บทที่ 75ห้ามแตะต้องคนของผม
พูดจบ หัวหน้าร้านก็ยื่นมือออกมาหวังจะผลักอกคางเมิ่ง!
เสี้ยววินาทีที่มือของเธอจะโดนตัวคางเมิ่งนั้น เนี่ยเฟิงก็ได้หยุดมือของหัวหน้าร้านไว้ก่อน ตามด้วยการจ้องมาที่หัวหน้าร้านด้วยแววตาที่แสนอันตราย พอเขาออกแรงที่มือหัวหน้าร้านก็ร้องโอดครวญขึ้นมาทันที
หัวหน้าร้านกุมมือของตัวเองแล้วทรุดลงพื้นพร้อมกับเสียงโอดโอยที่ดังไปทั่วบริเวณ “มือฉันหักแล้ว! มันหักแล้ว!”
“มันไม่ได้หักหรอกครับ แค่กระดูกร้าวเท่านั้นเอง”
เนี่ยเฟิงจ้องหัวหน้าร้านอย่างเย็นชา “ผมเป็นคนที่ค่อนข้างยึดมั่นในหลักการ โดยปกติแล้วผมจะไม่ลงมือกับผู้หญิง แต่ถ้าคุณมาทำร้ายผู้หญิงของผมก่อนละก็ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครผมก็ไม่เว้นทั้งนั้น”
คางเมิ่งที่อยู่ข้างๆ ยืนจ้องเนี่ยเฟิงด้วยความอึ้ง เมื่อมองจากมุมนี้แล้ว คางเมิ่งก็สามารถมองเห็นโครงหน้าของเนี่ยเฟิงได้อย่างชัดเจน ใบหน้าสุดคูล จู่ๆ คางเมิ่งก็รู้สึกใจเต้นราวกับสายฟ้าขึ้นมา!
พอซ่งสี่จื้อเห็นอย่างนั้น ก็ก้าวถอยหลังไปโดยอัตโนมัติ “เนี่ยเฟิง! นี่พวกคุณคิดจะทำอะไร? คิดจะบังคับซื้อขายกันใช่มั้ย? อีกฝ่ายก็บอกแล้วนี่ว่าไม่ขายฟังไม่รู้เรื่องรึไง? หน้าด้านหน้าทนซะจริง แถมยังกล้าลงไม้ลงมืออีก!”
“เธอเป็นคนลงมือก่อนนะ ทางเราแค่ป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุเท่านั้น ช่วยเข้าใจด้วยว่า น้องเจ็ดของเรานั้นเป็นถึงซูเปอร์สตาร์ ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บไปพวกคุณจะรับผิดชอบกันไหวเหรอ?”
“ซูเปอร์สตาร์เหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า! ช่วยตักน้ำชะโงกดูเงาตัวเองด้วย! กล้าดียังไงมาคุยโวโอ้อวดต่อหน้าคนดังที่มีแฟนคลับเป็นสิบล้านน่ะ! ช่างหน้าด้านจริงๆ!”
ซ่งสี่จื้อยิ้มออกมาอย่างเฉยชา “เนี่ยเฟิง! คนโหดเหี้ยมอย่างคุณก็รู้แค่การใช้กำลังบังคับคนอื่นเท่านั้นแหละ! คุณคิดว่าทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ด้วยกำลังรึไง?”
“ปกติแล้วผมจะเป็นคนที่ใช้เหตุผลในการโน้มน้าวคนอื่น แต่ผมก็ถนัดการใช้ความรุนแรงเพื่อรับมือกับความรุนแรงเหมือนกันนะ คนอื่นจะทำกับผมยังไงก็ได้ผมไม่สน แต่ถ้าคุณมาดีกับพี่เจ็ดแล้ว ผมก็ไม่มีทางทำอะไรคุณแน่นอน”
แต่น่าเสียดายที่คนพวกนี้ได้ล่วงเกินพี่เจ็ดของเขาไปแล้ว เขาไม่มีทางปล่อยคนพวกนี้ไปง่ายๆ หรอก
“นี่แก! แกรอเดี๋ยวนะ แกหักมือฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยแกไปแน่!”
หัวหน้าร้านหยิบมือถือออกมาด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยม ดูเหมือนว่าจะส่งข้อความออกไปแล้ว และไม่นาน ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินดุ่มๆ เข้ามา!”
“ที่รักคะ!”
พอเห็นคนกลุ่มนั้นมาถึง เธอก็รีบลุกขึ้นมาจากพื้น พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟาย “ที่รักคะ สองคนนี้แหละค่ะที่ก่อความวุ่นวาย! แถมพวกมันยังหักข้อมือฉันอีก!”
