บทที่ 236 กลัวแล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถซื้อมอเตอร์ไซค์สุดหรูแบบได้ แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางให้พวกเขาดูความตื่นเต้นได้
เพื่อนผู้หญิงเกือบทั้งหมดต่างก็อิจฉาริษยาเย่หรูเสว่ เพราะเย่หรูเสว่หน้าตาดี จนดึงดูดสายตาของทุกคนในสมัยที่เรียนมัธยมปลาย
หลังจากที่เข้าสู่สังคมภายนอกมานาน เย่หรูเสว่ก็ยังคงเหมือนอย่างตอนที่เรียนมัธยมปลายแต่ยังสวยกว่าตอนที่หล่อนเรียนมัธยมปลายเสียอีก
เย่หรูเสว่สวยขนาดนั้น เมื่อพวกเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงเห็นต่างก็พากันอิจฉาและเกลียดชังและพวกหล่อนเองก็อยากให้เย่หรูเสว่มีชีวิตที่เลวร้ายเพราะตราบใดที่เย่หรูเสว่มีชีวิตที่แย่ พวกเพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้จะรู้สึกมีความสุข
เมื่อเย่หรูเสว่มองมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็รู้สึกอายเล็กน้อย “ฉัน…”
“โธ่เอ๊ยดูท่าทางแบบนี้ของแฟนเธอสิ คงจะซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้ไหวแน่นอน”
ทุกคนหัวเราะกันลั่น ตราบใดที่เนี่ยเฟิงที่อยู่ตรงหน้าเขาพวกไม่สามารถซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้ได้ พวกเขาก็จะรู้สึกสบายอกสบายใจ
พวกเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายก็คิดว่าเย่หรูเสว่เป็นคนเลือกมากแต่สุดท้ายก็เลือกแฟนแบบนี้ไม่ได้?
พวกเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงก็ยังรู้สึกว่าในที่สุดเย่หรูเสว่ก็ตามแค่ผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลย ต่อให้หล่อนจะทำงานหนักแค่ไหนหรือจะยอดเยี่ยมแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน
กลุ่มพวกเขาพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา ดูเหมือนความสุขของตัวเองจะขึ้นอยู่กับความทุกข์ของผู้อื่นสะแล้วเย่หรูเสว่รู้สึกว่าหล่อนไม่เข้ากับเพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้เลย ในตอนแรกต้นนั้นที่หล่อนตกลงมาที่นี่ก็เพียงเพื่อระลึกถึงอดีต แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนร่วมชั้นทุกคนจะเปลี่ยนกันไปหมด
เมื่อเห็นท่าทางของเหล่าเพื่อนร่วมชั้นเย่หรูเสว่ก็รู้สึกเสียใจมากและคิดว่าทำไมหล่อนต้องมาที่นี่ด้วย?
“ดังนั้นพวกคุณจึงคิดว่าคนที่สามารถซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้ได้นั้นถึงจะคู่ควรกับเสี่ยวเสว่ได้ใช่ไหม?”
เนี่ยเฟิงชี้ไปที่มอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์คันนั้น และถามไปแบบนี้
“นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ว่าจะคู่ควรหรือไม่คู่ควรหรอกแต่ปัญหาคือคุณไม่มีเงินที่จะสามารถซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้ได้ ดังนั้นในตอนนี้เย่หรูเสว่จึงคู่ควรที่จะอยู่กับคุณและคู่ควรที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ในราคาที่ต่ำกว่าหมื่นหยวนนี้”
ซุนลี่ลี่ยกมือขึ้น และชำเลืองมองไปที่เล็บอันสวยงามของตัวเอง ใบหน้าหล่อนก็เผยรอยยิ้มที่ไม่น่าเชื่อออกมา ในตอนแรกทุกคนในห้องต่างก็อิจฉาสาวสวยประจำห้อง แต่ตอนนี้ก็หล่อนก็จบลงเพียงแค่นี้ มันช่างน่าขบขันจริงๆ เลย
“แต่จะทำยังไงล่ะ?”
