โจวลี่ซือที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน จึงอดที่จะขมวดคิ้วเป็นปมไม่ได้ เธอมองไปยังเนี่ยเฟิง ลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ตามพี่ห้าไปก็เลวเลยนะ งานของพี่เขาก็ดีมาก แต่นายต้องรู้ว่างานนี้มันไม่ง่ายเลยนะ งานบริการอาจจะได้รับสายตาดูถูกเหยียดหยามจากคนอื่น”
แม้จะเป็นงานที่ดี แต่สุดท้ายก็เป็นแค่พนักงานรับจ้างคนหนึ่งไม่ใช่หรอกเหรอ?
ในตอนที่บริษัทเทียนหลงยังไม่ได้ยืนหยัดขึ้นมานั้น เพื่อคุยเรื่องสัญญากับบริษัทอื่นๆชิวมู่เฉิงเอง ก็ได้ต้องมองดูคนอื่นชักสีหน้าให้ตนเอง
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ในโลกใบนี้ไม่มีงานไหนที่ง่ายหรอกนะ ขอเพียงแค่ต้องทนตรากตรำไปแล้วถึงจะรับรู้ได้ว่าการหาเงินมันยากลำบากขนาดไหน
ชิวมู่เฉิงไม่อยากให้เนี่ยเฟิงต้องลำบากตรากตรำ เพราะฉะนั้นถึงได้คิดอยากจะเลี้ยงเนียเฟิงเอง
แต่น้องชายคนนี้ของพวกเธอเป็นเด็กดีเกินไปแล้ว ไม่อยากรบกวนเป็นภาระของพวกพี่ๆ เพราะฉะนั้นเขาจึงอยากจะไปหางานทำ
“พี่ห้าครับ!พี่จะนอนห้องไหนดีล่ะครับ?ให้ผมช่วยพี่ย้ายสัมภาระก่อนไหมครับ?”
เนี่ยเฟิงค่อยๆพ่นลมหายใจออกมา ยังดีที่โจวลี่ซือกลับมาแล้ว จึงสามารถใช้โจวลี่ซือเป็นโล่กำบังได้
“ห้องไหนว่างก็เอาสัมภาระไปไว้ห้องนั้นนั่นแหละ ฉันเอากับข้าวพวกนี้ไปอุ่นก่อน เดี๋ยวเรามาดื่มเหล้ากันหน่อยดีไหม?ตอนนี้เข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ดื่มเหล้าเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วล่ะ!”
โจวลี่ซือพูดพลางยกไม้ยกมือ ทำท่าดื่มเหล้า
“พรุ่งนี้ฉันยังต้องไปบริษัทนะ”
ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้วเป็นปม ไม่ค่อยอยากจะดื่มเหล้าเท่าไหร่
“อั้ยหยา!พี่ใหญ่!ช่วงนี้พี่ไปคุยงานได้โปรเจ็คใหญ่มาไม่ใช่หรอ?ถือเป็นการฉลองไปด้วยไง!”
โจวลี่ซือไม่มีท่าทีจะปล่อยชิวมู่เฉิงไป ชิวมู่เฉิงเองไม่อาจปฏิเสธพวกเขาได้ จึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าตอบตกลง
หลังจากที่เนี่ยเฟิงลงมาข้างล่างแล้วก็ทำการรินเหล้าให้พวกพี่ๆอย่างเอาใจใส่ โจวซือลี่หัวเราะไปด้วย ดื่มเหล้าไปด้วย กับแกล้มกลับกินน้อยมาก
เธอดื่มไวน์แดงราวกับดื่มน้ำเปล่า ชิวมู่เฉิงรู้สึกผิดสังเกตไป เธอจึงเอ่ยปากถามขึ้นมาว่า“น้องห้า งานของเธอมีปัญหาใช่ไหม??”
“ไม่นิ่ งานราบรื่นมาก ช่วงนี้เกิดเรื่องดีๆขึ้นมาน่ะ ฉันมีความสุขมาก เพราะฉะนั้นเลยอยากจะดื่มเยอะหน่อย!”
