บทที่ 3 ถูกพวกหล่อนเข้าใจผิดว่าเป็นกุ๊ย
แม้เนี่ยเฟิงอยากจะอธิบายกับคังเมิ่งดี ๆ แต่ตอนนี้พี่เจ็ดยังโมโหอยู่ ถ้าเขาหยุดอยู่ตรงนั้น ต้องถูกทุบหัวปูดเป็นซาลาเปาแน่
ตอนนี้ตัวเขาต้องรีบไปที่โรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลเพื่อยับยั้งพิธีแต่งงานที่เหลวไหล ถ้าใบหน้าหล่อเหลาของเขาเป็นแผลเข้า แล้วเขาจะเปิดตัวอย่างมีประกายได้อย่างไร ?
“ไม่ต้องตามหรอก ! ผมเสร็จธุระแล้วจะกลับมาหาคุณ !”
ประโยคนี้ของเนี่ยเฟิง ทำคังเมิ่งโมโหเข้าจริง ๆ เท่ากับว่าเขาเอาเปรียบแล้วยังทำเป็นคนดี !
ในเวลานี้เอง สายตาคังเมิ่งก็เจอคนคุ้นเคยเข้า เธอรีบร้องเรียกไปว่า:
“เย่หรูเสว่รีบจับคนหื่นกามนี่ไว้เร็ว เมื่อกี๊เขาทำชั่วกับฉันไว้บนรถไฟ !”
“อะไรนะ ! ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว !”
สมรรถภาพของเย่หรูเสว่ดีกว่าคังเมิ่งเยอะมาก เธอตามไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว วิ่งเร็วมาก !
“เจ้าหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ !”
เนี่ยเฟิงตะลึงไปชั่วครู่ เขาวิ่งหนีมาไกลแล้ว นึกไม่ถึงว่าพี่เจ็ดของเขาจะตามมาทัน จำได้ว่าตอนเล่นซ่อนแอบพี่เจ็ดวิ่งไม่เท่าไหร่ก็เหนื่อยไม่ไหวแล้ว สุขภาพออกจะแย่
เนี่ยเฟิงอดใจไม่อยู่เหลียวหันกลับไปดู เห็นแค่แว๊บเดียวก็อึ้งไปเลย
ผู้หญิงที่เนี่ยเฟิงเคยเจอเรียกได้ว่าเยอะเท่าขนวัว แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขากลับสามารถทำให้เขาสูญเสียพลังความคิดไปชั่วขณะได้
ตัวที่ตรงเผงของเธอ เครื่องแบบตำรวจห่อหุ้มรูปร่างที่น่าภูมิใจเอาไว้ ภายใต้แสงแดดที่สะท้อนลงมา ผ่านผิวพรรณที่ขาวละเอียดของเธอจนเปล่งแสง
คิ้วทรงใบหลิวที่ขมวดบนใบหน้าใบนั้น ดวงตากลมดั่งลูกแอปริคอท คงเพราะวิ่งด้วยความรีบร้อนเกินไป พวงแก้มทั้งคู่จึงแดงก่ำ จมูกเรียวปากลูกเชอรี่ ลมหายใจหอมดั่งดอกกล้วยไม้ !
เรียกว่าเป็นโบตั๋นงามประดับเมืองจริง ๆ !
เนี่ยเฟิงฝืดคอกลืนน้ำลาย “คุณสวยจริง ๆ เลย”
พอเย่หรูเสว่ได้ยินเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ โกรธจนกัดฟันกรอด ๆ “นายมันเป็นกุ๊ยจริง ๆ ยอมให้จับซะดี ๆ”
เนี่ยเฟิงถึงได้รู้ตัวอีกที บนตัวเธอสวมเครื่องแบบตำรวจ ซึ่งเท่ากับว่าเธอเป็นตำรวจหญิง !
มีหรือที่เนี่ยเฟิงจะยอมจำนนโดยดี ถ้าถูกจับไปสอบสวนที่โรงพัก ก็เท่ากับเสียเวลาพอดีสิ
“คุณตำรวจคนสวย ! ผมไม่ได้ทำผิด คุณไม่มีหลักฐาน เที่ยวจับคนไม่ได้จะ”
“คุณไม่ได้ทำผิด แล้วทำไมต้องหนี ?”
น้องเจ็ดบอกว่าเขาเสียมารยาทกับหล่อน น้องเจ็บจะโกหกได้อย่างไร ?
“คุณไล่ตามผมผมก็ต้องหนีสิ หรือจะให้ผมยืนเซ่อก็ถูกคุณจับน่ะสิ ?”
“เหลวไหล !”
