บทที่ 128 ไม่สามารถบินผ่านไปได้
“ในเมื่อนายกล้าเทียบ ก็ดีมากแล้ว แต่พวกเรามาเทียบแข่งกัน มันก็ต้องมีการเดิมพันกันหน่อยไหมล่ะ?”
“โอ้!กำลังคิดเหมือนกันเลย!ถ้านายแพ้การแข่งขันครั้งนี้ นายต้องคุกเข่าร้องเสียงหมาต่อหน้าฉัน!”
ซ่าวเจ๋สบถออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันอย่างช่วยไม่ได้ ดูท่าแล้วเนี่ยเฟิงจะรนหาที่ตายด้วยตัวเองแล้วล่ะ!
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้านายแพ้……เอาแบบนี้สิ ถ้านายแพ้ก็ต้องเปลือยกายในที่สาธารณะ”
เนี่ยเฟิงพูดประโยคนี้ออกมาทำให้ทุกคนตรงนั้นต่างพากันหัวเราะออกมายกใหญ่
ซ่าวเจ๋กัดฟันกรอดๆ มองเนี่ยเฟิงด้วยสีหน้าแววตาดำมืด“ได้!ถ้าอย่างนั้นก็มาแข่งกันสักตั้ง!”
เขาไม่เชื่อว่าตัวเองคนที่ชำนาญมีความสามารถในการฝึกอบรมนี้จะแพ้ให้กับคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย!
“น่าสนใจดีนี่ ถ้าอย่างนั้นฉันก็เป็นกรรมการตัดสินให้เองแล้วกัน!”
ไมค์อดไม่ได้ที่จะปรบมือ“ในเมื่อพวกคุณเปลี่ยนเป็นโหมดบินเดี่ยวแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ขอให้แข่งกันเรื่องความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ก็แล้วกัน ในสถานการณ์ที่เหมือนกัน ใครปฏิบัติได้โดดเด่นมากกว่าคนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ”
แต่ว่าการแข่งขันแบบนี้มันก็ต้องมีเกณฑ์การตัดสินของมันอยู่แล้ว ดังนั้นถึงไม่มีไมค์มาเป็นกรรมการตัดสินก็ไม่เป็นไร
โจวลี่ซือรู้สึกกังวลสุดๆ ถึงยังไงเธอก็ไม่เคยเห็นเนี่ยเฟิงขับเครื่องบินมาก่อน
เนี่ยเฟิงมีโอกาสชนะจริงเหรอ? ถ้าเป็นในเวลาอันสั้น อีกสักพักเขาก็อาจจะต้องคุกเข่าต่อหน้าซ่าวเจ๋แน่ๆ
เนี่ยเฟิงสัมผัสได้ถึงสายตาของโจวลี่ซือ เขาหันกลับไปมองโจวลี่ซือ พร้อมกับพูดยิ้มๆ“เชื่อผมสิ”
โจวลี่ซือทำได้แค่พยักหน้า ถึงยังไงก็มาถึงขั้นนี้แล้วจะทำก็ไม่ได้แล้ว
“เหอะ!ใกล้จะตายอยู่แล้วยังกล้าพูดแบบนี้ออกมาอีก อีกเดี๋ยวฉันจะทำให้นายได้รู้ว่าอะไรคือฝีมือขั้นเทพ!”
“ได้ งั้นเริ่มตอนนี้เลย!”
