Chapter 366 : ผู้สืบทอด
เช้าวันรุ่งขึ้นแม็กซ์ตื่นเช้าขึ้นมาตามปกติเพื่อเตรียมวัตถุดิบ เขาขึ้นไปปลุกเอมีตอน 7 โมงเช้า และช่วยเธอสวมเสื้อคลุมนักเวทตัวน้อยของเธอ เธอมีเรียนกับอูเรียนในวันนี้
เอมี่ที่กําลังเคี้ยวเนื้อไก่ในปากถามขึ้นในขณะที่เธอกินอาหารเช้า “พ่อคะ วันนี้ร้านอาหารของเราจะได้กลับเข้าไปในกระดานจัดอันดับมั้ยคะ?”
“อืม…พ่อเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน มันมีโอกาสน้อยมากเลยล่ะ” แม็กซ์ส่ายหัว เมื่อคืนนี้เขาพลาดโอกาสที่จะพูดเรื่องนี้กับไมเคิล และเขาก็ไม่อยากจะไปเสียเวลาที่ปราสาทเจ้าเมือง บางทีวอร์เรนอาจจะมีจิตสํานึกขึ้นมาหลังจากที่ได้กินอาหารของเขา แล้วคืนอันดับให้กับร้านอาหารมามในวันนี้
แน่นอนว่าแม็กซ์ไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดนั้น ในชีวิตก่อนเขาเคยอยู่ในจุดที่สูงมากมาก่อน และเคยเห็นคนมามาก เขารู้ว่าคนที่มีฐานะอย่างวอร์เรนมีหลายสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ความมั่งคั่งกําลังเติมเชื้อเพลิงแห่งความโลภให้กับคนของสมาคมจัดเลี้ยง และวอร์เรนเองก็ตกอยู่ในการควบคุมของมันด้วย
พูดได้ว่าถ้าไม่มีการแทรกแซงจากบุคคลที่สามที่มีอิทธิพล ร้านอาหารมามจะได้รับการคืนสถานะบนกระดานจัดอันดับหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับสภาหอการค้า
แม็กซ์ไม่ต้องใช้เวลาคิดก็รู้ว่าการโจมตีนี้มาจากหอการค้า เป็นเพราะว่าหอการค้ามองว่าร้านอาหารมามีเป็นศัตรูจากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา ทั้งการหักหน้ากู้ดเนียและประกาศว่าจะโค่นล้มหอการค้า รวมถึงการที่กู้ดเนียและดีโว่ถูกจับ ไหนจะอันดับที่สูงมากของร้านอาหารมามีบนกระดานจัดอันดับที่เบียดอันดับของสมาชิกของหอการค้าให้ตกลงไปอีก ดังนั้นพวกเขาจึงจัดการไม่ให้ร้านอาหารมามีได้อยู่บนกระดานจัดอันดับอีกต่อไป ไม่มีทางที่ร้านอาหารมามีจะได้รับสถานะบนกระดานจัดอันดับคืนยกเว้นว่าประธานของหอการค้าจะเสียสติไปแล้ว
“ พวกเขาเป็นคนเลว! หนูโกรธมาก!” เอมีบ่นในขณะที่เธอตักข้าวคําโตเข้าปาก “หนูโกรธมากจนหนูอยากได้ข้าวอีกถ้วยนึ่งเลย!”
“หนูกินข้าวได้แค่ถ้วยเดียวเท่านั้นถ้าหนูยังอยากกินพุดดิ้งเต้าหู้อยู่ มื้อเช้าหนูไม่ควรกินเยอะ” แม็กซ์หัวเราะออกมาหลังจากที่เห็นใบหน้ามุ่ยๆของเอมี แต่เขาก็ยังปฏิเสธคําขอของเธอ
“ก็ได้… งั้นหนูขอพุดดิ้งเต้าหูสองด้วยนะคะ แบบหวานและแบบคาวอย่างละถ้วย” เอมีรู้สึกผิดหวังอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะชูสองนิ้วขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรบางอย่างได้ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเป็นประกายขึ้นมา “พ่อคะ ถ้าเราเอาน้ําซอสของปลาย่างรสเผ็ดราดไว้บนพุดดิ้ง เต้าหู้มันจะอร่อยมั้ยคะ?”
