พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม – บทที่ 229 เรื่องราวพลิกแพลง

บทที่ 229 เรื่องราวพลิกแพลง

บทที่ 229 เรื่องราวพลิกแพลง

เย่ฉงหยางกับจางลี่ถิงทั้งสองคนเข้าไปดูใกล้ๆ พอเห็นใบเสร็จที่ยาวเหยียด พวกเขาก็ตกใจไม่น้อย

บนใบเสร็จมีบรรดาอาหารที่พวกเขากินไปเมื่อตะกี้ อย่างเช่น พระกระโดดกำแพงที่ราคาแสนแพง แล้วยังจะมีกุ้งมังกรที่นำเข้าจากต่างประเทศอีก ที่ถึงชีวิตที่สุดก็คือพวกเขาเอาไวน์ที่ราคาแพงมากๆมาดื่มซะเป็นเบียร์ อาหารมื้อนี้กินไปเกือบห้าล้าน!

“คุณบ้าไปหรือเปล่า ข้าวมื้อเดียวจะถึงห้าล้านได้ยังไง!ร้านอาหารของพวกคุณหลอกลวงผู้บริโภคใช่ไหม!”

“ใช่น่ะสิ ของพวกนี้รวมกันแล้วยังไม่ถึงหนึ่งหมื่นเลยด้วยซ้ำ แล้วพวกคุณมาบอกว่าห้าล้านเนี่ยนะ!ระวังพวกเราจะไปแจ้งความเอาเรื่องคุณที่สำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์นะ!”

พวกเขาพอเห็นใบเสร็จค่าอาหารก็รู้สึกหนังหัวชาไปหมด ส่วนสีหน้าของผู้จัดการก็เริ่มบึ้งตึงแล้ว“พวกคุณสั่งมาแต่เครื่องดื่มที่ราคามันก็บอกชัดเจนอยู่แล้ว ราคานี้มันไม่ใช่ถูกๆ เมื่อตะกี้ตอนที่เสิร์ฟพวกเราก็ตรวจสอบเพื่อความมั่นใจกับพวกคุณไปแล้ว พวกคุณบอกแค่ว่าให้เปิดไปเลย ไม่ต้องมาบอกราคา พวกเราใช้แต่ของที่นำเข้า วัตถุดิบก็ล้วนแต่นำเข้ามาจากต่างประเทศ นอกจากนี้แล้ว พวกคุณยังสั่งคาเวียร์ด้วย แถมยังกินฟัวกราอีก ของพวกนี้มันแสดงให้เห็นอยู่ทนโท่”

พวกเขาหันมองหน้ากัน คิดในใจเงินก้อนนี้ไม่ว่ายังไงก็จ่ายไม่ได้ นี่มันเงินจำนวนไม่น้อยเลยนะ พวกเขาเพิ่งจะได้สินสอดสิบล้านมา ตอนนี้กินข้าวแค่มื้อเดียวก็ต้องจ่ายไปครึ่งหนึ่งแล้ว จะให้พวกเขาคิดยังไง?

เย่ฉงหยางรีบโทรศัพท์ไปหาเย่หรูเสว่ แต่ครั้งนี้สายของเย่หรูเสว่โทรไม่ติดแล้ว

จางลี่ถิงแทบจะไม่อยากจ่ายเงินนี้เลย จึงพูดด่าทอก่อความวุ่นวายขึ้น สร้างเรื่องจนตำรวจมา หลังจากตรวจสอบไปหนึ่งรอบ

ก็ยืนยันได้ว่าอาหารที่พวกเขาทานไปมันตรงกับที่ทางโรงแรมบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ไม่มีผิด และราคามันก็ไม่ได้สูงเกินไปด้วย

พวกเขาจึงหมดหนทาง ทำได้แค่ควักเงินก้อนนี้ออกมาจ่าย

เงินสิบล้านละลายไปเหมือนกับน้ำ ตอนที่ทั้งสี่คนเดินออกมานั้นต่างก็สีหน้าดำมืดกันทุกคน

“ไอ้ตัวแสบเพราะแกคนเดียว ถ้าไม่ใช่แก พวกเราไม่มีทางสั่งไวน์มามากขนาดนั้นแน่ๆ”

หลังจากที่เย่ฉงหยางออกไปแล้ว ก็เตะเย่เล่อไปด้วยความโมโห เย่เล่อเกือบจะกลิ้งตกบันได

“พ่อ!พ่อช่วยมีเหตุผลหน่อยได้ไหม? คนที่กินข้าวดื่มเหล้าเมื่อตะกี้ก็เป็นพ่อเองไม่ใช่เหรอ? ตัวพ่อเองก็กินอย่างสุขสบายใจด้วยไม่ใช่เหรอ? แถมเห็นๆอยู่ว่าพ่อสั่งเยอะที่สุด!แล้วตอนนี้มาโทษผมเนี่ยนะ?”

