ทั้งเซวเป่าจูและผู้กำกับโกต่างก็ตกตะลึงไป เดิมทีพวกเขาคิดว่าจะไม่มีปัญหากับการประชาสัมพันธ์อในครั้งนี้ย่างแน่นอน แต่ไม่คาดคิดว่า อีกฝ่ายยังจะมีข่าวพวกนี้อยู่ในมืออีก
ผู้กำกับโกรีบโทรไปซักถามเซวเป่าจูในทันที “เกิดอะไรขึ้นกับคุณเหรอ? บันทึกการแชทเหล่านี้ไหลออกมาได้อย่างไร?”
เซวเป่าจูกำลังจะร้องไห้แล้ว “ฉันจะรู้ได้อย่างไร! นี่ฉันไม่ได้ทำเลย”
เดิมทีชุดตัวละครของเซวเป่าจูเป็นชุดตัวละครแบบสาวสวยผู้บริสุทธิ์ เป็นเพราะชุดตัวละครเช่นนี้ ถึงมีแฟนๆ มากมาย
บวกกับทุกครั้งที่ถ่ายทำละครก็แสดงออกแบบโง่ขาวและอ่อนหวาน และทั้งสวยและน่ารักทำให้คนอื่นชอบ จึงดึงดูดแฟนๆ ปัญญาอ่อนมากมาย
สิ่งที่โปรดปรานของเซวเป่าจู คือการเฝ้าดูแฟนๆ ของเธอมีเรื่องกับแฟนๆ ของคนอื่น
และเซวเป่าจูไม่เคยสนใจในเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย และยิ่งมีเรื่องกันมากเท่าไหร่ความนิยมของเธอก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
เซวเป่าจูมีแฟนคลับเป็นผู้ชายจำนวนมาก แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ปะทุขึ้นในวันนี้ ไม่ว่าจะประชาสัมพันธ์อย่างไรก็เปล่าประโยชน์ เพราะเซวเป่าจูถูกทุบเป็นความจริงไปแล้ว จากหลักฐานที่มีนัยสำคัญ เช่น บันทึกการสนทนา วิดีโอและเสียง บันทึกทางโทรศัพท์ ฯลฯ ขึ้นไป
แม้ว่าคำพูดและคารมคมคายของเซวเป่าจูจะขนาดไหนก็ตาม มันก็ไม่มีทางที่เล่นลิ้นได้อีกต่อไป
เหตุผลที่เนี่ยเฟิงเลือกที่จะเล่นค้อนจริงหลังจากรายการออกอากาศ อันที่จริงแล้วมันก็มีเหตุผลของเนี่ยเฟิงอยู่เช่นกัน
ก่อนอื่น เนี่ยเฟิงไม่อยากจะให้ส่งผลกระทบต่อคางเมิ่ง คางเมิ่งได้รับผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากมาย เนื่องจากการตั้งค่าตัวละครของตัวเองในการประชาสัมพันธ์
หากในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ปล่อยข่าวเรื่องเสียเล็กน้อยของเซวเป่าจูและผู้กำกับโกออกมา มันก็จะส่งผลกระทบต่อยอดผู้ชมของรายการอย่างแน่นอน ดังนั้นรอจนกว่ารายการออกอากาศได้ครึ่งหนึ่งหรือจบลงก่อน ถึงปล่อยข่าวค้อนจริงดังกล่าวออกไป
มันก็จะทำให้เกิดความโกลาหลอย่างแน่นอน
หลังจากเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เนี่ยเฟิงก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก และก็รู้สึกมีความสุขมาก
ในขณะนี้ คางเมิ่งก็เหลือบมองที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง และพบข้อมูลเชิงลบอย่างท่วมท้น และทันใดนั้นก็ลืมตากว้างขึ้น “แม่เอ๊ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเหรอ?”
“ผมไม่รู้ บางทีนี่อาจเป็นการจุติของสวรรค์มั้ง? อีกอย่าง คนที่ชื่อว่าเซวเป่าจูรู้ตั้งแต่แรกเห็นว่าไม่ใช่คนดีอะไรเลย”
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่บุคลิกภาพของคางเมิ่งนั้นไร้เดียงสาเกินไป คางเมิ่งไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำ ปรากฏว่าเซวเป่าจูจะเป็นพวกเดียวกับผู้กำกับโก
“ถึงว่าทำไมเซวเป่าจูและผู้กำกับโกถึงรังแกฉันอยู่ตลอด ปรากฏว่าพวกเขาสองคนสมรู้ร่วมคิดกันนานแล้ว! เซวเป่าจูเลวมากจริงๆ เลย และทรัพยากรของเธอนั้น ไม่ใช่เพราะว่าผู้กำกับโกให้เธอเหรอ? ”
ก็ไม่แปลกที่คางเมิ่งจะสงสัยเช่นนี้ เพราะว่าละครที่เซวเป่าจูเล่นไปหลายเรื่องนั้นก็คือร่วมมือกับผู้กำกับโกทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นแค่ละครน้ำเน่าทั้งนั้น แต่มีความช่วยจากผู้กำกับโก ละครพวกนั้นก็กลายเป็นละครดังเกือบทั้งหมด
ดังนั้นแม้ว่าทักษะการแสดงของเซวเป่าจูจะไม่ค่อยดีนัก แต่เขากลับมีแฟนๆ และทรัพยากรจำนวนมาก ทั้งหมดก็เป็นเพราะผู้กำกับโกที่ยกย่องเธอขึ้นมาด้วยมือของเขาเอง
แต่เดิมคิดว่าเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเซวเป่าจู เป็นที่นิยมอยู่ในวงการบันเทิง ดังนั้นผู้กำกับจึงแย่งกันอยากจะยกย่องเซวเป่าจู
แต่ไม่เคยคิดเลยว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์แบบนี้
“ตั้งแต่นี้ไปเซวเป่าจูอาจไม่สามารถหวนกลับคืนมาได้แล้ว”
เซวเป่าจูถูกเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับผู้กำกับโก และเข้าแทรกแซงในครอบครัวของผู้กำกับโก ภรรยาของผู้กำกับโกก็ออกแถลงการณ์ในทันที โดยบอกว่าเธอสงสัยผู้กำกับโกมีคนอื่นอยู่ข้างนอกมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสจับอีกฝ่ายได้สักที
ผู้กำกับโกไม่เพียงแต่มีภรรยาแต่ยังมีลูกด้วย เซวเป่าจูและผู้กำกับโกใกล้ชิดกันมากขนาดนั้น และทุกครั้งที่เจอกับภรรยาของผู้กำกับโก เซวเป่าจูก็จะยิ้มและเรียกเธอว่าพี่สะใภ้
ในความเป็นความจริงครั้งที่แล้วทั้งคู่ก็ถูกสื่อจับภาพได้ว่าไปชอปปิ้งด้วยกันแล้ว แต่เซวเป่าจูก็อ้างว่า ผู้กำกับโกเป็นพี่ชายของเธอ และภรรยาของผู้กำกับโกเป็นพี่สาวของเธอ เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผู้กำกับโกเลย มีเพียงความสัมพันธ์เท่านี้
ใครจะคิดว่าเซวเป่าจูที่มีรูปร่างหน้าตาแบบบริสุทธิ์จะมีอุบายเช่นนี้!
ในคำพูดบทสนทนาระหว่างเธอกับผู้กำกับโกนั้น เต็มไปด้วยความรักที่ชัดเจน และในเวลานี้ถึงแม้จะปฏิเสธในทุกวิถีทางมันก็ไร้ประโยชน์ไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีดาราสาวอีกมากมายที่เข้าร่วมรายการนี้ด้วย เพราะยังไงการใช้โอกาสใส่ร้ายผู้อื่นตอนที่ตกยากลำบากเป็นสิ่งที่โปรดปรานของคนในวงการบันเทิง
บวกกับเซวเป่าจูไม่ค่อยจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้ว อยู่ในแวดวงบันเทิงโดยอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับผู้กำกับโก เซวเป่าจูสามารถบอกได้ว่าหยิ่งผย่องอยู่ต่อผู้อื่น แม้แต่ดอกไม้ที่สวยงามบางดอก ก็ยังถูกเซวเป่าจูวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร้ความปรานี และถูกกดขี่ข่มเหง
คนเหล่านี้ออกมาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองทั้งน้ำตา เพราะยังไงด้วยความร้อนรนเช่นนี้ใครไม่มาฉวยโอกาสก็ถือเป็นคนโง่แล้ว
และในขณะนี้ แฟนๆ ของเซวเป่าจูจำนวนมากเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มคนดังที่บอกความจริงอย่างบ้าคลั่ง โดยคิดว่าพวกเขาอิจฉาเซวเป่าจู ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างข้อเท็จจริงเช่นนี้ขึ้นมา และประกาศข่าวลือที่น่ากลัว
“จนถึงเวลานี้แล้ว แฟนๆ ปัญญาอ่อนพวกนั้นก็ยังคงคิดว่าเซวเป่าจูเป็นฝ่ายที่ถูกใส่ร้ายอยู่ จะต้องบอกว่า ตัวละครของเซวเป่าจูไม่ค่อยเท่าไหร่ คุณภาพของแฟนๆ ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่”
เนี่ยเฟิงค่อยๆ ถอนหายใจออกมา และกินปิ้งย่างอยู่ในแผงขายบาร์บีคิวทีละชิ้น
“จะไปสนใจให้มากทำไม ยังไงไม่ได้มายุ่งกับพวกเราก็แล้ว!”
