอมคนนี้ บางทีเธออาจจะมีน้ำหนักน้อยกว่า 90 ปอนด์ (1 ปอนด์ = 0.45 กก. โดยประมาณ)
“ได้แน่นอนค่ะ !” ยาเบะมิยะยืนตัวตรงในทันที หน้าอกของเธอมีขนาดใหญ่มากสำหรับหญิงสาวที่ตัวเล็กแบบนี้ จากนั้นเธอก็ตระหนักถึงสิ่งที่เธอทำและผ่อนคลายร่างกายของเธอ เธอหน้าแดงและพยักหน้า “ฉันผอมแต่ฉันแข็งแรงนะ ฉันสามารถอุ้มหมูจากด้านข้างได้ตอนที่ฉันทำงานอยู่ในครัว ฉันทำงานตั้งแต่เช้าจนค่ำ ฉันแข็งแรงยิ่งกว่าผู้ชายหลายๆคนซะอีก”
“งั้นเหรอ ถ้างั้นเธอลองยกมันขึ้นมาได้มั้ย ? แม็กซ์พูดและชี้ไปที่โต๊ะตรงหน้าเขา โต๊ะนี้มีน้ำหนักอย่างน้อย 200 ปอนด์ ฉันแทบจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายมันได้ในสภาพนี้
ยาเบะมิยะเดินเข้ามาแล้วจับไปที่ขอบโต๊ะด้านหนึ่งด้วยสองมือแล้วยกมันขึ้น มันถูกยกขึ้นจากพื้นได้อย่างง่ายดายและสูงจากพื้นประมาณ 20 เซนติเมตร “แบบนี้เหรอคะ ?”
แม็กซ์ยกคิ้ว เธอมีความแข็งแกร่งที่พิเศษพอที่จะงานก่อสร้างขนาดเล็ก เธอต้องจับแค่ขอบด้านเดียวเท่านั้นเพื่อยกมันขึ้น ! จากนั้นเขาก็พยักหน้า “ใช่แล้ว ดีมาก ตอนนี้เธอวางมันลงได้แล้วล่ะ”
ดูเหมือนว่าที่ร่างกายของเธอดูผอมมันจะเป็นเพราะว่าเธอขาดสารอาหาร เธอจะเติมเต็มมันได้ตราบเท่าที่เธอได้กินมากพอ
“ว้าว ! พี่สาวมิยะ คุณมีแรงเยอะมากอย่างน่าเหลือเชื่อ” เอมี่พูดในขณะที่ยาเบะมิยะวางโต๊ะลง
ยาเบะมิยะยิ้มอย่างเขินๆ เธอถูกเรียกว่า ‘สาวถึก’ โดยเพื่อนร่วมงานของเธอและเธอไม่ชอบชื่อเล่นนั้น เธอมีความสุขที่เอมี่ชอบความแข็งแกร่งของเธอ
แม็กซ์มองไปที่ยาเบะมิยะด้วยความพึงพอใจ เธอมีความจำที่ดีและร่างกายที่แข็งแกร่ง – เธอเกือบจะสมบูรณ์แบบสำหรับเขา แต่เธอก็ดูแข็งๆอยู่นิดหน่อย แม็กซ์ยิ้มและพูดว่า “ฉันต้องการให้ลูกค้าของเรารู้สึกสะดวกสบายในการกินอาหารที่นี่ ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของเราคือ : ความเป็นมิตร ระยะห่าง ความเท่าเทียม เธอไม่จำเป็นต้องคอยรับใช้พวกเขา แต่รอยยิ้มจะทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าได้อยู่ที่บ้านในขณะที่เรารักษาระยะห่าง และเราควรปฏิบัติต่อลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมกันและแสดงความเคารพอย่างที่พวกเขาสมควรได้รับ ตอนนี้เธอยิ้มอย่างจริงใจให้กับฉันได้มั้ย ?”