เย่เล่อจ้องเขม็งเย่ฉงหยางด้วยความโกรธ สองพ่อลูกเกือบจะมีเรื่องชกต่อยกันตรงทางเข้าแล้ว

“พอกันทั้งคู่นั่นแหละ เงินก้อนนี้จ่ายไปแล้วจะทำไรได้อีก? มีแค่พวกเราที่จ่ายได้เท่านั้น ว่าแล้วทำไมพวกมันถึงไปเร็วซะขนาดนั้น ที่แท้ต้องจ่ายค่าอาหารราคาแพงขนาดนี้นี่เอง!ไม่เป็นไร แม้ว่าไอ้เด็กเย่หรูเสว่จะย้ายทะเบียนบ้านไปแล้ว แต่อำนาจในการครอบงำยังอยู่ในมือของพวกเรา ถึงยังไงมันก็สกุลเย่ ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยไปเอาจากมันก็ได้”

จางลี่ถิงไม่เชื่อว่าตัวเองจะไม่สามารถบังคับบงการเด็กผู้หญิงคนเดียวได้!

“หนูว่าแม่พูดถูก ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะแบ่งเงินกันตอนนี้เลยไหมล่ะ?”

เย่เหม่ยย่ามองพวกเขาด้วยความหวัง

“ต้องกลับไปดูก่อนว่าเงินก้อนนี้เหลือเท่าไรแล้วถึงจะแบ่งได้ อีกอย่างนี่เป็นสินสอดที่ให้กับพี่สองของลูก มันเป็นเงินที่แสดงถึงความเคารพแก่คนอาวุโสแบบพวกเรา พวกลูกจะเข้ามายุ่งให้วุ่นวายอะไรอีก?”

ตอนนี้เหลือเงินอยู่แค่นี้ เย่ฉงหยางกับจางลี่ถิงก็รู้สึกไม่อยากแบ่งเงินให้กับลูกชายและลูกสาวของตัวเอง พวกเขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“พ่อแม่พูดอะไร? เห็นๆอยู่ว่าให้พวกเราแบ่งกันนะ!หรือว่าพ่อแม่จะฮุบไว้เองคนเดียวอย่างนั้นเหรอ?”

เย่เล่อนิสัยค่อนข้างละโมบ เหมือนกับพ่อแม่ของเขา คิดอะไรก็ไม่เก็บไว้ในใจ พูดออกมาจนหมด คิดอะไรอยู่ในหัวก็พูดออกมาแบบนั้นตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“ฮุบไว้คนเดียวอะไรกันล่ะ? พวกเราก็แค่เป็นห่วงว่าพวกลูกสองคนพี่น้องจะเอาไปใช้จ่ายมั่วซั่ว พวกเราก็เลยเก็บเอาไว้ให้ก่อนต่างหากล่ะ!”

เย่ฉงหยางจ้องพวกเขาสองคนตาเขม็ง แต่พวกเขาสองคนแทบจะไม่ต้องการให้พ่อแม่เก็บเงินก้อนนี้ให้เลยสักนิด ตอนนี้พวกเขาแค่ต้องการเอาเงินนี้มาให้เร็วที่สุด พวกเขาก็จะได้ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้สักที

พวกเขากลับบ้านพลางทะเลาะมีปากเสียงกันไปพลาง แต่พวกเขาไม่รู้เลยสักนิดว่าเรื่องที่พวกเขากำลังทะเลาะกันนั้น ตอนนี้ได้ยินเข้ามาในหูของเนี่ยเฟิงหมดเรียบร้อยแล้ว

เนี่ยเฟิงดักฟังจากมือถือของพวกเขา ดังนั้นจึงรู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่ได้อย่างง่ายดาย

แต่นี่มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น

ในช่วงค่ำของวันนั้นเนี่ยเฟิงกับเย่หรูเสว่หาโรงแรมพักก่อน เย่หรูเสว่จิตใจยังคงไม่สงบ ไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงจะทำอะไรต่อ

เนี่ยเฟิงกลับพูดปลอบเย่หรูเสว่“พี่หกวางใจได้ ผมจะไม่ทำเรื่องที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแน่นอน”

“แต่นายไม่ยอมบอกฉัน ใจของฉันก็อยู่ไม่สุขน่ะสิ ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง”

เย่หรูเสว่ถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ

“พรุ่งนี้ก็รู้แล้วล่ะ!พี่ทำใจให้สงบนอนหลับให้สบายไปก็พอแล้ว!”เนี่ยเฟิงฉีกยิ้มกว้าง

ในคืนนั้นพวกเขานอนหลับอย่างสบายใจ แต่ทางครอบครัวของเย่ฉงหยางไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

พวกเขายังทะเลาะโหวกเหวกโวยวายจนมาถึงบ้าน ก็เห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งยืนออกันตรงประตูทางเข้า

กลุ่มคนกลุ่มนั้นสวมใส่ชุดสีดำ ดูแล้วไม่น่าจะไปยุแหย่ด้วยได้ พวกเขารู้สึกสงสัยไม่น้อย

หรือบางทีอาจจะเป็นพวกคนที่เมาแล้วบ้าคลั่งฮึกเหิม เย่ฉงหยางจึงตรงเข้าไปพูดตะคอกใส่ด้วยความโกรธ“พวกแกเป็นใคร? ทำไมถึงมาล้อมตรงประตูบ้านของฉัน?”