คางเมิ่งรู้สึกมีความสุขมากอยู่ในใจ เพราะยังก็เป็นเซวเป่าจูตกจากหลังม้าก่อน เดิมทีคางเมิ่งอยากจะแก้แค้น และตอนนี้เธอไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเองแล้ว ความรู้สึกนี้มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ เลย!
“สิ่งที่คุณพูดมันก็ถูก ตราบใดที่อีกฝ่ายอย่ามาชนกับปืนของเราอย่างโง่เขลา งั้นเราก็จะไม่ไปยั่วยุพวกเขา”
คางเมิ่งและเนี่ยเฟิงกินปิ่งย่างอยู่ที่แผงขายบาร์บีคิว จากนั้นก็กลับไปที่โรงแรม
สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดเลยก็คือ หลังจากที่พวกเขาพึ่งกลับไปได้ไม่นาน และแฟนๆ เหล่านั้นก็เริ่มโจมตีมาทางคางเมิ่งในด้านมืด
คางเมิ่งมองไปที่คำพูดของฝ่ายตรงข้ามและรู้สึกโกรธมากขึ้นมาในทันที “คนกลุ่มนี้เป็นอะไรมากหรือไม่? ทั้งๆ ที่เซวเป่าจูเป็นฝ่ายที่รังแกฉัน แต่พวกเขาก็จะลากฉันลงไปในน้ำด้วย คนกลุ่มนี้เลวเกินไปหรือเปล่า!”
คางเมิ่งกำลังจะโกรธจนเป็นโรคหัวใจขึ้นมาเพราะแฟนๆ ที่ไร้ยางอายเหล่านี้แล้ว แม้จะรู้ว่ามีสิ่งที่น่ากลัวมากมายในวงการบันเทิง แต่คางเมิ่งที่ถูกใส่ร้ายแบบนี้ก็ไม่สามารถกลืนมันลงไปได้จริงๆ!
เมื่อเนี่ยเฟิงได้ยินคางเมิ่งพูดแบบนี้ เขาก็รีบพูดปลอบใจขึ้นมาทันที “มีคำเคยกล่าวไว้ไม่ใช่เหรอว่า ถ้าตัวเรายืนตรงก็ไม่ต้องกลัวเงาจะเอียง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะกระโดดอยู่ที่นี่ก็ไม่สามารถกระโดดได้ยาวนานหรอก แม้ว่าพวกเขาอยากจะเทน้ำสกปรกใส่ตัวเรา แต่เราก็ต้องไม่ปล่อยให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้ และตอนนี้ถ้าเราโต้กลับมันกลับกลายเป็นการให้โอกาสแก่พวกเขา!”
“เสี่ยวเฟิงคุณพูดถูก ถ้าไม่มีคุณอยู่เคียงข้างฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรแล้ว คนกลุ่มนี้หยิ่งทะนงมากเกินไป เดี๋ยวให้น้องหกจับไปจำคุกให้หมดเลย ก็บอกว่าพวกเขาปล่อยข่าวลือ! ฮึ้! ฉันไม่พูดแล้ว ฉันจะต้องไปหลับให้สบาย!”
แม้ว่าเนี่ยเฟิงจะพูดแบบนี้กับคางเมิ่ง แต่หลังจากที่กลับถึงห้องแล้ว เขาก็เยาะเย้ยกับเหล่าคำพูดที่น่าเกลียดของแฟนๆ พวกนี้
“ต้องการจะปกป้องไอดอลของตัวเองใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นผมก็อยากจะดูว่าพวกคุณจะปกป้องมันได้ขนาดไหนกัน ผมก็จะทำให้ไอดอลของพวกคุณไม่อาจหวนกลับคืนมาได้อีก”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงรอให้กลุ่มคนเหล่านี้โจมตีตามอำเภอใจอย่างพอประมาณแล้ว เขาก็สั่งให้คนส่งค้อนหินขนาดใหญ่ออกไปอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่ถ่ายทำรายการวาไรตี้ในวันนั้น เวลานั้นตอนที่เซวเป่าจูจงใจใช้ปืนฉีดน้ำฉีดไปที่ดวงตาของคางเมิ่ง และถูกถ่ายไว้อย่างชัดเจน