พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม – บทที่ 451 ช่วยคน

บทที่ 451 ช่วยคน

หลังจากที่มีการเปิดเผยเรื่องท่านจิ่วดาวหยางเฉิงใช้การแข่งขันวิชาดาบเพื่อทำการทดสอบร่างกายมนุษย์อย่างผิดกฎหมาย ทรัพย์สินทั้งหมดของเขาก็ถูกอายัดและตรวจสอบ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเขาล้วนถูกสอบสวน

เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากคนในสหพันธ์เช่นกัน

“ท่านจิ่วถูกจับดำเนินการแล้ว? มันเกิดอะไรขึ้น?”

“ต้องเป็นคนของทางทหารที่ดักซุ่มอยู่…ท่านจิ่วคิดว่าสถานการณ์ดีแล้ว เลยเริ่มแอบขายสินค้าอีกแล้วสินะ?”

“เขาอายุมากแล้ว เพื่อรักษาสุขภาพของเขา…”

เนื่องจากเนี่ยเฟิงปกปิดไว้อย่างดีมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครคาดเดาเบื้องบนของเนี่ยเฟิงได้

“ความวัวยังไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกจริง ๆ ไอ้สารเลวนั่นยังไม่ตาย เมืองหยางเฉิงก็ถูกข้าศึกยึดครองไปครึ่งหนึ่งแล้ว”

น่าเสียดายที่ทรัพย์สินทั้งหมดของเขาถูกอายัดแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาก็แบ่งผลประโยชน์กันแล้ว

“ห้องปฏิบัติการนั่นเป็นยังไงบ้าง?”

“อย่าไปพูดถึงเลย หม้อเดียวจบ”

“ดังนั้นเกี่ยวกับเรื่องยาเทพ คนที่รู้ความจริงอย่างพวกคุณควรจะระมัดระวังให้มากที่สุด อย่าเผยไต๋ออกมา”

หลันเฟิงหลิงพูดออกมาช้า ๆ

“แม่ม่ายดำ พูดเหมือนคุณไม่มีส่วนแบ่ง!”

“ฉันสังเกตเจ้าเด็กเวรนั่นมานานแล้ว แต่ก็ไม่เผยไต๋อะไรออกมาเลย กลับเป็นพวกคุณ เรื่องเล็กๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ มันยังไม่ขายหน้าพออีกเหรอ?”

พอหลันเฟิงหลิงพูดออกมาเช่นนี้ คนอื่นๆ ก็ถึงกับสำลัก ไม่รู้ว่าจะเถียงเธออย่างไร

ในที่สุดพวกเขาก็ต้องหุบปาก

อันที่จริง หลันเฟิงหลิงยังรู้สึกว่ามันช่างอัศจรรย์ คนใหญ่คนโตอย่างท่านจิ่ว ดันตกไปอยู่ในมือของฝ่ายทหาร…แปลกประหลาดจริงๆ

ตอนนี้ยาห้ามใช้เผยโฉมหน้าออกมาแล้ว คาดว่าพวกเขาอาจจะหยุดพักขณะหนึ่ง

ในเวลานี้เนี่ยเฟิงได้กลับมาถึงเมืองจินไห่ และตรงมาที่โรงพยาบาลของหมิงอี๋หาน

“พี่สี่ มีเรื่องอยากจะรบกวนพี่หน่อย” เนี่ยเฟิงเรียกหมิงอี๋หานมาหา

ตอนที่หมิงอี๋หานมาถึง เป็นเวลาหกโมงเช้าพอดี

“นายจำเป็นต้องเร่งด่วนขนาดนั้นเลยเหรอ?”

แม้ว่าหมิงอี๋หานจะไม่ได้แต่งหน้า หน้าสดแต่เธอก็ยังเป็นเทพธิดาอยู่

“นี่คือยาห้ามใช้ที่พวกเราได้มาจากมือของท่านจิ่วแห่งเมืองหยางเฉิง ผมอยากให้พี่นำมันไปวิเคราะห์ส่วนประกอบ”

เนี่ยเฟิงพูดโดยไม่อ้อมค้อม “ผมไม่ไว้ใจโรงพยาบาลอื่น จะว่าไปแล้วพี่กับผมก็เรียนวิชาแพทย์มาจากคุณตาด้วยกัน มีความรู้มากกว่าโรงพยาบาลทั่วไป”

หมิงอี๋หานรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา รู้ว่าเนี่ยเฟิงจะไม่ทำอย่างนี้โดยไม่มีเหตุผล

“ได้ ฉันจะไปจัดการเรื่องกำลังคนเดี๋ยวนี้”