เนี่ยเฟิงดูเย่หรูเสว่ที่ไล่ตามไม่ลดละ เขาได้แต่วิ่งอย่างสนุกบนความเหนื่อยไป แต่นึกไม่ถึงว่ากำลังของเย่หรูเสว่จะดีเช่นนี้ วิ่งไล่ตามเขามาหลายไมล์แต่ก็ไม่หยุดเลย
เนี่ยเฟิงเหลือบลูกตา คิดในใจว่าเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ใช่วิธีที่ดี ต้องหาทางสลัดเธอออกไปให้ได้ !
เนี่ยเฟิงสำรวจลักษณะพื้นที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้ พวกเขาวิ่งกันมาจนถึงไซด์ก่อสร้าง
ลักษณะพื้นที่ของที่นี่ดูซับซ้อน น่าจะสลัดเธอออกไปได้ !
เนี่ยเฟิงตัวเบาเหมือนนกนางแอ่น เท้าลอยลม วิ่งเร็วมาก แม้จะเป็นเช่นนี้ เย่หรูเสว่ก็ยังตามติดมาข้างหลัง ดูท่าทางไม่มีความคิดที่จะปล่อยเนี่ยเฟิงไป
“คุณอย่าตามอีกเลย ผมไม่มียาแก้ไอน้ำดำหรอก !”
“ตาหื่นกาม ฉันต้องจับนายไปลงโทษตามกฎหมายให้ได้ อย่าได้ใจนัก อ่ะ !”
นึกไม่ถึงในเวลานี้เอง เย่หรูเสว่ก้าวไปในอากาศตกลงไป
เนี่ยเฟิงหยุดฝีเท้าชั่วครู่ ค่อย ๆ ถอยหลังมา มองดูตัวของเย่หรูเสว่ที่อยู่ในถังบำบัดน้ำเสียกว่าครึ่ง ใบหน้าเผยรอยยิ้มความเจ้าเล่ห์
“อุ๊ยตาย คุณตำรวจหญิง คุณตกลงไปได้อย่างไร ? เมื่อกี๊ไม่ได้ดูทางให้ดี ๆ เหรอ ?”
ที่แท้นี่คือถังบำบัดน้ำเสียของไซด์งาน !
เดิมทีตัวถังบำบัดน้ำเสียก็มีกลิ่นรุนแรงอยู่แล้ว และก้นถังก็เต็มไปด้วยโคลนตม ทั้งเละทั้งลื่น เวลานี้เย่หรูเสว่จึงไม่กล้าขยับตัว เพราะกลัวว่ายิ่งขยับก็จะยิ่งจมปลักลงไป
เย่หรูเสว่รู้สึกลนลานขึ้นมา เมื่อกี๊เอาแต่ไล่ตามเนี่ยเฟิง ไม่ได้มองดูใต้ฝ่าเท้าให้ดี จึงติดกับดักของเนี่ยเฟิง
เนี่ยเฟิงยองตัวอยู่ข้างถังบำบัด มองเย่หรูเสว่จากมุมสูง “คุณอย่าขยับเด็ดขาด ยิ่งคุณขยับก็จะยิ่งจมปลักเร็วขึ้น”
“นายมันคนชั่ว ! ถ้าฉันออกจากที่นี่ไปได้ ฉันจะไม่ปล่อยนานแย่”
เย่หรูเสว่กัดฟัน จ้องเนี่ยเฟิงด้วยความเคียดแค้น
“ถ้าคุณพูดอย่างนี้ผมก็ต้องกลัวแล้วล่ะ ยิ่งเป็นคนขี้ขลาดอยู่ด้วย ตกใจไม่ได้ ฉวยโอกาสตอนที่คุณยังปีนขึ้นมาไม่ได้ เผ่นก่อนดีกว่า”
เนี่ยเฟิงพูดพลางก็หันตัวกลับเดินจากไป
“เอ๊ะ ! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ !”
เย่หรูเสว่เริ่มร้อนใจขึ้นมา เมื่อกี๊ตอนเธอเข้ามาไม่เห็นมีใคร คิดว่าคนงานคงกลับไปทานข้าวกัน หรือว่าตัวเองต้องอยู่ในถังบำบัดสักพักแล้ว ?
เย่หรูเสว่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ครู่หนึ่งก็ลนลานขึ้นมา “นายกลับมานะ ฉันยอมปล่อยนายแล้ว !”
