บทที่ 4 นางล่มเมือง
เนี่ยเฟิงใช้ท่อนไม้เคาะที่กะโหลกของเธอเบา ๆ “อย่าได้มองข้ามความหวังดีผู้อื่น ถ้าคุณไม่เรียก ผมจะไปล่ะ”
ในเวลานี้ น้ำเสียดันขึ้นมาเรื่อย ๆ จนท่วมถึงริมฝีปากล่างของเย่หรูเสว่แล้ว เธอไม่กล้าใช้อารมณ์แล้ว ถ้าจมอยู่ในถังบำบัดตาย ได้ยินไปถึงเพื่อนร่วมงาน ตายไปก็คงไม่มีหน้าไปเป็นผี ถึงจะต้อง ค้อมหัวลง รอขึ้นฝั่งให้ได้ก่อน เราจะยิงให้สักเปรี้ยง แล้วค่อยไปเข้าคุก ! อย่างไรจะตายแบบอัดอั้นไม่ได้ เย่หรูเสว่คว้าท่อนไม้อย่างรีบร้อน: “สามีที่รัก ขอร้องช่วยฉันด้วย”
เสียงเรียกคำว่าสามีที่รักทำให้เนี่ยเฟิงสะใจ ! ออกแรงดึงพาเย่หรูเสว่ขึ้นมาจากถังบำบัดได้แล้ว
พอขึ้นฝั่งได้ เย่หรูเสว่โมโหจนกระหืดกระหอบ พอหายหอบแล้ว คิ้วก็ชันขึ้น เธอได้กระทำบางอย่าง!
“เธอจะชักปืน !” เนี่ยเฟิงรู้สึกได้อย่างฉับพลัน แต่จะให้เธอชักปืนออกมาไม่ได้ เป็นเรื่องร้ายแรงแน่ ไม่พ้นจะยิงเราให้ตาย ! พอความคิดฉุกขึ้นมา มือก็ฟาดออกไป ที่ต้นคอของเย่หรูเสว่พอดี เย่หรูเสว่ประหนึ่งสลบเหมือดลงไปต่อหน้า
เนี่ยเฟิงเบะปาก พึมพำกับตัวเองว่า : “เราว่าแล้ว ตำรวจหญิงไม่รักษาคำพูด”
เนี่ยเฟิงนำร่างเขาวางไว้บนพื้น “ว๊าว เหม็นจัง” เขายื่นมือไปที่ปลายจมูกเธอ ยังหายใจอยู่ ดูท่าทางแค่สลบ
มองดูเครื่องแบบที่สกปรกของเธอ เนี่ยเฟิงไม่อาจปล่อยให้สกปรกได้ ช่วยเขาถอดเสื้อผ้ากับรองเท้าออก จึ๊ ๆๆ… หุ่นเธอเจ๋งมาก !
แล้วก็เก็บบัตรประจำตัวตำรวจ ปืนพก กุญแจมือต่าง ๆ ของเย่หรูเสว่เอาไว้
พอเนี่ยเฟิงได้เห็นบัตรประจำตัวตำรวจของเย่หรูเสว่ ก็ถึงกับตาค้าง
เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสหน่วยอาชญากรรมกองบัญชาการตำรวจตงไห่——เย่หรูเสว่ !
“พระเจ้า นี่มันพี่หกของเราไม่ใช่เหรอ ?”
