บทที่ 173 เอาคืน
“คุณนายควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้?”
ในเวลานี้คุณนายหลันกำลังดื่มชาอยู่ในห้องโถง ในมือของเธอกำลังถือชาที่ราคาแพงสุดๆ
“ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ตระกูลเนี่ยก็ตายไปหมดแล้ว ไม่คิดว่าจะเหลือรอดอยู่หนึ่งคน แล้วไอ้หมอนี่ก็ยังมาตามหาถึงที่แบบนี้อีก”
คุณนายหลันค่อยๆถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ“ฉันต้องคิดๆอีกสักหน่อยว่าควรจะรับมือยังไง”
ส่วนอีกด้าน เนี่ยเฟิงก็กลับมาถึงโรงพยาบาลแล้ว
“เป็นยังไงบ้างเสี่ยวเฟิง? ฝั่งนั้นว่ายังไง?”
หลินซูอินกำลังคิดที่จะโทรศัพท์ไปถามสถานการณ์ของเนี่ยเฟิง คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะกลับมาแล้ว
“เมื่อคืนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นนิดหน่อย งานการกุศลก็เลยไม่ได้จัดน่ะ”
หลังจากที่หลินซูอินได้ฟังแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเธอก็พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ได้จัดเป็นเรื่องที่ดีแล้ว แต่เมื่อคืนฉันประมาทจริงๆ ตอนนี้พักผ่อนดีแล้ว พวกเรากลับกันก่อนดีไหม? ฉันอยากจะเสนอรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้อำนวยการโรงเรียนสักหน่อยด้วยน่ะ”
หลินซูอินเป็นคนจริงจังแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นผมก็เก็บข้าวของให้พี่ก็แล้วกัน พวกเราขับรถกลับไปตั้งแต่ตอนนี้เลย?”
“รถของนายยืมมาจากเพื่อนไม่ใช่เหรอ? ถ้านายขับกลับไป แล้วเพื่อนของนายจะทำยังไง?”
หลินซูอินรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม
“รถของผมเป็นรถของร้านตัวแทนจำหน่ายรถของเพื่อน เขายังมีอีกร้านที่เมืองจินไห่ ผมสามารถเอารถไปคืนที่ร้านที่อยู่ในเมืองจินไห่ได้ ”
เนี่ยเฟิงพูดไร้สาระด้วยหน้าตาจริงจัง ส่วนหลินซูอินกลับเชื่ออย่างหมดใจ หลินซูอินพยักหน้า ทั้งสองคนขับรถกลับไปยังเมืองจินไห่ด้วยกัน หลังจากถึงเมืองจินไห่แล้ว เนี่ยเฟิงก็ไปส่งหลินซูอินที่โรงเรียน
“เสี่ยวเฟิง นายจะรอฉันอยู่ข้างนอกไหม?”
“ไม่เป็นไร ผมเข้าไปข้างในกับพี่ก็แล้วกัน”
“ได้เลย แต่เดี๋ยวคงต้องให้นายรออยู่ตรงทางเดินก่อนนะ”
ทั้งสองคนเข้าไปในโรงเรียนด้วยกัน เรียกได้ว่าโรงเรียนแห่งนี้ใหญ่มากจริงๆ แถมเต็มไปด้วยกลิ่นอายของตำราเรียน
ก่อนที่เนี่ยเฟิงจะอายุสิบสามปี เคยเรียนโรงเรียนมาเหมือนกัน แต่หลังจากอายุสิบสามปีก็อยู่ในค่ายกักกันมาตลอด
เขาไม่เคยรู้สึกถึงบรรยากาศในโรงเรียนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพื่อนที่รู้จักกันก่อนช่วงตอนประถมพวกนั้น เขาก็ไม่เคยติดต่อเลยแม้แต่คนเดียว ถึงยังไงก็ผ่านมาหลายปีมากแล้ว ทุกคนก็โตกลายเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว
เนี่ยเฟิงดึงสายตากลับมา มองที่แผ่นหลังของหลินซูอิน พวกเขาทั้งสองคนมาถึงที่ฝ่ายวิชาการ
คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะเจอเข้ากับคนคนหนึ่ง หลี่ซวน
หลังจากที่หลี่ซวนรู้เรื่องของโหวหย่งแล้ว ในใจก็รู้สึกกระวนกระวายไม่กล้าไปหาเขา กังวลว่าตัวเองจะพลอยโดนไปด้วย ก็เลยรีบกลับมาอย่างลุกลี้ลุกลน
หลังจากที่เธอเห็นเนี่ยเฟิงและหลินซูอินแล้ว ก็ทำตัวไม่ถูก เนื่องจากหลี่ซวนเพิ่งจะโทรศัพท์ไปเตือนหลินซูอิน
ใครจะไปรู้ว่าคนที่มารับสายคนนั้นจะเป็นเนี่ยเฟิง
หลี่ซวนไอกระแอมหนึ่งที“คุณ แฮ่มๆ ทำไมพวกคุณกลับมาเร็วขนาดนี้?”
