Chapter 265 : เธอเป็นภรรยาของเขารึเปล่า?
หลังอาหารเช้าแม็กซ์ห่ออาหารให้กับครัสซูและปั่นจักรยานออกไป
ลูกเป็ดขี้เหร่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งระหว่างบ้านกับจักรยาน ในที่สุดมันก็เลือกจักรยาน แม็กซ์ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่ชอบอยู่บ้านคนเดียว
เมื่อแม็กซ์ล็อคประตูเขาก็มองไปที่โรงตีเหล็กของโมไบ มันยังถูกปิดเอาไว้เหมือนเมื่อวาน แปลกจริง ๆ ฉันหวังว่าเขาจะไม่ประดิษฐ์อะไรที่เป็นอันตรายนะ เขากังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับความปลอดภัยของร้านอาหารของเขา
แม็กซ์เดินเข้าไปในโรงเรียนกับเอมี่ ประตูห้องเวทมนตร์ถูกเปิดแง้มเอาไว้ เขาเคาะประตูก่อนที่เขาจะเปิดแล้วเดินเข้าไป
“อรุณสวัสดิ์เอมี่” ครัสซูพูดขึ้นในขณะที่เขาถือหลอดทดลองที่มีลักษณะคล้ายกับขวดที่มีสีที่แตกต่างกันอยู่สามสี ได้แก่ แดง น้ำเงินและขาว พวกมันอยู่ในภาชนะเดียวกันแต่พวกมันไม่ได้ปะปนกัน
“นั่นคืออะไรคะอาจารย์คัรสซู?” เอมี่ถามอย่างสงสัย
แม็กซ์เองก็สนใจเช่นกัน น้ำยาเวทที่ถูกทำขึ้นมาโดยนักเวทอาวุโสจะต้องทรงพลังมากแน่ ๆ มันอาจจะเป็นกำแพงเวทมนตร์บางชนิดที่สามารถปกป้องเอมี่ได้
“ตั้งใจดูให้ดี ๆ นะ!” ครัสซูพูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส เขาเขย่าขวดแก้วอย่างแรง น้ำยาเวทมนตร์ทั้งสามสีหมุนวนและพันเข้าหากัน ทันใดนั้นกุหลาบสามสีก็โผล่ขึ้นมาจากปากหลอดทดลอง ครัสซูดึงพวกมันออกมาแล้วส่งพวกมันให้กับเอมี่ “หนูชอบพวกมันมั้ย?”
เอมี่ยิ้มกว้าง “ว้าว มันน่าทึ่งมากเลยค่ะอาจารย์ครัสซู ดอกไม้พวกนี้สวยมาก!”
แม็กซ์ยิ้มแห้ง เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะได้เห็นสิ่งนี้ เขาไปไกลเกินกว่าการสร้างความประทับใจให้กับลูกศิษย์ของเขาแล้วไม่ใช่เหรอนั่น?
“นายเอาข้าวไก่ตุ๋นและพุดดิ้งเต้าหู้มาให้ฉันมั้ย?” ชายชราถามด้วยความคาดหวัง
แม็กซ์พยักหน้า “เอามาครับ”” เขาวางถุงลงบนโต๊ะ
“ทั้งหมดราคา 1,100 เหรียญทองแดงค่ะอาจารย์ครัสซู” เอมี่พูดพร้อมกับยื่นมือของเธอออกมา “ส่วนมื้อเช้าของหนูเป็นข้าวไก่ตุ๋นและข้าวอีกหนึ่งถ้วยและพุดดิ้งเต้าหู้ ราคา 1,150 เหรียญทองแดงค่ะ” เธอยิ้ม (เผื่อใครลืมครับ พุดดิ้งเต้าหู้ถ้วยละ 300, ข้าวไก่ตุ๋นชุดละ 800, ข้าวถ้วยละ 50 *หน่วยเงินเป็นเหรียญทองแดง)
ครัสซูอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ได้เลย” เขาและอูเรี่ยนอาจจะเป็นอาจารย์เพียงแค่สองคนที่ต้องจ่ายค่าอาหารประจำวันให้กับลูกศิษย์ของพวกเขา
แม็กซ์รู้สึกแย่เล็กน้อยที่ต้องเก็บเงินชายชราแต่เขาก็รับเงินมาอยู่ดี
“โอ้ วันนี้ตอนบ่ายฉันไม่สามารถไปส่งเอมี่กลับได้ นายต้องมารับเธอตอนสี่โมงครึ่งนะ” ครัสซูพูดในขณะที่เขาเปิดถุงกระเป๋าอย่างระมัดระวัง
“ได้ครับ” แม็กซ์ลูบหัวเอมี่แล้วเดินออกมา
เมื่อเขากลับมาถึงร้านมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ต่อแถวรออยู่ พวกเขาทักทายเขาและมองมาที่จักรยานของเขาด้วยความสนใจ
แม็กซ์ยิ้มตอบก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปพร้อมกับยาเบะมิยะและแซลลี่จากนั้นก็ปิดประตูอีกครั้ง
ผู้คนด้านนอกเริ่มพูดคุยกัน
“เอลฟ์สาวสวยคนนั้นเข้าไปด้วยทำไม?”