ซ่งสี่จื้อมองดูรปภสิบกว่าคนที่เดินเข้ามา เธอก็แอบรู้สึกดีใจขึ้นมา เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเนี่ยเฟิงจะจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ยังไง!
“ถึงว่าล่ะ อายุแค่นี้ก็ได้เป็นหัวหน้าร้านแล้ว ที่แท้ก็ใช้มารยาแลกมานี่เอง!”
คางเมิ่งที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม “การบริการของอาคารตี้กั๋วมันก็แย่เกินไปหน่อยนะ! คนที่เลือกปฏิบัตินี่มีทุกที่จริงๆ!”
คางเมิ่งเองก็แอบเป็นกังวลแล้วเหมือนกัน เมื่อกี้เนี่ยเฟิงก็ใจร้อนไปหน่อย ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะรับมือยังไงต่อดี
พอผู้จัดการของอาคารตี้กั๋วเห็นว่ากระดูกที่มือของแฟนตัวเองถูกทำร้าย เขาก็รู้สึกโกรธมาก “แกเป็นคนทำใช่มั้ย?!”
“ใช่ เพราะเธอมาทำร้ายคนของผม”
เนี่ยเฟิงไม่ได้เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“หึ! แกตายแน่! จับตัวมันไว้!”
ผู้จัดการตะโกนออกมา รปภสิบกว่าคนก็กรูกันเข้ามา!
คางเมิ่งที่เห็นอย่างนั้นก็หน้าถอดสีในทันที คนเยอะขนาดนี้ แถมรปภทุกคนยังผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เนี่ยเฟิงกับเธอจะรับมือได้ไหมนะ?
ตอนแรกร่างกายของคางเมิ่งก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และเธอก็ไม่อยากจะเรียนหมอหรือศิลปะการต่อสู้ด้วย เธอคิดแค่ว่าโตขึ้นตัวเองจะไปเป็นครูเท่านั้น เธอจึงไม่เคยได้เรียนรู้วิชาป้องกันตัวอย่างจริงๆ จังๆ มาก่อนเลย
ตอนนี้คางเมิ่งกำลังรู้สึกเสียใจมาก ถ้าเธอเรียนรู้มาบ้าง ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงสามารถช่วยแบ่งเบาภาระให้เนี่ยเฟิงได้เลย!
“ก็แค่หนอนแมลงที่ไร้ค่าแล้วยังจะเรียกคนมาให้ขายขี้หน้าอีก?”
เนี่ยเฟิงขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ จากนั้นเขาก็ย่อตัวลง แล้วเตะตัดขารปภไปสามสี่คน!
ก่อนที่พวกนั้นจะลุกขึ้นมา เขาก็ชกหมัดใส่คนละที!
เขาออกหมัดอย่างรวดเร็ว จนคนที่เห็นต่างพากันอึ้งไปเลย บรรดาสินค้าฟุ่มเฟือยภายในร้านก็ถูกคนพวกนั้นชนจนล้มระเนระนาด!
ในเวลาแค่สามนาที เนี่ยเฟิงก็จัดการรปภทั้งหมดจนลงไปนอนกองกับพื้นแล้ว ดูท่าพวกเขายังไม่น่าจะลุกขึ้นมาได้ในเร็วๆนี้
เนี่ยเฟิงก้มลงไปหยิบเสื้อราคาแพงตัวหนึ่งมาเช็ดรองเท้าให้ตัวเอง “ยังมีลูกไม้อะไรอีกมั้ย? รีบๆ แสดงออกมาเลย”
“นี่แก! อย่าคิดว่าแค่ต่อยตีเก่งแล้วแกจะทำอะไรก็ได้นะ! ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้แกต้องเป็นคนรับผิดชอบ! แกรู้รึเปล่าว่าการตกแต่งและสินค้าที่นี่มันแพงขนาดไหน! ถ้าไม่มีเงินห้าล้านมาจ่ายแกก็อย่าหวังจะได้ออกจากที่นี่เลย! 1
คางเมิ่งหน้าซีดในทันที ถึงตอนนี้เธอจะเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้างแล้ว แต่รายได้ของเธอมันก็ยังไม่ได้มีมากขนาดนั้น
ถ้าเธอต้องจ่ายตั้งห้าล้านละก็……มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!
คางเมิ่งกำหมัดแน่ แล้วครุ่นคิดอยู่ว่าเธอต้องไปยืมเอเจนซี่หรือไม่ก็ไปยืมพวกพี่สาวดีนะ?