“แกเป็นผู้นำตระกูลนี้ใช่ไหม? แกชื่อเย่ฉงหยางใช่ไหม?”

คนที่พูดขึ้นมาดูท่าทางเหี้ยมโหด เย่ฉงหยางในใจคิดว่าตัวเองก็ไม่เคยไปก้าวก่ายใคร แล้วพวกเขามาทำอะไรที่นี่?

“ใช่ฉันคือเย่ฉงหยาง แกมาหาฉันทำไม?”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย!สามีของลูกสาวแกยืมเงินก้อนหนึ่งจากพวกเรา แล้วไม่มีเงินคืน!พวกเราไปหาพ่อแม่ของมันแล้ว พ่อแม่ของมันก็ไม่มี เมื่อตะกี้ฉันถามมัน มันบอกว่าเงินที่เหลืออยู่ให้พวกแกมาหมดแล้ว!”

เย่ฉงหยางถลึงสองตาโตด้วยความยากลำบาก“ไม่ๆๆ!เป็นไปได้ยังไง!พวกเราไม่มีเงินหรอกนะ!”

“ไม่มีเงิน? รีบเข้าไปค้นตัวเดี๋ยวนี้!”

ลูกพี่ที่เป็นหัวหน้าพูดขึ้นด้วยท่าทางโหดเหี้ยม พวกเขาคิดที่จะขัดขืน แต่กลับถูกตบไปที่หูอย่างแรง ตบจนเย่ฉงหยางหน้าหัน

เย่ฉงหยางสู้กับพวกเขาได้ที่ไหนกัน บัตรธนาคารที่ตัวก็ถูกค้นออกมา ลูกพี่คนนั้นจึงแสกนบัตร หลังจากที่เห็นจำนวนเงินที่เหลืออยู่ในบัตรแล้วก็สบถออกมาอย่างเย้ยหยัน“ยังบอกอีกไหมว่าพวกแกไม่มีเงิน? นี่มันไม่ใช่เงินเหรอ!”

“นี่มัน นี่มันไม่ใช่นะ!พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเย่หรูเสว่เลยสักนิด เงินพวกนี้เป็นของพวกเรา!พวกหรูเสว่เป็นหนี้พวกแก แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ถ้าพวกแกจะทวงก็ไปทวงกับพวกเขาสิ!”

จางงลี่ถิงคิดที่จะแย่งบัตรธนาคารกลับมา แต่อีกฝั่งกลับไม่ปล่อยให้เธอทำสำเร็จ

อีกฝั่งสบถออกมาอย่างเย้ยหยัน“เหอะ!แกเป็นพ่อแม่ของเย่หรูเสว่ไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อเป็นพ่อแม่ของเย่หรูเสว่ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องชดใช้แทนเงินก้อนนี้แทนมันสิ!พวกมันยังติดหนี้อยู่อีกสิบกว่าล้าน!พรุ่งนี้พวกเราจะมาหาพวกแกอีก!พวกแกคิดเอาเองก็แล้วกันว่าจะทำยังไง!”

อีกฝั่งพูดจบก็ถุยน้ำลายออกมาอย่างเหี้ยมโหด จากนั้นก็พากันจากไป ส่วนในตอนนี้เย่ฉงหยางนอนปวกเปียกหมดแรงอยู่ที่พื้น ทั้งครอบครัวตื่นตกใจสุดๆ

หลังจากผ่านไปสักพัก เย่เหม่ยย่าจึงพูดขึ้นมาด้วยความโมโห“หนูรู้อยู่แล้วว่าเย่หรูเสว่คือไอ้ตัวซวย!มันจะต้องร่วมมือกับเนี่ยเฟิงวางแผนหลอกพวกเราแน่ๆ!คิดจะโยนภาระมาให้พวกเรา!”

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

ผมมีพี่สาวเจ็ดคน ทุกคนสวยเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์พี่ใหญ่ชิวมู่เฉิงเป็นประธานหญิงของโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลพี่สองหยูจิงหงเป็นเทพเจ้าหญิงแห่งสงครามพี่สามหลินซูอินเป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมที่สวยที่สุดพี่สี่หมิงอี๋หานเป็นหมอที่สวยที่สุดพี่ห้าโจวลี่ซือเป็นแอร์โฮสเตสที่สวยที่สุดพี่หกเย่หรูเสว่เป็นตำรวจสาวที่สวยที่สุดพี่เจ็ดคังเมิ่งเป็นดาวโรงเรียน ยังเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังด้วยผมชื่อเนี่ยเฟิง ตอนนี้เป็นหัวหน้าของสำนักมังกร มีฉายาว่าเทพราชามังกร!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท