A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World – ตอนที่ 299

ตอนที่ 299

Chapter 299 : มันนุ่ม?

“งั้นก็มาเถอะ” อูเรี่ยนตอบโดยไม่ได้หันหน้ากลับไปมอง เขาถือขวดคริสตัลคอยาวเอาไว้และเติมของในนั้นลงไปในน้ำยาเวททุกสีก่อนที่จะหมุนขวดให้พวกมันผสมเข้าด้วยกันเบา ๆ

“คุณทำได้พี่สาวไอช่า” เอมี่สนับสนุนไอช่าด้วยความคาดหวังในสายตาของเธอ จากนั้นเธอก็เขย่งเท้าขึ้นและพูดปลอบฉีฉีและลู่ลู่ “พี่สาวฉีฉี คุณหมีใหญ่ ทั้งพี่สาวไอช่าและอาจารย์เต่าต่างก็เก่งมาก พวกเขาจะทำให้พวกคุณหายดีอย่างแน่นอน”

“พวกคุณต้องดีขึ้นนะ! เรื่องราวความรักของพวกคุณไม่ควรจบลงด้วยโศกนาฏกรรม!” ยาเบะมิยะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กล่าว สีหน้าของเธอดูค่อนข้างเป็นกังวล

“ช่วยเธอ…ก่อน…” ลู่ลู่พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก จากนั้นเขาก็หันไปมองแซลลี่ด้วยสายตาที่ซับซ้อน

“เอาล่ะ” แซลลี่พยักหน้าก่อนที่จะสร้างตะเกียบขึ้นมาในทันที แสงสีเขียวปรากฏขึ้นและตะเกียบก็เติบโตขึ้นเป็นต้นไผ่ขนาดเล็กในอัตราที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“เอ๊ะ?” อูเรี่ยนหยุดสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ก่อนที่จะหันไปมองต้นไผ่ในมือของแซลลี่ด้วยความประหลาดใจ มีพลังชีวิตที่มากล้นเล็ดลอดออกมาจากต้นพืชเล็ก ๆ นี้ เขาหรี่ตาลงและคิดกับตัวเอง ใครจะไปคิดว่าเธอจะใช้เวทมนตร์แห่งชีวิตได้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่เอลฟ์ธรรมดา ความสามารถของเวทมนตร์แห่งชีวิตนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่ายามาก ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินเธอต่ำเกินไป อย่างไรก็ตามการพบกันระหว่างเวทมนตร์ธรรมชาติกับเวทมนตร์แห่งชีวิตจะไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ดีใช่มั้ย?

ฉีฉีบังคับให้ดวงตาของเธอเปิดขึ้นในขณะที่เธอมองไปที่ต้นไผ่ในมือของแซลลี่ มีความประหลาดใจและความวิตกกังวลปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ เธอคุ้นเคยกับเวทมนตร์แห่งชีวิตมาก มันคล้ายกับเวทมนตร์แห่งธรรมชาติแต่มันก็แตกต่างกัน ราวกับต้นไม้สองต้นที่งอกออกมาจากรากเดียวกันก่อนที่จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ดังนั้นพวกมันจึงกลายเป็นต้นไม้สองต้นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ต้นไม้แห่งชีวิตที่ยิ่งใหญ่ โปรดมอบพลังแห่งแสงสว่างและพลังในการชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปให้กับข้า…” แซลลี่ร่ายคาถาในขณะที่เธอกดต้นไผ่ลงที่แผลบริเวณหน้าท้องของฉีฉีเบา ๆ

แสงสีเขียวสว่างเข้าไปปกคลุมท้องของฉีฉีอย่างช้า ๆ และชั้นน้ำแข็งที่ช่วยห้ามเลือดเอาไว้ก็หายไป สิ่งปนเปื้อนสีดำและแดงยังคงปรากฏให้เห็นบนแผลที่เกือบจะปกคลุมไปทั่วทั้งท้องส่วนล่างของเธอและเลือดก็เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง นี่เป็นพิษจากกรงเล็บของมนุษย์หมาป่าและสาเหตุที่เลือดของเธอไม่ยอมหยุดไหล

“อ๊ะ…” คิ้วของฉีฉีขมวดแน่นในขณะที่เธอครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเธอพยายามขดตัวเป็นก้อนโดยไม่รู้ตัวและเหงื่อเย็น ๆ ก็ซึมออกมาเต็มหน้าผากของเธอ

ลู่ลู่จับมือของเธอเอาไว้ด้วยความห่วงใย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