เนี่ยเฟิงยักไหล่ “มอเตอร์ไซค์คันนี้ผมซื้อให้เสี่ยวเสว่น่ะ”
ทันทีที่เนี่ยเฟิงพูดสิ่งนี้ออกไป ทุกคนที่นี่ต่างก็พากันเงียบทันที และในชั่วครู่นั้น มันก็เงียบสงัดเป็นอย่างมาก จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังออกมา “คุณล้อเล่นหรือเปล่า มอเตอร์ไซค์คันนี้ซื้อให้เสี่ยวเสว่เหรอ? คุณนี่ไม่ดูกำลังตัวเองเลยนะ ดูเป็นแค่ผู้ชายที่ไม่มีเงินคนหนึ่งเท่านั้น ยังกล้าพูดว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นของตัวเอง เมื่อครู่คุณยังได้ยินไม่ชัดอีกเหรอ ราคาขายของมอเตอร์ไซค์คันนี้ราคาเกือบ 7 ล้านดอลลาร์เลยนะ!”
“ผมรู้ว่าราคาขายของมอเตอร์ไซค์คันนี้คือ 7 ล้านดอลลาร์แต่ผมซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้ให้เสี่ยวเสว่จริงๆ ” เนี่ยเฟิงไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง
“เย่หรูเสว่เอ๊ยเย่หรูเสว่ สายตาในการดูคนของเธอนี่มันยิ่งอยู่ยิ่งแย่จริงๆผู้ชายคนนี้โอ้อวดว่าซื้อมอเตอร์ไซค์คันนี้ให้เธอ หรือว่าพวกเธอไม่รู้สึกละอายใจเลยหรือไง?”
การแต่งตัวใบร่างกายนี่ ไม่มีสักที่ที่เป็นสินค้าแบรนด์เนมเลย แล้วไอ้หมอนี่จะมีปัญญาซื้อมอเตอร์ไซค์ที่แพงขนาดนั้นได้ยังไงกัน?
เจี่ยงเทาก็อดไม่ได้ที่จะโผล่หัวออกมา “ใช่แล้ว! ถ้ารถคันนี้เป็นของพวกคุณ ฉันจะดื่มกลับหัวเลย!”
เนี่ยเฟิงถามขึ้นอย่างตาเป็นประกายทันที “จริงเหรอ? ผมยังไม่เคยเห็นใครดื่มกลับหัวมาก่อนเลย!”
เจี่ยงเทาไม่สนใจ “มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่น่าเสียดาย คุณอยากเห็นเท่าไหร่ก็ไม่มีทางเห็นได้หรอก!”
“ทุกคนคงได้ยินแล้วนะเมื่อกี้เจี่ยงเทาพูดไปแล้วว่าถ้ามอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นของพวกเรา เช่นนั้นเขาก็จะดื่มกลับหัว”
“นอกจากว่ามันจะเป็นของคุณ! อย่าเสแสร้ง!”
แน่นอนว่าซุนลี่ลี่อดไม่ได้ที่จะเห็นแฟนตัวเองโดนรังแกหล่อนมองบน และพูดแขวะอย่างไม่สบายใจว่า
และในขณะนั้นเสียงสัญญาณเตือนภัยของมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์ก็ดังขึ้น ทุกคนตะลึง
“โอ้โฮ! ผมจะบอกให้นะอย่าเข้าใกล้มอเตอร์ไซค์คันนี้เด็ดขาดถ้าเจ้าของมาแล้วพวกคุณก็จะจบกันแน่!”
“มันประหลาดมาก! นี่มันทำให้ฉันตกใจจริงๆทำไมมอเตอร์ไซค์คันนี้เสียงถึงดังขึ้นอย่างประหลาดขนาดนี้!
“แต่รถหรูก็ยังเป็นรถหรูเสียงที่มันดังขึ้นนั้นไม่เหมือนของทั่วไป! มันเจ๋งมากเลย!”
ทุกคนแย่งกันพูด และในขณะนั้นเนี่ยเฟิงก็หยิบกุญแจในกระเป๋าออกมา พร้อมกับเขย่ามันต่อหน้าพวกเขา “ขอโทษทีเมื่อครู่ผมกดเสียงสัญญาณเตือนภัยน่ะผมแค่อยากดูว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้ที่ผมซื้อมันจะดังไหม?”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงพูดจบก็หยิบกุญแจรถออกมาและในทันทีที่ทุกคนเห็นกุญแจรถ ต่างก็เบิกตากว้าง
โดยเฉพาะเจี่ยงเทาและซุนลี่ลี่ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ พร้อมกับมองไปที่กุญแจรถในมือของเนี่ยเฟิงและกลืนน้ำลายลงคออย่างพร้อมกับ “มันเป็นไปได้ยังไง?!”
“นี่มันของปลอมหรือเปล่า เมื่อครู่มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า?”
เมื่อครู่ที่เพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้พยายามยั่วเย้าเหน็บแนมเย่หรูเสว่และเนี่ยเฟิง แต่ในตอนนี้เนี่ยเฟิงหยิบกุญแจรถออกมาแล้วจึงทำให้เพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้รู้สึกเหลือเชื่ออีกครั้ง
เนี่ยเฟิงเดินไปยังด้านข้างมอเตอร์ไซค์ และเสียบกุญแจรถเข้าไปพร้อมกับสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ ฮาร์ลีย์และในขณะที่เครื่องยนต์ดังขึ้นนั้นทุกคนก็ตะลึงอยู่กับที่
“โอ้พระเจ้าฉันคิดไม่ถึงเลยว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้จะเป็นของพวกเขาจริงๆ !”
“มันประหลาดมากเลย เพราะไอ้หมอนี่ดูเหมือนจะเป็นแค่คนธรรมดาที่สิ้นเนื้อประดาเท่านั้น เขาเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนถึงจะซื้อมอเตอร์ไซค์สุดหรูขนาดนี้ได้?!”
เย่หรูเสว่คนนี้ไม่ชอบอวดแม้ว่าหล่อนจะรู้ว่าตัวเองสวยแต่หล่อนก็ไม่เคยใช้สิ่งนี้เป็นทุน เพราะเย่หรูเสว่คิดว่ามีแต่คนที่ทำงานสอดคล้องกับความเป็นจริงเท่านั้นถึงจะยอดเยี่ยมที่สุด
แต่ครั้งนี้เย่หรูเสว่ก็รู้สึกสะใจเป็นพิเศษ บางทีอาจเป็นเพราะหล่อนเห็นธาตุแท้ของพวกเพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้ และเย่หรูเสว่เองก็ไม่ต้องการเป็นเหมือนพวกเขา แต่หล่อนแค่ไม่อยากให้ตัวเองกับเนี่ยเฟิงถูกเหยียบย่ำเท่านั้นเอง
ดังนั้นการอวดของเนี่ยเฟงในครั้งนี้ก็ทำให้คนสองคนได้หน้า
เย่หรูเสว่รู้ว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้พวกเขาเช่ามา แต่ท่าทียโสโอหังอย่างยิ่งเมื่อครู่ของพวกเพื่อนร่วมชั้นเหล่านั้นกลับกลายเป็นตื่นตระหนกตกใจในตอนนี้หล่อนรู้สึกสะใจจริงๆ
เย่หรูเสว่ก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ต้องขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้ทุกคนหัวเราะ มอเตอร์ไซค์คันนี้เนี่ยเฟิงขายให้ฉัน”
ซุนลี่ลี่ที่เดิมทีโอ้อวดตัวต่อหน้าทุกคน แต่ในตอนนี้กลับน่าขยะแขยงมาก หล่อนโมโหมาก จนกระทืบเท้าอย่างดุร้าย และรู้สึกว่าเสียหน้าไปครู่หนึ่ง ซึ่งเมื่อครู่ที่หล่อนยังเป็นราชินีของปาร์ตี้ แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครสนใจ
ทุกคนต่าง ก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อประจบเย่หรูเสว่ และถามว่าสามารถขับมอเตอร์ไซค์คันนี้ของ เย่หรูเสว่ได้ไหม แต่เย่หรูเสว่กลับส่ายหัว และพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “นี่เป็นของขวัญจากแฟนของฉัน อย่าโทษว่าฉันเป็นคนขี้เหนียวเลย แต่ต่อให้ยกโทษให้ทั้งรถกับผู้ชายคนนั้นฉันก็ไม่ให้ยืม”
“ใช่แล้ว เมื่อครู่คุณพูดแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้ามอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นของพวกเรา คุณจะยืนคว่ำดื่มเหล้านิ และผมก็พูดว่าผมไม่เคยเห็นใครยืนคว่ำดื่มเหล้าอย่างนั้น”
เนี่ยเฟิงพูดและมองไปที่เจี่ยงเทาและเจี่ยงเทาก็ยกหน้าขึ้น เขากัดกรามตัวเอง และพูดอย่างไม่มีความสุขว่า “ที่ฉันพูดไปเมื่อครู่นั้นฉันแค่ล้อเล่น คุณคิดว่ามันเรื่องจริงไปสะแล้วเหรอ?”
คุณคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นแต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น”
รอยยิ้มบนใบหน้าเนี่ยเฟิงหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที “เมื่อครู่พวกคุณสองคนก้าวร้าวมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงกลัวแล้วล่ะ”