บทที่ 199 คุณมีทรัพย์สินเท่าไหร่?
เนี่ยเฟิงดื่มน้ำไปคำหนึ่ง แล้วถามอย่างสงสัย “เมิ่งเมิ่ง คุณชายเหอคนนี้เป็นแฟนคลับของพี่เหรอ?”
“ใช่แล้ว! เป็นแฟนคลับตัวยงเลยล่ะ!” โกจิ้งนางเอกเบอร์ 3 ยกนิ้วของหล่อนขึ้นมา “ฉากสุดท้ายของเราถูกถ่ายทำที่วิลล่าน้ำพุร้อน และคนที่เลือกฉากวิลล่าน้ำพุร้อนวันนั้นก็คือคุณชายเหอ ซึ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวเหอเหรินเจ๋ค่ะ เมื่อเหอเหรินเจ๋เห็นแฟนของคุณ ก็หลงรักตั้งแต่แรกพบเลย!”
“หลงรักตั้งแต่แรกพบอะไร! ฉันไม่สนใจอะไรในตัวเขาเลยสักนิด! ”
คางเมิ่งรีบขัดคำพูดของโกจิ้ง
“เธอน่ะไม่ได้สนใจ แต่เค้ามีต่อเธอไง! โธ่เอ๊ย น้ำพุร้อนที่เธอเคยใช้น่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมเลยนะ!”
“คางเมิ่งเอ๊ย ฉันได้ยินมาว่าเหอเหรินเจ๋คนนั้นเป็นลูกเศรษฐีที่มีชื่อเสียงของเมืองเยี่ยนตูและทั้งหมดของมณฑลซานเจียงเลยนะ ทรัพย์สินของครอบครัวมีเงินหลายหมื่นล้านหยวนเลย! เธอไม่คิดจะพิจารณาบ้างเลยเหรอ?”
สวีเหมยรินไวน์ให้คางเมิ่งไปแก้วหนึ่ง และจงใจเหลือบมองเนี่ยเฟิงไปทีหนึ่ง แล้วพูดไปแบบนั้น
“ฉันถึงไม่คิดจะพิจารณาไง นั่นไม่ใช่สเปคที่ฉันชอบเลยสักนิด! อีกอย่างฉันชอบแค่เนี่ยเฟิงของฉันเท่านั้น ถ้าพวกเธอชอบก็ไปสิ ฉันแค่อยากจะเป็นนักแสดงที่ดี และเล่นทุกฉากให้ดีก็พอแล้ว! ”
คางเมิ่งดื่มไวน์ไปคำหนึ่ง
“ฉันคิดว่าดาราหญิงหลายคนมักจะฉวยโอกาสนี้แต่งงานกับตระกูลมหาเศรษฐี เธอไม่มีความคิดนี้เลยเหรอ?”
โกจิ้งหรี่ตาลง แล้วจงใจพูดออกมาแบบนั้น
“นั่นมันคนอื่น ส่วนฉันไม่ได้มีความคิดอย่างนั้นสักหน่อย! มีแค่เสี่ยวเฟิงก็ดีมากแล้ว! คางเมิ่งโกรธเล็กน้อย
“ถ้ามีผู้ชายแบบนี้ตามจีบฉันคงตกลงไปแล้ว! มันเป็นเพราะแฟนของเธออยู่ด้วย เลยกลัวว่าจะทำร้ายความภาคภูมิใจของเขาที่มีต่อใช่ไหมล่ะ? แต่ในอนาคตเธอยังสามารถติดต่อกับคนรวยแบบนี้ได้นะ แฟนของเธอสามารถให้เธอได้ไหมล่ะ? แล้วความสุขที่เธอต้องการล่ะ?”
สวีเหมยสะกิดคางเมิ่ง
“ฉันไม่ชอบ!” ฉันชอบแบบเสี่ยวเฟิงนี่แหละ! จะให้ฉันพูดกี่ครั้งกันเนี้ย?”
คางเมิ่งกังวนไปครู่หนึ่งจึงดึงเนี่ยเฟิงมา และกุมมือของเนี่ยเฟิงไว้แน่น
ในที่สุดเนี่ยเฟิงก็รู้แล้วว่าทำไมคางเมิ่งถึงได้เรียกตัวเขามาที่แท้คางเมิ่งเจอเรื่องน่ารำคาญนี้นี่เอง
“ถึงแม้ตอนนี้จะรักกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตชีวิตจะสวยงามนะ! นอกจากนี้เมื่อเธอมีชื่อเสียง ก็จะมีแฟนคลับมากขึ้น เมื่อถึงตอนนั้นผู้จัดการของเธอก็จะไม่อนุญาตให้ปล่อยข่าวที่พวกเธอทั้งสองคนรักกันออกมาแน่….แม้ว่ามันจะโหดร้าย แต่คางเมิ่งเธอต้องรู้ว่าการเป็นนักแสดงแล้วไม่มีแฟนถึงจะเป็นที่รักของมวลชน และถึงจะสามารถได้รับผลประโยชน์จากแฟนคลับได้นะ”
สวีเหมยไม่ได้สนใจความรู้สึกของเนี่ยเฟิงเลยสักนิด หล่อนโบกมือ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงของคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
“ตามคำพูดของสวีเหมยแล้ว งั้นก็แสดงว่าคุณก็เคยทิ้งแฟนคุณด้วยใช่ไหมครับ?”
เนี่ยเฟิงถามขึ้นอย่างไม่สนใจ
เมื่อสวีเหมยได้ยินเนี่ยเฟิงพูดดังนั้น มือที่กุมแก้วไวน์ก็กำแน่นพร้อมกับถลึงตาใส่เนี่ยเฟิงอย่างไม่พอใจ “เพื่อที่จะปีนขึ้นไปในระดับที่สูงกว่า การเสียสละบางอย่างก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เขาควรจะรู้สึกดีใจที่ได้เป็นกระดานกระโดดที่ฉันปีนขึ้นไป และฉันก็จะกลายเป็นกิ๊กเก่าของเขา ซึ่งการที่มีเน็ตไอดอลเป็นแฟนเก่านั้นเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนาอย่างยิ่งแล้ว?”
เมื่อทุกคนได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างดัง ต้องบอกว่าทัศนคติของคนเหล่านี้ ช่างไม่ถูกต้องเลยจริงๆ
“เนี่ยเฟิง คุณคงเริ่มประหม่าแล้วล่ะสิ? คุณกลัวว่าคางเมิ่งจะไม่ต้องการคุณแล้วใช่ไหม? ทางที่ดีคุณควรเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีนะ เพราะไม่รู้ว่าวันไหน คางเมิ่งจะทิ้งคุณไป!”
โกจิ้งและสวีเหมยทั้งสองชนแก้วกัน พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างเสียงดัง
คางเมิ่งกุมมือเนี่ยเฟิงไว้แน่น พร้อมกับกระซิบข้างหูเนี่ยเฟิงเบาๆว่า
“เสี่ยวเฟิง อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของผู้หญิงสองคนนี้เลย น้องวางใจเถอะ รอให้พี่หาเงินได้พี่จะซื้อวิลล่าหลังใหญ่ให้น้องแน่นอน! พี่ต้องขอโทษด้วยนะที่เมื่อครู่โกหกให้น้องมา เหตุการณ์แบบนี้พี่ก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี”
คางเมิ่งไม่สามารถปฏิเสธงานเลี้ยงมิตรภาพครั้งนี้ได้ เพราะทุกคนในกองละครมาดื่มด้วยกัน
เนี่ยเฟิงหรี่ตาลง พร้อมกับยิ้มแล้วพยักหน้า “ผมรู้ครับ ผมจะร่วมมือแสดงละครเรื่องนี้กับพี่อย่างดีเลย”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ย้ายแก้วไวน์ของคางเมิ่งมาที่เขา และการที่เขามานั้นมันถูกแล้ว เพราะที่นี่เป็นสังคมที่เลวทรามป่าเถื่อนจริงๆ
ไม่นานหลังจากที่คางเมิ่งให้คนนำแชมเปญทาวเวอร์ออก แชมเปญทาวเวอร์อีก 3 ถาดก็ถูกส่งมาอีกครั้ง!
แชมเปญทาวเวอร์ที่นี่เป็นราคาถาดละหมื่น ซึ่งมีราคาค่อนข้างแพง!
“ฉันบอกว่าไม่รับแล้ว เขาฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ?”
คางเมิ่งรู้สึกปวดหัว “ช่างมันเถอะ พวกเธอเที่ยวไปเถอะ ฉันกับแฟนจะกลับกันแล้วนะ”
คางเมิ่งโบกมือ “เสี่ยวเฟิง พวกเรากลับกันเถอะ!”
“เสี่ยวเมิ่ง แชมเปญทาวเวอร์ที่ผมส่งไปคุณไม่ชอบเหรอ?” แล้วคุณชอบอะไรล่ะ? ผมสามารถให้คุณได้หมดเลยนะ”
คิดไม่ถึงว่าเหอเหรินเจ๋จะมา เมื่อเขาเห็นมือของคางเมิ่งวางลงบนบ่าของเนี่ยเฟิง ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที “แกเป็นใคร? ทำไมแกถึงเอาเปรียบเสี่ยวเมิ่งอย่างนี้! ”
เนี่ยเฟิงสังเกตมองเหอเหรินเจ๋ผู้นี้จากหัวจรดเท้า “เอาเปรียบงั้นเหรอ? ผมเป็นแฟนของหล่อน และการที่ผมประคองแฟนของผม มันเอาเปรียบยังไงกัน?”
