พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม – บทที่258 จนตรอก

หลังจากที่ซ่าวเจ๋รู้ว่าพ่อของตัวเองเสียชีวิต ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ เขารู้สึกว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเนี่ยเฟิง！

เขายังไม่ทันได้จัดการเรื่องงานศพของพ่อตัวเอง เขาก็ได้ข่าวแล้วว่าตระกูลของเขาล้มละลายแล้ว หนึ่งในสิบตระกูลไฮโซของเขาถูกผู้อื่นทำลายได้อย่างง่ายดาย

หนี้ทั้งหมดเหล่านี้ตกอยู่บนตัวซ่าวเจ๋ ซึ่งหมายความว่าซ่าวเจ๋จะต้องเผชิญหน้ากับหนี้อันมหาศาลในวันพรุ่งนี้！

ถึงแม้เขาจะขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รถยนต์ ก็ไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้

ซ่าวเจ๋รู้สึกสิ้นหวังมากๆ

วันรุ่งขึ้น ข่าวการล้มละลายของบริษัทซ่าวซื่อกรุ๊ปได้แพร่กระจายไปทั่วมณฑลซานเจียง โดยปกติมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับซ่าวเจ๋ แต่ตอนนี้ทุกคนพยายามหลบหน้าซ่าวเจ๋อยู่

ซ่าวเจ๋เป็นหนี้มหาศาล เพื่อที่จะชำระหนี้ เขานอบน้อมถ่อมตนหาคนยืมเงิน แต่ตระกูลของเขาล้มละลายแล้ว และยังเป็นหนี้มหาศาล ไม่มีใครกล้ายืมเงินให้เขา เพราะรู้ว่าเขาต้องเอาเงินที่ยืมไปชำระหนี้？

เงินที่ยืมออกไปไม่ได้คืนแน่นอน？

ไม่มีใครยอมช่วยเหลือซ่าวเจ๋ อสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ก็โดนธนาคารยึดไปแล้ว แม้แต่หน้าร้านและบริษัทสายการบินก็ถูกธนาคารนำไปประมูล！

ถึงแม้เขาจะขายหรือจำนำทุกอย่างที่มีอยู่ แต่เขายังคงเป็นหนี้มหาศาล

ตอนนี้ตระกูลซ่าวเหมือนคนที่หมดอำนาจแล้วทุกคนก็หนีจากไป ซ่าวเจ๋ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน

ผ่านไปไม่กี่วัน ซ่าวเจ๋ตกระกำลำบากจนหนวดเครารุงรัง เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าอุตสาหกรรมใหญ่ๆของพวกเขา ทำไมล้มละลายได้ภายในไม่กี่วันจนไม่เหลืออะไรเลย？

ซ่าวเจ๋หลายวันมานี้โดนเจ้าหนี้ตามทวงหนี้ทุกวัน เขาเหนื่อยทั้งกายและจิตใจ ในคืนนี้เขาได้เงียบลง แต่ท้องของเขาร้องเนื่องจากความหิว เขาคิดว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเนี่ยเฟิง！

เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้หลังจากที่เขาคุกเข่าในวันนั้น

“เนี่ยเฟิง！ฉันจะต้องทำให้คุณอยู่ไม่เป็นสุข！”

ซ่าวเจ๋ดวงตาแดงก่ำ คบฟันตัวเองแล้วพูด

เพียงแต่ตอนนี้เขาเป็นคนมีหนี้มหาศาล ไม่มีเงินชดใช้ เขาทำอะไรไม่ได้เลย

ซ่าวเจ๋รู้สึกปวดศีรษะมากๆ ตอนนี้เขานึกถึงนามบัตรที่ผู้หญิงลึกลับมอบให้เขา

เขาควานหาทั่วร่างกายแล้วแต่ไม่พบนามบัตร เขาเริ่มรู้สึกอารมณ์เสีย ผู้หญิงลึกลับคนนั้นน่าจะมีหนทางช่วยเขาแก้แค้นอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงอาศัยความทรงจำในครั้งนั้นมาจนถึงบ้านส่วนตัวหลังเดิม

เขารอเป็นเวลานานและฝนก็เริ่มตกหนัก ทำให้เขาเปียกโชกไปทั้งตัว เขาเปียกโชกจนตัวสั่นในฤดูใบไม้ร่วง

เมื่อเขากำลังจะจากไป เลขาส่วนตัวของผู้หญิงคนนั้นก็ออกมา “นายซ่าว นายหญิงบ้านเรารอคุณอยู่ด้านในนานแล้ว”

ตาของซ่าวเจ๋เป็นประกาย“ช่วยบอกนายหญิงหน่อย！ฉันยินดีจะร่วมมือกับเธอ ฉันสามารถทำได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ！ขอแค่ฉันได้ฆ่าเนี่ยเฟิง！”

พายุฝนครั้งนี้ตกเป็นเวลาหลายวัน

เนี่ยเฟิงยังคงอยู่บ้านในเวลานี้ หลายวันมานี้เป็นวันที่เขามีเวลาว่างสุดๆ หลังจากเห็นการล้มละลายของตระกูลซ่าว เขาก็มีรอยยิ้มที่มุมปาก

ซ่าวเจ๋ทั้งตระกูลทำแต่สิ่งที่เลวร้ายมาตลอด ตอนนี้ก็ควรชดใช้ผลกรรมที่พวกเขาเคยทำ

หลายวันก่อนโจวลี่ซือได้ไปรายงานตัวที่การบินพลเรือนจงเฟิง ช่วงนี้เธอเข้ารับการฝึกอบรมอยู่ เมื่อคืนเนี่ยเฟิงได้รับข้อความจากเธอ โจวลี่ซือบอกว่าพรุ่งนี้จะไปฝึกอบรมที่เกาะหลัวปิน และเธอก็ส่งข้อความบอกเนี่ยเฟิงว่าตัวเองปลอดภัยดี

“พี่ห้าของคุณบอกว่าหลายวันนี้ต้องไปฝึกอบรม ทำไมคุณถึงไม่ไปด้วยกัน？”

ขณะกำลังทานอาหารเย็น ชิวมู่เฉิงถามเนี่ยเฟิง

“รอเธอฝึกอบรมเสร็จ ฉันกับเธอจะไปรายงานตัวที่การบินพลเรือนจงเฟิงด้วยกัน พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกเราสองคน พวกเราสองคนยังทำงานอยู่！”

เนี่ยเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ถ้าเป็นอย่างที่พูดก็ดีแล้ว พวกเจ้าต้องตั้งใจทำงาน อย่าอู้งาน งานอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด รู้ไหม？”

“อืม！ฉันจะจำคำสอนของพี่ใหญ่ไว้ในใจ ใช่แล้วพี่ใหญ่！วันเกิดของพี่อยู่ต้นเดือนใช่ไหม？”

เนี่ยเฟิงยังคงสับสนว่าเขาควรจะแสดงตัวตนของเขาในงานฉลองวันเกิดของพี่ใหญ่ไหม อย่างนี้เขาก็สามารถให้ของขวัญวันเกิดกับชิวมู่เฉิงได้อีกด้วย

“กำลังเตรียมฉลองวันเกิดจริงๆ ฉันคิดว่าพี่สาวคนอื่นๆก็คงบอกคุณ เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา คุณปู่ได้เตรียมเอกสารทรัพย์สินไว้สามฉบับ ถึงเวลาฉันอาจจะต้องกลับไปที่ตระกูลชิวอีกครั้งหนึ่ง”

ถึงแม้ชิวมู่เฉิงจะตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเขา แต่ทะเบียนบ้านของเธอยังอยู่ที่ตระกูลชิว เธอกลับไปที่ตระกูลชิวในครั้งนี้ เพื่อโอนเงินของปีนั้นและย้ายทะเบียนบ้านของตัวเองออกมา

ในเวลานั้นชิวมู่เฉิงทำงานอย่างหนักเพื่อตระกูลชิว ทำให้ธุรกิจของตระกูลชิวประสบความสำเร็จมากขึ้น เงินที่เธอหามาได้มากกว่าเงินค่าเลี้ยงดูที่คุณปู่มอบให้เธออีก

แต่เงินค่าเลี้ยงดูก้อนนั้นมีความพิเศษสำหรับชิวมู่เฉิง

ดังนั้นชิวมู่เฉิงคิดว่า เธอต้องกลับไปเอามันคืน

“ฉันกังวลว่าพวกเขาจะคิดไม่ดีกับเธอ ตอนแรกทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อคุณก็แย่มาก บวกกับตระกูลฟางล้มละลายแล้ว พวกเขาคงจะพูดจาไม่ดีต่อคุณ ถึงเวลานั้นถ้าคุณจำเป็นต้องไป ช่วยพาฉันไปด้วย มีคนไปด้วยก็จะปลอดภัยมากขึ้น！”

ชิวมู่เฉิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพยักหน้าพูดว่า“ก็ได้”

ทุกคนคิดว่าสิ่งต่างๆเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว แต่พวกเขาคิดไม่ถึง จะเกิดเรื่องไม่ดีกับโจวลี่ซือ

“โจวลี่ซือ！พวกเราคุยกันหน่อยได้ไหม？”

โจวลี่ซือเตรียมตัวจะไปฝึกอบรมที่เกาะหลัวปิน เธอได้รับข้อความโดยไม่คาดคิด เธอรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

“เธอไม่ต้องกลัว ฉันคือซ่าวเจ๋……ฉันรู้ตัวเองทำไม่ดีไว้กับเธอ ฉันทำเรื่องผิดพลาดมาเยอะ ตอนนี้ตระกูลของผมก็ล้มละลายแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย ฉันเตรียมตัวจะไปจากเมืองนี้ ฉันอยากจะขอโทษเธอก่อนที่ฉันจะจากไป”

โจวลี่ซือไม่ได้เป็นคนที่ใจอ่อนง่ายๆ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าคนอย่างซ่าวเจ๋ไม่ใช่คนดีนัก แต่เขาก็ดูน่าสงสารจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงการล้มละลายของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แม้แต่พ่อของซ่าวเจ๋ก็เสียชีวิตเช่นกัน

“ฉันรอเธออยู่ที่ร้านกาแฟเกาะหนาน”

โจวลี่ซือลังเลอยู่พักนึ่ง ในที่สุดเธอก็ไปที่ร้านกาแฟเกาะหนาน เมื่อถึงร้านกาแฟเกาะหนาน โจวลี่ซือก็เห็นซ่าวเจ๋ที่มีใบหน้าอิดโรย

เสื้อผ้าของซ่าวเจ๋ขาดรุ่งริ่ง เขามีสภาพจิตใจแย่ ผอมลงเกือบสิบโล เขาจึงดูผอมแห้งมากๆ

หลังจากที่เขาเห็นโจวลี่ซือมาถึงแล้ว ใบหน้าซีดๆของเขาก็มีรอยยิ้มออกมา “ไม่คิดเลยว่าเธอจะยอมมาเจอฉัน！ก่อนหน้านี้ฉันเคยทำให้คุณลำบาก ฉันต้องขอโทษจริงๆ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ หลายวันนี้ผมคิดดีแล้ว！เป็นความผิดของฉันจริงๆ”

โจวลี่ซือส่ายหัว คิดในใจว่าคนๆนี้เผชิญกับความสิ้นหวังแล้ว ดูเหมือนเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลของคุณ ฉันก็เห็นอกเห็นใจ แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว คุณต้องเผชิญหน้าและจัดการมันให้ได้ ”

โจวลี่ซือไม่รู้ตัวเลยว่า มีคนๆหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามายังด้านหลังเธอย่างช้าๆ เห็นเพียงอีกฝ่ายใช้มือปิดจมูกและปากของเธอ！เธอดิ้นรนสักครู่แล้วก็สูญเสียสติไป

ใบหน้าของซ่าวเจ๋เผยรอยยิ้มโหดร้ายออกมา“เธอไร้เดียงสาเกินไป！”

ซ่าวเจ๋กับคุณนายหลันได้ว่าจ้างนักฆ่า มัดตัวโจวลี่ซือไปไว้ที่ประภาคารร้าง ตั้งอยู่กลางทะเล เพราะมันถูกทิ้งล้าง โดยทั่วไปจะไม่มีคนมาที่นี่