บทที่ 149 ฆ่าคนปิดปาก
เฮยหลงยิ่งมองเนี่ยเฟิงก็ยิ่งเกิดความรู้สึกคุ้นตา แน่ใจว่าตนเองเคยเห็นเขาที่ไหน
เพียงแต่เป็นที่ไหนนั้น ชั่วขณะหนึ่งนี้เขายังไม่ค่อยแน่ใจนัก
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องเหล่านี้ ผู้อื่นมาเยือนถึงหน้าประตู เล่นงานคนของเขาจนมีสภาพเช่นนี้ หากเขายังถอยให้ เช่นนั้นก็อภัยให้ไม่ได้แล้ว
“งั้นนายคิดจะทำยังไง?”
เฮยหลงหรี่ตา มีแววประหลาดใจวาบผ่านดวงตา
“ชดใช้”
เนี่ยเฟิงยกบิลในมือขึ้นมา “เมื่อกี้ที่ต้องชดใช้คือหนึ่งร้อยล้าน แต่ตอนนี้คงต้องวางแผนใหม่”
เฮยหลงเลิกคิ้ว “หมายความว่ายังไง?”
“นายดูสิ ฉันมาถึงถิ่นของนาย พวกนายไม่เพียงไม่ยอมรับความผิดของตนเอง ยังจะตามคนมารังแกฉันอีก บัญชีนี้สมควรต้องคิดไม่ใช่หรือ?”
เนี่ยเฟิงพูดเสร็จ ก็ชี้ไปที่คนของสถานฝึกยุทธที่ได้รับบาดเจ็บนอนท่าประหลาดร้องโหยหวนอยู่บนพื้น
เนี่ยเฟิงเหมือนคนที่ถูกรังแกตรงไหนกัน? ตอนนี้กระโดดโลดเต้นได้ ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
แต่เป็นพวกลูกศิษย์ในสถานฝึกยุทธเฮยหลงของเขาต่างหากที่ถูกเล่นงานจนลงไปนอนวัดพื้นแทน
“ค่าเสียกำลังใจนี้ของฉันก็ต้องเอามาคิดด้วยใช่หรือเปล่า?”
เนี่ยเฟิงเอียงศีรษะ “ฉันไม่คิดแพงมากหรอกนะ แค่ร้อยล้านก็พอแล้ว”
“ถุย! ไว้หน้าแกแล้ว! ค่ากำลังใจบ้านแกสิถึงเก็บแพงขนาดนั้น!”
ชายชราโกรธสุดขีด กัดฟันเค้นคำพูดออกมาสองสามคำ
“ค่ากำลังใจของฉันราคาสูงมาก อย่าเอาสมองของนายมาเทียบกับฉัน”
เนี่ยเฟิงโบกมือ ชายชราได้ยินก็โมโหอย่างมาก ไอ้เด็กโสโครกนี่อวดดีเกินไปแล้ว!
“อีกอย่าง ที่ฉันต้องเก็บคือค่าเสียเวลา”
ในดวงตาของเนี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เขาพูดอย่างชอบด้วยเหตุผล “ฉันคิดนาทีละร้อยล้าน ตอนนี้ฉันเสียเวลาอยู่ในที่ของนายไปไม่น้อยเลย”
หลังเนี่ยเฟิงใคร่ครวญแล้ว ก็ดีดนิ้วทีหนึ่ง “เอาอย่างนี้ หมื่นล้านแล้วกัน”
“หมื่นล้าน?! แกคิดจะไปปล้นธนาคารเหรอ! ค่าเสียเวลาอะไรแพงขนาดนั้น!”
“หึ โง่! ธุรกิจของพี่เฟิงนาทีหนึ่งทำเงินได้เท่าไหร่พวกแกรู้ไหม? พวกแกไม่เข้าใจอะไรเลย หมื่นล้านเนี่ยถือว่าลดให้พวกแกแล้ว! ยังกล้ามาต่อราคาอีก!”