“พุดดิ้งเต้าหูแบบเผ็ดเหรอ?” แม็กซ์เลิกคิ้วขึ้นและมองเอมีด้วยสีหน้าประหลาดใจ วัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่มีจินตนาการที่สุดจริงๆ
ในชีวิตก่อนแม็กซ์เคยกินพุดดิ้งเต้าหูแบบเม็ดที่เสฉวนมาก่อนแต่ยังไงเขาก็ยังชอบพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวมากกว่า นอกจากนี้ระบบยังให้สูตรพุดดิ้งเต้าหูเขามาแค่สองอย่างเท่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะ ทําให้เป็นแบบอื่นได้แต่เขาก็ไม่มีสูตรของพวกมัน และถ้าเขาต้องทดลองสูตรด้วยตัวเองมันจะต้องใช้เวลามาก
“ใช่ค่ะ! หนูอยากลองกินพุดดิ้งเต้าหูแบบเผ็ดๆ หนูคิดว่ามันน่าจะอร่อยมากแน่ๆ!” เอมีพยักหน้าน้อยๆด้วยสายตาดาดหวัง
“เอาล่ะ พ่อจะลองหาวิธีดูนะถ้าพ่อมีเวลา” แม็กซ์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ลูกสาวนักชิมตัวน้อยของเขาเริ่มมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเรียนรู้ที่จะคิดนอกกรอบแล้วคิดค้นอาหารของเธอเองแล้ว
“หนูแน่ใจว่าพ่อจะทําพุดดิ้งเต้าหูแบบเผ็ดให้อร่อยได้เหมือนกับปลาสายรุ้งแสนอร่อย” เอมี่พยักหน้าอย่างมีความสุข และเริ่มเล่าให้แม็กซ์ฟังถึงเรื่องน่าสนใจที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน
หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จเอมี่ก็ถามขึ้น “พ่อคะ หนูบอกแดฟเน่กับอิกนัตส์ว่าวันหยุดนี้พวกเขามาเล่นที่บ้านเราได้ พ่อทําปลาย่างแสนอร่อยให้พวกเขากินด้วยได้มั้ยคะ?”
“ได้เลย แล้วเจสสิก้าล่ะ?” แม็กซ์พยักหน้าและถามเอมี่เกี่ยวกับสาวน้อยแสนฉลาดที่เจอกันเมื่อครั้งที่แล้ว
“ช่วงไม่กี่วันนี้หนูไม่เห็นเจสสิก้าเลย แม่ของเธอกินไก่ตุ้นของพ่อไปแล้วดังนั้นเธอก็น่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าเธอช่วยแม่ที่บ้านได้เธอก็ไม่ต้องออกมาขอทานอีก” เอมี่ส่ายหัวด้วยความผิดหวังที่ไม่ได้เจอกับเพื่อนของเธอ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขที่เจสสิก้าสบายดี
“งั้นเราไปที่บ้านของพวกเขาและชวนพวกเขามาที่ร้านอาหารของเราพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆของหนูดีมั้ย?” แม็กซ์แนะนําด้วยรอยยิ้ม เขาบอกได้ว่าเอม่คิดถึงเจสสิก้ามากจริงๆ และเขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับทั้งคู่ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่ามันจะเป็นการดีที่สุดถ้าจะไปเยี่ยมพวกเขา
“เป็นความคิดที่ดีมากเลยค่ะ! พ่อเก่งที่สุดเลย!” เอมีพยักหน้าด้วยสีหน้าร่าเริง