ซ่งสี่จื้อกับอานจ้ายเสี้ยนที่ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนไปหลบอยู่ข้างๆ พอได้ยินว่าต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งสองก็รีบเด้งตัวออกมาแล้วเยาะเย้ยในทันที
“ฉันบอกแล้วไงว่านอกจากใช้กำลังแล้วคุณมันก็ไม่มีอะไรดีเลย สมองก็กลวง ดูซิก่อเรื่องไว้ขนาดนี้จะรับชดใช้ยังไงไว้!”
เนี่ยเฟิงยิ้ม “ชดใช้เหรอ? ในนี้ไม่มีใครกล้าสั่งให้ผมชดใช้หรอก”
“โห! ปากดีไม่เบาเลยนี่! คุณคิดว่าคุณเป็นใคร คุณคิดว่าตัวเองเป็นประธานกรรมการของอาคารตี้กั๋วรึไง?! ถึงไม่มีใครกล้าสั่งให้คุณชดใช้?”
ซ่งสี่จื้อรู้สึกว่ามันน่าขัน
“ถ้าในครั้งนี้ผมไม่ต้องชดใช้เลยแม้แต่แดงเดียว แล้วประธานกรรมการของอาคารตี้กั๋วยังมาขอโทษผมอีกละก็ คุณกับซูเปอร์สตาร์ของคุณก็ช่วยกลิ้งออกไปจากที่นี่ทันทีเอามั้ย?”
เนี่ยเฟิงหรี่ตามองซ่งสี่จื้อ
ซ่งสี่จื้อยอมรับว่าครั้งก่อนที่พนันกับสองคนนี้นั้นเธอดูถูกพวกเขาไปจริงๆ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน ต่อให้พวกเขาทรัพย์สินทั้งหมดมาก็คงไม่พอชดใช้ค่าเสียหายหรอก ที่สำคัญประธานกรรมการไม่มีทางช่วยเหลือพวกนี้อยู่แล้ว!
อีกอย่าง วันก่อนอานจ้ายเสี้ยนก็เพิ่งตกลงเรื่องโฆษณากับอาคารตี้กั๋วไปเอง ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ระหว่างร่วมงานกันดังนั้นคนที่จะต้องถูกไล่ตะเพิดก็ต้องเป็นสองคนนั้นอยู่แล้ว!
ซ่งสี่จื้อกับอานจ้ายเสี้ยนหันมาสบตากัน ในใจคิดเนี่ยเฟิงนี่รนหาที่เองแท้ๆ ในที่สุดครั้งนี้เธอก็สามารถกู้ศักดิ์ศรีให้ตัวเองได้สักที!
“ได้สิ! แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณก็จงมาเลียรองเท้าให้ฉันซะ!”
“ตกลง”
พูดจบเนี่ยเฟิงก็หยิบมือออกมา “ผมให้เวลาคุณแค่นาทีเดียว รีบมาจัดการเรื่องเฮงซวยตรงนี้ซะ ไม่อย่างนั้นคุณก็เตรียมตัวโดนลดขั้นได้เลย”
เนื้อหาที่คุยก็แค่สั่นๆ เท่านี้ ซ่งสี่จื้อที่ได้ยินอย่างนั้นก็ทำเหมือนได้ยินมุกตลกที่ตลกมากๆ เธอหัวเราะจนต้องเอามือกุมท้อง
“แหม๋! เล่นละครได้ดีเลยนี่ ถ้าคนที่ไม่รู้คงหลงเชื่อไปแล้วว่าคุณมีความสามารถนั่นจริงๆ!”
อานจ้ายเสี้ยนเองก็ทนไม่ไหวจนเริ่มหัวเราะออกมาเหมือนกัน
เนี่ยเฟิงยกมือขึ้นมือมองดูเวลา “อย่าเพิ่งใจร้อน แค่นาทีเดียวเท่านั้น”
คางเมิ่งเองก็เป็นกังวลมากเหมือนกัน เธอทนไม่ไหวจนต้องไปกระตุกแขนเสื้อของเนี่ยเฟิง ครั้งนี้มันไม่เหมือนกับครั้งก่อนเลย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนี่ยเฟิงมั่นใจแค่ไหน
เนี่ยเฟิงตบๆ ที่มือของคางเมิ่งเบาๆ พร้อมกับให้กำลังใจเธอว่า “เชื่อใจผม”
คางเมิ่งถึงได้พยักหน้า ถึงแม้ว่าในใจของเธอจะยังตื่นเต้นอยู่ก็ตาม แต่เธอก็เชื่อใจเนี่ยเฟิง
“หนึ่งนาทีใกล้ครบแล้ว ไหนล่ะคนที่คุณว่า?