Chapter 233 : ระบบกำลังเรียนรู้…
“ดี คุณกินไก่ตัวนี้ได้” หลังจากนั้นไม่นานระบบก็พูดออกมาอย่างยอมแพ้ “และคุณสามารถใช้วัตถุดิบทุกอย่างที่คุณได้รับจากการทำภารกิจนี้สำเร็จ”
แม็กซ์ยิ้ม “ต้องอย่างนี้สิ” ฉันเริ่มต่อรองกับระบบได้แล้ว ตอนนี้ฉันไม่สามารถยอมแพ้หรือว่าท้าทายจนเกินไปได้ เมื่อฉันเข้าใจกฎที่มันต้องทำตามได้ทั้งหมดฉันก็จะควบคุมมันได้เหมือนกับไวโอลิน
ระบบไม่รังเกียจที่จะเล่นสกปรกและแม็กซ์เองก็เช่นกัน
“ถ้าคุณไม่ต้องการอะไรฉันคงต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมแล้ว กรุณาอย่ารบกวนฉันไปอีกสักพัก”
“นายคงไม่ได้กำลังเรียนรู้วิธีอื่นเพื่อไปถึงจุดสุดยอดใช่มั้ย? มันไม่เหมากับนายหรอก!”
มีคำบางคำปรากฏขึ้นมาในหัวของแม็กซ์ “ระบบกำลังเรียนรู้…”
แม็กซ์รู้สึกเหมือนกับว่าเขามีอิทธิพลที่ไม่ดีต่อระบบ
เมื่อพวกเขาเดินไปได้ครึ่งทางเอมี่ก็ยืนกรานว่าเธอจะเดินด้วยตัวเอง เธออุ้มลูกแมวเอาไว้ในอ้อมแขนและพยายามเดินตามแม็กซ์ให้มันด้วยขาสั้น ๆ ของเธอ
ฉันโชคดีที่มีลูกสาวที่ใส่ใจ แม็กซ์เดินให้ช้าลงและให้เธอเดินอยู่ทางด้านขวาของเขา
ระยะทางเท่าเดิมแต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องใช้เวลาเป็นสามเท่าของขามา เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
“ในที่สุดเราก็เดินมาถึงประตูแล้ว” เอมี่พูดขึ้นในขณะที่เธอมองไปที่ประตู เหงื่อหยดหนึ่งไหลลงมาตามใบหน้าของเธอแล้วตกลงไปที่หัวของลูกแมว
จากนั้นเธอก็ก้มลงมองลูกแมว “ฉันคิดว่าแกอ้วนขึ้น แกต้องลดน้ำหนักเมื่อเรากลับไปถึงบ้าน”
“เหมียว เหมียว” ลูกแมวเงยหน้าขึ้นมองเอมี่ด้วยดวงตาสีไพลินอย่างไร้เดียงสา
“ไม่มีข้อแก้ตัว! คืนนี้แกต้องวิ่ง 10 รอบก่อนนอน”
“เหมียว” ลูกแมวร้องออกมาอย่างท้อแท้ใจ
“ลูกเป็ดขี้เหร่กำลังโตขึ้นเหมือนกับหนู นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงตัวหนักขึ้น” ลูกเป็ดขี้เหร่มองเขาด้วยสายตาที่กตัญญู “แต่การวิ่งก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับมัน”
ลูกแมวมองไปทางอื่นอย่างไม่มีความสุข
“หนูทำได้ดีมากที่เดินมาจนถึงที่นี่” แม็กซ์ย่อตัวลง “ขึ้นมาขี่หลังพ่อแล้วเราไปที่จักรยานของเรากัน”
“พ่อกับลูกสาวคู่นั้นกลับมาแล้วครับหัวหน้า! คุณรีบมาดูสิ!” ยามหนุ่มพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“นั่นคือไก่เพลิงและนั่น…เขี้ยวของหมูป่าสัมฤทธิ์!” ยามอีกคนพูด