หมิงอี๋หานพยักหน้า ขอให้นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไปศึกษาเรื่องนี้ทันที

ในบรรดาพี่สาวทั้งหลาย มีเพียงหมิงอี๋หานเท่านั้นที่รู้จักตัวตนของเขา ดังนั้นครั้งนี้เมื่อได้ข้อมูลมา เนี่ยเฟิงจึงไม่ได้ปิดบังไว้และบอกกับหมิงอี๋หานทันที

หมิงอี๋หานฟังอย่างตั้งใจ พอฟังจบเลือดในร่างกายก็ดูเหมือนจะแข็งตัว…

“คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องพวกนี้จะเกี่ยวข้องกัน”

“ตอนแรกฉันแค่คิดว่ามันเป็นกรณีพิพาทเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ ดังนั้นพ่อแม่จึงขอให้ฉันอยู่กับคุณตาและพวกนาย ส่วนพวกนายก็แทบไม่ปรากฏตัวในสายตาคนอื่น แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าภายในจะยังมีเรื่องแบบนี้ด้วย”

เนี่ยเฟิงชำเลืองมองมาที่หมิงอี๋หาน สีหน้าของหมิงอี๋หานก็จริงจังมากเช่นกัน

“ถ้าเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ก็จะยิ่งลึกซึ้งขึ้น”

หมิงอี๋หานเลียริมฝีปากอันแห้งผาก ทั้งสองคนตกอยู่ในความเงียบ

ผลการทดสอบจะยังไม่ออกมาในเวลาอันสั้น เพราะส่วนประกอบของยาหลังจากผ่านการกลั่นทีละชั้น จะมีความซับซ้อนมากขึ้น

ทั้งสองทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ ไม่นานนักเนี่ยเฟิงก็ได้รับโทรศัพท์จากตาแก่ไป๋

“เรื่องนี้ร้ายแรงมาก พวกเรารู้และได้ซักไซ้ไล่เลียงหมอและพยาบาลแล้ว แต่พวกเขาแบ่งหน้าที่กันได้อย่างรอบคอบมาก ขาดไปแม้แต่คนเดียวก็ไม่สามารถตรวบสอบได้เลย ตอนนี้ที่ส่งมาส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็นหนูทดลอง เพราะไม่ได้ฉีดยาห้ามใช้ใดๆ ดังนั้นจึงเกิดปรากฏกราณ์การคลุ้มคลั่งในระดับที่แตกต่างกัน ยกเว้นคนที่คุณช่วยไว้คนนั้น…คุณเข้าใจความหมายของผมใช่ไหม?”

ความหมายของคุณท่านไป๋ชัดเจนมาก เนี่ยเฟิงก็รู้เช่นกัน

เนี่ยเฟิงมองไปทางหมิงอี๋หาน “ผมไปคนเดียวไม่ได้ ผมจะพาคนคนหนึ่งไปด้วย”

เนื่องจากมีจำนวนคนมากเกินไป และท่ามกลางคนเหล่านั้น มีเพียงเนี่ยเฟิงและหมิงอี๋หานสองคนเท่านั้นที่สืบทอดวิชาต่อจากคุณท่าน

หมิงอี๋หานรีบบอก “เรียกฉันสิ”

“ก็ได้! แต่เธอต้องเก็บเป็นความลับ!”

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”

เนี่ยเฟิงมองไปทางหมิงอี๋หานเป็นการขอโทษ “พี่สี่ พี่ต้องไปกับผม”

“ฉันกับนายคุ้นเคยกันดี ฉันรู้การไปครั้งนี้หมายความถึงอะไร ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแบบนั้น ฉันจะไปชี้แจงกับพวกหัวหน้าข้างล่างก่อน นายรอเดี๋ยว”

หมิงอี๋หานเปิดการประชุมเล็กๆ แล้วออกไปกับเนี่ยเฟิง

ทั้งสองคนถูกพาตัวไปโดยรถที่เบื้องบนส่งมา

เมื่อพวกเขามาถึงฐานลับ ตาแก่ไป๋ก็ออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง

“เดิมทีเรื่องนี้น่าจะรู้กันแค่พวกเราไม่กี่คน แต่ยาห้ามนั้นเป็นปัญหาระดับนานาชาติ ดังนั้นพวกเราจึงต้องแบ่งกันข้อมูลกัน เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับนานาชาติ ดังนั้นพวกเราจึงส่งหมอไร้ขอบเขตเข้ามาพัวพันในเรื่องนี้…”

ตาแก่ไป๋ถอนหายใจ “มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ การปรากฏขึ้นของยาห้ามส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง”