โจวลี่ซือฉีกยิ้ม พูดจบก็ดื่มลงไปอีกหนึ่งอึก
ถึงชิวมู่เฉิงจะดื่มไปหลายแก้วแล้ว แต่นั่นก็ไม่ทำให้เมาได้เลย เนื่องจากเมื่อก่อนตอนที่เธออยู่ในตระกูลชิวเธอต้องออกไปพบปะกับลูกค้าตลอด ฉะนั้นจึงเชี่ยวชาญในการดื่มพอสมควร
เพราะโจวลี่ซือดื่มทีเดียว ฉะนั้นจึงทำให้เมาอย่างรวดเร็ว แก้มขาวใสแดงระเรื่อขึ้นมาแลดูมีความสุขเป็นพิเศษ
“ดูเหมือนพี่ห้าของนายจะดูผิดปกติไปนะ แต่ว่าในเมื่อเธอไม่ยอมพูด งั้นเราก็ไม่ต้องถามต่อไปหรอก”
ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้วเบาๆ ในตอนนี้เองโจวลี่ซือได้ฟุบหลับลงไปบนโต๊ะไม่สามารถดื่มได้อีกแล้ว ทั้งตัวของเธอมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้ง
“พี่ใหญ่พี่ไปพักก่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปบริษัทอีก ตรงนี้เดี๋ยวผมจัดการเอง แล้วค่อยพยุงพี่ห้าขึ้นไปข้างบน”
ชิวมู่เฉิงพยักหน้า“งั้นรบกวนนายหน่อยนะ คนที่ดื่มจนเมาน่ะตัวหนักมากนะ ถ้านายแบกไม่ไหวก็บอกฉันนะ”
“เป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะแบกไม่ไหว พี่ห้าดูหนักไม่กี่กิโลเอง พี่รีบขึ้นไปเถอะ!”
เนี่ยเฟิงพูดพลางลุกขึ้นยืน เก็บกวาดของบนโต๊ะที่ยุ่งเหยิงไปหมด ในตอนที่เขาเดินออกมาชิวมู่เฉิงก็ได้ขึ้นไปแล้ว
เนี่ยเฟิงอุ้มโจวลี่ซือขึ้นมาอย่างง่ายดาย โจวลี่ซือตอนนี้เมาจนร่างอ่อนเปลี้ยเหมือนดินโคลนเหลว เธอพึมพำแนบตัวอยู่กับอกกว้างของเนี่ยเฟิง เหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
เนี่ยเฟิงได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เขานำโจวลี่ซือกลับไปถึงห้อง เขากำลังอยากจะเดินออกมา คิดไม่ถึงว่าโจวลี่ซอกลับจับมือของเนี่ยเฟิงไว้“ฉันทรมานจัง……”
โจวลี่ซือรู้สึกว่าในท้องของตัวเองเหมือนมีนาจากำลังปั่นป่วนทะเลอยู่ รู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก เนี่ยเฟิงครุ่นคิดว่าโจวลี่ซือคงไม่ได้อยากจะอ้วกใช่ไหม จึงรีบพยุงตัวโจวลี่ซือลุกขึ้น
โจวลี่ซืออ้วกติดต่อกันหลายครั้ง แต่กลับไปไม่สามารถอ้วกออกมาได้เลย เธอนอนพิงอยู่บนเตียงแล้วร้องไห้งอแงในทันที
“มีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้?ฉันทำงานด้วยความตั้งใจ!ฉันรู้สึกทรมานมาก!ทรมานเกินไปแล้ว!”
เสียงร้องไห้เล็กๆของโจวลี่ซือดังขึ้น เนี่ยเฟิงที่เห็นโจวลี่ซือร้องไห้แบบนั้น จึงอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาได้ไม่
เขาเดินไปปิดประตูจนทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดทันที เนี่ยเฟิงเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงขึ้น มองดูท่าทางร้องไห้อย่างน่าสงสารของโจวลี่ซือ
“เป็นอะไรครับ?มีใครรังแกพี่ใช่ไหม?พี่บอกกับผมมาได้ไหม?”
“ใช่!มีคนรังแกฉัน พวกเขาไม่ให้ฉันบิน!พวกเขาบอกว่าฉันไม่เหมาะจะนั่งข้างคนขับ พวกเขาไม่ยอมให้ฉันเลื่อนขั้นเป็นกัปตันเครื่องบิน!แต่ด้วยคุณสมบัติในตอนนี้ของฉันมันง่ายที่จะเป็นกัปตัน มีสิทธิ์อะไรทำแบบนี้กัน!ตอนนี้ไม่ให้ฉันเป็นกัปตัน และไม่ให้ฉันเป็นผู้ช่วย ยังไม่ให้ฉันเป็นแอร์หญิงอีก!ฉันมีใบรับรองนะ!”
โจวลี่ซือร้องไห้เหมือนกับเด็กน้อย
เนี่ยเฟิงอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ หรือสายการบินจินไห่จะวางแผนอะไรไว้ลับหลัง?
โจวลี่ซือโถมตัวเข้ามาอย่างน่าสงสาร เนี่ยเฟิงโอบกอดโจวลี่ซือไว้ เขาตบเบาๆที่แผ่นหลังของโจวลี่ซือ“ไม่ร้องนะครับไม่ร้อง ไม่เป็นไรนะ ใครรังแกพี่บอกผมมาเถอะ ผมจะช่วยพี่แก้แค้นอย่างแน่นอน”เนี่ยเฟิงพูดอย่างเด็ดขาดมาก
โจวลี่ซือร้องไห้จนสะอึกสะอื้น เธอเบะปาก“ฉันรู้สึกโกรธมาก เลยลาออก!ฉันหางานมาหลายวันแล้ว แต่หาไม่ได้เลย อีกทั้งตระกูลโจวก็ไม่ให้ฉันกลับบ้านอีก ให้ตายสิ ทุกปีพวกเขาขอเงินฉันมากมายขนาดนั้น แต่พอถึงตอนนี้กลับปฏิบัติตัวกับฉันแบบนี้!”
โจวลี่ซือเมาจนไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมาบ้าง แต่เธอจะพูดในสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในใจออกมาให้หมด
เนี่ยเฟิงที่ฟังจนถึงตอนท้ายก็ได้ยินเพียงเสียงพึมพำของโจวลี่ซือ ดูท่าโจวลี่ซือจะดื่มมากไปจริงๆ
ตอนแรกเนี่ยเฟิงจะปล่อยให้โจวลี่ซือนอนหลับพักผ่อนอย่างสบาย แต่คนเมาอาจจะมีโอกาสอ้วกได้ ถึงเวลานั้นถ้าอาเจียนจนสำลักปิดกั้นปากและจมูกอาจจะทำให้ขาดอากาศหายใจได้ อีกทั้งโจวลี่ซือเมื่อกี้ทำอย่างไรก็ไม่สามารถอ้วกออกมาได้ หรืออีกเดี๋ยวเธออาจจะอ้วกออกมาก็ได้ไม่แน่
เพราะฉะนั้นเนี่ยเฟิงจึงอยู่ดูแลโจวลี่ซือต่อ
เช้าตรู่ในวันนี้ โจวลี่ซือลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความกระหายน้ำ เธอปีนขึ้นมาจากเตียงอย่างงัวเงีย รู้สึกว่าปวดหัวแทบระเบิด เธอนวดคลึงศีรษะของตัวเองอย่างยากลำบาก“พระเจ้าช่วย เมื่อคืนฉันดื่มไปเท่าไหร่เนี่ย……”
โจวลี่ซือกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองมีกลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมา
เธอมองดูเสื้อผ้าที่เธอสวมยังคงเป็นเสื้อผ้าของเมื่อวาน โจวลี่ซือรู้สึกเพียงแค่ร่างกายของเธอเหนียวมากไม่สบายตัว เธอจึงทำการปลดกระดุมออกแล้วถอดกระโปรงของตัวเองออก ในตอนที่เธอกำลังหมุนตัวจะลงจากเตียงนั้น ได้ประสานสายตาเข้ากับดวงตาอีกคู่หนึ่ง
โจวลี่ซือ……
เนี่ยเฟิง……
“อ้าก!ทำไมนายถึงอยู่ในนี้ได้!”
โจวลี่ซือที่รู้สึกตัวก็ทำการกดหัวของเนี่ยเฟิงไว้ ทำให้เนี่ยเฟิงมุดไปกับหมอน
“ฮือๆๆ!”
เนี่ยเฟิงที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่ครู่หนึ่ง โจวลี่ซือก็รีบดึงผ้าห่มมาห่อคลุมร่างกาย จึงทำให้เห็นเพียงศีรษะเล็กๆ“เสี่ยเฟิง!ทำไมนายถึงเข้าห้องพี่สาวโดยพลการแบบนี้ห้ะ!”
เนี่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นมาอย่างน่าสงสาร“เมื่อคืนพี่ดื่มเยอะมาก ฉันกลัวว่าพี่จะอ้วกเลยอยู่เฝ้าดูแลพี่อยู่ข้างๆ แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่พี่ตื่นมาพี่จะถอดเสื้อผ้าแบบนี้……”
“นาย!นายเห็นฉันถอดเสื้อผ้าแล้ว นายยังไม่ห้ามอีก?!นายเห็นไปถึงไหนแล้วห้ะ!”