“จริงเหรอ ? คุณตาของผมเคยบอกว่า ผู้หญิงที่ยิ่งสวยก็ยิ่งเชื่อไม่ได้ คุณสวยซะขนาดนั้น คำพูดที่ออกมาคงโกหกผมทั้งเพล่ะสิ ? เมื่อกี๊คุณเพิ่งบอกว่าจะจับผมไปลงโทษตามกฎหมาย แล้วยังว่าผมว่าหื่นกามด้วย”
เนี่ยเฟิงกระพริบตาปริบ ๆ มองเย่หรูเสว่ด้วยท่าทีที่ไม่มีภัย
ก้นถังบำบัดนำ้เสียทั้งเละทั้งลื่น เย่หรูเสว่ไม่มีจุดให้โฟกัสเลย อยากปีนขึ้นไปเจรจาคงไม่ง่าย
“ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ฉันเป็นตำรวจนะ นายรีบดึงฉันขึ้นไปที ! ฉันไม่กลืนคำพูดตัวเองหรอก”
แม้เย่หรูเสว่จะพูดเช่นนี้ แต่ในใจไม่ได้คิดอย่างนี้ เธออยากจะขึ้นไปอัดเจ้าหมอนี่แทบแย่ แล้วก็ลากตัวไปสอบสวนสามวันสามคืน
“ผมว่านะคุณตำรวจคนสวย ดูท่าทางการขอร้องของคุณไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นะ มีใครเขาขอร้องกันดุอย่างคุณบ้าง ? ถ้าคุณพูดให้เพราะ ๆ ผมฟังแล้วรู้สึกสบาย อาจจะยอมดึงคุณขึ้นมาก็ได้นะ”
“นายอย่ามาทำตัวได้คืบจะเอาศอก !”
“ดูคุณสิดุผมอีกแล้ว คุณจะให้ผมเชื่อคุณได้อย่างไรหา !”
เนี่ยเฟิงพูดจบทำท่าจะเดินจากไป
“กลับมา ! ไหนนายว่ามาว่าอยากจะฟังอะไร ?”
เย่หรูเสว่ได้แต่อดกลั้นน้ำเสียง ทว่าบัญชีนี้เธอจดจำไว้ในใจแล้ว
เนี่ยเฟิงลูบคางสักครู่ จากนั้นก็ดีดนิ้วดังเปาะ “ถ้าไง คุณเรียกผมว่าที่รักสักคำ ? หรือไม่ก็เรียกผมว่าพี่ชายที่แสนดีที ว่าไงล่ะ”
“ถุย ! ทำไมหน้าไม่อายเลย ? ไม่ดูตัวเองซะบ้าง เส้นผมยังไม่ขึ้นก็กล้าเอาเปรียบฉันแล้ว ?”
“ในเมื่อคุณพูดเช่นนี้ งั้นเราก็สิ้นสุดความร่วมมือกันเถอะ คุณก็อยู่ที่นี่สักพักแล้วกัน ยังไงต้องมีคนมาช่วยคุณแน่”
เนี่ยเฟิงยักไหล่ จากนั้นก็ฮัมเพลง ดูท่าทางคงปล่อยไว้ไม่สนใจแล้ว
“ฉันเรียก ฉันเรียกโอเคไหม ?”
“โธ่ ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็เรียบร้อยแล้ว แต่ท่าทางของคุณเมื่อกี๊ทำให้ผมห่อเหี่ยว ฉะนั้นเรียกผมว่าพี่ชายคงทำผมพอใจไม่ได้ ถ้าไงคุณเปลี่ยนคำเรียกก็แล้วกัน”
เย่หรูเสว่กัดริมฝีปากล่างที่แดงระเรื่อของเธอ หมอนี่คิดจะทำอะไรอีก ?
“คุณดึงฉันขึ้นไปก่อนก็แล้วกัน แล้วเปลี่ยนคำเรียกอย่างไรก็ว่ามา !”
เนี่ยเฟิงหาท่อนไม้เท่าที่ได้โยนลงไป เย่หรูเสว่คว้าไว้แม้เสมือนไร้ค่าเฉดหญ้าฟาง เธอจับท่อนไม้ด้านหนึ่งไว้ได้ แต่ในบ่อบำบัดทำอย่างไรก็ออกแรงไม่ได้
“คุณออกแรงดึงสิ !”
เย่หรูเสว่โมโหเล็กน้อย
“คุณยังไม่เรียกเลย คุณเรียกก่อน แล้วผมค่อยดึงคุณขึ้นมาว่าอย่างไร ?”
สายตาของเนี่ยเฟิงส่องประความเจ้าเล่ห์ขึ้นมา “ถ้าคุณเรียกผมว่าสามีที่รัก ผมก็จะดึงคุณขึ้นมาทันที การแลกเปลี่ยนครั้งนี้คุ้มค่าใช่ไหม ?”
ดวงตาทั้งคู่ของเย่หรูเสว่จ้องเหมือนสายฟ้าพิฆาต “นายมันชั่วช้า ไร้ยางอาย !”