“เธอเป็นภรรยาของเขารึเปล่า?”
“อาจจะใช่ ฉันไม่เคยเห็นภรรยาของเขามาก่อน”
“ไม่ใช่หรอก ไม่มีทางที่เธอจะเป็นได้ เธอมีอายุประมาณ 18 แต่ลูกสาวของแม็กซ์อายุ 4 ขวบแล้ว”
“เอลฟ์ที่มีอายุ 300 ปีสามารถดูเด็กได้เหมือนกับเธอ อย่าลืมนะว่าพวกเขามีชีวิตอยู่ได้ถึง 800 ปี และคนที่สามารถใช้เวทมนตร์แห่งชีวิตได้จะดูเด็กตลอดไป”
“ฉันคิดว่าเธอน่าจะเป็นพนักงานเสิร์ฟคนใหม่ ถ้าเธอเป็นภรรยาของเขาจริง ๆ เธอก็น่าจะมีกุญแจ แต่นี่เธอยืนรออยู่ข้างนอกกับยาเบะมิยะ”
…
แม็กซ์นำจักรยานไปเก็บ เขามองดูลูกแมวที่เมาจักรยานแล้วหันไปหาพนักงานเสิร์ฟของเขา “นี่เป็นวันแรกที่เธอมาทำงานที่นี่ ผ่อนคลายและทำอะไรให้ช้าหน่อย พยายามอย่าทำอะไรพลาดมากเกินไป”
“คุณอยากให้ฉันช่วยจัดการกับไก่เพลิงมั้ยคะ?” ยาเบะมิยะถาม
“ไม่เป็นไร ฉันซื้อเป็นแบบน่องไก่มา เธอสองคนนั่งพักไปก่อนนะ” เธอเป็นพนักงานที่ดีจริง ๆ
“ได้ค่ะ” เธอตอบรับด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
“บางทีเราอาจจะเต้นกันได้สักหน่อย…” แซลลี่แนะนำเสียงเบา ท่าเต้นบางท่านั้นเซ็กซี่เกินไปสำหรับเธอ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถทำให้การเต้นออกไปจากหัวของเธอได้ เมื่อคืนเธอฝึกฝนเต้นด้วยตัวเองอย่างหนัก
“เราเต้นได้มั้ยคะ?” ยาเบะมิยะถามแม็กซ์ด้วยความตื่นเต้น
“แน่นอน” แม็กซ์หยิบกล่องเพลงออกมาแล้วเปิดมัน ฉันอาจจะเป็นหัวหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ แต่ฉันก็ปล่อยให้พวกเธอทำในสิ่งที่พวกเธอต้องการเมื่อไม่มีงานทำ
ผู้คนที่อยู่ข้างนอกยังคงคุยกันอยู่ แต่พวกเขาเปลี่ยนหัวข้อไป
“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับร้านอาหารเมื่อวานนี้”
“อะไรเหรอ? ไม่ใช่ว่าเมื่อวานแม็กซ์ออกไปหาวัตถุดิบเหรอ?”
“ใช่ แต่ฉันได้ยินมาว่าในตอนบ่ายมีคนมาโจมตีร้านอาหารและร้านได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก มีแม้กระทั่งหลุมอุกกาบาตที่ลึกลงไปสิบเมตรบนพื้นดิน!”
“ไม่นะ! ใครกันที่ทำเรื่องที่บ้าคลั่งแบบนั้น!”