“ดูเหมือนครูหลี่จะไม่อยากให้พี่สามของผมกลับมาเลยนะครับ?”
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้ว สบถหึออกมาอย่างช่วยไม่ได้
จู่ๆหลี่ซวนก็นึกคำพูดที่เนี่ยเฟิงพูดเตือนตนเองเมื่อตะกี้ขึ้นมาได้ เขาบอกไว้ว่า เขายังไม่ได้คิดบัญชีนี้กับเธอ
ตอนแรกหลี่ซวนกะที่จะกลับมาตอบโต้กลับ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาสองคนดันเร็วขนาดนี้
“ครูหลิน คุณกลับมาแล้วเหรอ?”
ในเวลานี้หัวหน้าฝ่ายวิชาการออกมาพอดี“ทำไมพวกคุณถึงมายืนอยู่หน้าประตูไม่เข้ามาข้างในล่ะ? ยืนคุยอยู่ข้างนอกเหนื่อยจะตาย รีบเข้ามาเถอะ!”
“ฉันกำลังมีเรื่องที่จะรายงานกับหัวหน้าพอดีเลยค่ะ เกี่ยวกับเรื่องงานการกุศลเมื่อคืนน่ะค่ะ”
หลินซูอินไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับหลี่ซวนที่ชอบประจบประแจงผู้บริหารโรงเรียนของโรงเรียนเท่าไร จึงไม่อยากพูดคุยกับเธอแม้แต่ประโยคเดียว
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบเข้ามาสิ คุณคนนี้คือ……”
“นี่คือน้องชายของฉันเองค่ะ เสี่ยวเฟิง”
“โอ้!ฉันดูไม่ออกเลยนะเนี่ย พวกคุณทั้งสองคนพี่น้องอยู่ไม่เหมือนกันเลยสักนิด!”
หัวหน้าฝ่ายวิชาการดูผอมโปร่ง ท่าทางคำพูดคำจาดูดี แถมเวลาพูดก็อ่อนโยนอบอุ่นดูแล้วเป็นคนที่น่าพูดคุยด้วย แต่ยังไงก็ตามรู้หน้ารู้คนแต่ไม่รู้ใจ ใครจะไปรู้ว่าที่เห็นนี่มันเป็นของจริงหรือว่าของปลอม?
หลังจากที่เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปก็ไปนั่งอยู่ที่ที่หนึ่ง ในเวลานี้ หลินซูอินก็เข้ามาพูดขอโทษ
“เมื่อคืนฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงดื่มไปเยอะหน่อย จากนั้นก็หมดสติไป ฟังมาจากน้องชายว่าฉันเป็นพิษสุราก็เลยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล งานที่พวกคุณมอบหมายให้กับฉัน ก็เลยยังทำไม่เสร็จสมบูรณ์ ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเขียนข้อผิดพลาดของตัวเองมาห้าพันตัวอักษร แล้วหลังจากนี้ฉันจะไม่ดื่มอีกแล้วค่ะ”
“เอ้อ!งานการกุศลเมื่อคืนก็ไม่ได้จัด ครั้งนี้พวกเราจะส่งผู้อำนวยการไปที่เยี่ยนตูอีกครั้ง เรื่องนี้จะโทษคุณก็ไม่ได้ คุณไปร่วมการแข่งขันก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ยังให้คุณไปร่วมงานเลี้ยงการกุศลอีก”
หัวหน้าฝ่ายวิชาการโบกๆมือ“ไม่ต้องเขียนข้อผิดพลาดของตัวเองอะไรทั้งนั้น คุณคว้าแชมป์ถ้วยโหวเหนี่ยวมาได้ นี่มันก็สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนของเราแล้ว!ตอนนี้คุณต้องเป็นตัวแทนของทั้งจังหวัดในการไปเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศด้วย ช่วงนี้คงต้องลำบากคุณอีกหน่อยแล้วล่ะ”