ฉีฉีสบตากับลู่ลู่และราวกับว่าความเจ็บปวดของเธอลดน้อยลงอย่างมากในทันที

แซลลี่กวาดมืออีกข้างของเธอเบา ๆ บนแผลและมีน้ำสีฟ้าครามปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่าน้ำนี่จะเป็นพิษที่ถูกน้ำชะล้างออกมา บาดแผลกลับสู่สีปกติและแซลลี่ก็ตรวจสอบดูว่าไม่มีเลือดไหลออกมาเพิ่ม

“ฮวู่…” ฉีฉีถอนหายใจออกมาเบา ๆ ความเจ็บปวดจากแผลของเธอลดน้อยลงมากและการไหลผ่านของน้ำเย็นก็ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายราวกับว่ามีมือเล็ก ๆ มานวดในบริเวณที่เธอได้รับบาดเจ็บเบา ๆ

เอ๊ะ? ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างในร่างกายของเธอที่คอยช่วยฟื้นฟูตัวเธอเอง มันช้ามาก แต่มีผลคล้ายกับเวทมนตร์แห่งชีวิต แซลลี่กำลังจะใช้ต้นไผ่ของเธออีกครั้ง ทันใดนั้นแสงสีเขียวปริศนาก็ปรากฏขึ้นบนแผลของฉีฉีและทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ เธอเคยเห็นแสงนี้ในการต่อสู้มาก่อน กระแสเวทมนตร์ของมันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับธรรมชาติ

บางทีมันอาจจะเป็นความสามารถในการงอกใหม่ แซลลี่ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้และแตะแผลเบา ๆ ด้วยต้นไผ่ของเธอ แสงสีเขียวไหลออกมาอย่างต่อเนื่องเข้าไปในบาดแผลที่ดูน่ากลัวและมันก็เริ่มรักษาตัวเอง

กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณสามนาทีหลังจากนั้นต้นไผ่สีเขียวสดในมือของแซลลี่ก็เหี่ยวเฉาลงก่อนที่จะแตกสลายกลายเป็นฝุ่นไป

แสงสีเขียวที่อ่อนโยนปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของฉีฉี แผลของเธอหายดีแล้วและเหลือแผลเป็นเอาไว้แค่เล็กน้อยเท่านั้น เธอซึมซับพลังชีวิตที่มีอยู่เป็นจำนวนมากจากเวทมนตร์แห่งชีวิตและใบหน้าซีด ๆ ของเธอก็กลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เป็นอะไรแล้ว

แซลลี่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเธอเห็นแบบนั้น อาการบาดเจ็บของฉีฉีแตกต่างจากบาดแผลเล็ก ๆ ที่มือของแม็กซ์ นอกจากนี้เธอก็ไม่ค่อยได้ใช้เวทมนตร์ในการรักษา แต่ดูเหมือนว่าเธอจะประสบความสำเร็จและบาดแผลของฉีฉีก็หายดีหลังจากที่เธอดูดซับพลังชีวิตที่เหลืออยู่

จากนั้นแซลลี่ก็หยิบตะเกียบอีกอันออกมาและเตรียมพร้อมที่จะรักษาลู่ลู่

ทันใดนั้น จู่ ๆ ต้นกล้าเล็ก ๆ ก็งอกขึ้นมาจากท้องของฉีฉี จากนั้นมันก็เริ่มดูดซับพลังชีวิตรอบ ๆ ตัวฉีฉีอย่างบ้าคลั่ง มันดูดพลังชีวิตรอบ ๆ จนหมดในพริบตาก่อนที่จะหายกลับเข้าไปในท้องของเธออีกครั้ง

“เมื่อกี้นี้คืออะไร?” แซลลี่รู้สึกตกใจเล็กน้อย ต้นกล้าเล็ก ๆ ปรากฏตัวขึ้นเพียงไม่ถึงสามวินาที แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอที่จะเห็นมันได้อย่างชัดเจน หลังจากที่มันหายกลับเข้าไปในร่างกายของฉีฉี ลมหายใจของเธอก็ดูสม่ำเสมอมากขึ้นและอาการของเธอก็ดูจะดีขึ้นมาก

มันคือต้นไม้โลก แต่ดูเหมือนว่ามันใกล้จะแห้งตายแล้ว ราวกับว่าชีวิตของมันกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีต อูเรี่ยนถอนหายใจอยู่ภายในและละสาสยตาออกจากท้องของฉีฉี