แม็กซ์ลูบหัวเล็กๆของเอมีด้วยรอยยิ้ม อารมณ์ดีขึ้นเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเธอ
ไม่นานหลังจากนั้นยาเบะมิยะและแซลลี่ก็มาถึงร้านอาหาร แม็กซ์สามารถบอกได้จากสีหน้าที่มืดมนของเธอ ถ้ามันมีข่าวดี เธอจะไม่สามารถเก็บซ่อนอารมณ์ของเธอได้ในทันที
“หัวหน้าคะ ร้านอาหารมามีของเรายังไม่ได้กลับเข้าไปในการจัดอันดับเลยค่ะ แต่ไม่ต้องเสียใจไปในคะ ฉันแน่ใจว่าสมาคมจัดเลี้ยงจะต้องให้คําอธิบายกับเราแน่ค่ะ” ยาเบะมิยะพูดปลอบแม็กซ์ แต่ดวงตาของเธอก็เริ่มมีน้ําตารื้นขึ้นมาในขณะที่เธอพูด
แม็กซ์รู้สึกหดหู่เล็กน้อย แต่เขาก็รู้สึกขบขันเมื่อเห็นท่าที่ที่น่าสงสารของเธอ เขาไม่เคยเห็นใครที่มาปลอบใจคนอื่นด้วยท่าทางแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงรีบปลอบเธอ “ฉันสบายดีมิยะ ไม่ต้องเสียใจไปหรอกมิยะ มันไม่สําคัญว่าเราจะติดอันดับบนกระดานจัดอันดับมั้ย เรามีลูกค้าจํานวนมากอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่แตกต่างอะไร”
“แต่… แต่เราทํางานกันหนักมากและแจกบัตรลงคะแนนไปหลายใบ ลูกค้าของเราทุกคนก็ให้คะแนนห้าดาวและช่วยกันโหวตอย่างขยันขันแข็ง พวกเขาลบร้านอาหารของเราออกจากการจัดอันดับอย่างไม่มีคําอธิบายได้ยังไง มันไม่ยุติธรรมเลย” มิยะทําหน้ามุ่ยพร้อมกับมีน้ําตาคลอ เธอได้เห็นอันดับที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆของร้านอาหารมามีมาตลอด ด้วยเหตุนี้เธอจึงตกใจมากเมื่อร้านอาหารของพวกเขาถูกลบออกจากกระดานจัดอันดับ
“ไม่เป็นไรนะคะพี่สาวมิยะ เมื่อหนูมีพลังมากขึ้นหนูจะวางร้านอาหารของเราไว้ที่อันดับสูงสุดบนกระดานจัดอันดับ” เอมีจับนิ้วของยาเบะมิยะเอาไว้ด้วยมือเล็กๆของเธอด้วยท่าทางปลอบใจ
ยาเบะมิยะพยักหน้าและดูเหมือนว่าเธอจะตระหนักเช่นได้ว่าเธอเสียใจมากเกินไป แม็กซ์น่าจะเป็นคนที่เสียใจกว่าเธอแต่เขากลับถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องปลอบใจเธอ เมื่อคิดได้แบบนี้ เธอจึงรีบเช็ดน้ําตาและสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อทําให้ตัวเองสงบลง
“วันนี้เรายังต้องลงคะแนนอยู่มั้ยคะ?” แซลลี่เองก็อารมณ์เสียเช่นกันแต่เธอสงบกว่ายาเบะมิ
“ไม่จําเป็น ถ้านี่คือสิ่งที่คณะกรรมการการจัดอันดับต้องการ ฉันก็ไม่อยากให้ร้านอาหารของเราอยู่ในนั้นเหมือนกัน” แม็กซ์ส่ายหัวพร้อมกับมีสีหน้าเยาะเย้ย การแข่งขันในการจัดอันดับอาหารที่เต็มไปด้วยการคดโกงไม่ใช่สิ่งที่ต้องเอามาใส่ใจ
หญิงสาวในชุดสีดํายืนเผชิญหน้ากับเจฟฟรี มอร์ตันด้วยสีหน้าและท่าทางแน่วแน่พร้อมทั้งประกาศว่า “ปู่คะ หนูอยากเป็นผู้สืบทอดของตระกูลมอร์ตัน”