บัดดี้เองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน “อย่าตัดสินคนอื่นด้วยสิ่งที่เห็น”
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในเมืองแม็กซ์พูดว่า “ระบบ ส่งจักรยานของฉันมาให้ฉัน”
ในหัวของเขายังคงมีประโยคเดิมอยู่ “ระบบกำลังเรียนรู้…”
แม็กซ์ยกคิ้ว ระบบนี่มันไม่มีทางเยียวยาจริง ๆ จากนั้นเขาเห็นไอคอนที่อยู่ในหัวของเขาซึ่งเขียนเอาไว้ว่า ‘หยิบจักรยาน’ แม็กซ์คลิกไปที่มัน แผนที่โฮโลแกรมในระยะ 50 เมตรรอบตัวเขาปรากฏขึ้นมาพร้อมกับข้อความบอกให้เขาเลือกตำแหน่งของจักรยาน
แม็กซ์มองไปรอบ ๆ และพบกับซอยที่เงียบสงบ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ซอยนั้นกับเอมี่
เป็นเรื่องดีที่ให้ฉันรับจักรยานได้ด้วยตัวเอง แม็กซ์คิดในขณะที่เขามองดูจักรยาน “ขึ้นจักรยานแล้วกลับบ้านกันเถอะ” เขาพูดกับเอมี่
เอมี่พยักหน้าอย่างมีความสุข “ค่ะพ่อ!” เธอวางลูกแมวเอาไว้ในตะกร้าแล้วปีนขึ้นไปนั่งบนที่นั่งของเธอ
“เหมียว เหมียว” ลูกแมวจับตะกร้าเอาไว้และมองไปที่เอมี่ด้วยความหวาดกลัว
แม็กซ์วางเขี้ยวเอาไว้ในตะกร้า “จับมันเอาไว้นะลูกเป็ดขี้เหร่” เขาขี่จักรยานโดยใช้มือข้างเดียวและถือไก่เพลิงเอาไว้ด้วยมืออีกข้างแล้วเริ่มปั่น จักรยานเคลื่อนที่ออกมาจากซอบไปทางลานเอเดน
“เหมียว” ลูกแมวร้อง เป็นเรื่องลำบากมากที่มันจะต้องจับเขี้ยวนี้เอาไว้
แม็กซ์ดูนาฬิกาของเขา ตอนนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมง โดยปกติจะมีลูกค้าบางคนมาถึงร้านของเขาแล้ว หวังว่าจะมีคนรออยู่ที่หน้าร้านไม่มากนะ
เขาบอกว่าเขาจะเปิดร้านในวันพรุ่งนี้และเขาตั้งใจว่าเขาจะรักษาสัญญานั้น
นอกจากนี้มือของเขายังต้องการเวลาในการรักษา มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะนวดแป้งด้วยมือที่บาดเจ็บ
ไม่มีใครรออยู่ที่หน้าร้านเมื่อแม็กซ์กลับมาถึง แต่มันกลับเต็มไปด้วยมีดที่แวววาว
แม็กซ์รู้สึกได้ถึงความเกลียดชังของเจ้าของมีดที่แผ่ออกมาจากพวกมัน
เอมี่มีความสุขมากที่ได้เห็นพวกมัน “พ่อคะ มีมีดอยู่เยอะแยะเลย! หนูขอสักอันได้มั้ยคะ?”
“ได้สิ หนูเลือกอันที่หนูชอบได้เลย” แม็กซ์มองเห็นมีดที่ดูดีมากหลาย ๆ อันในหมู่พวกมัน พวกมันต้องเป็นของคนรวยบางคนแน่ ๆ
“หัวหน้าคะ คุณกลับมาแล้ว!” ยาเบะมิยะพูดอย่างมีความสุขในขณะที่พวกเธอเดินออกมาจากด้านข้างของร้านอาหาร