“พี่สาวไอช่าเก่งที่สุดเลย!” เอมี่อุทานเบา ๆ ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

“ได้โปรดช่วยเขาด้วย” ฉีฉียังคงอ่อนแอเกินกว่าที่จะลุกขึ้นมานั่งได้ ดังนั้นเธอจึงหันมามองแซลลี่ เธอยังคงจับมือของลู่ลู่เอาไว้เบา ๆ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความอ้อนวอน

“ได้สิ” แซลลี่พยักหน้าตอบรับ เธอรู้สึกงุนงงกับสิ่งที่เธอเพิ่งเห็นไป แต่เธอก็เริ่มทำการรักษาในทันที

เมื่อเทียบกับฉีฉี อาการบาดเจ็บของลู่ลู่นั้นร้ายแรงกว่ามาก แทบจะไม่มีส่วนไหนบนร่างกายของเขาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

น้ำสีน้ำเงินชำระล้างบาดแผลของเขาในขณะที่แสงสีเขียวปกคลุมเหนือร่างกายของเขา เลือดหยุดไหลอย่างรวดเร็วและแผลก็เริ่มตกสะเก็ด สีหน้าที่เจ็บปวดของเขาค่อย ๆ หายไปและลมหายใจของเขาก็มั่นคงขึ้น เขามองไปที่ฉีฉีก่อนที่เขาจะหมดสติไป

ต้นไผ่ต้นที่สองกลายเป็นฝุ่นไปหลังจากที่มันทำหน้าที่เสร็จ แซลลี่พูดเตือนฉีฉี “ฉันหยุดเลือดให้แล้ว แต่พวกเธอยังต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเครียดและป้องกันไม่ให้แผลเปิดขึ้นมาอีกครั้ง อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมากและเขาก็เสียเลือดไปมาก ดังนั้นเขาจึงต้องพักผ่อนและพักฟื้นเป็นเวลานาน ไม่ต้องกังวล ตอนนี้เขาแค่นอนหลับไปเท่านั้น”

“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยค่ะ” ฉีฉีพยายามลุกขึ้นนั่งพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยคามขอบคุณ

“ฉันดีใจที่คุณสบายดี” รอยยิ้มร่าเริงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของยาเบะมิยะก่อนที่ดวงตาของเธอจะเบิกกว้างแล้วรีบวิ่งออกจากร้านไปและตะโกนว่า “ฉันต้องกลับไปทำงาน! ตอนนี้หัวหน้าต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเอง!”

“ฉันเองก็ต้องกลับไปทำงานเหมือนกัน” แซลลี่เองก็ตกใจเช่นกัน มีลูกค้าจำนวนมากอยู่ในร้านอาหาร ไม่มีทางที่แม็กซ์จะจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว

ยาเบะมิยะรีบวิ่งออกไปอย่างลนลานและเธอก็ชนเข้ากับคน ๆ หนึ่งหลังจากที่เธอวิ่งผ่านประตูออกมา พลังเย็นยะเยือกที่ปล่อยออกมาเกือบจะทำให้ร่างกายของเธอแข็งเป็นน้ำแข็ง แต่ดูเหมือนว่าหัวของเธอจะสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่…ค่อนข้างนุ่ม?

A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World

A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World

Status: Ongoing

ที่เมืองเคออส ณ ทวีปนอร์แลนมีร้านอาหารแปลกๆอยู่ร้านหนึ่ง

ที่นี่พวกเอลฟ์กำลังกินเคบับอย่างตะกละตะกลามโดยไม่คำนึงถึงมารยาทที่ควรมี มังกรยักษ์กำลังนั่งอยู่หน้าหม้อไฟอย่างใจจดใจจ่อ ปีศาจกำลังนั่งกินแดงโก้ที่ดูน่าอร่อย…

อยู่ที่นี่พวกเขาต้องทำตามกฎที่แปลกประหลาดและเข้มงวด แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขาเลิกมาต่อแถวเพื่อกินอาหารที่ร้านอาหารนี้เลย

พวกเขาพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ของอาหารที่นี่และความสามารถของพ่อครัวที่แสนวิเศษ ที่นี่ไม่มีใครกล้ากินแล้วหนี

“จ่ายเงินมาเดี๋ยวนี้ !” เด็กหญิงตัวน้อยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันแสนน่ารักของเธอ มังกรตัวสูงห้าเมตรถึงกับต้องตัวสั่นเมื่อถูกเธอจ้องมอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท