เดิมทีเนี่ยเฟิงต้องการจัดการตระกูลโจว แต่ตอนนี้พวกเขายากจนมากๆ ขาของโจวเหวินซูก็หักอีก ดังนั้นชีวิตของพวกเขาคงลำบากและน่าสังเวช
เนี่ยเฟิงหาคนเฝ้ามองครอบครัวพวกเขา ให้พวกเขาลิ้มรสความยากจน ยังไงซะครอบครัวของพวกเขาดำรงชีวิตอยู่ด้วยการโกหกหลอกลวงอยู่แล้ว
อยากให้คนๆหนึ่งเสียชีวิตมันเป็นเรื่องง่าย แต่เนี่ยเฟิงไม่ยอมปล่อยให้พวกเขามีความสุขแน่นอน เพราะพวกเขาทรมานร่างกายและจิตใจของโจวลี่ซือมาหลายปี
ดังนั้นเนี่ยเฟิงก็จะทรมานพวกเขาเหมือนกัน ให้พวกเขาลิ้มรสความเจ็บปวด
หลังจากได้รับเงินแล้วโจวลี่ซือก็ไม่ได้หมดอาลัยตายอยาก แต่กลับคิดว่าจะหาเงินเพิ่มได้ยังไง
เธอให้กำลังใจตัวเองและส่งประวัติส่วนตัวแบบย่อไปยังบริษัทสายการบินอื่นๆในมณฑล แต่เนื่องจากโจวลี่ซือไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เธอจึงหลีกเลี่ยงที่จะส่งประวัติส่วนตัวแบบย่อไปยังการบินพลเรือนจงเฟิง
โจวลี่ซือถูกปฏิเสธมาโดยตลอด เนี่ยเฟิงก็เป็นห่วงและกังวล บอกใบ้โจวลี่ซือตลอดว่าควรส่งประวัติส่วนตัวแบบย่อไปที่การบินพลเรือนจงเฟิง แต่โจวลี่ซือไม่กล้า
ผ่านไปหลายวัน โจวลี่ซือไม่มีแม้แต่โอกาสได้สัมภาษณ์งาน เวลานี้แม้แต่ชิวมู่เฉิงก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
“หลายวันนี้เธอไม่ได้ไปทำงานเหรอ?เธอบอกว่าอุตสาหกรรมการบินแข่งขันกันสูงไม่ใช่เหรอ หรือว่าเธอลาพักร้อน?”
เมื่อได้ยินชิวมู่เฉิงพูดอย่างนั้น มือของโจวลี่ซือก็สั่นเล็กน้อยขณะที่กำลังทานน้ำซุปอยู่ สายตาของเธอล่อกแล่กเล็กน้อย
“เพราะว่าช่วงนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก ก็เลยลาหยุดพักร้อนเป็นเวลานาน อีกสองวันฉันก็จะกลับไปทำงานแล้ว ถึงเวลานั้นฉันก็จะพาเสี่ยวเฟิงไปด้วย!”
ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้ว,“เธอแน่ใจหรือเปล่า?ไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะโกหกเธอทำไม?”
โจวลี่ซือไอเล็กน้อย และครั้งนี้เธอก็เอาตัวรอดไปได้
“บางครั้งฉันรู้สึกว่าพี่ใหญ่มีประสาทสัมผัสที่ไวมากๆ เมื่อกี้ฉันเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และบอกพี่ใหญ่ไปว่าฉันตกงานแล้ว ถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องนี้คงจะเป็นห่วงฉันมากๆ!เฮ้อ มันเป็นเรื่องยากจริงๆ
โจวลี่ซือถอนหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง“จะทำยังไงกันดี?”
“ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก พี่ห้า ฉันคิดว่าพี่ควรมั่นใจในตัวเองหน่อย พี่ก็ส่งประวัติส่วนตัวแบบย่อไปยังบริษัทการบินขนาดใหญ่ ด้วยประสบการณ์ของพี่ตอนนี้จะเข้าบริษัทการบินขนาดใหญ่ มันเป็นเรื่องง่ายๆอยู่แล้ว!”
“แม้แต่บริษัทการบินขนาดเล็กยังไม่รับ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบริษัทการบินขนาดใหญ่ ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองอับอายขายขี้หน้า เฮ้อ น่ารำคาญจริงๆ ผ่านไปอีกสองวันนายก็ไปกับฉัน พวกเราเอาเงินก้อนนี้ไปเที่ยวต่างเมืองด้วยกัน!”
หลังจากที่โจวลี่ซือพูดจบก็หยิบมือถือขึ้นมาดู ต่อมาเธอเห็นข้อความ“เฮ้ย!ฉันดวงดีขึ้นมาจริงๆด้วย สงสัยเป็นเพราะฉันได้ส่งต่อปลาคาร์ฟที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี!”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เนี่ยเฟิงโน้มตัวไปข้างหน้าและมองดู จากนั้นยิ้มและพูดว่า“นี่เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ เมื่อถึงเวลานั้นพี่ก็สามารถไปสมัครงานบริษัทที่ตัวเองชอบได้!”
เนี่ยเฟิงให้คนส่งต่อข้อความนี้เอง เนื้อหาของข้อความคือ พรุ่งนี้มีนิทรรศการจัดงานของบริษัทสายการบินที่เมืองจินไห่
ความเป็นจริงนิทรรศการจัดหางานของสายการบินครั้งนี้มีการบินพลเรือนจงเฟิงเป็นผู้ริเริ่ม
การบินพลเรือนจงเฟิงเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากๆในหมู่บริษัทสายการบินด้วยกัน ในความเป็นจริงบริษัทต่างๆกำลังแย่งกันประจบการบินพลเรือนจงเฟิงอยู่
อย่างไรก็ตาม เนี่ยเฟิงไม่ได้ร่วมมือกับบริษัทสายการบินอื่นๆเลย
เขาเริ่มก่อตั้งบริษัทสายการบินนี้ขึ้นเพื่อให้ตัวเองสะดวกสบายในการบินไปที่ต่างๆ และเขาสร้างสนามบินหลายๆแห่ง เพื่อเป็นสถานที่ให้เครื่องบินส่วนตัวของเขาลงจอดพักเครื่อง
“ฉันต้องพักผ่อนให้เพียงพอ พรุ่งนี้ฉันจะไปร่วมงานนิทรรศการจัดหางานด้วยความพร้อมที่สุด ฉันเชื่อว่าผู้สัมภาษณ์จะต้องรับฉันเข้าทำงานอย่างแน่นอนหลังจากที่ได้เจอฉัน!เสี่ยวเฟิง!คุณอย่าอยู่ที่นี่อีกเลย รีบกลับไปนอนพักผ่อนได้แล้ว คืนนี้ฉันจะหลับให้เพียงพอ!”
โจวลี่ซือขณะพูดก็ไล่เนี่ยเฟิงออกไป เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแบบแห้งๆ พูดในใจว่า:“เฮ้อ ฉันจัดงานนิทรรศการจัดหางานครั้งนี้ก็เพื่อเธอ แต่เธอกลับไล่ฉันออกมา มันเป็นสิ่งที่แม้แต่สวรรค์ก็ให้อภัยไม่ได้”
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของโจวลี่ซือ มีรอยยิ้มขึ้นมา เนี่ยเฟิงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
วันรุ่งขึ้น โจวลี่ซือแต่งตัวอย่างประณีต จากนั้นก็มาถึงนิทรรศการจัดหางาน
แน่นอนว่าเนี่ยเฟิงที่เป็นบอดี้การ์ดก็ตามเธอมาด้วย
งานนิทรรศการจัดหางานครั้งนี้จัดขึ้นที่อ่าวจินไห่พลาซ่า
งานนิทรรศการจัดหางานครั้งนี้ได้บุกเบิกรูปแบบใหม่ ถึงแม้จะเป็นเพียงงานชั่วคราวก็ตาม แต่ก็ดึงดูดผู้คนจำนวนมาก อย่างไรก็ตามงานด้านสายการบินก็เป็นอาชีพที่ดูดีสำหรับคนจำนวนมากเหมือนกัน
“คนเยอะจังเลย ดูเหมือนครั้งนี้บริษัทสายการบินมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก”
โจวลี่ซือหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง จากนั้นหยิบประวัติส่วนตัวแบบย่อของตัวเองออกมา เธอมองบริษัทสายการบินเจ้าหนึ่งแล้วเดินเข้าไป“สวัสดีค่ะ นี่คือประวัติส่วนตัวแบบย่อของฉัน”
บริษัทสายการบินพวกนี้ส่วนมากโจวลี่ซือเคยสมัครไปแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับมา ดังนั้นครั้งนี้โจวลี่ซือตั้งใจที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ อันที่จริงประวัติส่วนตัวแบบย่อกับการสัมภาษณ์เป็นเรื่องที่แตกต่างกัน
เมื่ออีกฝ่ายเห็นใบหน้าและรูปร่างที่สวยงามของโจวลี่ซือ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า ผู้สัมภาษณ์หยิบประวัติส่วนตัวแบบย่อของโจวลี่ซือขึ้นมา หลังจากดูแล้วก็ส่ายหัว“ขอโทษครับคุณโจว คุณสมบัติของคุณไม่เหมาะกับบริษัทสายการบินของเรา”
รอยยิ้มของโจวลี่ซือหยุดนิ่งบนใบหน้า เป็นเรื่องปกติที่เธอจะโดนปฏิเสธจากผู้สัมภาษณ์ เพราะเธอโดนปฏิเสธมาทั้งสัปดาห์แล้ว และเธอก็ชินแล้ว
โจวลี่ซือรับประวัติส่วนตัวแบบย่อของตัวเองกลับมา จากนั้นเดินไปอีกหลายบริษัทสายการบิน แต่เธอได้รับคำตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง
โจวลี่ซือไปสมัครหลายบริษัท แต่ไม่มีบริษัทสายการบินไหนรับเธอเลย ทำให้เธอรู้สึกท้อแท้ ในเวลานี้เนี่ยเฟิงได้หยิบน้ำดื่มมาให้เธอด้วยความห่วงใย“ดื่มน้ำสักหน่อยแล้วค่อยพูด บริษัทสายการบินเหล่านั้นไม่รับเธอ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาได้คัดเลือกคนไว้แล้วหรือตำแหน่งที่พวกเขาต้องการอาจจะไม่เหมาะกับเธอ”
โจวลี่ซือหยิบน้ำขึ้นมาแล้วจิบ จากนั้นก็พยักหน้า
“เฮ้อ พี่ห้า พี่ดูสิ!นั้นเป็นการบินพลเรือนจงเฟิงใช่ไหม?พวกเราไปลองดูไหม?”
โจวลี่ซือมองไปตามมือของเนี่ยเฟิง เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย“บริษัทสายการบินพวกนี้ไม่รับ อาจจะถูกพวกเขาสังเกตเห็นแล้วก็ได้ ฉันรู้ว่าปัญหาของตัวเองอยู่ตรงไหน ฉันกังวลว่าพวกเขาจะปฏิเสธ สมมุติว่าการบินพลเรือนจงเฟิงยังปฏิเสธฉันอีก ฉันก็คงอยู่ในวงการสายการบินไม่ได้แล้ว”
“เธอต้องมั่นใจในตัวเอง เธอจึงจะสามารถทำได้!ไปกันเถอะ!”
การบินพลเรือนจงเฟิงไม่มีทางปฏิเสธโจวลี่ซือแน่นอน เพราะเขาคือประธานกรรมการของการบินพลเรือนจงเฟิง
โจวลี่ซือลังเลและทำใจอยู่สักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจ“ได้!ถ้าอย่างงั้นฉันจะไปลองสมัครดู!”
เนี่ยเฟิงรู้สึกโล่งใจ ขณะที่โจวลี่ซือกำลังจะก้าวไปข้างหน้าก็มีคนมาหยุดเธอไว้“โอ๊ย?โจวลี่ซือเหรอ?”
คนๆนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนร่วมงานของโจวลี่ซือ ควรจะพูดว่าเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของโจวลี่ซือมากกว่า
“อ้ายเหวิน?”โจวลี่ซือตะลึง“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง?”
“ฉันได้ข่าวว่าที่นี่มีนิทรรศการจัดหางาน ฉันก็เลยมาดู”