ซาวาเข้าใจดีที่สุด แม้แต่ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมาในประเทศของพวกเขา ก็ยังไม่รวดเร็วเท่าการหาเงินของสำนักมังกร
ประกอบกับธุรกิจของเนี่ยเฟิงมีอยู่ทั่วโลก กับเงินแค่นี้ ถือว่าเก็บน้อยแล้ว
หน้าเฮยหลงงอง้ำทันที เจ้าหมอนี่ช่างเป็นสิงโตปากกว้างจริงๆ จงใจมาหาเรื่องกันชัดๆ
หากวันนี้ปล่อยให้เขามาใช้อำนาจบาตรใหญ่ขึ้นขี่บนหัว เช่นนั้นต่อไปก็แย่น่ะสิ เขาต้องมาหาเรื่องอีกหลายครั้งหลายหนแน่
เฮยหลงจะปล่อยให้เขาทำสำเร็จได้อย่างไร?
“ฉันเอาเงินมากขนาดนั้นออกมาในชั่วเวลาประเดี๋ยวประด๋าวไม่ได้หรอกนะ ทำไมพวกนายไม่ตามฉันมาล่ะ ฉันจะไปที่คลังหยิบของมีค่าบางอย่างให้พวกนาย”
“งั้นก็ได้”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า พูดจบก็ยืนขึ้นมา
เวลานี้ซาวารู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง “พี่เฟิง เขาคิดจะเล่นตุกติกหรือเปล่า?”
เนี่ยเฟิงตบๆ ที่มือของซาวา “ไม่เป็นไร ฉันกลับอยากจะเห็นว่าเขามีความสามารถอะไรบ้าง”
เนี่ยเฟิงพาซาวาไป ทั้งคู่เดินตามหลังเฮยหลง เพียงไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องทำงานห้องหนึ่ง ที่นี่เงียบสงบมาก แม้แต่แมลงวันครึ่งตัวก็ไม่เห็น
เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปอย่างไม่เกรงใจ หย่อนก้นนั่งบนโซฟา ซาวานั่งอยู่ข้างๆ เนี่ยเฟิง ไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย
“นายรอสักครู่”
เฮยหลงพูดจบ ก็ค้นหาในลิ้นชัก จากนั้นก็หยิบปืนด้ามหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก
เห็นเพียงเฮยหลงใช้ปากกระบอกปืนดำมืดเล็งมาทางเนี่ยเฟิง “ไอ้เด็กโสโครก รู้ไหมว่าคนที่ขู่ฉันเมื่อคราวก่อนไปอยู่ไหนแล้ว มันลงไปอยู่ในนรกนานแล้วน่ะสิ”
เนี่ยเฟิงเลิกคิ้ว “หา? แกคิดจะใช้ปืนยิงฉัน?”
“วันนี้พวกแกสองคนอย่าคิดจะไปจากที่นี่เลย”
เฮยหลงมองเนี่ยเฟิงอย่างเย็นชา
“ฉันบอกกับลูกน้องฉันแล้ว ภายในครึ่งชั่วโมงหากฉันยังไม่ออกไปจากที่นี่ พวกเขาจะบุกเข้ามา พังสถานฝึกยุทธเฮยหลงจนราบเป็นหน้ากลอง”
เนี่ยเฟิงใจเย็นมาก
“ฮ่าๆ แกคิดว่าที่นี่คือที่ไหน? ถึงยอมให้คนนอกอย่างแกมาหาเรื่องได้ง่ายๆ? แกคิดว่าลูกน้องของแกจะเข้ามาได้ตามใจหรือ?”
เนี่ยเฟิงยักไหล่ “งั้นอยากจะลองดูไหมล่ะ?”
สถานฝึกยุทธเฮยหลงมีหน้ามีตาอยู่ที่นี่ เฮยหลงเองก็ได้รับความเคารพนับถือเช่นกัน
หลังเขารู้ว่าลูกชายตนเองถูกรังแก ก็เดือดดาลมาก เดิมคิดจะไปสั่งสอนพวกไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำด้วยตนเอง
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าตัวจะมาเยือนถึงหน้าประตู แถมยังมาอวดดีถึงถิ่นเขา!
“ต่อให้ลูกน้องของแกมา ก็มาแค่เก็บศพของแกเท่านั้น! ไปตายซะ!”
เฮยหลงพูดจบ ก็เหนี่ยวไกปืน กระสุนถูกยิงออกมาในพริบตา!