เนี่ยเฟิงรู้ว่าตาแก่ไป๋หมายถึงอะไร

“รู้แล้ว เดี๋ยวพวกเราจะคอยดู”

ตาแก่ไป๋พยักหน้า การพูดคุยกับคนฉลาดนั้นไม่เปลืองแรง

เนี่ยเฟิงและหมิงอี๋หานมองหน้ากัน หมิงอี๋หานสวมหน้ากาก ดวงตางอนโค้งดุจหงส์แดงของเธอเหล่มอง เห็นว่าพูดคุยกันยาก

ภายใต้การนำทางของตาแก่ไป๋ พวกเขาก็มาถึงโรงพยาบาลของฐานลับ

สถานที่แห่งนี้ไม่ถูกควบคุมและคอยสังเกตการณ์โดยดาวเทียม บนแผนที่มันคือทะเลสาบผืนหนึ่ง

พอพวกเขาเข้าไปก็เห็นหยูจิงหง

หยูจิงหงเฝ้าอยู่ที่ประตูแล้ว พอเห็นเนี่ยเฟิงกับหมิงอี๋หานเข้ามา หยูจิงหงก็ประหลาดใจ “เธอมาได้ยังไงกัน?”

“พี่สอง ฉันมาช่วยเสี่ยวเฟิง”

หยูจิงหงชำเลืองมองเนี่ยเฟิงเป็นการตำหนิ ถึงอย่างไรในสายตาของหยูจิงหง หมิงอี๋หานเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น

“คุณไม่ต้องห่วง เธอเซ็นสัญญารักษาความลับแล้ว”

ตาแก่ไป๋อธิบายอยู่ข้างๆ

หยูจิงหงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า “ตอนนี้พวกเราได้จัดห้องให้พวกเขาตามความหนักเบาของอาการ พวกเธอเข้าไปก่อนแล้วกัน”

หลังจากเนี่ยเฟิงและหมิงอี๋หานสวมชุดป้องกันแล้ว ทั้งสองก็เดินเข้าไป

อันที่จริงเนี่ยเฟิงรู้ว่า การสวมชุดป้องกันนั้นไม่มีความหมายอะไร เพราะนี่ไม่ใช่โรคติดต่อ

หยูจิงหงและคนอื่นๆ รออยู่ข้างนอก เนี่ยเฟิงและหมิงอี๋หานถูกนำทางเข้าไปโดยแพทย์คนหนึ่ง

“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

หมิงอี๋หานสอบถามอย่างเคยชิน แต่แพทย์ที่อยู่ข้างหน้าไม่ตอบ

เนี่ยเฟิงก็เข้าใจนิสัยใจคอยของหมอไร้ขอบเขต เพราะพวกเขาเคยชินกับความเป็นความตายแล้ว คลุกคลีกับสงคราม ดังนั้นจึงมีความทะนงตน

หมิงอี๋หานถามไม่ได้ข้อมูลอะไรที่มีประโยชน์ จึงไม่พูดอะไรอีก พวกเขาหยิ่งยโสมาก

“พวกเรายังประชุมกันอยู่ พวกคุณรอสักครู่”

อีกฝ่ายพูดกับพวกเขาสองคนเป็นภาษาอังกฤษ แล้วเดินจากไป

“หมอไร้ขอบเขตเป็นแบบนี้กันหมดเลยเหรอ?” หมิงอี๋หานขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยพอใจ

“ที่ผมเจอส่วนมากก็เป็นแบบนี้แหละ”

เนี่ยเฟิงพยักหน้า ในเวลานี้มีเสียงก้องกังวานดังขึ้น จากนั้น ทางฝ่ายเนี่ยเฟิงก็เห็นผู้ป่วยที่ถูกขังอยู่ในห้อง กำลังทุบประตูเหล็กอย่างบ้าคลั่ง

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

ผมมีพี่สาวเจ็ดคน ทุกคนสวยเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์พี่ใหญ่ชิวมู่เฉิงเป็นประธานหญิงของโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลพี่สองหยูจิงหงเป็นเทพเจ้าหญิงแห่งสงครามพี่สามหลินซูอินเป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมที่สวยที่สุดพี่สี่หมิงอี๋หานเป็นหมอที่สวยที่สุดพี่ห้าโจวลี่ซือเป็นแอร์โฮสเตสที่สวยที่สุดพี่หกเย่หรูเสว่เป็นตำรวจสาวที่สวยที่สุดพี่เจ็ดคังเมิ่งเป็นดาวโรงเรียน ยังเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังด้วยผมชื่อเนี่ยเฟิง ตอนนี้เป็นหัวหน้าของสำนักมังกร มีฉายาว่าเทพราชามังกร!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท