ใบหน้าของเถ้าแก่ถังเผยให้เห็นสีหน้าลำบากใจ แต่เขาก็หัวเราะออกมาอย่างรวดเร็ว“เป็นเถ้าแก่ใหญ่จริงๆด้วย เป็นเรื่องปกติที่จะดูถูกร้านน้ำชาเล็กๆ ของผม!”
“ถือว่าคุณพูดได้ดี คุณได้ใจผมมากกว่าภรรยาคุณเสียอีก!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย คุณนายถังที่ได้ยินเนี่ยเฟิงพูดแบบนั้น มือที่กำลังรินน้ำชาอยู่ถึงกับชะงักไป แต่ไม่เผยให้เห็นสีหน้าใดๆทั้งสิ้น
ธุรกิจในตอนนี้ทำได้ยาก บวกกับช่วงนี้เมืองเยี่ยนตูก็มีวิสาหกิจใหญ่หลายแห่งล้มละลาย ธุรกิจหลายอย่างที่เชื่อมโยงกันของพวกเขาต่างพากันพังทลายไปหมดแล้ว จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการให้เลือดสด
การปรากฏตัวของเนี่ยเฟิงและหมิงอี๋หาน สามารถหยิบยื่นโอกาสให้พวกเขาได้ พวกเขาต้องการคนรวยโง่ๆอย่างเจ้าหมอนี่
“คุณเนี่ยครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆๆรับ ที่เชิญคุณมาจีบชาที่นี่อย่างเร่งรีบ แต่ผมได้ยินเถ้าแก่บอกว่าคุณมีโปรเจคที่อยากเข้าลงทุน ผมเป็นห่วงว่าคุณจะถูกหลอก”
เถ้าแก่ถังกลอกตาครู่หนึ่ง ดูไปแล้วเหมือนคนที่ฉลาดหลักแหลมมาก
“แต่ตอนที่ผมมาที่นี่ ได้ยินมาว่าผู้คนในเมืองเยี่ยนตูอัธยาศัยดีมาก อีกทั้งยังเรียบง่าย เอาความคิดที่ว่าจะถูกหลอกมาจากไหนกัน?”
เนี่ยเฟิงวางแก้วน้ำชาลง แล้วพูดขึ้นอย่างงุนงง
“คุณเนี่ยครับ คุณไม่รู้อะไรซะแล้ว ถึงคนทั่วไปจะอัธยาศัยดี แต่บริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทที่ดีเด่อะไรเลย เพียงแค่ครั้งนี้คุณเจอเข้ากับพวกเรา เราเป็นคนในหอการค้าแห่งเมืองเยี่ยนตู ผมน่ะ เป็นประธานสมาคมหอการค้าแห่งเมืองเยี่ยนตู ชื่อว่าถังต้าสง ผมมีข้อมูลของบริษัทในเมืองเยี่ยนตูอยู่ในมือทั้งหมด สามารถทำการเลือกคัดสรรให้กับคุณได้นะครับ คุณอยากลงทุนโปรเจคแบบไหน ล้วนไม่ใช่ปัญหาเลย!”
นี่มันคือการย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย(พยายามหาแทบตายไม่เจอ พอเลิกหาเลิกสนใจ กลับได้มาง่ายๆ แบบคาดไม่ถึงเสียอย่างนั้น)คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะส่งตัวเองมาถึงที่
“คุณบอกว่าคุณคือประธานสมาคมหอการค้า ผมจะเชื่อคุณอย่างงั้นเหรอ?ตลกน่า!”
เนี่ยเฟิงกลอกตาให้กับเขา ดูไปแล้วจะเหมือนเศรษฐีนิสัยเสีย
“คุณเนี่ยคะ ที่สามีฉันพูดมามันคือเรื่องจริงนะคะ เขาเป็นประธานสมาคมหอการค้าแห่งเมืองเยี่ยนตูจริงๆค่ะ!ถ้าพวกคุณไม่เชื่อก็ไปตรวจสอบดูได้เลย”
คุณนายถังพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแล้วทำการรินน้ำชาเติมให้กับเนี่ยเฟิงอีกแก้ว ตอนนี้เธอแทบจะกลายเป็นเด็กเสิร์ฟรินน้ำชาแล้ว
“คุณเนี่ยวางใจเถอะครับ ในเมื่อคุณยึดร้านของผมไปแล้ว ผมต้องพูดความจริงกับคุณเป็นแน่ เถ้าแก่ถังเป็นประธานสมาคมหอการค้าจริงๆครับ ตอนนั้นผมเปิดร้านที่ตึกจิงจั้วหมิงเฉิง ผมเองก็ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มของหอการค้าเหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นถึงได้ข้อมูลมาเยอะขนาดนี้!ผมคิดว่าทุกคนต่างมีเงินทองกันทั้งนั้น ฉะนั้นจึงไม่มีอะไรให้ต้องปิดบัง!มีเงินทุกคนก็ร่วมการทำเงินด้วยกัน คุณว่าถูกไหมครับ?”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พยักหน้า“คุณพูดถูกจริงๆนั่นแหละ ตอนนั้นที่ผมมาที่นี่เพื่อหาเงินนิดหน่อย เนื่องจากทุกคนต่างพูดกันว่าเมืองเยี่ยนตูเต็มไปด้วยเงินทอง แต่ผมไม่รู้ว่าควรลงทุนกับโปรเจคไหนถึงจะทำเงินได้ ผมน่ะ ไม่มีหัวด้านธุรกิจเท่าไรนัก มีแค่เงินเนี่ยแหละครับ”
หลังจากนั้นเนี่ยเฟิงก็จิบชาไปหนึ่งคำ เขาสามารถลิ้มรสได้ว่าชานั้นเป็นชาหลงจิ่งชั้นเยี่ยม แต่เขากลับแสร้งขมวดคิ้วเป็นปม “ชารสชาติธรรมดามาก ไม่ได้รสชาติอะไรเลย สู้ดื่มเหล้าก็ไม่ได้แบบนั้นสะใจกว่า”
ในเวลานี้เอง มือถือของหมิงอี๋หานเสียงดังขึ้น เธอก้มหน้าลงไปดู จึงรีบพูดขึ้นมาอย่างสบอารมณ์“รำคาญจริงๆ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่เอาบ้านทำเลทองติดริมทะเล บ้านที่นั่นใกล้ริมทะเลมีกลิ่นเค็มของทะเล ก่อนหน้านี้ฉันก็ถูกหลอกให้ซื้อบ้านวิวทะเลไปหลายหลังแล้ว ไม่มีสมองกันเลยใช่ไหม”
“ที่รัก คุณอย่าโกรธไปเลย คนพวกนั้นไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่จำ ผมซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้ คุณอยากอยู่บ้านหลังไหนบอกกับผมมาก็พอ อยากซื้อที่ไหนก็ซื้อที่นั่นเลย!”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงพูดจบก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าสตางค์หยิบการ์ดสีดำใบหนึ่งออกมา เมื่อทุกคนเห็นการ์ดสีดำใบนี้ ตาก็เบิกกว้าง ไม่กี่คนในโลกนี้ที่มีบัตรแบล็กเมจิกแบบนี้
หมิงอี๋หานพยักหน้า แล้วหยิบบัตรแบล็กเมจิกยัดเข้าไปในกระเป๋า“ขอโทษที่ขัดจังหวะการเจรจาทางธุรกิจของพวกคุณนะคะ พวกคุณพูดต่อได้เลยค่ะ”
ดูท่าแล้วทั้งสองจะเป็นคนมีเงินจริงๆ ถังต้าสงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ก่อนที่จะให้พวกคุณลงทุน ก็ต้องให้พวกคุณทำความเข้าใจธุรกิจพวกนี้ของพวกเราก่อนจริงไหม?หลายวันมานี้ ผมในฐานะเจ้าภาพ ผมจะพาคนไปเดินดูงานก่อน คุณเนี่ยครับ คุณคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
เนี่ยเฟิงลูบไปที่คาง“คุณดูจริงใจมากเลยทีเดียว งั้นก็ได้ครับ ผมจะฝืนไปเดินดูงานกับคุณก็แล้วกัน ไอหยา ร้านน้ำชาคุณมันน่าเบื่อมากจริงๆ ดูไปว่าแล้วเหมือนสถานที่คนมีอายุอยู่กัน เราไปเที่ยวผับกันดีกว่า!”
พวกเขาคิดว่าไปผับก็เป็นความคิดไม่เลวเลย เนื่องจากหลังจากดื่มเหล้าไปแล้วก็จะสามารถถามเรื่องราวของเนี่ยเฟิงเพิ่มได้
พวกเขาจึงเปลี่ยนสถานที่ไปผับย่านใจกลางเมือง
หลังจากดื่มชนแก้วไปสามรอบ เนี่ยเฟิงก็เปลี่ยนไปอีกคนหนึ่งทันที กอดคอของถังต้าสง เริ่มเรียกพี่เรียกน้องกันอย่างสนิทสนม
หลังจากที่ถังต้าสงได้สอบถามเนี่ยเฟิงไปแล้วถึงได้รู้ว่าตระกูลของเนี่ยเฟิงก็ไม่ได้ทำธุรกิจใสสะอาดอะไรเลย เหมือนจะทำธุรกิจลักลอบคนของบางอย่าง
ถังต้าสงถึงบางอ้อในทันที ถึงว่าทำไมพวกเขาถึงได้รวยขนาดนี้
เนี่ยเฟิงดื่มเหล้าจนเมามาย ดื่มจนถึงกลางดึก ถึงได้ดื่มต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงได้กลับโรงแรมไปกับหมิงอี๋หาน
พอมาถึงโรงแรม หมิงอี๋หานก็เห็นเนี่ยเฟิงพูดพึมพำอู้อี้ ดูเหมือนจะเมาหนักมากจริงๆ เธอเขย่าตัวของเนี่ยเฟิง“นายเป็นยังไงบ้าง?ดื่มมากไปจริงๆใช่ไหม?”
“ที่รัก ผมดื่มจนเมาแล้วจริงๆนะ ผมรู้สึกปวดหัวมากเลย……”
“การหายใจของนายมันสมดุลมาก รวบรวมสติเร็วเข้า อีกทั้งนายก็ไม่ได้ดื่มไปมากอะไร แค่ดูเหมือนดื่มมากไปเท่านั้นเอง เอาล่ะ หยุดเล่นได้แล้ว รีบลุกขึ้นมาพูดเรื่องจริงจังได้แล้ว”
เพียงชั่วพริบตาเดียวหมิงอี๋หานก็มองทะลุไปยังเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงลืมตาขึ้นมา หลงเหลือความเมาที่ไหนล่ะ?
“ถ้าผมใช้ไม้นี้แกล้งพี่เจ็ด พี่เจ็ดต้องเชื่อสนิทแน่เลย!”
“ระวังฉันบันทึกเสียงนายที่พูดเมื่อกี้เอาไปให้น้องเจ็ดฟังนะยะ”
หมิงอี๋หานพูดจบก็ส่ายโทรศัพท์มือในมือไปมา เนี่ยเฟิงถึงกับหัวเราะอย่างเขินๆ
“เมื่อกี้ตอนที่พวกเราคุยกันฉันได้บันทึกเสียงไว้หมดแล้ว ถึงตอนนั้นสถานการณ์จะชุลมุนวุ่นวายมาก แต่ยังคงสามารถได้ยินอย่างชัดเจน”
“ตอนนี้เราได้ส่งเหยื่อล่อออกไปแล้ว ถ้าหากเย่หลังอยากจะวิ่งหนี หรืออยากจะขายของที่อยู่ในมือของเขาก็จำเป็นต้องหาวิธีขนส่ง”
เนี่ยเฟิงวางแผนที่จะให้ถังต้าสงนำพาพวกเขาไปหาคนร้ายที่บงการอยู่เบื้องหลัง นั่นก็คือเย่หลัง
“ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าในมือของเย่หลังยังมีคนอีกเท่าไร?ถ้าหากคนค่อนข้างเยอะ จะเป็นการยาก”
หมิงอี๋หานมองดูเนี่ยเฟิงแวบหนึ่ง“นายมั่นใจไหมที่จะต่อกรกับศัตรูนับร้อยได้?”
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม“ถ้าไม่มีความมั่นใจแม้แต่เรื่องนี้ ผมจะมีหน้าใช้ชีวิตอยู่ในวงการนี้ได้อย่างไร?สำหรับผมแล้วพวกเขาเป็นแค่ทีมนักฆ่าเล็กๆเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเลย”
“เธอพูดถูกนั่นแหละ ดูปฏิกิริยาของพวกเขาก่อนดีกว่า ฉันดูข้อความที่น้องหกส่งมาแล้ว น้องหกบอกให้พวกเราอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า“พี่สี่ไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ!”
หมิงอี๋หานรู้สึกง่วงเล็กน้อย เธอตบบ่าของเนี่ยเฟิงเบาๆ“ต้องการบริการพิเศษอะไรไหม?”