หลินซูอินแอบประหลาดใจไม่น้อย“ฉันต้องเป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งระดับประเทศเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว แล้วคุณคิดว่าถ้วยโหวเหนี่ยวจะจัดการแข่งขันรวบรวมครูสอนดนตรีจากทุกจังหวัดมาเพื่ออะไร? นี่มันเป็นการแข่งขันระดับประเทศ ส่วนถ้วยโหวเหนี่ยวก็แค่การแข่งขันลงคะแนนโหวตเท่านั้น เป็นธรรมดาที่คุณจะไม่รู้ เพราะว่าโรงเรียนของพวกเราไม่อยากให้คุณต้องรู้สึกกดดันน่ะ”
หลินซูอินพยักหน้าอย่างเข้าใจ“แบบนั้นก็ต้องเตรียมตัวให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นพอขึ้นเวทีแล้วก็จะขายขี้หน้าเอาได้……”
“แล้วไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้คุณยังขายขี้หน้าไม่พออีกหรือไง?”
จู่ๆหลี่ซวนก็พูดแทรกขึ้นมา หัวหน้าฝ่ายวิชาการกับหลินซูอินแล้วก็เนี่ยเฟิงทั้งสามคนขมวดคิ้ว
“ครูหลี่ ที่คุณพูดหมายความว่ายังไง?”
“เหอะ!หัวหน้าคะ คุณแทบไม่รู้เลยสักนิด ว่าที่หลินซูอินชนะการแข่งขันครั้งนี้ มีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่!”
หลี่ซวนก็ไม่รู้ว่าโหวหย่งจะฟื้นขึ้นมาไหม แต่ไม่ว่ายังไงเธอต้องชิงลงมือก่อนดีที่สุด
“เบื้องหลังอะไร?”
ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการรู้สึกมึนงงไปหมด ส่วนเนี่ยเฟิงก็หรี่ตาลง ผู้หญิงโง่คนนี้กล้ามาเปิดปากพูดในสถานการณ์แบบนี้ เธอคงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสินะ?
“เธอหลอกล่อแฟนของฉัน แฟนของฉันถูกเธออ่อยจนหน้ามืดตาลาย จากนั้นเธอก็หลอกใช้ประโยชน์จากแฟนของฉัน เพื่อให้ได้แชมป์มา ท่ามกลางครูดนตรีที่ฝีมือยอดเยี่ยมมากมายขนาดนั้น คนแบบเธอจะเอาอะไรไปชิงรางวัลชนะเลิศมาล่ะคะ?!”
“ครูหลี่ ผมไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณ”
“แฟนของฉันก็คือกรรมการของโรงเรียน นายโหว!”
หัวหน้าฝ่ายวิชาการอึ้งตะลึงไป“นี่เรื่องจริงเหรอ?”
“แน่นอนสิคะ พวกเราสองคนไม่ค่อยทำตัวให้เป็นจุดสนใจ ก็เลยไม่ได้ประกาศออกไปสักที แต่คิดไม่ถึงว่าหลินซูอินจะใช้ความสวยของตัวเองในการไปล่อลวงโหวหย่ง ครูที่มีคุณสมบัติแบบนี้จะไปสอนใครได้เหรอคะ?”
“ครูหลี่ ฉันกับคุณไม่ได้มีความเกลียดแค้นอะไรกัน ทำไมคุณต้องมาพูดให้ร้ายฉันด้วย?”
หลินซูอินรู้สึกเสียใจไม่น้อย
“ทำไมฉันต้องพูดให้ร้ายคุณด้วย ขนาดงานการกุศลเมื่อคืนก็เหมือนกัน!คุณจงใจไปอ่อยโหวหย่ง ให้โหวหย่งไปร่วมหลับนอนกับคุณ!แต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะถูกแฟนของคุณรู้ก่อน แฟนของคุณก็เลยโกรธสุดๆจนต้องมาจับให้ได้คาเตียง!”
หลี่ซวนพูดพลางยื่นมือออกมาชี้เนี่ยเฟิง