สมัยก่อนเฮยหลงเป็นพวกนักเลงอันธพาล ลงมือโหดเหี้ยม ต่อมาตระกูลนั้นรับเขาเข้าไป มอบสถานฝึกยุทธเฮยหลงให้เขา
ปัจจุบันสถานฝึกยุทธเฮยหลงภายใต้การดูแลของเขา พูดได้ว่าเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งเมืองเยี่ยนตูล้วนถูกปกคลุมด้วยสถานฝึกยุทธเฮยหลง
พวกเขาสู้สถานฝึกยุทธเฮยหลงไม่ได้ กระทั่งชนชั้นสูงในเมืองเยี่ยนตูก็ยังเข้ามาประจบประแจงพวกเขา พวกเขาอยู่ในเมืองเยี่ยนตูจึงมีอำนาจล้นฟ้า
เพียงแต่เฮยหลงคิดไม่ถึงว่า เนี่ยเฟิงจะหลบกระสุนปืนได้อย่างง่ายดาย ระยะห่างใกล้ถึงเพียงนั้น นี่เขาทำได้ยังไงกัน?
เฮยหลงยิงกระสุนออกไปอีกหลายครั้งอย่างเหลือเชื่อ แต่กระสุนเหล่านี้กลับยิงไม่ถูกเนี่ยเฟิงเลยสักนัด
และเวลานี้เนี่ยเฟิงก็มาอยู่ตรงหน้าเฮยหลงแล้ว
รวดเร็วอย่างยิ่ง!
พวกเขาฝึกมานานขนาดนั้นยังฝึกไม่ได้เท่านี้ด้วยซ้ำ! เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งมาก!
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม “ปืนแกไม่มีกระสุนเหลือแล้ว”
พริบตาที่เฮยหลงกำลังโจมตีเนี่ยเฟิง เขาก็หลบได้ทันที ไอ้เด็กโสโครกนี่ไม่ธรรมดา!
ราวกับเขาเคยเห็นความสามารถของเนี่ยเฟิงที่ไหนมาก่อน!
“แกเป็นใครกันแน่!”
“ฉัน? ฉันคือเนี่ยเฟิง!”
คนตระกูลเนี่ย?
เฮยหลงพลันนึกถึงเนี่ยเจิ้งขึ้นมา ตอนนั้นเขาเคยประมือกับชายคนนั้น เขาจึงรู้ความร้ายกาจของเนี่ยเจิ้งดี
“ตระกูลเนี่ยแห่งเมืองจินไห่!”
“ถูกต้อง”
เนี่ยเฟิงเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้า เวลาเพียงแค่พริบตาเดียว เขาก็มายืนตรงหน้าเฮยหลงแล้ว ก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ!
“หยุดนะ! พวกแกจะทำอะไร!”
เวลานี้เอง ที่ด้านนอกประตูมีคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา พวกเขาถือปืนพร้อมยิง บนตัวสวมชุดตำรวจ มองดูก็รู้ว่าเป็นตำรวจ
“พี่หลง ผมได้ยินว่าที่นี่มีคนมาก่อเรื่อง ก็เลยรีบมาดู ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง!”
ตำรวจนายหนึ่งเดินออกมา ใช้สายตาจับผิดมองเนี่ยเฟิง “คือเจ้าหมอนี่น่ะเหรอ?”
เฮยหลงพยักหน้า “ถูกต้อง! เขานั่นแหละ!”
ถึงกับเป็นลูกของเนี่ยเจิ้ง เรื่องนี้อยู่เหนือความคาดหมายของเฮยหลงอย่างมาก พวกเขาทั้งตระกูลถูกฆ่าล้างบนทะเลไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?
ทำไมถึงยังมาอยู่ที่นี่ได้?
หรือว่า เขารอดหายนะมาได้?
“เชิญตามพวกเรามา!”
“พวกคุณต้องการจับผม?”
เนี่ยเฟิงหรี่ตา ยิ้มเย็นพลางกล่าวว่า “พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาจับผม?”
“ไอ้หยา! เจ้าหมอนี่อวดดีขนาดนี้เชียว! นายคิดว่านายเป็นใคร!”
พวกตำรวจเห็นเนี่ยเฟิงอวดดีขนาดนี้ จึงโกรธขึ้นมาทันที
“ในเมื่อต้องการจับผม ก็ควรจับคนที่ครอบครองปืนผิดกฎหมายนี่ด้วยหรือเปล่า เมื่อกี้เขายิงปืนใส่ผมตั้งหลายนัด”
“งั้นหรือ? ทำไมพวกเราไม่เห็นล่ะ!”