ในบรรดาพี่สาวทั้ง 7 คน ที่เนี่ยเฟิงกลัวที่สุดก็คือพี่หกเย่หรูเสว่ เพราะความเป็นคนแข็งอารมณ์ของเธอ
จำได้ว่ามีครั้งหนึ่ง ทั้งสองคนหลับกลางวันด้วยกัน เนี่ยเฟิงล้อเล่นกับเธอ เทนมเปรี้ยวลงบนกระโปรงของเธอ เย่หรูเสว่เข้าใจว่าเนี่ยเฟิงแอบทำไม่ดีไม่ร้ายใส่ ทิ้งหลักฐานความผิดเอาไว้ ไม่ทันแยกแยะก็ฟาดเนี่ยเฟิงไม่ยั้ง จนก้นของเนี่ยเฟิงเป็นลายพร้อย
วันนี้ เราแทะโลมเธออย่างเสียเกียรติเช่นนี้ ถ้าเธอฟื้นขึ้นมา เราต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแน่ เดิมทีเนี่ยเฟิงอยากรีบออกมาโดยเร็ว แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ในเวลากลางวันแสก ๆ สภาพเธออย่างนี้ ถ้าคนผ่านไปมาเห็นเข้า งานเข้าแน่ ทิ้งไว้นี่อย่าสนใจเลย หนีก่อนดีกว่า แต่ถ้ามีพวกหื่นกามผ่านมากันสองคน เห็นหญิงสาวที่ล่อใจขนาดนี้ จะไม่เกิดเรื่องขึ้นเหรอ พี่หกเป็นหญิงสาวที่ชวนให้คนอื่นหลงใหลมาก ผู้ชายที่ได้ตัวเธอ ต้องติดตะรางก็ไม่เสียดาย ! “ทำอย่างไรดี ?” เนี่ยเฟิงใจอ่อนครุ่นคิด สุดท้ายตัดสินใจ หาโรงแรมสักแห่ง ทิ้งเธอเอาไว้ พอดีแถวนั้นมีโรงแรมอยู่แห่งหนึ่ง เนี่ยเฟิงจึงนำกิ่งหลิวมาจำนวนหนึ่ง สานเป็นชุดให้ทันสมัยขึ้นมา คลุมบนร่างกายเย่หรูเสว่เอาไว้ ตัวเองลองมองดูก่อน ปกปิดได้มิดชิดดีจึงได้วางใจ อุ้มเย่หรูเสว่มายังโรงแรม
พนักงานโรงแรมกำลังเล่นโทรศัพท์มือถือ เห็นเนี่ยเฟิงเข้ามากับหญิงสาวที่ไม่ได้สติ จึงไถ่ถาม: “พวกคุณทำอะไรกัน”
เนี่ยเฟิงตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า: “ตำรวจทำคดี ! เปิดห้องให้ผมเดี๋ยวนี้” พูดจบ ก็ควักบัตรประจำตัวตำรวจของเย่หรูเสว่โชว์ปาดหน้าพนักงาน
พนักงานไม่กล้าชักช้า รีบเปิดห้องให้ทันที เนี่ยเฟิงจึงประคองเย่หรูเสว่เข้าห้อง
เนี่ยเฟิงเพิ่งจะวางตัวเย่หรูเสว่ลง ก็เห็นนิ้วของเย่หรูเสว่ขยับ
เนี่ยเฟิงเห็นท่าจะไม่ดี จึงเผ่นก่อนดีกว่า
วันนี้ โรงแรมตงไห่อินเตอร์เนชั่นแนล กำลังเตรียมงานยิ่งใหญ่งานหนึ่ง อีกทั้งเป็นงานแต่งงานที่พิเศษ
ชิวมู่เฉิงแม้จะเป็นลูกเลี้ยงของตระกูลชิว แต่เธอก็ไม่ทำให้ตระกูลชิวผิดหวัง สอบเข้ามหาวิทยาลัยเยี่ยนตูด้วยคะแนนสูงสุด และยังจบด็อกเตอร์ด้านบริหารธุรกิจอีกด้วย
หลังจากกลับมายังเมืองตงไห่ ก็รับช่วงบริหารโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลของตระกูลทันที ในการบริหารกิจการที่ถูกต้องของเธอ กิจการโรงแรมรุ่งเรืองขึ้นทุกวัน เงินทองไม่ขาดสาย เธอถูกขนานนามว่านางฟ้าเบอร์หนึ่งของตงไห่
เธอในเวลานี้ นั่งหน้าเศร้าหมองกับตัวเองอยู่ในสำนักงานของโรงแรม
อีกสักพัก ขบวนขอแต่งงานของตะกูลฟางจะเข้ามา ถึงเวลานั้น นักข่าวของเมืองตงไห่จะรายงานอย่างครึกโครมว่าฟางซื่อเหาคุณชายเนื้อหอมอันดับหนึ่งของเมืองตงไห่จะขอเธอแต่งงาน
เธอเองไม่ได้รักฟางซื่อเหาเลย แต่ว่า ต้องยอมรับการขอแต่งงานของเขา เพราะนี่คือคำสั่งของตระกูล !
คุณย่าบอกว่า: มีเพียงการอาศัยตระกูลฟาง จึงจะรักษาโรงแรมของตระกูลแห่งนี้ให้อยู่รอดได้
การแต่งงานที่ไร้ซึ่งความรัก หรือว่านี่ชะตาของเธอ ?
ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลคือล็อบบี้จัดเลี้ยงโอเพ่นแอร์ขนาดใหญ่ เวลา 9นาฬิกา แขกเหรื่อของตระกูลชิวมากันพร้อมแล้ว
คุณนายใหญ่ตระกูลชิวยืนขึ้นมา มองไปรอบ ๆ สี่ทิศ เปล่งเสียงกล่าวว่า: “ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมพิธีแต่งงานของหลานสาวฉัน ชิวมู่เฉิงหลานสาวของฉัน เป็นความภูมิใจของตระกูลชิวมาโดยตลอด วันนี้ เธอจะแต่งงานกับคุณชายใหญ่ฟางซื่อเหาเศรษฐีติดอันดับของเมืองตงไห่ เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของคุณชายฟาง จะลงจอดตรงเวลาที่ 9นาฬิกา9นาที…”
ในพิธีมีนักข่าวไม่น้อย แสงแฟลชส่องไปที่ตัวชิวมู่เฉิง
ชุดเจ้าสาวสีขาวขับให้เห็นสรีระที่งดงามของเธอ เส้นผมยาวสลวยที่ดำขลับเสมือนน้ำตก ใบหน้าอันวิจิตรราวกับผลงานภาพวาดหนึ่งเดียวที่ประสบความสำเร็จในโลกจากการรังสรรค์สุดชีวิตของจิตรกร: การสเก็ตแต่ละเส้น ลายแต่ละลาย ล้วนแฝงไปด้วยความประณีตที่หาได้ยากในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของเธอ หรือใบหน้า เรียกได้ว่าเป็นนางล่มเมือง !
เสียงเครื่องยนต์ของเฮลิคอปเตอร์ที่อึกทึกตามมา เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งขับมาแต่ไกล
ฟางซื่อเหาที่อิ่มเดิบไปด้วยความสุข นั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์มองลงมายังอีกฝ่าย เขาเปิดกระเป๋าข้างกายที่บรรจุกุหลาบไว้เก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันดอก ทันใดนั้น ดอกกุหลาบนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาจากท้องฟ้า โรงแรมทั้งหลังถูกปกคลุมไปด้วยดอกกุหลาบ เมืองทั้งเมืองกลายเป็นทะเลกุหลาบ
ฟางซื่อเหาใช้เครื่องขยายเสียงพูดจากบนเฮลิคอปเตอร์ว่า: “ชิวมู่เฉิง ผมรักคุณ แต่งงานกับผมเถอะ !”
“แต่งกับเขา แต่งกับเขา…” เสียงจำนวนนับไม่ถ้วนตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
“งดงามเหลือเกิน ฉากการขอแต่งงานของคุณชายฟางโอ่อ่ายิ่งใหญ่มาก !”
“นั่นสิ ตระกูลฟางรวยจริง ๆ ฝนดอกไม้ทั่วเมืองเช่นนี้อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินหลักแสน”
“ถ้าฉันได้แต่งกับคุณชายฟางก็คงดี”
เป็นได้แค่พวกเผือกอิจฉาเท่านั้น
ทว่า ในทะเลดอกกุหลาบ ชิวมู่เฉิงในเวลานี้…ใบหน้ากลับเต็มได้ด้วยดอกน้ำตา
พี่ใหญ่ กำลังร้องไห้เหรอ ?
เนี่ยเฟิงคิ้วขมวดเข้าหากัน “เธอต้องไม่ยินยอมแต่งงานครั้งนี้แน่ หึ ฟางซื่อเหานายคิดจะฝืนให้พี่ใหญ่ฉันแต่งงานด้วย ฉันต้องสั่งสอนนายบ้างแล้ว !”
เฮลิคอปเตอร์บินวนบนอากาศห่างจากโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลสิบกว่าเมตร มีเชือกเส้นหนึ่งโรยลงมา
ฟางซื่อเหาเลือกใช้การโรยตัวจากฟ้าลงมายังลานพิธีอย่างงดงาม เขาอยากใช้ท่าทางที่หล่อเหลาที่สุดในการขอนางฟ้าแห่งตงไห่แต่งงาน
ฟางซื่อเหาค่อย ๆ โรยตัวจากด้านบนลงมา โรยมาได้ครึ่งทางก็หยุดโพสต์ท่า
เนี่ยเฟิงจึงหยิบมีดรับประทานอาหารมาหนึ่งด้าม ยื่นมือออกไป มีดรับประทานอาหารก็ลากเส้นที่สวยงาม ทลวงฝนดอกกุหลาบที่เต็มท้องฟ้า ตัดเชือกเส้นนั้นขาด
ฟางซื่อเหาตกใจร้องจากข้างบนตกลงมา เป็นท่าหมาแทะอึต่อหน้าชิวมู่เฉิง
เขาตกลงมาไม่เบาเลย ไม่เพียงขาหักไปข้างหนึ่ง ฟันหน้าทั้งสี่หลุดไปสามซี่ ใบหน้าอาบไปด้วยเลือด ชุดสูทสีขาวหิมะก็แปดเปื้อนรอยเลือด กระเซอะกระเซิงทีเดียว