ไมค์ดูเกมการแข่งขันนี้อย่างใจจดใจจ่อ เขาไม่รู้ว่าจริงๆว่าเนี่ยเฟิงที่อยู่ข้างๆมีความสามารถหรือไม่ แต่ซ่าวเจ๋มีความสามารถอยู่จริงๆ
ตอนที่พวกเขาทำงาน พวกไมค์ ซ่าวเจ๋เป็นคนที่ครูฝึกรักที่สุด เพราะว่าความสามารถด้านการปฏิบัติของพวกเขาเก่งกาจมาก แม้ว่าจะปฏิบัติแค่ไหนห้องจำลองก็ตาม แต่ก็สุดยอดสุดๆ
ในตอนนั้นซ่าวเจ๋ยังได้รับรางวัลอีกด้วย ตอนนี้รางวัลก็ยังตั้งอยู่ที่บ้านอยู่เลย
ตอนเริ่มบิน ซ่าวเจ๋ทำการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆด้วยท่าทางที่เวอร์เกินจริง ถึงแม้ว่าจะเวอร์เกินจริง แต่คนที่อยู่ข้างๆก็ดูออกว่ามันก็ถูกต้องอยู่เช่นกัน
ส่วนเนี่ยเฟิงไม่ได้จับมานาน แค่มือของเขาวางลงบนอุปกรณ์เครื่องนี้ ใจของเขาก็มีความรู้สึกที่หายไปนานกลับคืนมาทันที
เขาค่อยๆถอนหายใจออกมา ลงมือได้อย่างนิ่งและมั่นคง
โจวลี่ซือสองตาเปล่งประกาย วิธีการที่นิ่ง สงบใจเย็นขนาดนั้น เนี่ยเฟิงไปเรียนขับเครื่องบินมาตั้งแต่เมื่อไรกัน? แม้ว่าจะไม่เคยเห็นเขาขับเครื่องบินมาก่อน แต่การปฏิบัติในห้องจำลองนี้ช่างนิ่งและมั่นคงมาก
เครื่องบินขับออกมาได้อย่างนิ่งมาก ความคิดของเนี่ยเฟิงเริ่มแพร่กระจายออกมา ตอนที่เนี่ยเฟิงขับเครื่องบินจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสิ่งแวดล้อม ในตอนนี้เขาก็คือเครื่องบิน เครื่องบินก็คือเขา
ไม่นาน สภาพแวดล้อมด้านหน้าของพวกเขาจู่ๆก็เปลี่ยนไปโหดร้ายรุนแรงขึ้นมาทันที ดูแล้วน่าจะกำลังเข้าไปในเขตฝนฟ้าคะนอง
หัวข้อในการแข่งหัวข้อนี้เนี่ยเฟิงไม่รู้ว่าเคยทำมากี่ครั้งแล้ว แทบนับไม่ถ้วน
ซ่าวเจี๋ยก็ดีใจขึ้นมาเหมือนกัน การจำลองการบินในขณะที่เข้าไปในเขตฝนฟ้าคะนอง เขาเคยได้รับรางวัลพิเศษมาแล้วด้วย
ดังนั้นการบินในครั้งนี้สำหรับซ่าวเจ๋แล้วง่ายไม่รู้จะง่ายยังไงแล้ว!
ซ่าวเจ๋เริ่มปฏิบัติด้วยท่าทางที่รวดเร็ว ดูตาลายไปหมด
เนี่ยเฟิงทำการบินด้วยความเร็วที่เท่ากันตั้งแต่แรกจนจบ พอท้องฟ้าเริ่มรุนแรงขึ้น ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเครื่องบินอาจจะถูกฟ้าผ่าใส่ได้
พวกเขาจึงต้องขับข้ามผ่านเขตฝนฟ้าคะนองอย่างไม่มีหนทางอื่น
กลุ่มเมฆก่อนดำโอบล้อมพวกเขาเข้ามา ไม่นานเครื่องบินก็เข้ามาสู่เขตฝนฟ้าคะนอง
ถึงตอนนั้นคนในเครื่องบินทั้งลำก็จะเข้าสู่อันตราย แม้ว่าจะเป็นการจำลอง แต่ทุกคนรู้ดี ว่าจะให้ผู้โดยสารเป็นอันตรายไม่ได้
“ถ้ายังไม่ทำอะไรอีก เขาก็จะเข้าไปในเขตฝนฟ้าคะนองแล้วนะ พอเข้าไปในฝนฟ้าคะนอง เขาก็จะไม่ผ่านทันที”
“ดูทรงแล้วคงจะไม่ได้เรียนสายตรงมาสินะ ยังดูไม่มีความรู้มากพอ”
ทุกคนเริ่มพากันพูดคุยซุบซิบขึ้นมา ใจของโจวลี่ซือก็เริ่มเต้นอย่างแรง ตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงเนี่ยเฟิงสุดๆ ไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงจะพลิกสถานการณ์ร้ายแรงให้กลับมาเป็นปกติได้หรือไม่
ซ่าวเจ๋มองเนี่ยเฟิงด้วยสายตาเย้ยหยัน การบินข้ามผ่านเขตฝนฟ้าคะนองสำหรับซ่าวเจ๋แล้วมันง่ายซะยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก ต่อให้หลับตาทำก็ยังได้
“ถ้าตอนนี้นายจะมาขอร้องอ้อนวอนก็ไม่ทันแล้วนะ หรือบางทีถ้าฉันอารมณ์ดีแล้วอาจจะปล่อยนายไปก็ได้นะ”
“ประโยคนี้ฉันควรจะบอกนายสิถึงจะถูก ถ้านายจะมาขอร้องอ้อนวอนฉันตอนนี้ ฉันอาจจะเมตตากรุณาก็ได้”
เนี่ยเฟิงไม่รีบร้อนเลยแม้แต่น้อย แม้ว่ากลุ่มเมฆครึ้มตรงหน้าจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วก็ตาม
ซ่าวเจ๋น้ำเสียงเหยียดหยาม“ฉันดูว่าแกจะผยองได้ถึงเมื่อไรกันแน่!”
แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ ในขณะนั้นเองจู่ๆเนี่ยเฟิงก็ดึงเกียร์ควบคุม ด้วยท่าทางรวดเร็ว อาศัยช่องว่างในเขตฝนฟ้าคะนอง บินหลีกเลี่ยงไปอย่างนิ่งและรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะบินเฉียดกับเขตฝนฟ้าคะนองมากก็ตาม แต่ก็ถือว่าผ่านอยู่ดี
ซ่าวเจ๋ยิ้มแห้ง“เหอะๆ ก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ อย่านึกว่านายจะมีความสามารถจริงๆ!ต่อไปพวกเราก็จะรู้กันว่าใครชนะใครแพ้!”
เนี่ยเฟิงมุมปากโค้ง ในตอนนี้เครื่องบินก็กลับมาบินปกติตามเดิม ต่อมาสภาพแวดล้อมข้างหน้าก็เปลี่ยนแปลงอีก
ภาพข้างหน้ามีเทือกเขาปรากฎขึ้นมา เนื่องจากมีอุปสรรคมากีดขวางทำให้เครื่องบินของพวกเขาถูกบังคับลงจอดทันที แต่ตอนนี้น้ำมันก็หายไปมากกว่าครึ่งแล้ว หรือพูดได้ว่าตอนนี้เครื่องบินที่พวกเขากำลังบังคับอยู่ไม่สามารถบินหลบเทือกเขาได้ ทำได้แค่รอดูว่าพวกเขาจะทำยังไงต่อไป
ซ่าวเจ๋พอเห็นหัวข้อสอบครั้งนี้ สีหน้าก็เริ่มซีดขาว เมื่อก่อนเขาก็เคยสอบหัวข้อนี้มาแล้วแม้ว่าจะสอบผ่าน แต่ทุกครั้งที่เจอหัวข้อสอบหัวข้อนี้ ซ่าวเจ๋ก็รู้สึกว่ามันโหดหินวิปริตอยู่ไม่น้อย
ในสถาบันการบินของพวกเขา คนส่วนใหญ่แล้วสอบไม่ผ่านหัวข้อนี้ คนที่สามารถสอบผ่านหัวข้อนี้ได้จริงๆ ก็ต้องใช้ความคิดอย่างมาก
ซ่าวเจ๋เลียริมฝีปากที่แห้ง เวลาไม่ได้มีมากพอที่จะให้พวกเขาได้คิดพิจารณา มาตราวัดน้ำมันกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถที่จะบินขึ้นสูงได้ ระหว่างเทือกเขามีเพียงแค่ตรอกช่องเขาเล็กๆแคบๆหนึ่งช่องเท่านั้น ช่องเขานี้เครื่องบินแทบจะไม่สามารถบินผ่านไปได้เลย!
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เครื่องบินก็จะชนเข้ากับเทือกเขา แล้วเครื่องบินก็จะตก
ซ่าวเจ๋ไม่ทันได้ใส่ใจอะไรมากมาย เขาดึงเกียร์บังคับ เครื่องบินบินขึ้นข้างบนอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากน้ำมันต่ำเกินไป ยังไม่ทันบินถึงยอดเขา ก็ชนเข้าเสียก่อน
จู่ๆภาพตรงหน้าก็กลายเป็นระเบิดขนาดใหญ่ ซ่าวเจ๋หลับตาปี๋ด้วยสีหน้าดูแทบไม่ได้ จากนั้นจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา
หัวข้อสอบนี้มันยากมากๆ แม้แต่ครูก็ไม่แน่ว่าจะสามารถบินผ่านไปได้
ซ่าวเจ๋ไม่เชื่อว่าเนี่ยเฟิงจะมีความสามารถนี้ ในขณะที่เขาหันหน้าไปอย่างช้าๆไม่รีบร้อนอะไรอยู่นั้น เขาก็ถลึงสองตาโตอย่างเหนือความคาดหมาย“เป็นไปไม่ได้!”
เขาเห็นเนี่ยเฟิงบังคับเครื่องบิน บินผ่านเทือกเขาจากมุมที่อันตรายสุดๆเห็นเป็นตรอกช่องเขาเล็กๆ!
หลังจากที่เครื่องบินบินลอดช่องเขา ตรงหน้าก็เป็นเส้นทางที่เรียบง่ายสบายๆหนึ่งสาย เนี่ยเฟิงค่อยๆร่อนเครื่องลง สุดท้ายก็ลงจอดอยู่บนพื้นอย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
หลังจากที่เนี่ยเฟิงดึงเกียร์ควบคุมแล้ว ก็มองมายังซ่าวเจ๋“เป็นยังไงบ้าง? ฉันชนะแล้วสินะ?”
ทุกคนต่างพากันมองเนี่ยเฟิงด้วยสายตาประหลาดใจ“นี่โชคดีหรือเปล่า? เขาทำได้ได้ยังไง