ความเป็นมิตร ระยะห่าง ความเท่าเทียม ยาเบะมิยะคิดตามและหลงลืมความประหม่าไป
ความเท่าเทียมเป็นคำที่ไม่คุ้นเคยสำหรับเธอ ! เธอใช้ชีวิตอย่างไม่เท่าเทียมมาตั้งแต่เกิด ร้านอาหารที่เธอเคยทำงานให้ความสำคัญกับเอลฟ์เป็นลำดับแรก จากนั้นก็ปีศาจและโทรลแล้วต่อด้วยมนุษย์ ลูกผสมไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปกินที่นั่น มันไม่มีความเท่าเทียมอะไรให้พูดถึง
เขาบอกว่าเขาจะปฏิบัติกับลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน นั่นหมายถึงลูกผสมอย่างฉันก็สามารถมากินที่นี่ได้ และฉันจะเป็นพนักงานเสิร์ฟของพวกเขา มันดีมาก ! ความคิดนี้ทำให้ยาเบะมิยะเผลอยิ้มออกมา
รอยยิ้มของเธอเป็นเหมือนกับดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆที้เบ่งบานอยู่ในดินแดนอันแห้งในฤดูหนาว มันไม่ได้มีเสน่ห์อะไรมากมายแต่มันกลับดูใสซื่อเป็นอย่างมาก ราวกับว่ามันมีความสามารถในการชำระล้างวิญญาณ
“ถ้าเธอสะดวกเธอสามารถเริ่มมาทำงานได้ในวันพรุ่งนี้เลยนะ” แม็กซ์พูดอย่างจริงจังพร้อมกับมองไปที่ยาเบะมิยะ
รอยยิ้มของเธอน่ารักเป็นอย่างมากและที่สำคัญไปกว่านั้นคือรอยยิ้มนี้มันเหมือนจะกลายเป็นโรคติดต่อได้ เธอจะเป็นกำลังใจให้ผู้คนได้ด้วยรอยยิ้มนั้น มันเป็นของขวัญที่พิเศษ บางทีเธออาจจะไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างจากลูกค้าโดยเจตนา ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าด้วยวิธีนี้
“จริงเหรอ ?” ยาเบะมิยะรู้สึกแปลกใจ เธอไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
แม็กซ์พยักหน้า “มันเป็นความจริง สำหรับเงินเดือนของเธอ เดือนแรกจะเป็นเดือนทดลองงานและฉันจะให้เงินเดือน 4,500 เหรียญทองแดง อาหารกลางวันฟรี แต่จะไม่มีอาหารเช้าและอาหารเย็นและเราไม่มีที่พักเอาไว้ให้ ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอขาดเงิน ฉันจะให้เงินเดือนเธอล่วงหน้าครึ่งเดือนเพื่อให้เธอมีเงินสำหรับเช่าบ้านและกินอาหาร” จากนั้นเขาก็มองไปที่เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันและรอยปะเย็บของเธอแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดเสริมว่า “และฉันจะให้ชุดทำงานเธอสองชุด”
“ฉัน…” ยาเบะมิยะอ้าปากค้าง เธอยืนนิ่งไปด้วยความประหลาดใจ เธอรู้สึกอยากจะเป็นลมไปเพราะความสุข ฉันแค่ท่องจำข้อความ ยกโต๊ะและยิ้ม แล้วเขาก็จ้างฉัน ! ด้วยเงิน 4,500 เหรียญทองแดงต่อเดือน ! ก่อนหน้านี้ที่ฉันทำงานในครัวฉันได้เงินแค่เดือนละ 800 เหรียญทองแดงเท่านั้นและพวกเขาก็ไม่ได้ให้อาหารหรือที่พักเลย
“ระบบแสดงแคตตาล็อกเสื้อผ้าผู้หญิงหน่อย ฉันจำเป็นต้องซื้อชุดทำงานสำหรับพนักงานใหม่ของฉัน” แม็กซ์พูดในใจ
“ฉันเป็นระบบที่น่านับถือ ฉันไม่ได้ขายเสื้อผ้าผู้หญิง” ระบบพูดอย่างจริงจัง
“ฉันต้องการเสื้อผ้าสองชุดและรองเท้าที่เข้าคู่กันสองคู่ ฉันจะจ่ายเงินสด” แม็กซ์พูด
ระบบเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่มันจะถามว่า “คุณซื้อมู่ลี่หน้าต่างในราคาที่สูงขึ้นอีกนิดหน่อยได้มั้ย ?”
“ปกติแล้วนายควรจะได้ส่วนลดเมื่อนายซื้อของเพิ่มใช่มั้ย ? 5 เหรียญทองเป็นยังไง ?” แม็กซ์ถาม
มีข้อความปรากฏขึ้นมาในหัวของแม็กซ์ “การทำธุรกรรมเสร็จสิ้น เหรียญทอง 6 เหรียญจะถูกหักออก กำลังผลิตมู่ลี่หน้าต่าง มันจะพร้อมในอีก 10 นาที ซื้อของอย่างอื่นด้วยราคา 10 เหรียญทองหรือมากกว่าแล้วมู่ลี่หน้าต่างจะถูกติดตั้งฟรี
แม็กซ์ต้องการวิจารณ์ระบบที่ทำข้อตกลงไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเขา แต่เขาคิดว่า 10 เหรียญทองสำหรับเสื้อผ้าสองชุดและรองเท้าสองคู่ไม่ได้ถือว่ามากเกินไป
ด้วยวิธีนี้ระบบจะช่วยแก้ปัญหาในการติดตั้งมู่ลี่หน้าต่างให้เขา และเขาไม่ต้องทำมันด้วยตัวเอง
ระบบมีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากที่การทำธุรกรรมผ่านไป “คุณต้องการเสื้อผ้าแบบไหน ? ฉันมีชุดสูทชุดสำนักงาน ชุดเดรส ชุดเดรสสายเดี่ยว ชุดเดรสแบบเข้ารูป…ชุดกะลาสี ชุดเมด ชุดว่ายน้ำโรงเรียน…”
“เดี๋ยว ! อะไรนะ ?! นายขายแม้กระทั่งชุดกะลาสีและชุดว่ายน้ำโรงเรียน ?! ให้มันเหมาะสมหน่อยได้มั้ยเนี่ย !” แม็กซ์เบ้ปากจากนั้นก็พูดว่า “ฉันต้องการชุดเมดสองชุด”