เนี่ยเฟิงส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา
เหอเหรินเจ๋อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างสังเกตมองเนี่ยเฟิงจากหัวจรดเท้า “เหอะ เหอะ! อย่างแกเนี้ยนะยังอยากเป็นแฟนของเสี่ยวเมิ่ง? แกคงคิดว่าแกประเมินตนเองได้ถูกต้องแล้วสินะ?”
“คนที่ประเมินตนเองได้ถูกต้องเป็นแกต่างหากล่ะ! เหอเหรินเจ๋ผมบอกคุณแล้วนะ ว่าฉันมีแฟนแล้วฉันจะไม่ยอมรับการตามจีบของคุณหรอก! แฟนของฉันคือเขา! ตอนนี้เรากำลังจะกลับแล้ว รบกวนคุณช่วยหลีกทางให้หน่อยนะคะ”
คางเมิ่งแข็งแกร่งมากและพูดกับเหอเหรินเจ๋อย่างมั่นใจ
“เขาดีกว่าผมตรงไหนกัน?”
เหอเหรินเจ๋กวักมือเรียก ทันใดนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งออกมา แล้วล้อมพวกเขาไว้แน่น “ดูท่าฉันคงต้องเจรจากับแกสะแล้ว! ”
เนี่ยเฟิงเลิกคิ้วขึ้น และเห็นว่าบอดี้การ์ด 10 คนล้อมพวกเขาไว้ เขาก็อดหัวเราะไม่ได้ “คุณอยากเจรจากับผมงั้นเหรอ? เจรจาเรื่องอะไร?”
“คุณมันไม่มีสิทธิ์เคียงข้างเสี่ยวเมิ่ง ผมแนะนำให้คุณนะถ้ารู้ว่ายากหรือไม่ดีก็หลบสะ และนี่คือเงิน 5 ล้าน ออกไปจากหล่อนสะ”
เหอเหรินเจ๋พูดจบก็โยนเช็คลงบนโต๊ะ
“เหอเหรินเจ๋เอ๊ย ตอนนี้เงิน 5 ล้านหยวนของคุณมันช่างไม่คุ้มค่าเอาสะเลย เพราะหลังจากที่เสี่ยวเมิ่งโด่งดังขึ้นมา ก็จะมีข่าวว่าหล่อนไม่มีความชำนาญในสายงาน และอย่าพูดว่า 5 ล้านหยวนเลย 50 ล้านหยวนผมยังสามารถให้หล่อนได้! แล้วหล่อนจะปล่อยเหยาเฉียนซู่ต้นนี้ไปได้อย่างไรล่ะ?”
ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ก็รู้สึกว่าเขาหล่อพอๆกับเนี่ยเฟิง และเป็นไปได้ว่าเขาอยากจะเป็นไอ้หนุ่มหน้าขาวนั่น ดังนั้นเขาถึงได้อยู่ข้างๆคางเมิ่งอย่างหน้าด้านๆ
เหอเหรินเจ๋ส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา “ที่แท้ก็เป็นแค่พวกเกาะผู้หญิงกินนี่เอง งั้นคงไม่มีคุณสมบัติที่จะแย่งกับฉันแล้ว”
“พวกแกทำอะไร? เสี่ยวเฟิงต่างหากล่ะที่ไม่ใช่พวกเกาะผู้หญิงกิน!”
คางเมิ่งโกรธมาก ซึ่งเดิมทีหล่อนคิดว่าการที่เรียกว่าเนี่ยเฟิงมาเพื่อเล่นบทบาทเป็นแฟนตัวเองก็จะ สามารถทำให้ผู้ชายคนนี้ถอยหนีไป แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะยิ่งกำเริบมากขึ้นเรื่อยๆ!
“เสี่ยวเมิ่ง อย่าถูกพวกหนุ่มหน้าขาวนี้ล้างสมองนะ พวกหนุ่มหน้าขาวแบบนี้มันจะพูดคำหวานเพื่อเกลี้ยกล่อมคุณจนสับสน คนที่สามารถทำให้คุณมีความสุขได้ มีแค่ผมเท่านั้นจากนี้ไม่ว่าคุณจะอยากถ่ายทำละครอะไรก็ตามผมจะลงทุน หรือถ้าคุณอยากอยู่ในนวงการบันเทิง ผมก็จะจะเปิดทางให้คุณ!”
เหอเหรินเจ๋มองไปที่เนี่ยเฟิงอย่างยั่วยุ “คุณให้อะไรได้บ้างล่ะ”
“ครอบครัวคุณมีทรัพย์สินเท่าไหร่กัน?”
อยู่ๆเนี่ยเฟิงก็พูดคำที่ไม่มีเหตุอันใดที่จะมาหาเรื่องกันขึ้นมาทันที
